สวัสดีครับ Rhyme ครับ
ในวันนี้เนี่ยอาจจะมาแปลกสักหน่อยเพราะผมไม่ได้มาเขียนคนเดียวครับ ในบทความนี้เนี่ยแทบจะทั้งหมดเลยขอยกเครดิตให้กับคุณ Peem ที่อาสามาช่วยเขียนบิ้วแนะนำให้กับเราในบทความนี้ครับ บิ้วที่เรายกมา 3 ตัวนี้แม้ว่าอาจจะไม่ใช่บิ้วที่นิยมกันที่สุด แต่ก็ถือว่าเป็นบิ้วที่ค่อนน่าสนใจมากเลยทีเดียวล่ะครับโดยเฉพาะของ Hackapell ที่เจาะลึกเอาไว้ได้น่าสนใจมากๆ ว่าแล้วเราก็ไปชมกันเลยดีกว่าครับ
ถ้า Wizard ทำหน้าที่เป็น dmg dealer ของสายเวทย์, Archer ก็มีหน้าที่ทำ dps เป็นสายกายภาพนั่นเอง ซึ่ง Class ของ Archer ส่วนใหญ่จะเน้นทำแดเมจอยู่แนวหลัง เพราะอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดจะเน้นไปที่การเพิ่มแดเมจ ซึ่งแลกมาด้วยความเสี่ยงต่อการไปเยี่ยมเหล่าเทพธิดาบ่อยขึ้นนั่นเอง
PvE Support, Sub-DPS (Earth Tower)
Archer C2 – Sapper C3 – Falconer C3
(Build : http://www.tosbase.com/tools/skill-simulator/build/vft6u7z77d/)
คำอธิบายเพิ่มเติม
“นก.. จนได้เรื่อง!”
เป็นสายที่ขาดไม่ได้สำหรับปาร์ตี้ Earth tower เพราะมีหน้าที่ในการลด AoE Def Ratio ของมอนสเตอร์และบอส ซึ่งจะช่วยให้สามารถเคลียร์มอนสเตอร์เป็นกลุ่มๆได้อย่างรดวเร็ว อีกทั้งยังมีสกิลที่ทำแดเมจเป็นกลุ่มอยูในตัวด้วย ซึ่งบิ้วด์นี้จะเป็นทั้ง Supporter และ Sub-Dmg dealer ไปในตัว
ทำไมต้อง Archer C2 – Sapper C3 – Falconer C3 ?
เราเล่น Archer C2 เพื่อเอา Attribute ของ Swift Step เพื่อเพิ่ม Critical Rate ได้มากสุดถึง 150 หน่วย
Oblique Shot เป็นสกิลโจมตีสองเป้าหมายที่ใช้ได้บ่อย และมี Cooldown อยู่ที่ 10 วินาที เป็นสกิลที่มีประโยชน์ในการเก็บเลเวลช่วงแรกมาก อีกทั้ง ยังสามารถคอบโบกับสกิล Circling ของ Falconer ได้ด้วย ซึ่งสกิลจะไม่ทำแดเมจ 2 เป้าหมายอีกต่อไป และสร้างแดเมจให้กับทุกเป้าหมายที่อยู่ในรัศมีการแสดงผลของสกิล Circling ที่เรียน Attribute Circling : Expand + Aiming
Sapper ถือได้ว่าเป็นคลาสที่มีสกิลทำ Damage ได้รุนแรงอีกคลาสหนึ่งของ Archer ไม่ว่าจะกับกลุ่มมอนสเตอร์หรือบอส แต่ต้องแลกมาด้วยความซับซ้อนในการใช้สกิล หากใช้ไม่ดีแล้ว จะเปลี่ยนจากสถานการณ์ที่ดีเป็นเลวร้ายได้เลยทีเดียว
Skill หากินหลักๆของ Sapper คือ “Broom Trap” ที่ทำแดเมจได้ต่อเนื่อง มีระยะสกิลที่กว้าง และมีระยะเวลาในการแสดงผลที่นาน ไม่ว่าจะบอสหรือกลุ่มมอนสเตอร์ ก็สามารถทำแดเมจได้มากเพียงแค่สกิลเดียว
อีกทั้งยังสามารถคอมโบกับสกิล Circling ที่เรียน Attribute ได้ดีอีกด้วย.. และจะเป็นยังไง เมื่อ 1 ก้าน สามารถทำแดเมจให้กับทุกตัวในรัศมีของ Circling !!
https://www.youtube.com/watch?v=6qjLXmVPoN0
ข้อควรระวัง !!
Detonate Traps เป็นสกิลทำแดเมจที่มีหลักการทำงานโดยการระเปิด Magic Circle บนพื้นทิ้ง! จึงเกิดแดเมจ! ซึ่งถ้าเราอยู่คนเดียวสามารถกดใช้หลังจาก Stack Stockade ทำงานไปแล้วได้
แต่! เมื่อเราอยู่ในปาร์ตี้นั้น จงอย่าลืมว่าสกิลนี้นั้น ก็พร้อมที่จะระเบิด Heal, Cure, Safty Zone หรือแม้แต่สกิล Circling ของเราทิ้งไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย เพราะฉะนั้น ควรก้มมองพื้นให้ดีก่อนใช้งานสกิลนี้ และถ้าหากคุณทำมันได้ดีพอ คุณสามารถทำให้ Magic Circle ที่เป็นตัวช่วยของบอส กลายเป็นดาบสองคมกลับไปทำลายตัวบอสเองได้! จงนับถอยหลังการแสดงผลของสกิล Circling และ Broom Traps ของคุณไว้ให้ดี มิฉนั้น อาจเป็นตัวของคุณเองที่ได้ไปเยี่ยมเหล่าเทพธิดา !!
Falconer เป็นอาชีพที่ใช้ Companion ในการใช้สกิล เหมือนกับคลาส Hunter แต่ไม่ใช่ Companion ธรรมดา แต่เป็น Flying-Companion “Hawk!” ให้เราใช้ทิ้งใช้ขว้างตามสบาย ไม่ต้องห่วงเรื่อง HP หรือ STA เหมือน Ground Companion ที่ขี้งอนและสมาธิสั้นเหลือเกิน และยังเป็นคลาส 1 ใน 2 คลาสที่บินได้ในตอนนี้อีกด้วยนะ
“ผู้ใช้เหยี่ยว” มีจุดเด่นอยู่ที่สกิลโจมตีของคลาสนี้ คือการสั่งเหยี่ยวของเราให้ใช้สกิลต่างๆ และในขณะนั้น เราสามารถใช้สกิลของคลาสอื่นในเวลาเดียวกัน จนทำให้เกิดคอมโบและประสิทธิภาพสูงสุดในการทำแดเมจนั่นเอง!!!
“คู่หู” คู่นี้ คือบุคคลที่เหล่าผู้กอบกู้สายกายภาพทั้งหลายรักและพร้อมจะยอมพลีกายเพื่อจะได้พวกเขาเข้ามาสู้ในปาร์ตี้เพราะสิ่งที่พวกเขาทำได้คือ
Circling : สกิลที่สร้าง Debuff ให้แก่เป้าหมาย ส่งผลให้โดนลด AoE Defense Ratio ลง นั่นหมายถึง แม้จะมีมอนสเตอร์มายืนซ้อนกันมากเพียงใด ภายใต้ผลของสกิลนี้ การโจมตีของคุณจะสามารถทำแดเมจใส่ทุกตัวได้!!
Aiming : สกิลบัฟที่ทำให้เป้าหมายบริเวณโดยรอบรัศมีของเหยี่ยว มีรัสมีของการโดนโจมตีที่ใหญ่ขึ้น แปลว่าคุณและเพื่อนร่วมปาร์ตี้สามารถโจมตีเป้าหมายได้หลายตัวขึ้น กว้างขึ้น และเมื่อใช้รวมกับสกิล Circling ที่เรียน Attribute Circling : Expand แล้วนั้น ผลที่ออกมาคือมอนสเตอร์ทุกตัวในรัศมีของสกิล จะโดนแดเมจนั่นเอง !
Pre–emptive Strike: เป็นบัฟที่ช่วยทำให้เหยี่ยวของเรา ใช้สกิล Hovering ใส่เป้าหมายที่กำลังเดินเข้ามา และ Sonic Strike แก่เป้าหมายที่โจมตีเราอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องออกคำสั่ง อีกทั้งยังไม่เสียคูลดาวน์ของสกิลกดใช้อีกด้วย
Trick : เพื่อให้เหยี่ยวของเราใช้เพียงแค่สกิล Sonic Strike ที่มีการโจมตีหลายฮิตและเป็นกลุ่ม แถมยังมีความรุนแรงมากกว่า “เพียงสกิลเดียว” ควรเรียน Attribute Pre-Emptive Strike : Remove Hovering เพื่อปิดการทำงานสกิล
PvE, Boss Killer
Archer C1 – Quarrel Shooter C3 – Rogue C2 – Appraiser C1 – Hackapell
คำอธิบายเพิ่มเติม
“พุ่งเข้าชน! ฟัน! แล้วถอยมายิงซ้ำ!!”
ถ้าคุณคือเหล่าผู้ที่ชื่นชอบในการถือธนู แต่ยังมีหัวใจที่รักในการกระโดดเข้าไปปะทะด้านหน้าตรงๆแล้วล่ะก็ “Hackapell” คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณในตอนนี้.. ไม่ต้องสองจิตสองใจว่าจะเลือกดาบหรือธนูอีกต่อไป ทำไมคุณไม่ถือมันในมือทั้งสองข้างของคุณเลยล่ะ! และนี่ ก็ยังถือเป็น 1 ใน 4 คลาสที่ผู้เล่นสามารถใช้สกิลขณะขี่ Ground Companion ได้..
อะไรนะ? ยังโดดเด่นไม่พอหรอ? แล้วคุณรู้หรือไม่? ว่าเหล่า “Hackapell” ใช้ Crossbow เป็นอาวุธหลักและถือ One–Handed Sword ไว้ในมืออีกข้าง พร้อมฟาดฟันศัตรูในระยะประชิด อีกทั้งยังสามารถใช้ Dash ในการเคลื่อนที่ได้ด้วย ทำให้พวกเขาเป็นคลาสที่มีความเร็วในการเคลื่อนที่พื้นฐานเร็วที่สุดในเกมนั่นเอง !
เรามาพูดถึง Build กันบ้างดีกว่า
ทำไมต้อง Archer C1 – Quarrel Shooter C3 – Rogue C2 – Appraiser C1 – Hackapell
“Quarrel Shooter” เป็นอาชีพสายป้องกันที่มีสกิลอรรถประโยชน์มากมาย แต่ทีเด็ดที่สุดของคลาสนี้อยู่ที่ Circle 3
Running Shot เป็นบัฟที่ช่วยเพิ่มความเร็วและความเสียหายเพิ่มเติมให้กับการโจมตีแบบปกติ สกิลนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำแดเมจหลังจากที่สกิลหลักอื่นๆติด Cooldown นั่นเอง และเหล่าผู้กอบกู้ทั้งหลายจงอย่าลืม ว่าการไปล่าบอสนั้นต้องไปกันเป็นปาร์ตี้ถึงจะดีที่สุด และปาร์ตี้ 5 อันดับแรกที่ทำแดเมจได้สูงที่สุดเท่านั้น จึงจะมีสิทธิได้รับของรางวัลไป
ถ้าหากคุณจัดปาร์ตี้ของคุณได้ดีพอ การโจมตีปกติของคุณหนึ่งครั้ง จะสามารถสร้างแดเมจได้มากที่สุดถึง 5 แถว เลยทีเดียว ด้วยบัฟ Additional Hit เหล่านี้ Cafrisun Set, Blessing, Enchant Fire, Enchant Lightning
“Rogue” คือสาเหตุหลักที่ทำให้ Build นี้สามารถสร้างแดเมจได้อย่างมหาศาล แต่สิ่งทีดี่ ย่อมต้องมีเงื่อนไขในการใช้งานกันบ้าง
Vendetta สกิลอรรถประโยชน์ที่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะ PvE เคลียร์กลุ่มมอนสเตอร์ หรือ Boss Hunt กับเพื่อน หลักการทำงานของสกิลนี้คือ เมื่อคุณใช้ Vendetta ทำความเสียหายแก่มอนสเตอร์ และถ้าเกิดมอนสเตอร์ตัวนั้นตายด้วยสกิลนี้ คุณและสมาชิกในปาร์ตี้ของคุณ จะได้รับ Str+50 แต้ม นั่นหมายถึง P.Atk 125 หน่วยเลยทีเดียว
โดยเฉพาะการล่ายบอส Vendetta สามารถใช้ได้ดีมากๆ ด้วยการเรียน Attribute, Vendetta: Counter Attack ที่ช่วยทำให้สกิลทำแดเมจสองเท่า แก่เป้าหมายที่ติดสถานะ Bleeding จากสกิลของสมาชิกในปาร์ตี้หรือสกิล Storm Bolt ของ Hackapell นั่นจึงเป็นเหตุผลทำให้บิ้วด์นี้ส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อเราต่อคอมโบด้วยได้ด้วยสกิล Blackstab ซึ่งจะอธิบายต่อไว้ด้านล่าง
Backstab สกิลนี้จะมีโอกาสที่การโจมตีจะติดคริติคอลสูง และยังสร้างแดเมจเพิ่มเติมให้ เมื่อเราโจมตีเป้าหมายจากด้านหลัง อีกทั้งยังเปลี่ยนสถานะ Bleeding ก่อนหน้านี้ให้เป็น Massive Bleeding ที่จะทำให้เป้าหมายโดนแดเมจจากดีบัฟเลือดออกมากขึ้นและนานขึ้นนั่นเอง
Sneak hit คือหัวใจหลักของ Rouge และ Hackapell เลยก็ว่าได้! เป็น Buff ที่ช่วยให้การโจมตีจากด้านหลังของคุณ มีโอกาสเกิด Critical มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยที่คุณไม่ต้องไปนั่งคำนวณหาค่า Critical Rate ของคุณ หรือ Critical Resist ของเป้าหมายเลย และนั่นหมายความว่าคุณคือผู้เล่นสาย Critical ที่ไม่จำเป็นต้องใส่ Green Gems ที่เอาไว้เพิ่ม Critical Rate เลยสักชิ้น ทำให้เหลือ Slot ของอาวุธว่างไปใส่ Red Gems และ Yellow Gems ได้ ทำให้ Build นี้ มีพลังโจมตีกายภาพและความแรงของการคริติคอล นำอาชีพอื่นๆ ไปนั่นเอง และจงอย่าลืมว่า ดาบมือเดียวที่เราถือเป็นอาวุธรองนั้น ดั้งเดิมแล้วคืออาวุธหลักของเหล่า Swordman นั่นจึงทำให้มี Slot มากกว่าอาวุธรองชนิดอื่น อีกทั้ง Status ที่ได้จาก Gems ก็ยังเป็นสเตตัสของอาวุธหลักอีกด้วย!
ด้วยเงื่อนไขทั้งหมดทั้งมวลมานี้ ไม่ว่าจะได้แดเมจเพิ่มเติมเมื่อโจมตีจากด้านหลังบ้างล่ะ จะติด Critical เมื่อโจมตีจากด้านหลังเท่านั้นบ้างล่ะ หรือการที่ตัวเรานั้นก็เป็น Archer จะให้เดินเข้าไปประชันหน้าตรงๆ มันจะเวิร์คหรอ จะไหวไหม? ไม่ตายแน่นะ? เพราะชุดที่เราใส่ก็เป็นชุด Leather แต่เงื่อนไขและจุดด้อยทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาข้างต้นนี้ จะถูกหักลบทิ้งไปในทันที เมื่อเราได้เป็น Hackapell !! แต่ก่อนจะไปยังคลาส สุดโหดปลายทางของเรา ลองแวะไปดูคลาสตัวช่วย Boost dmg ของ Build นี้กันก่อนนะครับ
Hidden Class เพียงหนึ่งเดียวของนักธนูในตอนนี้ มีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการหาจุดอ่อนของเป้าหมายเพื่อให้การโจมตีเกิด Critical ได้บ่อยและรุนแรงขึ้น หรือแม้แต่สกิล Buff การตีบวกให้แก่อาวุธรอง การ Debuff เพื่อลดพลังโจมตีและป้องกันของเป้าหมาย ตั้งร้านส่อง Socket ในเมือง หรือแม้แต่ตั้งร้านให้เพื่อนยืมเครื่องประดับไปใช้กลางดันเจี้ยนก็ยังได้
แต่ในกรณีนี้ ผมจะอธิบายแค่สกิลที่เป็นประโยชน์ต่อ Build: PvE, Boss Killer อย่างแท้จริง ไม่ใช่พ่อค้ากลางเมืองหรือนักแจกเครื่องประดับแต่อย่างใด เพราะตัวผมเองรู้สึกว่า ตัวละครที่เราไว้ใช้ไปล่าบอสนั้น ไม่ควรเป็นพ่อค้าตั้งร้านในเมือง แบบว่า “บอสเกิดแล้วว ปิดร้านสักครู่นะจ้ะ ขอวิ่งไปตีบอสก่อน แล้วเดี๋ยวกลับมาเปิดใหม่” ซึ่งก็อาจดูติดตลกไปนิดหนึ่ง แต่หนึ่งไอดี เราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาอาชีพไหนไว้ตั้งร้านในเมือง อาจจะเป็นร้านบัฟ ซ่อมของ ซ่อมอาวุธ ลบดีบัฟเจมส์ ทางเลือกเยอะแยะให้กับไอดีเรา
ถ้าใครเลือกที่จะใช้ Build นี้ตั้งร้านไปด้วย ก็ไม่มีอะไรผิดครับ เพียงแค่ต้องแลกมาด้วยการเสียแดเมจส่วนหนึ่งไป ซึ่งบางทีอาจจะคิดว่ามันไม่มากนัก แต่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงที่สุดของการล่าบอสคือ Damage ในปาร์ตี้ของเราไม่เพียงพอจะอยู่ใน Top 5 และถ้าเราได้อันดับที่ 6 ใครจะรู้ล่ะ ทั้งเสียเวลาของตัวเราเองและคนในปาร์ตี้ เสียความรู้สึก รวมถึงสูญเสียรายได้จากการตั้งร้านในเมืองด้วยครับ
Blindside คือสกิลโจมตีไปที่จุดบอดของเป้าหมาย ทำให้การโจมตีเกิดอัตราการ Critical อย่างแน่นอน และเป้าหมายอื่นที่อยู่รอบๆ เป้าหมายที่โดนสกิลนี้ จะติด Debuff: Blindside ทำให้เพิ่มโอกาสการโจมตีติด Critical มากขึ้น และเมื่อเราเรียน Attribute, Blindside: Critical Attack เป้าหมายที่โดนดีบัฟนี้ จะโดนการโจมตีแบบ Critical แรงขึ้นสูงถึง 25 เปอร์เซ็นต์
Overestimate บัฟระดับการตีบวกของอาวุธรองให้กับคุณและสมาชิกในปาร์ตี้ มากที่สุด +3 ซึ่งในจุดนี้ บางคนอาจมองว่า แค่ 3 ขั้นเอง จาก +5 ก็เป็น +8 เพิ่มพลังโจมตีแค่ไม่เท่าไร เพราะเป็นอาวธุรอง แต่ช้าก่อน เพราะทุกๆการตีบวกขั้นที่ 6, 11, 16, 21… จะได้โบนัสพลังโจมตีเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับปกติ นั่นจะทำให้สมาชิกในปาร์ตี้ของคุณมีพลังโจมตีรวมที่มากขึ้น และเพิ่มพลังป้องกันที่จะทำให้สมาชิกในปาร์ตี้ทุกคนอยู่ตีบอสจนตายก่อนที่จะเป็นฝ่ายตายก่อนบอสนั่นเอง ข้อเสียจุดใหญ่ของมันมีอยู่อย่างเดียวเลยคือ Overestimate ไม่สามารถบัฟ One-Handed Sword ได้ แต่ก็ไม่ต้องกังวลครับ skill อื่นๆของ Appraiser นั้นก็ช่วยเหลือเราและปาร์ตี้ได้ดีอยู่แล้ว
Devaluation สกิลทีเด็ดที่มีดีบัฟในการลดพลังโจมตีและพลังป้องกันทั้งเวทย์มนต์และกายภาพ แก่เป้าหมายที่รับผลของสกิลนี้ สูงสุดถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสกิลนี้จะมีส่วนในการ Boost Damage ของตัวเราและปาร์ตี้ ให้สามารถทำแดเมจได้สูงขึ้นกว่าเดิม นั่นหมายถึง คุณเองก็เป็นส่วนสำคัญต่อปาร์ตี้ในการล่าบอสครั้งนี้เหมือนกันนะ
Hackapell คือลูกผสมระหว่าง Archer และ Swordman โดยแท้ ไม่ว่าจะเรื่องการโจมตีจากระยะไกลด้วย Crossbow พร้อมกับเคลื่อนที่ไปรอบๆเป้าหมายอย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่กระพุ่งเข้าไปประชันหน้าตรงๆ พร้อมจะใช้ Sword ฟาดฟันเป้าหมายให้มอดม้วยในคราเดียว เอาล่ะ เรามาพูดถึง Status, Skill และ Combo ของบิ้วด์นี้กันดีกว่า
ให้ Str รวมคงที่ไว้ที่ 60 หน่วย หรือถ้ารู้สึกว่าโจมตีพลาดมากไปให้อัพไปถึง 90-105 หน่วย และนำแต้มที่เหลือไปลงกับ Dex ให้หมด
*ทำไมถึงเป็น Dexterity แทนที่จะเป็น Strength และทำไมถึงไม่อัพ Constitution เลย?
– เพราะนี่คือ Build ที่เน้นทางด้าน Critical ที่มีโอกาสติดสูงสุดถึง 50 percent เมื่อโจมตีเป้าหมายจากด้านหลัง อีกทั้งยังมีสกิลเพิ่มโอกาสและความแรงของคริติคอลอีกด้วย อีกทั้ง การอัพ Dex นั้น จะช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีปกติและการใช้สกิลบางสกิล ทำให้ในขณะที่เราอยู่ในบัฟ Running Shot จะยิงได้รวดเร็ว และรุนแรงจาก Additional Damage อีกทั้งยังติดคริติคอลรัวๆเมื่อโมตีจากด้านหลังได้อีกด้วย
อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่า Hackapell คือ 1 ใน 4 อาชีพที่สามารถขี่ Companion ขณะต่อสู้ได้ ทำให้ผู้เล่นได้รับโบนัสพลังชีวิต +25% ของพลังชีวิต, 10% ของพลังป้องกัน, และ 8% ของค่าหลบหลีกของ Companion ที่เราใช้ อีกทั้ง อุปกรณ์สวมใส่ในช่วงท้ายเกมนั้น ก็ให้ค่า Constitution กับเราเพียงพอที่จะไม่ทำให้ตายได้ง่ายๆ และผมอยากให้เพื่อนๆ ลองคิดดูเอาเองว่า ตัวเรานั้นคือ Damage Dealer แล้วเหตุใดเล่า เราจะเสีย Status Point อันแสนมีค่าไปกับการป้องกัน แทนที่จะเป็นการโจมตี?
Tips
ถ้าหาก Con รวมหรือ Status ที่จำเป็นใดๆก็ตามค้างอยู่ที่เลข 9 เช่น 19 29 39.. ของเราในช่วงท้ายเกม และเมื่อทำการคำนวณสเตตัสของไอเท็มเอนด์เกมที่ท่านจะใส่แล้วเพียงพอและไม่ส่งผลกระทบต่อตัวละครของเรา ก็ลดแต้ม Dex ลงมาสัก 1 แต้มเพื่อไปเพิ่มให้กับสเตตัสนั้นเพื่อรับค่าสเตตัสพิเศษเพิ่มเติมจะคุ้มกว่านะจ๊ะ
Skills
Cavalry Charge สกิลเปิดคู่บุญของ Hackapell และ Rogue ที่คู่ต่อสู้แค่เห็นเราวิ่งฝ่าวงล้อม พร้อมเข้าหา แต่ยังไม่ทันจะกดสกิล อีกฝ่ายก็พร้อมจะหันหลังและก้มลงไปเก็บสบู่รอแล้ว(ใช่หรอ?)
Cavalry Charge อาจจะไม่หวือหวาเรื่องแดเมจที่สร้าง แต่ผลลัพธ์ของผู้ที่โดนเรากระแทกหน้าเข้าไปคือ เป้าหมายจะหันหลังให้เราฟันฟรีๆ 1-2 วินาที ไม่ว่าบอสกำลังจะง้างหมัดทุบใส่หัวเรา หรือจะวิ่งซ้ายหันขวาไล่เพื่อนเราอยู่ อีกทั้งสกิลนี้ยังมีโอกาสโจมตีติดคริติคอลที่สูง แม้จะไม่ได้โจมตีจากด้านหลังก็ตาม และยังแถม Debuff ลด Critical Resist ของผู้ที่โดนสกิลอีกแหน่ะ นี่แค่สกิลเปิดนะ มีทั้งคริในตัว บังคับหันหลัง แล้วยังลดต้านทานคริฯ ของเป้าหมายอีก ถ้าสกิลต่อๆไปไม่ติดคริก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วพี่น้องคร้าบ
Storm Bolt สกิลสร้างแดเมจแสนรุนแรงพร้อมเสียงอันไพเราะ ด้วยการจิ้มดาบไปด้านหน้าตรงๆ สร้างดีบัฟ เพิ่มAdditional Damage เพิ่มเติมเมื่อใช้สกิล Skarphuggning แก่เป้าหมายนี้ แล้วยังมีโอกาสแถม Debuff: Bleeding อีกด้วยนะ
Skarphuggning สกิลที่ใช้หลังจากเป้าหมายที่ติด Debuff: Additional Damage จากสกิล Storm Bolt โดยการเล็งไปที่ส่วนบนของเป้าหมายแล้วฟันต่อเนื่องทำแดเมจ 4 ครั้ง แถมมี 2 Overheat (คิดเอาเองนะว่าเจ็บไหม -*-)
Leg Shot สกิลยิงขาเพื่อลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของเป้าหมาย ถ้าไม่ใช้ตอนเป้าหมายวิ่งหนี ก็ใช้ตอนวิ่งหนีเป้าหมาย(55555555) บ้าสิ ใช้หลังจากสกิลคอมโบระยะใกล้หมดแล้ว ยิงขาแล้ววิ่งต่อพร้อมกับ Running Shot ถอยออกไปอย่างสวยงาม 5555
Combo
ตัวอย่างวีดีโอ
PvP, TBL, GvG, Colony Wars (Future Content)
Archer C3 – Scout C1 – Appraiser C1 – Falconer C1 – Cannoneer C2
คำอธิบายเพิ่มเติม
“จะลูกธนู ปืนสั้น ไรเฟิล แต่ยอมโดนลูกปืนใหญ่อัดหน้าไม่ได้จริงๆ”
ทำไมถึงเป็น Cannoneer? แทนที่จะเป็นคลาสอื่นอย่างเช่น Musketeer หรือ Mergen ใน Build ของ Player versus Player(PVP) ? ผมจะขอเกริ่นให้ท่านผู้กอบกู้ทั้งหลายได้ฟังก่อนว่า ไม่มีคลาสใด อาชีพไหน ที่เก่งที่สุด ไม่ว่าในด้านใดก็ตาม รวมถึงในเรื่องของการที่ผู้เล่นตีผู้เล่นด้วยกันเองด้วย เพราะฉะนั้นจะมีอาชีพที่เก่ง แต่ก็แพ้ทางบางอาชีพที่อาจจะไม่เก่งในสายตาของผู้กอบกู้หลายๆ ท่านเพราะฉะนั้น ผมขอเลือกหยิบ 1 Build ของ Archer ที่ผมคิดว่ามีข้อดี และเป็นสิ่งที่คนในปาร์ตี้(Player versus Player) ล้วนต้องการมากที่สุดในทุกสถานการณ์
ทำไมต้อง Archer C3
ทั้งสองสกิลนี้ไม่ได้มีจุดเด่นในด้านการสร้าง Dmg ในรูปแบบของ Player versus Player แต่รูปแบบการออกอนิเมชั่นของทั้งสองสกิลนี้ขึ้นอยู่กับ Speed of Attack อีกทั้งจำนวนของ Overheat ในการใช้งาน, Cooldown, รวมถึงจำนวน Hit ในการทำแดเมจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากต่อการทำลาย Magic Circle ของคู่ต่อสู้ในระยะไกล และนั่น คือหน้าที่ของคุณ เหล่า Archer
สกิลที่ในคลาส Archer C3
Kneeling Shot เมื่อกดใช้สกิล จะทำให้ผู้เล่นนั่งลง เล็งและเตรียมพร้อมที่จะโจมตีคู่ต่อสู้ ทำให้มีผลได้รับพลังโจมตี, ความเร็วในการโจมตี, และระยะในการโจมตีมากขึ้นรวมถึงอัตราการคริติคอลด้วย และถ้ายิ่งคุณคือ Cannoneer แล้วนั้น จะมี Attribute พิเศษเพิ่มเข้ามาให้คุณสามารถเรียนได้ตอนคุณเป็น Cannoneer C2 ที่จะช่วยเพิ่มอัตราการคริติคอลกับสกิลของ Cannoneer ตรงๆ ถึง 10%ซึ่งนับว่าเป็นค่าคริติคอลที่เยอะมากๆ เพราะแม้ว่าช่วงท้ายเกมคุณจะใส่ Green Gems ทั้งตัว และรวมกับค่าคริฯของอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดแล้วนั้น ค่าคริติคอลรวมของคุณ ก็ยังคงอยู่ที่แถวๆ 50% อยู่ดี
ทำไมถึงเลือก Kneeling Shot แทนที่จะเป็น Bazooka?
Cannoneer นั้น มีสกิล Boost dmg ให้กับตนเอง 2 สกิล แต่เราจะเลือกใช้ได้เพียงสกิลเดียวเท่านั้น และในที่นี้ ในบทบาทของการเล่นแบบ Player versus Player ผมคิดว่าตัวเราเอง ไม่ควรกดสกิล Bazooka ที่ใช้เวลา Setup สกิลนานถึง 2 วินาที อีกทั้งสกิลป้องส่วนใหญ่ของ Player นั้น ยังมีรูปแบบการลด dmg เป็น percent ทำให้ยิ่งไม่คุ้มค่ากับการยืนเป็นเป้านิ่ง 2 วินาที เพื่อใช้สกิลที่สร้างแดเมจได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งเมื่อโดนประชิดตัวแล้ว ก็ไม่สามารถใช้สกิลได้ และเมื่อคุณคิดจะยืนขึ้นแล้ววิ่งหนีพวกตัวที่จะเข้ามาตีเรานั้น คุณยังต้องใช้เวลาอีก 2 วินาทีเพื่อ Uninstall ปืนใหญ่แสนหนักของคุณอีกนะ
แต่กลับกัน เมื่อใช้ Kneeling Shot คุณจะมีอนิเมชั่นการลุกขึ้นยืนที่รวดเร็วกว่า ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำ ทำให้ง่ายต่อการรุกและรับ อีกทั้งสกิลต่างๆของ Player ยังไม่มี Buff เพิ่ม Critical Resist อีกด้วย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเลือกสกิลนี้ ควบคู่ไปกับการอัพสเตตัส Dexterity นั่นเอง
ปัญหาหลักจริงๆของการเล่นในรูปแบบ PVP ส่วนใหญ่ ไม่ใช่กับการเจอ Dmg Dealer แรงๆ แต่คือเหล่า Tanker ทั้งหลายที่ดาหน้ากันมาฟันแนวหลังอย่างพระหรือสายนักเวทย์ก่อน แต่อะไรนะ Tanker เหล่านั้น มีสกิลฺ Block และป้องกัน Magic Dmg งั้นเร้อะ และไม่ว่าคุณจะเล่นคลาสใดๆใน Archer ก็ตาม คุณก็ไม่สามารถหาค่าาเจาะบล็อกได้สูงมากพอจะเจาะบล็อกของเหล่า Tanker ได้หากไม่มี Attribute ของ Cannoneer
สกิลจำเป็นของ Scout
Cloaking คือเหตุผลเดียวที่เราผ่าน Scout มาเพื่อใช้หายตัวในสถานการณ์ต่างๆ ที่แตกต่างกัน
สกิลที่จำเป็นของ Appraiser
Devaluation อัพสกิลนี้อยู่ที่ไว้ Lv.1 ก็เพียงพอสำหรับการลดลำดับขั้นตีบวกของอุปกรณ์ ของคู่ต่อสู้ให้เหลือ +0 และนำแต้มที่เหลือไปลงกับสกิลตั้งร้าน Identify ให้เต็ม
Hanging Shot Lv.1 ไว้ใช้ตอนที่คิดจะหนีผู้เล่นโจมตีระยะประชิด เราจะเกาะเหยี่ยว เคลื่อนไหว และยิงปกติได้ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่คู่ต่อสู้โจมตีเราไม่โดน 15 วินาที ก็เพียงพอสำหรับการรอ Cooldown สกิลหลักของเรา
Cannoneer เป็นอาชีพที่มีพลังโจมตีที่รุนแรง และโจมตีได้หลายเป้าหมาย มากที่สุดในคลาส Archer แต่ก็ต้องแลกมาด้วยข้อเสียที่ไม่สามารถโจมตีระยะประชิด และมี Mobility ที่น้อย ทำให้ Build นี้ คือบิ้วด์ Cannoneer ที่ดีที่สุดในการเล่นรูปแบบ Player versus Player ทั้งในโหมด TBL, GvG และในอนาคตอันใกล้ Colony Wars จากการที่ผมได้ศึกษาระบบข้างต้นแล้ว การโจมตีระยะไกลเป็นกลุ่มๆ หรือแม้แต่การสร้างความเสียหายให้แก่สิ่งก่อสร้างของ Cannoneer เป็นตัวแปรสำคัญในการนำความได้เปรียบมาสู่ฝ่ายของตนเองอย่างแน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าคลาสอื่นไม่มีหน้าที่หรือความสำคัญเลย เพราะกุญแจที่จะนำชัยชนะมาสู่ผู้กอบกู้ที่แท้จริงของ Tree of Savior คือ Teamwork and Unity
