คำว่า Event ใน Terraria นั้นไม่ได้หมายถึงกิจกรรมพิเศษ แจกของ ล๊อคอินได้รางวัลเหมือนกับเกมออนไลน์แต่อย่างใด แต่หมายถึงช่วงเวลาพิเศษที่เกิดขึ้นในเกม ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อศัตรูที่ปรากฎในช่วงเวลานั้นๆ และจะไม่จบลงเมื่อผู้เล่นตายเหมือนกับการสู้บอส แต่จะจบลงต่อเมื่อเวลาผ่านไปถึงที่กำหนด หรือเมื่อกำจัดศัตรูได้ครบตามที่กำหนด
ตัว Event ต่างๆ นั้นก็จะแบ่งเป็นช่วงก่อน Hardmode ที่มีไม่กี่อย่าง และหลัง Hardmode ที่จะนรกกว่ามากดังนี้
ก่อน Hardmode : Blood Moon, Goblin Army, Slime Rain
หลัง Hardmode : Solar Eclipse, Pirate Invasion, Frost Legion, Pumpkin Moon, Frost Moon, Martian Madness, Lunar Events
เช่นเดียวกับบอส Event ช่วงก่อน Hardmode นั้นยังคงเกิดขึ้นหลังเปลี่ยนเป็น Hardmode แล้วได้เช่นกัน แต่โดยปกติแล้วจะไม่เกิดซ้อนกัน
นอกจากนี้แล้ว การรับมือกับ Event ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ผู้เล่นควรมีที่กำบังห่างออกมาจากตัวบ้านเล็กน้อย และใช้เป็นสถานที่ในการรับมือกับศัตรูใน Event จะดีกว่า เนื่องจากศัตรูจะสามารถเกิดได้โดยไม่สนจำนวน NPC ใกล้ๆ แล้ว ทำให้ NPC อาจจะตกเป็นเหยื่อการโดนรุมสกรัมตายระหว่างที่ผู้เล่นกำลังผ่าน Event เอาง่ายๆ
Blood Moon
Blood Moon is raising…
เงื่อนไขการเกิด : สุ่มเกิดทุกคืนยกเว้นคืนเดือนค่ำ เมื่อมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งมีพลังชีวิต 120 หรือมากกว่า
ระยะเวลา : ตั้งแต่เริ่มพลบค่ำจนถึงตอนเช้า
Blood Moon นั้นจะทำให้น้ำกลายเป็นสีแดง บรรยากาศมีสีแดงชัดมากขึ้นเป็นอย่างมาก ศัตรูทั้งหมดในทุกพื้นที่จะมีอัตราการเกิดและจำนวนสูงสุดที่เกิดได้มากขึ้นเป็นเท่าตัว หากอยู่บนพื้นดิน(จุดที่มีซอมบี้เกิดได้) ศัตรูจะปรากฎเป็นธีม Blood Moon ซึ่งประกอบไปด้วยมอนที่มีความอี๋แหวะมากขึ้นและเก่งกว่าปกติ ในช่วง Blood Moon นี้ ซอมบี้ธรรมดาจะสามารถเปิดประตูได้ด้วย
สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างหนึ่งคือ ในช่วง Blood Moon นั้น ปลาทอง, กระต่าย และนกเพนกวินนั้นจะกลายร่างเป็นเวอร์ชั่นดุร้าย ไล่โจมตีผู้เล่นร่วมกับศัตรูทั่วไปอีกด้วย
เมื่อเข้าช่วง Hardmode แล้ว จะมีการเพิ่ม Clown เข้ามาเป็นศัตรูชนิดแรร์อีกตัวหนึ่ง
*ในช่วงที่เกิด Blood Moon นั้นจะเป็นหนึ่งในสองช่วงร่วมกันคืนเดือนเพ็ญที่ต้น Deathweed นั้นจะออกดอก ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวเมล็ดได้*
Goblin Army
A Goblin Army is approaching
เงื่อนไขการเกิด : สุ่มเกิดทุกเช้าหลังทำลาย Shadow Orb / Crimson Heart และมีผู้เล่นที่มีพลังชีวิต 200 หน่วยขึ้นไป หรือใช้ Goblin Banner
ระยะเวลา : เมื่อกำจัด Goblin ได้ครบตามที่กำหนด
กองทัพ Goblin นั้นจะมีโอกาสบุกโจมตีทุกๆ วันในตอนเช้าถึง 33% เมื่อมีการทำลาย Shadow Orb หรือ Crimson Heart, ผู้เล่นมีพลังชีวิต 200 หน่วยขึ้นไป และยังไม่เคยมี Goblin Army บุกมาก่อน หลังจากนั้นมีโอกาสกาศบุกซ้ำเรื่อยๆ แต่มีอัตราการบุกที่ต่ำลงค่อนข้างมาก
เมื่อ Event นี้เกิดขึ้นนั้น จะมีสัญญาณแจ้งเตือนว่าเหล่า Goblin จะบุกมาจากทางด้านไหน และจะใช้เวลาซักพักก่อนที่พวกมันจะบุกมาถึง โดยเป้าหมายของพวกมันคือจุดเกิดแรกสุด(ในกลางแผนที่)ของ World นั้นๆ เมื่อพวกมันมาถึงแล้ว จะมีประโยค A Goblin Army has arrived! ขึ้นเตือนอีกครั้ง
ในช่วงนี้ศัตรูอื่นๆ ทั้งหมดจะหยุดเกิดและจะมีแต่เหล่า Goblin เข้ามาโจมตีผู้เล่นเรื่อยๆ เท่านั้น ซึ่งผู้เล่นจะต้องไล่กำจัดพวกมันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครับจำนวนที่ต้องการ จึงจะขึ้นประโยค The Goblin Army has been defeated! แจ้งให้ทราบว่าพวกมันพ่ายแพ้แล้ว
ใน Hardmode นั้นจะมีการเพิ่ม Goblin Summoner ที่อันตรายมากขึ้นแถมมาอีกตัวด้วย
Slime Rain
Slime is falling from the sky!
เงื่อนไขการเกิด : ผู้เล่นที่มีพลังชีวิต 140 หน่วยขึ้นไปและมีค่าพลังป้องกัน 8 หน่วยขึ้นไป
ระยะเวลา : หมดช่วงกลางวัน, กลางคืน หรือกำจัด King Slime ได้
ฝนสไลม์เป็นอะไรที่กุ๊กกิ๊กน่ารัก…มั้ง ระหว่างที่เกิดฝนสไลม์นั้น Background จะมีเอฟเฟคเป็นสไลม์ดึ๋ยๆ ผสมลงมา พร้อมกับสไลม์ที่หล่นลงมาจากท้องฟ้าเรื่อยๆ ในอัตราที่มากกว่าการเกิดตามปกติเล็กน้อย ฝนนี้จะดำเนินต่อไปจนกว่าจะหมดช่วงกลางวัน หรือกลางคืนของวันนั้น
สิ่งที่พิเศษคือ หากผู้เล่นกำจัดสไลม์ที่ตกลงมาได้ครบ 150 ตัว (หรือ 75 ตัวถ้า King Slime ถูกกำจัดไปแล้ว) จะทำให้ King Slime เกิดอย่างแน่นอน และรุดเข้ามาเล่นงานผู้เล่นทันที เมื่อผู้เล่นจัดการ King Slime ได้ก็จะยุติ Event นี้
Event หลัง Hardmode
ในช่วงหลัง Hardmode นั้น event ก่อนหน้ายังสามารถเกิดขึ้นได้ และศัตรูก็จะมีการเพิ่มเข้าไปบางตัวใน event เพื่อเป็นสีสรรเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม นรกที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ event ต่างๆ ที่รอผู้เล่นนั้น ยากกว่าเดิมแบบเทียบไม่ติดกันเลยทีเดียว…
Solar Eclipse
A Solar Eclipse is happening!
เงื่อนไขการเกิด : สุ่มเกิดทุกเช้าหลังจากที่กำจัด Mechanical Boss ลงได้ 1 ตัว (โอกาส 1/20) หรือใช้ Solar Tablet
ระยะเวลา : เมื่อหมดช่วงกลางวัน, ใช้ Enchanted Sundial
มีจันทร์สีเลือดแล้ว ไยใดสุริยคราสจะมีไม่ได้ เมื่อ Event นี้เกิดขึ้น กลางวันจะมืดเหมือนกับกลางคืน และศัตรูที่แข็งแกร่งจะเกิดอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด ซึ่งหากผู้เล่นไม่มีที่กำบังที่ออกแบบมาให้ดีเพียงพอแล้ว การตายรัวๆ เยี่ยงผักปลาจนกว่าจะถึงยามค่ำคืนนั้นย่อมเป็นเรื่องปกติเลยทีเดียว แต่ทว่าจุดอ่อนของ Event นี้นั้นคือจะมีผลกับเฉพาะบนพื้นดินเท่านั้น ในเขต Biome อื่นจะไม่มีผลอะไรเป็นพิเศษยกเว้นอัตราเกิดของศัตรู
ศัตรูใน Event นี้นั้นจะมีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก พร้อมกับพลังโจมตีและพลังชีวิตที่สุดชนิดที่ว่าแค่ตัวสองตัวก็ล้างบาง NPC ยกบ้านกันได้ง่ายๆ ทำให้เมื่อ Event นี้เกิดขึ้น ผู้เล่นที่เตรียมพร้อมมักจะวิ่งไม่คิดชีวิตไปยังที่กำบังที่ห่างจากตัวบ้านเป็นพิเศษ
นอกจากนี้แล้วเมื่อผู้เล่นกำจัด Mechanical Boss ได้ครบทั้ง 3 ตัว ก็จะมีศัตรูใหม่ที่เก่งขึ้นมาเสริมใน Event นี้อีกสองตัว (ซึ่งทั้งสองตัวที่เพิ่มมานั้นสามารถบินทะลุกำแพงเข้ามาโจมตีผู้เล่นได้อีกด้วย) รวมถึงเมื่อกำจัด Plantera แล้ว ศัตรูที่เหลือทั้งหมดอีก 5 ชนิดก็จะตามมาสมทบเช่นกัน และไม่ต้องบรรยายถึงความโหดของพวกมันกันเลยทีเดียว
ใน Event นี้จะมีของดรอปที่น่าสนใจพิเศษคือ Broken Hero Sword ที่สามารถนำไปทำเป็นดาบสุดแรง Terra Blade ได้นั่นเอง รวมถึงเมื่อกำจัด Plantera แล้ว เจ้า Mothron ตัวแสบก็จะมีโอกาสดรอป The eye of cthulhu ที่เป็นโยโย่แรงอันดับสองในเกมอีกด้วย
Pirate Invasion
Pirates are approaching
เงื่อนไขการเกิด : สุ่มเกิดทุกเช้าหรือใช้ Pirate Map
ระยะเวลา : เมื่อกำจัดเหล่าโจรสลัดได้ครบตามที่กำหนด
หรือจะกล่าวได้ว่ามันคือ Goblin Army แบบ upgrade ก็ว่าได้ ตัว Event นี้นั้นมีความคล้ายกันไม่ว่าจะเป็นวิธีการผ่าน การสุ่มเกิด โดยต่างกันตรงศัตรูมีความแข็งแกร่งกว่ามาก และไม่มีตัวไหนโจมตีทะลุ Block แล้ว (ฮา) ทำให้โดยรวมกลับรับมือได้ง่ายกว่าซะงั้นล่ะ
ศัตรูใน Event นั้นก็จะประกอบไปด้วยโจรสลัดชนิดต่างๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะดรอปเฟอร์นิเจอร์ทองคำที่ผู้เล่นสร้างเองไม่ได้มาด้วย รวมถึงเครื่องประดับหายากอย่าง Discount Card, Lucky Coin, Gold Ring ด้วย
เมื่อผู้เล่นกำจัดศัตรูได้ครึ่งหนึ่งแล้ว จะมี Mini Boss ปรากฎออกมาเป็นเรือเหาะ Flying Dutchman ที่จะบินไล่ล่าผู้เล่นและคอยระดมยิงปืนใหญ่พร้อมกับเรียกโจรสลัดออกมาเป็นระยะๆ สามารถกำจัดได้โดยการทำลายปืนใหญ่ทั้ง 4 กระบอกข้างเรือทิ้ง
Frost Legion
The Frost Legion is approaching
เงื่อนไขการเกิด : ใช้ Snow Globe
ระยะเวลา : เมื่อกำจัดเหล่าตุ๊กตาหิมะได้ครบตามที่กำหนด
เช่นเดียวกับ Goblin Army เลยทีเดียว ยกเว้นความต่างกันคือเป็น Event ชนิดเดียวกันที่ต้องใช้ Item Snow Globe เรียกออกมาเท่านั้น ตัวไอเท็มนั้นจะได้จากการเปิดไอเท็ม Present เมื่ออยู่ใน Hardmode (ไอเท็มนี้จะดรอปจากศัตรูในช่วงวันคริสต์มาสเท่านั้น)
ตัว Event ก็ไม่มีอะไรพิเศษมากนักและมีศัตรูเป็นตุ๊กตาหิมะเพียง 3 ชนิด แต่จะมีชนิดหนึ่งที่โจมตีด้วยการปาบอลหิมะที่จะกลายเป็น Block หิมะถมพื้นที่ให้รกเล่นเท่านั้น ทำให้ผู้เล่นส่วนมากมักจะข้าม Event นี้ไปเนื่องจากไม่อยากเสียเวลาเก็บกวาด
Pumpkin Moon
Pumpkin Moon is raising
เงื่อนไขการเกิด : ใช้ Pumpkin Moon Medallion ในตอนกลางคีน
ระยะเวลา : เมื่อขึ้นวันใหม่
หนึ่งในสอง Event นรกแตกไร้ที่สิ้นสุด ตัว Event นั้นก็จะอ้างอิงธีมของวันฮาโลวีนมาเป็นต้นแบบ แต่ไม่เกี่ยวกับเทศกาลฮาโลวีนตามปกติแต่อย่างใด จันทร์ฟักทองนั้นจะเป็น Event ที่ผู้เล่นจะต้องกำจัดศัตรูให้ครบตามที่กำหนดเพื่อไป Wave ระดับต่อไปที่จะมีศัตรูที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือแต่บอสประจำ Event ….. เพราะงั้นอย่าคิดว่าจะรอดโดยไม่ตายได้ใน Event นี้เลย ยากส์ แต่ถ้าใครชอบตีบอสเยอะๆ บอกได้เลย เยอะจนล้มน่ะมีอยู่จริง
สำหรับในตัว Event นี้ก็จะมีทั้งสิ้นทั้งหมด 15 Wave ในแต่ละ Wave นั้นจะประกอบด้วยศัตรูจากง่ายไปยากขึ้นเรื่อยๆ ปิดท้ายด้วย Mourning Wood ที่สามารถปีนหรือทะลุผ่าน Block ได้ยามที่มันต้องการ และ Pumpking ที่ทะลุผ่าน Block หน้าตาเฉย
อัตราดรอปของไอเท็มต่างๆ จากบอสนั้นจะเพิ่มขึ้นตามระดับของ Wave ที่ผู้เล่นอยู่ในขณะนั้น และเมื่อเข้าสู่ Final Wave ที่มีแต่บอสแล้ว ผู้เล่นจะได้รับ Trophy อย่างแน่นอนเมื่อกำจัดบอสแต่ละตัวได้ เรียกได้ว่าถ้าเอาไปทำบ้านได้คงสร้างได้หลายหลัง
แม้ว่าจะยากเพียงใด แต่ก็จัดว่าเป็นหนึ่งใน Event ช่วงกลาง Hardmode ที่ทำให้ผู้เล่น upgrade อาวุธของตัวเองหลายๆ สายได้
Frost Moon
Frost Moon is raising
เงื่อนไขการเกิด : ใช้ Naughty Present ในตอนกลางคีน
ระยะเวลา : เมื่อขึ้นวันใหม่
อีกหนึ่งในนรกไร้ที่สิ้นสุด แต่ระดับความโหดของ Frost Moon นั้นวิ่งไปอีกขั้นของ Pumpkin Moon กันเลยทีเดียว และเช่นเดียวกับชื่อ ตัว Event นี้จะมีธีมเป็นช่วงคริสต์มาส แต่ไม่ได้อ้างอิงกับวันคริสต์มาสจริงแต่อย่างใด
ใน Frost Moon นั้นผู้เล่นจะต้องตะลุยผ่าน 15 Wave ถึงจะเจอ Final Wave แต่ก็จะมี Bonus Wave ต่อเนื่องไปอีกรวมทั้งสิ้นเป็น 20 Wave เรียกได้ว่าถ้าไม่พร้อมจริงนั้น ยากที่จะไปถึงได้ และก็มีบอสเป็น Everscream, Santa-NK1 กับ Ice Queen รอรุมกระทืบผู้เล่นอยู่ถึงสามตัวกันเลย แน่นอนว่า Wave ท้ายๆ ก็จะมีแต่พวกมันเท่านั้นที่มารุมกินโต๊ะผู้เล่น หุยฮา
ตัว Frost Moon นั้นก็จะมีอาวุธหลายชนิดที่สามารถดันความโหดของผู้เล่นให้สูงขึ้นไปอีกขั้นได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว Moon Event ทั้งสองอย่างนี้ผู้เล่นมักจะใช้ในการ upgrade ตัวเองก่อนไปเจอ Duke Fishron นั่นเอง
Martian Madness
Martians are invading!
เงื่อนไขการเกิด : หลังจากกำจัด Golem ได้และถูก Martian Probe ตรวจเจอพร้อมกับปล่อยให้มันหนีไป
ระยะเวลา : กำจัดเหล่า Martian ให้ครบตามที่กำหนด
เป็นหนึ่งใน Event ที่มีความยากสูง และอันตรายกว่า Solar Eclipse เสียอีก เพียงแต่ว่าใน Event นี้นั้น ไม่มีศัตรูชนิดไหนที่โจมตีหรือเคลื่อนที่ทะลุกำแพงได้ ทำให้ผู้เล่นมีโอกาสรับมือในที่กำบังได้ดีกว่า ศัตรูใน Event นี้จะมีธีมเป็นมนุษย์ดาวอังคาร รวมถึง UFO Martian Saucer ที่เป็นบอสประจำ Event และมีของดรอปที่ดีที่สุดใน Event นี้อีกด้วย (ไม่นับว่าเป็นของระดับ Top ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยันสัตว์ขี่เลยทีเดียว)
ในขณะที่ศัตรูต่างๆ ใน Event ระดมยิงผู้เล่นและฆ่าได้ยากยิ่งนัก บอสอย่าง Martian Saucer นั้นกลับอันตรายยิ่งกว่า ด้วยการยิงบีมกราดลงมารุนแรงหลายร้อยหน่วย และความไวดั่งปีศาจชนิด Ice Queen ยังช้า ทำให้การรับมือนอกที่กำบังนั้น แทบจะหาทางชนะได้ยากมาก จึงเป็นอีกหนึ่งใน Event ที่ผู้เล่นควรมีที่กำบังพิเศษในการรับมือจริงๆ
การเกิด Event นั้นมักจะเกิดโดยที่ผู้เล่นไม่ทันสังเกตุเห็น Martian Probe จนกระทั่งสายไป ดังนั้นอาวุธนำวิถีหรือ Summon จะช่วยป้องกันได้เวลาที่ผู้เล่นเจอ Probe อยู่ แต่หากต้องการลุย Event นี้ ควรเก็บ Summon ชั่วคราวเพื่อให้ Probe มีโอกาสได้หนีไปและเริ่มงานเลี้ยงได้
Lunar Events
Celestial creatures are invading!
เงื่อนไขการเกิด : กำจัด Lunatic Cultist
ระยะเวลา : ทำลาย Celestial Tower ครบทั้ง 4 ต้น
Event สุดท้ายและที่ยากที่สุดในเกมในตอนนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเรียก Moon Lord ที่เป็นบอสตัวสุดท้ายในเกมมาต่อสู้อีกด้วย ตัว Event นั้นจะประกอบไปด้วยเสา 4 ต้นที่มีธีมอวกาศเป็นของตัวเอง หน้าที่ของผู้เล่นคือการบุกไปที่เสาเหล่านี้และหาทางทำลายมันลง แต่ทว่าการจะทำลายมันนั้น ตัวเกมจะบังคับให้ผู้เล่นต้องกำจัดศัตรูในเขตนั้นให้ครบตามที่กำหนดก่อน ตัวเสาจึงจะสามารถรับความเสียหายได้
ตัวเสาแต่ละเสานั้นเมื่อทำลายได้ก็จะดรอป Shade ตามเสานั้นๆ ออกมา ซึ่งใช้ในการสร้างอาวุธและของระดับ End-game ทั้งหลายร่วมกับของจาก Moon Lord ทำให้เป็นการฟาร์มครั้งสุดท้ายที่ยาวนานเป็นอย่างมาก และบอกได้เลยว่า ศพเกลื่อนกลาดแน่นอน เพราะศัตรูพวกนี้ โหดร้ายยิ่งนัก
Solar Tower : ศัตรูมีธีมเป็นดวงอาทิตย์และดาวตก โซนนี้จะมีสีแดงอมเหลือง สว่างไสว ในพื้นที่จะมีดาวตกตกเป็นระยะๆ ถ้าหล่นมาโดนก็เจ็บตัวกันไป และสิ่งที่ต้องระวังสุดๆ คือหากผู้เล่นโดดหรือลอยตัวสูงกว่าพื้น 3 ช่องขึ้นไป เจ้าหนอนตะวันนรกที่โจมตีแรงวินาศจะบินมาทะลวงตับทันที บีบให้ผู้เล่นต้องสู้บนพื้นอย่างเดียว หนำซ้ำศัตรูอย่างเจ้า Corite นั้นก็ชอบพุ่งชนทะลุ Block อีกด้วย
Vortex Tower : ศัตรูมีธีมเป็นเอเลี่ยนอวกาศ โซนสีเขียวออกไปทางมืด ตัวที่อันตรายนั้นจะเป็น Alien Queen ที่ยิงเหล็กในใส่ผู้เล่นได้ หากโดนเข้าจะทำให้แรงดึงดูดของผู้เล่นถูกรบกวน ไม่สามารถบินได้และจะลอยไปมาแบบสุ่มชั่วคราว ยังดีที่กำหนดทิศทางได้อยู่ Vortexian นั้นก็จะสร้างประตูมิติที่จะยิงลำแสงใส่ผู้เล่นทีเผลอได้หากไม่ระวังตัว
Stardust Tower : ศัตรูมีธีมเป็นทุ่งสะเก็ตดาว เป็นโซนที่มีสีฟ้าสวย แต่ความอันตรายนั้นมากเหลือ Flow Invader นั้นมีพลังโจมตีที่เรียกว่าโซนอื่นๆ ยังผวา และเมื่อกำจัดมันได้ มันยังส่งตัวลูกมาโจมตีซ้ำได้อีก และเจ้า Starcell ที่เมื่อตายจะแตกตัวเป็นตัวเล็กๆ หลายตัว หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะกลายเป็นตัวใหญ่มาไล่กัดเราต่อ แต่โดยรวมเป็นโซนที่ระวังตัวดีๆ จะเอาตัวรอดได้ง่ายกว่า เพราะมุกทีเผลอน้อยกว่า
Nebula Tower : ศัตรูมีธีมเป็นเนบิวลา โซนนี้จะมีสีม่วงบานเย็น Nebula Floater เป็นตัวที่น่ารำคาญมากในพื้นที่นี้ เนื่องจากเมื่อถูกโจมตี มันจะเทเลพอร์ทหนีทันที และยังยิงเลเซอร์ที่ค่อนข้างเร็วใส่อย่างต่อเนื่องอีกด้วย พร้อมกับเจ้า Brain Suckler ที่ทะลุผนังได้ เมื่อสัมผัสกับผู้เล่นจะทำให้พลังชีวิตลดลงเรื่อยๆ และมองรอบตัวไม่เห็นชั่วคราว (มีหมอกสีดำปกคลุมไว้ทั้งหมด)
เมื่อผู้เล่นกำจัดหอทั้งสี่ได้แล้วนั้น Moon Lord ก็จะตามมาสมทบ โดยมีเวลาให้ผู้เล่นเตรียมตัวอีก 1 นาทีเป็นการปิดท้ายรายการกันไป
ก็จบกันไปสำหรับ Event หลักๆ ใน Terraria ที่ผู้เล่นสามารถเจอได้ ซึ่งอันที่จริงก็ต้องขอละบางอย่างเช่นฝน, พายุทราย หรืองานปาร์ตี้ไป เนื่องจากไม่ได้ส่งผลต่อการเล่นมากนัก เพียงแค่เพิ่มจำนวนศัตรูหรือเปลี่ยนศัตรูในพื้นที่แคบมากๆ เท่านั้น (ยกเว้นพายุทรายที่จะทำให้ทะเลทรายเป็นนรกไปเลย) ก็ขอให้ผู้เล่นฟาร์ม Event กันให้สนุกจ้า
