มีฟาร์มแต่แบบเดิมๆ ก็ย่อมน่าเบื่อ การอัปเดตตัวเกม Stardew Valley นั้นก็ได้เพิ่มส่วนของแผนที่ฟาร์มหรือ Farm Map ให้เราได้เลือกเล่นเพิ่มเติมกันเป็นระยะๆ จนตอนนี้นั้นมีด้วยกันถึง 7 รูปแบบแล้ว ทำเอาผู้เล่นหลายคนถึงกับงงได้เหมือนกัน เอ๊ะ เล่นฟาร์มแบบไหนดีนะถึงจะเข้าท่า ในบทความนี้ก็จะมาแนะนำฟาร์มแต่ละแบบกันจ้า ว่าแบบไหนมีข้อดีข้อเสียยังไง เผื่อจะหาฟาร์มแนวที่ตัวเองเล่นถูกใจได้น้า
Table of contents
ก่อนอื่นนั้นสำหรับผู้เล่นที่เคยเล่นมาก่อน การจะสร้างฟาร์มแบบใหม่ ผู้เล่นต้องสละฟาร์มเก่าเสียก่อน เนื่องจากการเลือกฟาร์มแน่นอนว่าต้องทำตอนสร้างตัวละครเท่านั้น โดยจะเลือกได้จากทางขวามือที่เป็นปุ่มเล็กๆ รูปฟาร์ม 7 ปุ่ม
ตัวฟาร์มที่เลือกนั้นจะส่งผลที่แตกต่างกันคือ หน้าตาของฟาร์ม (แหงล่ะ) ซึ่งส่งผลกับพื้นที่การใช้สอยโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่สามารถใช้เพาะปลูกได้, พื้นที่ที่สร้างของได้, แหล่งน้ำ, ลูกเล่นพิเศษของรูปแบบฟาร์มชนิดนั้นๆ รวมไปถึงของตกแต่งบ้านตอนเริ่มต้นด้วยที่จะต่างกันไปตามแต่การเลือกฟาร์มของแต่ละคน (ภายในบ้านไม่มีผลอะไรเป็นพิเศษ แค่เป็นธีมเริ่มต้นเฉยๆ ของที่ใช้ประโยชน์ได้จะเท่ากันหมดทุกแบบ)
*ขอขอบคุณทาง http://stardewvalleywiki.com/Farm_Maps สำหรับรูปภาพแผนที่แต่ละฟาร์มมา ณ ที่นี่เป็นอย่างสูง*
Standard Farm
แบบพื้นฐานสายทำฟาร์ม อันนี้ขออณุญาติข้ามเลยละกัน รู้กันหมดไส้หมดพุงละ เย่ะ
ข้อดี : พื้นที่เหลือเฟือในการตกแต่งและเพาะปลูก เล่นง่ายสบายแฮ
ข้อเสีย : จืดเป็นแกงจืดตากฝน แหล่งน้ำตกปลาได้กากมาก!
Riverland Farm
แบบเกาะกลางน้ำ เป็นฟาร์มที่เป็นหมู่เกาะเล็กๆ รายล้อมด้วยน้ำ สำหรับสายตกปลา สามารถใช้ตกปลาได้จริงๆ ได้ทั้งปลาในสระน้ำและปลาจากแม่น้ำ
ข้อดี : สุดยอดแผนที่สำหรับสายกระชังปูมากกว่าการตกปลา ผ่าม!
ข้อเสีย : พื้นที่ใช้สอยน้อยมากถึงมากที่สุด ของมีโอกาสตกน้ำหายไปกับสีคราม
Forest Farm
แบบป่าเขาลำเนาไพร ระดับความสวยของธรรมชาติกินขาดชาวบ้าน สำหรับสายของป่า สามารถหาของป่าและไม้แข็งได้แบบเหลือกินเหลือใช้
ข้อดี : ใครชอบป่าไม้ มันสวยจริงจังมาก ของป่ามีโอกาสเกิดในฟาร์มได้ และมีทั้งตอไม้กับต้นไม้ให้เรื่อยๆ
ข้อเสีย : พื้นหญ้านั้นใช้ได้แค่สร้างสิ่งก่อสร้าง เพาะปลูกจริงๆ จึงน้อยไม่แพ้กับแผนที่อื่น สำหรับคนมีเงิน ไม้สามารถหาซื้อจากโรบิ้นได้เช่นกัน
Hill-top Farm
แบบภูเขาสูง ให้บรรยากาศเยี่ยงบ้านของโรบิ้น สำหรับสายขุดเหมือง จุดเด่นอยู่ที่ยอดเขาที่สุ่มแร่รายวันและหินหน้าตาเฉพาะทางที่พบได้ที่นี่เท่านั้น
ข้อดี : สามารถหาแร่ได้หลากหลายและรวดเร็วมากขึ้น เหมาะกับคนที่ชอบทัศนียภาพที่ไม่เป็นพื้นราบอย่างเดียวในการสร้างบ้าน
ข้อเสีย : แม่น้ำค่อนข้างจะเหมาะกับการดักปูมากกว่า พื้นที่เพาะปลูกก็พอจะมีมากอยู่ แต่ด้วยความมีหน้าผากับแม่น้ำ ทำให้การสร้างสิ่งก่อสร้างลำบากขึ้น
Wilderness Farm
แบบค่ำคืนหลอน คล้ายแบบป่าผสมฟาร์มดั้งเดิม สำหรับสายบู๊ ยามกลางคีนจะมีศัตรูและโกเล็มเฉพาะถิ่นที่เก่งขึ้นตามระดับการต่อสู้ของผู้เล่นมาเยือน
ข้อดี : มีพื้นที่ใช้สอยพอสมควร มีศัตรูมาคอยแก้เหงายามดึก(?)โดยไม่ต้องลงไปเย้วๆ ในเหมืองให้เมื่อย
ข้อเสีย : คงไม่พ้นการโดนป่วนตอนดึกๆ เวลากลับมาทำฟาร์มส่วนที่เหลือต่อนี่ล่ะ รู้นะว่าหลายคนชอบมาเผาค่า stamina ช่วงนี้ นอกจากนั้นก็คือฟาร์มปกติที่พื้นที่น้อยลง ผ่าม
Four Corners Farm
แบบแบ่งแยกสี่มุม เป็นฟาร์มปกติที่มีการแยกพื้นที่เป็นสี่ส่วน สำหรับการเล่นแบบ Multiplayer ที่แบ่งพื้นที่กันโดยเฉพาะเลย
ข้อดี : รวมมิตรฟาร์มธรรมดา, ฟาร์มป่า (บนซ้าย มีตอไม้เกิดตลอด), ฟาร์มแม่น้ำ (สระน้ำตกได้แบบในทะเลสาปในป่า) และฟาร์มภูเขา (มีจุดเกิดแร่)
ข้อเสีย : พื้นที่ใช้สอยก็โดนแบ่งแยกกันไปบ้าง และมีแนวเขาขวางทางทำให้จริงๆ มันก็เหมาะกับการเล่น Multiplayer แบบแยกกันไปเลยมากกว่าเล่นคนเดียว
Beach Farm
แบบชายหาด คอมโบสำหรับผู้เล่นที่เล่นมาเยอะแล้ว แนวป่าผสมชายหาด มีหาดทรายกว้างและพื้นที่เพาะปลูกธรรมดาน้อย!
ข้อดี : สามารถเจอได้ทั้งของป่าและของที่ชายหาด มีโอกาสเจอกล่องลอยมาเกยตื้นเป็นของเล็กๆ น้อยๆ ได้อีกด้วยล่ะ
ข้อเสีย : หาดทรายใช้ Sprinkler ไม่ได้นะตัวเอง คิดให้ดีๆ ก่อนจะปลูกอะไรเยอะๆ ล่ะ! รดน้ำกันตายไปข้าง
จะเลือกฟาร์มแบบไหนดี?
หลักๆ สำหรับคนที่เล่นมาก่อนแล้ว คงอยากลองแผนที่ใหม่ๆ เพื่อท้าทายฝีมือตัวเองหรือเพื่อความสวยงามในการจัดฟาร์มมากกว่าจะเอาข้อใช้งานหลักของมันมาใช้จริงๆ
สำหรับผู้เล่นใหม่แล้ว คงเป็นตัวเลือกที่ร้ายกาจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้เลือกยากเหมือนกับโปเกม่อ*เริ่มต้นสามชนิดขนาดนั้น ฮา ยังมีตัวเลือกพื้นฐานให้เอนจอยกับชีวิตชาวไร่ธรรมดาอยู่เช่นกัน แค่ถ้าพึ่งเริ่มเล่นจะไม่แนะนำชายหาดอย่างแรงจ้า
ถ้าให้ว่ากันแล้วนั้น แต่ละแบบทางผู้เขียนก็มีความเห็นของแต่ละแผนที่ประมาณนี้จ้า เอาไปประกอบการพิจารณากันได้
- แบบปกติ : สำหรับคนที่ต้องการเล่นแบบเน้นฟาร์มจริงจัง หรือต้องการพื้นที่ไว้ปรับแต่งเองแบบ 100% creative จากใจชั้นเลย
- ฟาร์มแม่น้ำ : คนที่อยากจะลองเล่นแบบ spam กระชังปู เป็นหลักว่าไปได้แค่ไหน ตัวแม่น้ำเองก็ตกปลาได้เหมือนกัน แต่ว่ากันแล้วเดินลงไปตกปลาด้านล่างฟาร์มอาจจะสะดวกกว่า(?)
- ป่าเขาลำเนาไพร : เป็นฟาร์มสำหรับคนที่ต้องการปั่นสาย Forage ให้เร็วที่สุด เพราะสับตอไม้ทุกวันทำเลเวลพุ่งได้ไวมากๆ บรรยากาศก็ร่มเย็นดี
- แบบภูเขา : ไว้สำหรับการลุ้นแร่ต่างๆ (ขึ้นกับระดับเลเวลการขุดแร่) ตัวหินจะเกิดใหม่ทุกๆ 4 วัน และมีแม่น้ำไว้วางกระชังปูมากมาย (ตกลงจะขุดแร่หรือดักปู!?)
- ป่าระทึก : นอกจากมีพวกศัตรูมาตอนกลางคืนแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรเป็นพิเศษ มีพื้นที่เยอะกว่าแบบด้านบนนิดหน่อย แต่ก็แพ้แบบฟาร์มปกติ
- แบบสี่มุม : เหมาะสำหรับเล่นกันหลายคนแยกบ้านมากกว่า หรืออยากจะลองเล่นหลายๆ แบบเพราะมีรูปแบบของป่า, แม่น้ำ, ภูเขาปนกันก็พอได้อยู่บ้าง เป็ดดี
- ชายหาด : หาดทรายปลูกผักได้แต่วาง Sprinkler นี่ต้องคิดหนักแน่นอน พื้นที่ปลูกกับใช้สอยค่อนข้างเยอะอยู่ มีของป่า ของชายหาดให้ได้กิ้วก้าวหาเงินเพิ่มได้เช่นกัน
แต่ถึงยังไงแล้ว สำหรับเพื่อนๆ แต่ละคนนั้น Farm Map หรือแผนที่ฟาร์มแบบไหนจะถูกใจ อาจจะต้องลงไปลองเล่นดูก่อนจริงๆ ถึงจะตอบได้ เพราะการที่เราต้องปลูกนู่นนี่ เดินไปมาตลอดเวลาในเกมนั้น มันจะบอกเราเองแหละว่าเราจะชอบแผนที่นั้นหรือเปล่า หรืออยากจะลองเปลี่ยนแนวดูบ้าง เพราะหลายคนก็หลายความชอบล่ะนะ คงแนะนำได้แค่ว่าให้ลองดู และถ้าเป็นมือใหม่จริงๆ ฟาร์มแบบเริ่มต้นกับ Four Corners น่าจะเหมาะสุดล่ะจ้า ก็ขอให้เพื่อนๆ สนุกกับการเล่นตัว Stardew Valley กันน้า