เชื่อขนมกินได้เลยว่าถ้าพูดถึง Ragnarok Online หนึ่งในเกม MMORPG บุกเบิกวงการเกมออนไลน์ในไทย ระบบอาชีพคือสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องก้าวผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นคำถามว่า อาชีพนี้ดียังไง เปลี่ยนอาชีพยังไง เล่นตัวอะไรดี เล่นสายไหนดี โอ้ยสารพัด ซึ่งการที่ตัว Ragnarok Online แบบดั้งเดิมหรือ RO Classic จะกลับมาอีกครั้งนั้น ก็ย่อมมาพร้อมกับคำถามว่า อาชีพไหนดี ในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงเหล่าอาชีพ Class สองสายยอดนิยมต่างๆ กันเพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ว่า เอ๊ะ อาชีพไหนดี นะที่ใช่ โดนใจเรา
*ขอแจ้งให้ทราบว่า ในบทความนี้จะพูดถึงอาชีพ 2-2 ด้วยเนื่องจากยังไงก็น่าจะมีการอัพเดทในอนาคตอยู่แล้ว เรามาดูกันล่วงหน้าไปด้วยจะเป็นกะไรไป*
Knight (ทุกอย่างรวมอยู่บนหลังเป็ด ความง่ายที่ตอบโจทย์ทุกอย่างยกเว้นการซัพ)
ตัวตั้งตัวตีขี่เป็ดประจำ Rune Midguard สำหรับ RO Classic แล้วนั้น นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในอาชีพที่เรียกได้ว่าหลายคนชื่นชอบเป็นอย่างมาก จากการที่โจมตีได้แรง ซอยได้ไว มีความอึด วิ่งได้ไวไม่ต้องง้อใคร (เพราะเจ้าเป็ด) ซึ่งตอบโจทย์การเล่นทั่วไปได้เป็นอย่างดีมาก และเป็นอาชีพที่ไม่ต้องคิดมากเท่าไหร่ในการเล่น จะมือใหม่หรือมือเก่าเล่นก็ดีทั้งนั้น นอกจากนี้แล้วยังสามารถรับมือได้ทั้งศัตรูเป้าเดี่ยวและศัตรูเป็นหมู่ได้อีกด้วย คือมันครบเครื่องนั่นแหละ!
ก่อนหน้าที่จะมีสายสอง (Crusader) มานั้น ตัว Knight ก็จะมีการแตกย่อยไปสายอึดด้วย แต่เมื่อ Crusader มา การโอนไปให้อาชีพที่เหมาะกว่าก็ย่อมดีกว่า แต่ไม่ใช่ว่าเล่นไม่ได้เล่น เล่นได้และก็ยังคง STONK เช่นเคย
► สาย AGI ดาบสองมือ
สายนี้เป็นสายพื้นฐานมากๆ อาศัยสกิล Two-hand Quicken ในการทำให้ตีด้วยดาบสองมือได้ไวขึ้นมาก เป็นสายขยันซอยที่แท้ทรู เราจะเห็นพี่แกซอยฉับๆๆๆๆ มอนตายก้มเก็บแล้วก็แว้นหายไปหามอนตัวต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้หลบเก่งเหมือนกับอาชีพอื่นๆ แต่ด้วยเลือดที่หนา การฟื้นเลือดได้ดี และแบกของได้เยอะ ทำให้พี่แกก็ได้หาแคร์ไม่ถ้าจะโดนตีบ่อยกว่า ฟื้นเลือดได้ง่ายกว่าเว้ย
ค่าสเตตัสสายนี้จะเน้นไปที่ด้านความไวและความแรงเข้าว่า อารมณ์เหมือนกับว่า การป้องกันที่ดีที่สุดคือการแลกกับมันให้ยับไปเลย เอาให้มันตายก่อนพอว่างั้น
STR – 90+
INT – 1+
DEX – 40+
VIT – 30+
AGI – 80+
LUK – 1+
► สายหอก
ในขณะที่สายดาบเน้นการขยันซอย สายหอกจะเป็นสายกดสกิลเป็นหลัก โดยอาศัยความค่า AGI ทำให้โจมตีได้ไวขึ้น ย้ำหอกจิ้มได้บ่อยขึ้น มีระยะการโจมตีที่ไกลกว่า โดยแลกกับข้อเสียคือไม่มีท่าซอยไว และบังคับต้องขี่เป็ดถึงจะใช้สกิลได้ (ในขณะที่สายดาบ บางคนไม่ชอบเป็ดยังลงเป็ดได้) แต่ถ้าว่ากันด้านความแรงนั้น ค่อนข้างที่จะเหนือกว่า จะด้วยการ Spam Pierce ใส่มอนตัวใหญ่ก็ดี หรือ Brandish Spear ที่กว้างและใช้ง่ายกว่าสายโบ (แต่ก็เบากว่า) ก็ตาม เอาว่าคนนึงขยันซอย อีกคนขยันยัดท่าก็ได้
สายนี้ด้วยความที่ต้องยัดสกิลบ่อย ก็จะต้องลงค่า INT เยอะกว่าเพื่อให้สามารถมี SP ไว้กดสกิลได้บ่อยๆ นั่นเอง ซึ่งบางคนอาจจะยอมลดค่า STR ลงอีกเพื่อให้ INT เยอะขึ้นอีกก็ยังได้ แต่ความแรงต่อการจิ้มก็จะเบาตามลงไปเป็นสัดส่วนล่ะนะ
STR – 90+
INT – 30+
DEX – 40+
VIT – 30+
AGI – 70+
LUK – 1+
Crusader (ตู้เย็นแล้วไง แทงค์ได้ยันลูกบวชละกัน)
นักรบศักดิ์สิทธิ์ที่ล้อกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าตู้เย็นเดินได้ ก็ไม่รู้ว่าเคยโดนฝาตู้เย็นฟาดหน้ากันมาแล้วหรือยัง เพราะบอกได้เลย ตู้เย็นนี้มีโหมดใช้งานให้เลือกหลากหลายมาก ไม่ว่าแบบเย็นไวทันใจ AGI มากมี (Spear Quicken) หรือสายถึกทนทาน (Full Tank) เปิดปิดปั้งๆ ไม่สะเทือน และแบบแจกจ่ายความเย็น เปิดทิ้งไว้เย็นทั่วบ้าน (Grand Cross) ได้ทั้งนั้น
ด้วยความที่สกิลของ Crusader นั้นมีค่อนข้างจะไปได้หลายทาง ทำให้แตกสายได้เยอะ แต่หลักๆ ในที่นี้จะขอพูดถึงสายที่มีความเฉพาะตัวของตู้เย็นเราก่อนนั่นคือรุ่นตบไปไม่สะเทือนและแจกจ่ายความเย็นน่าจะตรงโจทย์กว่า
► สายถึกทนตบไม่สะท้าน
สายนี้จะเน้นหนักด้านความถึก เป็นตัวลากประจำตี้ เป็นไอ้ตู้นรกเวลาลงกิลวอร์ เป็นด่านรับเท้าเวลาแทงค์บอส เดินไปให้ฝูงมอนระยะไกลซอยได้แบบที่ตัวแทงค์คนอื่นยืนสั่นด้วยความหวาดกลัวได้ (ยกเว้นคุณมองค์เปิด Steel Body อ่ะนะ) แน่นอนว่าสายนี้เก็บเวลาเองก็ได้ด้วย Grand Cross นั่นแหละ แต่เดี๋ยวแต้มสกิลไม่พอ เน้นลงวอร์ดีกว่า แน่นอนว่าสายนี้เก็บเวลด้วยตัวเองไม่ได้เลย แต่จะเป็นคนที่คอยแบกคนอื่นเวลาลงเป็นตี้มาก เรียกว่าถ้าพี่แกแตกก็วิงกันให้ทันละกันคุณเอ้ย สกิลจะไปทางการป้องกันตัวขั้นสุดโดยจบที่ Devotion ที่ช่วยรับความเสียหายให้เพื่อนได้ รวมถึงมีสกิลอย่าง Devotion และ Defender เป็นตัวชูโรง
สเตตัสสายนี้เห็นแล้วคนที่เก็บเวลด้วยตัวเองมาตลอดจะทำหน้าหดหู่มาก เพราะเน้นช่วยเหลือปาร์ตี้เต็มที่มาก ถามว่าตอนแรกตีเองได้ไหม ก็ได้แหละเพราะของยังแบกได้ แต่พอเลเวลสูงๆ นี่ต้องลากให้ตี้แล้วล่ะ
STR – 35+
INT – 30+
DEX – 70+
VIT – 90+
AGI – 1+
LUK – 1+
► สาย Grand Cross
สายนี้เป็นสายที่นิยมมากสำหรับ Crusader เพราะมีครบทั้งความถึกและพึ่งพาตัวเองได้ดี ใช้วิธีลากมอนสเตอร์ที่เป็น Undead / Demon มาเยอะๆ แล้วใช้ Grand Cross ฆ่าเก็บเลเวลไปเรื่อยๆ หรือจะไปลากให้ปาร์ตี้ก็ได้ ซึ่งสกิลที่เหลือก็แล้วแต่ความชอบของเพื่อนๆ ว่าอยากได้ Heal (ไม่เต็ม) ไว้ฟื้นเลือดง่ายๆ ไหม หรือจะเอา Auto Guard ที่อาจจะทำเราขยับช้านิดนึงแต่ทำให้เลือดลดช้าลงมากๆ
ค่าสเตตัสจะเน้นไปทาง INT เนื่องจากเป็นค่าที่ใช้หากินกับ Grand Cross เป็นหลักเลย และเมื่อเราต้องลากมอน VIT ก็เป็นสิ่งที่สำคัญรองลงมา แม้ว่าตัวพลังโจมตีจะช่วยในความแรงของ Grand Cross แต่โดยส่วนมากแล้ว INT จะช่วยเพิ่มความเสียหายได้มากกว่าทำให้เราจะโฟกัสกันที่ค่า INT เป็นหลัก แต่ก็ไม่ถึงขั้นละเลยค่า STR เลย เพราะอย่างน้อยสุดแบกของได้เยอะขึ้น เราก็แบกยาและใส่ไอ้ฝาตู้เย็นหนักๆ ได้ล่ะนะ
STR – 30+
INT – 90+
DEX – 60+
VIT – 60+
AGI – 1+
LUK – 1+
Wizard (มหาเวทย์หมู่ทำลายล้าง)
จอมเวทย์แห่ง RO Class ผู้มาพร้อมกับกำแพงไฟ พายุหิมะ สายฟ้า หรือดาวตก จอมเวทย์พวกนี้โดดเด่นด้านการทำความเสียหายกับศัตรูหมู่มากพร้อมกันสุดๆ หรือจะเป็นศัตรูเป้าเดี่ยวก็ใช่ว่าจะแย่ ไม่เลย โหดไม่ได้ต่างกัน แต่พอดีถ้ามีคนลากมาให้ถล่มมันก็ไวกว่านั่นแหละนะ ถ้าใครชอบการร่ายเวทย์ซักพักและเห็นความเสียหายพุ่งพรวดๆ ล่ะก็ นี่คืออาชีพที่เรียกว่าตอบโจทย์สุดๆ และถ้าของแรงพอ ร่ายแบบไวๆ พรึ่บพั่บเวทย์ออกเลยก็ยังได้นะเอ้อ
สำหรับสายนั้น… เอาจริงๆ Wizard เป็นอาชีพนึงที่สายสกิลค่อนข้างน่ารัก ลากไปได้เยอะมากไม่ค่อยแตกไปเยอะ เต็มที่คือต้องเลือกเวทย์ใหญ่ 2 จาก 3 อันแค่นั้นเอง (ถ้าไม่นับ Fire Pillar) เลยอาจจะแยกสายให้เพื่อนๆ ไม่ได้มากนัก รวมถึงค่าสเตตัสก็แค่ไม่ค่อยจะต่างกันอีกด้วย INT DEX เป็นหลักจริงๆ ดังนั้นจะขออธิบายในส่วนของค่าสเตตัสตามด้วยการเลือกสกิลดีกว่า
STR – 1+
INT – 90+
DEX – 90+
VIT – 1+
AGI – 1+
LUK – 1+
จุดที่ควรทราบหลักเลยคือ INT เมื่อรวมไอเทมและโบนัสจากอาชีพแล้ว ควรลงท้ายแล้วได้โบนัสพลังโจมตีเวทย์เด้งพรึ่บขั้นมาพอดีเป๊ะ (ทุกๆ 5 และ 7 แต้ม) ส่วน DEX เราจะต้องรวมแล้วให้หารลงตัวที่ 15 เนื่องจากทุกๆ 15 Dex เราจะร่ายไวขึ้น 10% นั่นเอง นั่นคือสาเหตุหลักที่ปกติแล้ว Wizard จะพยายามเลือกใช้ Glove Zerom แทนที่จะเป็นของเพิ่มความแรง แต้มที่เหลือก็เลือกลง VIT เอาความอึดหรือจะเอา STR มาแบกของก็ยังได้ถ้ามีเศษตกเหลือ
ในด้านของสกิลนั้น ให้เราเลือกว่าอยากจะใช้สกิลใหญ่อะไรเป็นหลักในตอนท้ายสุด เนื่องจากมีจุดเด่นแตกต่างกัน แต่ควรจะมี Jupiter Thunder 10 และ Quaqmire 1 ไว้ด้วยเพราะช่วยได้ตลอดเวลาที่เล่น
- Strom Gust นั้นแรงที่สุด แต่ศัตรูจะแข็งหลังโดนสามครั้งทำให้ไม่โดนต่อ ต้องอาศัยตัวช่วย ไม่ก็ใช้กับตัวที่แข็งไม่ได้อย่าง Undead ส่วนมากทุกคนจะมีติดตัว เพราะใช้ได้หลายสถานการณ์มากๆ รวมถึงในกิลวอร์ ร่ายแค่เลเวล 1 ก็ทำให้อีกฝ่ายป่วนได้แล้ว
- Meteor Storm สุ่มลง แต่แรงและมีโอกาสทำให้ stun พึ่งพาได้ยากแต่แรงจริง
- Lord of Vermillion ค่อนข้างเบา แต่คงที่ที่สุด
- Fire Pillar อันนี้ใช้ยากสุดเพราะเป็นกับดัก แต่ทะลุพลังป้องกันเวทย์
Sage (ใครที่เบื่อการร่ายเวทย์แบบเดิมๆ ต้องมา)
ถ้า Wizard เป็นตัวละครที่เน้นเวทย์ใหญ่จัดเต็ม Sage จะเป็นเหมือนกับจอมเวทย์แหกกฎ เป็นตัวที่เกิดมาเพื่อฆ่า Wizard โดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ ด้วยสกิลที่เน้นไปในทาง “หยุดยั้ง” หรือปั่นป่วนการร่ายเวทย์ของศัตรู ไม่ก็ทำให้เกิดผลบนพื้นที่ ทำให้เป็นอาชีพที่เหมาะกับการเล่นงานผู้เล่นหรือลงวอร์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว และในขณะเดียวกันก็ทำให้เป็นอาชีพที่ค่อนข้างเล่นยาก มีอะไรที่ต้องจำเยอะมากในการเล่น เหมาะกับคนที่อยากเล่นอาชีพสายเวทย์ แต่ไม่ใช่ร่ายแล้วก็จบๆ ไป แต่มีลูกล่อลูกชน แม้ว่ามันจะไม่ได้แรงหูดับตับไหม้ก็ตาม
สายที่แตกย่อยไปนั้นจะเป็นสาย PVP / วอร์ และสาย PVM (ตีมอน) ซึ่งแม้ว่าในด้านตีมอนแล้ว Sage จะไม่ไวเท่า Wizard แต่การช่วยของสกิลลงพื้นหลายๆ อย่างก็ทำให้การเก็บเวลสะดวกขึ้นมาก (และอาจจะกลายเป็นทาสปาร์ตี้เหมือน Priest ได้ง่ายๆ)
► สายวอร์
สายนี้จะเน้นไปในด้านการใช้ Land Protector เพื่อกันไม่ให้ศัตรูบุกหรือกันศัตรูป้องกัน (เช่น วางลงพื้นกันการ Storm Gust Camp หน้าวาร์ป) รวมไปถึงการใช้สกิลช่วยเหลืออื่นๆ เช่น Deluge ในการทำให้ Wizard ร่าย Water Ball ที่โคตรทรงพลังได้เรื่อยๆ ก็ยังได้ เป็นสายที่ต้องพึ่งปาร์ตี้เลเวลมากเพราะค่าสเตตัสต้องไปช่วยวอร์กันสุดๆ เลยทรมาณในการเก็บแบบสุดๆ
STR – 30+
INT – 30+
DEX – 90+
VIT – 90+
AGI – 1+
LUK – 1+
► สายตีมอน
สายนี้จะเล่นแล้วรู้สึกลำบากใจเล็กน้อยเพราะดันต้องเอาแต้มสกิลมาลงในสกิลช่วง Job 1 ด้วยเพื่อเร่งความเสียหายให้ได้สูงสุดจากสกิลโจมตีที่มีอยู่จำกัดมากๆ แต่ก็จะมี Land Protector ซัก 1 เลเวลรวมถึงสกิลลงพื้นที่ต้องการเพิ่มเติม เพื่อช่วยในการเก็บเลเวล เพราะบอกได้เลย ในการสู้กับ Boss บางตัว สกิลอย่าง Land Protector นั้นช่วยชีวิตได้ค่อนข้างมาก และในอีกทางนึงก็สามารถเอาไปแข่งกับการแย่งชิง MVP กับคนอื่นได้ด้วยล่ะ (อย่างว่า ชีวิตมันอยู่ยาก ต้องแข่งกันร่ำไปล่ะนะ) รวมถึงการมี Free Cast ก็ทำให้เราเดินไปร่ายสกิลแล้วเดินถอย เดินตามได้ง่ายขึ้น ชีวิตดีขึ้นเอาการเลยล่ะ ตัว Magic Rod ที่เหมือนกับ Auto-Counter ของ Knight ก็ช่วยเราได้มากเช่นกัน
ค่าสเตตัสของสายนี้ก็ไปทาง Wizard ธรรมดาๆ เลยจ้า แต้มเหลือลงการเอาตัวรอด VIT หรือแบก Gem เพิ่มที่ STR ได้ทั้งนั้น
STR – 1+
INT – 90+
DEX – 90+
VIT – 1+
AGI – 1+
LUK – 1+
Hunter (หน่วยยิงระยะไกลที่พึ่งพาได้ในความเร็วและแรง)
หนึ่งในอาชีพที่หลายคนเรียกว่าลูกรัก Gravity สมัยก่อนเลยก็ว่าได้ (ด้วยความที่การยิงธนูจัดเป็นกีฬาประจำชาติ) ชนิดว่าพูดถึงเล่น RO Classic อาชีพไหนดี Hunter จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เด้งขึ้นมา ตัวอาชีพนี้จะโดดเด่นด้านการโจมตีระยะไกลที่รวดเร็ว รุนแรง มีความคล่องตัวสูง เล่นง่ายไม่ยุ่งยาก แถมยังเท่จากการมีเหยี่ยวบินตามและช่วยโจมตีได้ด้วย ค่าสเตตัสก็อัพง่ายไม่ต้องคิดมากแถมตอบโจทย์ ข้อเสียเดียวคือแบกของได้น้อยมาก และยังต้องคอยดูแลเรื่องลูกธนูที่หมดเอาๆ ยิ่งยิงไวก็ยิ่งหมดไวอีก
สำหรับ RO Classic แล้วนั้น ตัว Hunter ที่นิยมจัดๆ จะมีสองสายคือสายซอย, เบิ้ล และสายนก ซึ่งมีการจัดแบ่งค่าสเตตัสต่างกันพอประมาณ แต่โดยรวมการเล่นก็ไม่ได้แตกต่างกันเลยด้วยซ้ำ ก็นั่นล่ะ วิ่งๆ ยิงๆ จะมีอะไรมาก (ฮา) ทำให้สกิลของทั้งสองสายแทบจะเหมือนกันดิ๊กเลย
► Hunter สาย DEX/AGI
หลายคนเรียกว่าสายหลัก เป็นสายที่นกมีไว้โชว์สาว เพราะช่วยไม่ค่อยได้ (นานๆ ทีบินไปจิกขำๆ) เน้นความโหดของตัวเองเน้นๆ แรงๆ สามารถยิงได้แรงและเร็วมาก Double Straft ที่เป็นท่าหากินเวลาสแปมไปนี่คือหากินได้หมด สามารถทำได้กระทั่งไฟว์ MVP ด้วยซ้ำ ทำให้เป็นที่นิยมที่สุด ไปไหนก็แทบจะแบบ อ๋อ สายเบิ้ลนี่หว่า
ซึ่งสายนี้ก็จะเน้นค่า DEX AGI ให้ตันกันไปเลย โดยเผื่อโบนัสจากอาชีพและอุปกรณ์ให้สามารถลงค่า Dex ลงท้ายด้วย 0 ได้ และแต้มที่เหลือค่อยไปลงค่าอื่น เช่น Vit เอาตัวรอดหรือ Int เพื่อช่วยการเบิ้ลถี่ขึ้นจากค่า SP ที่ฟื้นไวขึ้น สายนี้จะรีดความแรงของการใช้พวกการ์ดต่างๆ เช่นคนเหมือง (Skeleton Worker) ได้ดีมากถึงมากที่สุด เพราะความแรงพื้นฐานแรงหูดับตับไหม้
STR – 1+
INT – 30+
DEX – 90+
VIT – 30+
AGI – 80+
LUK – 1+
► Hunter สายนก
สายนี้เป็นสายรอง มีลีลาที่เฟี้ยวฟ้าวกว่าจากการที่นกบินไปโฉบศัตรูพรึ่บๆๆๆๆ ยิ่งอัพมาดี นกยิ่งถี่ยิ่งแรง บอกได้เลยก่อนโดนปรับให้เป็นผู้เป็นคน สายนี้คือโคตร OP กว่าสายหลักอีก (นกจิกไม่แชร์ กับดักดูดได้ 5555) ข้อดีของสายนี้ก็คือมันเท่กว่าจริงๆ การได้เห็นนกบินไปจิก ตัวนกเองก็จิกไม่แคร์พลังป้องกันด้วย แต่จะด้อยกว่าตรงที่นกไม่มีธาตุ ทำให้เร่งความแรงของนกผ่านลูกธนูธาตุไม่ได้ จิกผีไม่โดน และต้องบาลานซ์ค่าสเตตัสหนักกว่าสายหลักมาก
ค่าสเตตัสของสายนี้มีค่า AGI นำเพื่อการหลบหลีก มีค่า DEX รองลงมาแต่จะไม่มากเท่าสายหลัก เพราะต้องเจียดไปลง INT เพื่อความแรงของนก และค่า LUK เพื่อความถี่ของนกในการจิก (ประมาณ 3 หน่วยต่อ 1% ที่ยิงแล้วนกไปจิก) ด้วย
STR – 1+
INT – 40+
DEX – 70+
VIT – 20+
AGI – 80+
LUK – 45+
Bard / Dancer (สายซัพที่ถูกมองข้าม จนกระทั่งรู้ว่าโดนอะไรเข้าไป)
ถ้าในด้านของ Hunter เป็นสายบู๊ 100% แล้วนั้น หลักของ Bard / Dancer คือตัวสนับสนุน(ที่ไม่ใช่การฮีลหรือบัพโดยตรงแบบ Priest) ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่การเล่นเพลงเพื่อสนับสนุนปาร์ตี้ที่กำลังเก็บเลเวลอยู่ และมีความยุ่งยากที่ สกิลเพลงคู่ต้องเล่นโดย Bard และ Dancer ด้วยกัน แต่ผลของเพลงก็เรียกว่าทรงพลังสุดๆ เช่นกัน ความปังของสายนี้จะอยู่ที่การลง Guild War มากกว่า เนื่องจากสามารถสร้างความเปลี่ยงแปลงให้กับการตั้งรับได้อย่างมหาศาลมาก (เชิงรุกแล้วก็ได้เช่นกัน แต่ไม่แข็งเท่าเวลาตั้งรับ)
ด้านสายย่อยของอาชีพนี้จะเน้นไปทางตี้ธรรมดา และ Guild War โดยแตกต่างกันตรงค่าสเตตัสที่อัพ ที่ในวอร์จะต้องเน้นเอาตัวรอดและการใช้สกิลจัดเต็ม ส่วนลงตี้นั้นจะมีค่าสเตตัสที่หากินด้วยตัวเองได้ในระดับหนึ่งด้วย (สายลงตี้จะเลือกสกิลเพลงคู่เฉพาะสาย เช่น Mr. Kim A Rich Man เป็นสายเวลเพิ่ม EXP, Into the Abyss ใช้รัวสกิลที่ต้องเสีย Gemstone ฟรีได้)
► สายปาร์ตี้
สายนี้จะเป็นสายที่เลือกอัพสกิลที่ต้องการใช้กับปาร์ตี้เป็นหลัก (เช่น Mr. Kim A Rich Man) เนื่องจากแต้มสกิลไม่พอที่จะสามารถอัพทุกเพลงที่มีให้ไช้ได้ ถึงแม้ว่าเพลงคู่จะน่าสนใจมาก แต่ก็แน่นอนว่า การเล่นเพลงเดี่ยวก็โอเคเช่นกันและหลายเพลงก็ช่วยได้มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มค่า Attack Speed ของ Assassin Cross of Sunset หรือเพิ่ม SP ของ Service for You ก็ยังได้ สามารถพลิกเพลงกับปาร์ตี้ได้หลากหลาย
การอัพค่าสเตตัสสายนี้จะอัพเหมือนกับการลุยตามปกติของ Archer แต่เน้นไปทาง Int มากขึ้นเพื่อให้สามารถกดเล่นเพลงได้ง่ายและต่อเนื่องมากกว่า
STR – 1+
INT – 40+
DEX – 90+
VIT – 20+
AGI – 70+
LUK – 1+
► สาย Guild War
สายนี้เก็บเลเวลยากเอาการ แต่ทุ่มลงการเอาตัวรอดใน Guild War ที่เต็มไปด้วยคมดาบขี่เป็ดเข้ามาสับหรือเวทย์มากมายที่ลอยเข้าหัว หลักๆ แล้วนั้นตัวสกิลจะเน้นไปที่สกิลที่ส่งผลต่อการเล่นใน Guild War เป็นหลัก เช่นร่ายไว เพิ่มเลือด และที่ขาดไม่ได้คือสกิลขัดแข้งขัดขาอย่าง Frost Joke, Scream ที่เรามักจะได้เห็นขาเพลงขาเต้นยืนที่สุดๆ แล้ว Spam สกิลนี้ให้เหล่าผู้มาเยือนเกินความซวยไปตามๆ กัน
ค่าสเตตัสก็บอกเลยว่า อัดมาหนักจัดมาเต็มให้กับการเอาตัวรอดในวอร์ล้วนๆ ยามเวลก็ทรมานกันไป
STR – 1+
INT – 30+
DEX – 90+
VIT – 90+
AGI – 30+
LUK – 1+
Assassin (นักฆ่าสายคริ ไม่คริก็มีดแทงไส้แตก)
นักฆ่าจอมโหดของโลก Ragnarok Online ที่เราจะได้เห็นอาวุธคู่ใจ Katar ตีมอนปั่กๆๆๆๆ เสียงสะใจและการคริระรัว หรือไม่ก็มีดคู่ที่ฟันช้าแต่เลขโคตรอลังการ เป็นอาชีพที่พึ่งพาการใช้การ์ดมากที่สุดในเกมแล้วก็ว่าได้ (หรือว่าง่ายๆ คือรีดความสามารถจากการ์ดได้มากที่สุดนั่นล่ะ) แต่ผลตอบแทนนั้นเรียกได้ว่าสะใจไม่ใช่น้อย และความสามารถในการหลบหลีกการโจมตีที่นับว่าสูงที่สุดในเกมก็ยังทำให้มันเข้ากับแนวคิด พริ้วไหวดั่งผีเสื้อ ตีแรงเหมือนไมค์ไทสัน ได้เช่นกันล่ะนะ
สายการเล่นก็จะมีสาย Katar และสายมีดคู่ ที่มีการอัพสเตตัสกันไปคนละทางเลย สกิลส่วนหนึ่งก็จะแตกต่างกันไปด้วย แต่ด้วยความที่มีสกิลไม่มากและสกิลสายพิษบางส่วนก็ใช้งานยากเกินไปหน่อย ทำให้โดยรวมสกิลมันก็ค่อนข้างจะไปกองที่เดียวกัน
► สาย Katar
สายนี้จะโดดเด่นด้านการที่อาวุธ Katar มีคุณสมบัติ เบิ้ลความสามารถด้าน CRI หรือ Status Effect เป็นสองเท่า (เช่นคริ 10% = 20%) ทำให้สามารถทำให้ Critical เกือบแตก 100% ได้ง่ายมาก เป็นสาเหตุที่เราจะเห็นสายนี้ตีติดคริตลอดเวลา ถึงจะไม่ได้แรงหูดับปั่กละสามพัน แต่การปั่กๆ ทีละ 400-500 รัวไม่หยุด ทะลุเกราะ ทะลุการหลบหลีกมันก็สดชื่นไม่ใช่น้อยเลยล่ะ
ค่าสเตตัสของสายนี้จะเป็นหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่มีค่า LUK เยอะ เพราะต้องการค่าครินั่นเอง แม้ว่าจะใช้การ์ดช่วยเพิ่มก็ตามที
STR – 90+
INT – 1+
DEX – 20+
VIT – 1+
AGI – 90+
LUK – 30+
► สายมีด
สายนี้เป็นสายที่ตีแรงหูดับตับไหม้มาก อาศัยจำนวนช่องใส่การ์ดที่มากถึง 7 ช่อง เหนือกว่าทุกอาชีพในเกม มารีดความเสียหายขั้นสุด ด้วยมีดธาตุ(หรือ Damacus สามการ์ด) ที่มือขวาเป็นตัวตีหลัก และ Main Gauche ใส่การ์ดเร่งความเสียหายเฉพาะอีก 4 ใบ ถ้ามอนสเตอร์เป้าหมายที่ล่าไม่ได้มีค่า DEF สูงจัดๆ ล่ะก็เรียกว่าเข้าถึงตัวเป็นละลาย ….. เอาจริงถ้า DEF สูงเปลี่ยนมีดขวาเป็น Ice Pick ก็ไส้แตกไปซะนะลูก แน่นอนว่าสายนี้จะแรงอย่างที่ว่าต้องโคตรเสี่ย เพราะการ์ดจำนวนขนาดนี้คือล้มละลายได้ง่ายๆ
ค่าสเตตัสของสายนี้ก็จะทิ้งค่า LUK ไปเข้าสู่ค่า DEX แทนนั่นเองเพื่อความแม่นในการโจมตีแต่ละครั้งให้คุ้มค่าที่สุด เรื่องตลกคือ พอเราตีแม่น เราอยากเล่นอะไรบ้างๆ ก็หยิบ Katar มา Sonic Blow เล่นก็ได้ ….. มันไม่แรงเท่าหรอก แต่บางทีก็สนุกดีอ่ะนะ
STR – 90+
INT – 1+
DEX – 50+
VIT – 1+
AGI – 90+
LUK – 1+
Rogue (เจ้าตัวป่วนขั้นสุด เจ้าหัวขโมยยยยยยย)
ตัวป่วนวิบัติแห่งกิลวอร์ ในขณะที่คนอื่นมีหน้าที่บุกถล่มทำลายล้าง Rogue นั้นเป็นตัวสร้างความบรรลัยที่แท้ทรูแบบไม่มีเจือปนเลย เอาจริง Rogue เป็นอาชีพที่เรียกว่าโจรขั้นสุด เพราะเหมือนไปจิ๊กสกิลมาจากคนนั้นที คนนี้ที ทำให้เล่นได้ค่อนข้างหลายแบบน่าดูชมเลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่สุดเหมือนกับเจ้าของอาชีพนั้นๆ ก็ตาม ทำให้สายการเล่นนั้นค่อนข้างเยอะอยู่ ถ้าใครที่อยากเล่นอาชีพที่มันป่วนและชอบการตีวอร์ แนะนำเลย นี่คือตัวป่วนจริงๆ หรืออยากจะลองเล่นอะไรแผลงๆ ก็ได้เช่นกัน
ด้านสายการเล่นจะมีการแยกเป็นเหมือนกับ Assassin สายมีด (ที่ไม่เปลืองเงินเท่า) หรือ Archer (Double Straft) เลยจากสกิลหากินหลักที่มี โดยสายมีดจะใช้ Backstab, Raid ช่วยในการทำความเสียหายเพิ่มเติม ธนูก็หรอยไปจ้า รวมถึงสกิลเด็ดๆ อย่าง Plagiarism ก็ช่วยให้สามารถใช้สกิลของศัตรูที่โดนเราได้ด้วย แต่จะยังไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่เพราะยังป้องกันการโดนเปลี่ยนเป็นสกิลอื่นไม่ได้
นอกจากนี้ในการวอร์ที่กล่าวถึงก่อนหน้า สกิลที่สำคัญมากคือ Strip หรือปลดอุปกรณ์ ที่ถ้าเป้าหมายไม่ได้เคลือบน้ำยาป้องกันไว้ การเจอปลดอุปกรณ์คือเหมือนตายทั้งเป็น จะใส่กลับก็ใส่ไม่ได้ เป็นกระสอบให้เขาทุบ จะใส่โล่แมงทองสุดเทพ (แต่ดันผ่าลืมเคลือบ) มาเจอปลดเวทย์ก็ลงหัวเต็มๆ จ้า มีอาวุธเทพๆ เจอปลดก็ยืนต่อยไปดิคับ แน่นอนว่าโอกาสกดติดก็ค่อนข้างจะต่ำ (15%) แต่การเจอ Rogue มายืนปลดรัวๆ นี่ก็ทำให้ต้องเปลี่ยนเป้าหมายการทำอะไรมาวิ่งหนีหรือตื๊บพี่แกให้ร่วงก่อนให้ได้นั่นล่ะ … ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีคนเคลือบให้นี่นา
RO Classic อาชีพไหนดี
Priest (เหล่าผู้ที่คอยช่วยเหลือให้ปาร์ตี้ก้าวเดินต่อไปได้)
RO Classic อาชีพไหนดี เชื่อว่าถ้าสาวๆ คนไหนถามคำถามนี้ จะต้องมีหลายคนบอก เล่น Priest เลยน่ารักดี ช่วยเพื่อนได้ กันมาแน่นอน ใช่แล้ว ความโดดเด่นของ Priest คือการที่เป็นสายสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมมากๆ ความสามารถในการ Heal เพิ่มความเร็วของ Agi Up (A) บัพเพิ่มความสามารถอย่าง Blessing (B) หรือใส่เกราะกันความเสียหายKyrie Eleison (K) ทำให้ตี้ไหนขาด Priest จะทุลักทุเลมาก และพวก Solo ก็ชอบเดินมาอี๋อ๋อ ABK ABK ABK ABK ABK รัวๆ เหมือนเป็นความจริงที่คนเป่าหูให้เล่น Priest ไม่กล้าพูดถึงนั่นแหละ
ถึงกระนั้น ตัวตนของ Priest ใน RO นั้นต้องบอกเลยว่าเป็นตัวตนที่ทรงพลังมาก เป็นเหมือนนางฟ้าที่เลี้ยงตี้ไม่ให้แตก (โดยเฉพาะเจ้าคนลาก) และช่วยให้ตี้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางความเหนื่อยยากของเจ้าตัวจริงๆ แต่แม้จะลำบาก การได้ช่วยพลักดันให้ปาร์ตี้สามารถผ่านอุปสรรค์ยากๆ ได้ก็เป็นความฟินในการเล่นของเหล่า Priest จริงๆ
สายของ Priest ถ้าไม่นับอินดี้เอากระบองฟาดหน้าสั่น ก็จะเป็นสาย Support ธรรมดาและสาย Magnus Exorcismus ที่อัพสเตตัสไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ต่างกันที่สกิลและวิธีการเล่นนั่นเอง
► สาย Support
สายนี้จะเน้นหนักไปที่สกิล Support เต็มตัว เริ่มตั้งแต่ Heal ไปจนถึง Lex Aeterna / Gloria เลยทีเดียว ซึ่งบอกได้เลยว่าสายนี้ปาร์ตี้จะรักและโหยหามาก ยิ่งถ้าซัพเก่งนี่จีบกันเยี่ยงดาวมหาลัย (แต่ถามความเหนื่อยเราไหมก็อีกเรื่อง)
สายนี้จะเน้น INT VIT ในการเอาตัวรอดสุดๆ และมี DEX บ้างเพื่อให้ร่ายสกิลอย่าง Magnificat ไวขึ้นเล็กน้อย
STR – 1+
INT – 90+
DEX – 50+
VIT – 80+
AGI – 1+
LUK – 1+
► สาย Magnus / Turn
สายนี้ความสามารถ Support จะไม่สูงเท่า แต่ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้ หลักๆ แล้วจะเน้นความสามารถในการเก็บเลเวลที่สูงขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งปาร์ตี้เก็บให้เท่านั้น เก็บเองได้หรือให้ตี้ช่วยลากให้ก็ได้ (เพราะว่ากันตามตรง Magnus แรงมากถ้าใช้ถูกที่) โดยทั่วไปจะไม่ค่อยเล่นทั้ง Magnus และ Turn Undead เพราะแต้มสกิลจะไม่ค่อยเหลือไปลงอย่างอื่นเลย แต่การมีทั้งสองสกิลก็จะทำให้เก็บเวลชิวขึ้นไปอีก สายนี้จะเน้นลง Dex มากขึ้นเพราะ Magnus ร่ายนานสวรรค์หลับมาก และต้องพึ่ง STR เล็กน้อยแบก Gemstone กันซักหน่อย (ไม่ก็ฝากขาลากนั่นล่ะช่วยแบกให้)
STR – 30+
INT – 90+
DEX – 75+
VIT – 60+
AGI – 1+
LUK – 1+
Monk (พระที่วางคำสอนมาจับกำปั้นเปลี่ยนแปลงโลก)
ถ้าสาวเจ้าที่จีบมาเล่น Priest ทนความลำบากของการเจอ ฮีลหน่อย ฮีลที งกว่ะ ไม่ไหว อาจจะเปลี่ยนจากนางฟ้าเป็นอสุราเอาได้ง่ายๆ Monk คือขั้วตรงข้ามของ Priest ที่ใช้พลังแห่งกล้ามเนื้อและการฝึกฝน ต่อย ต่อย และฟาดเหล่าศัตรูแบบไม่สนว่าจะผีสุก ผีดิบ ยังไม่กลายเป็นผีก็จะโดนฟาดให้ได้เป็นผีกันไปหมด มีท่าโจมตีต่อเนื่องเป็นคอมโบ มีสกิลทะลวงเกราะ หรือแม้แต่ไม้ตายหากิน ASURA STRIKE ต่อยที MVP ร้องเอ๋งแทบไม่ทัน คือละทิ้งความเมตตามาแจกหมัดแทนนั่นแหละ
สายที่เล่นกันหลักๆ จะมีสายคอมโบและก็สายอาชูร่าที่สกิลจะเทกันไปคนละด้านพอสมควร
► สายคอมโบ
สายนี้จะเน้นการโจมตีที่รัวและต่อเนื่องในการหากิน ถ้าเจอกับศัตรูที่ตึงมือ ก็จะระดมจัดหนักคอมโบชุดใหญ่เผาค่า SP ให้อีกฝ่ายไส้แตกได้ไวๆ กันไป เรียกว่าถ้าสู้ชิวๆ ก็ต่อยๆ ฟาดๆ ให้ตาย แต่ถ้ายุ่งยากก็จัดหนักซักทีสองที ถ้าให้พูดถึงข้อเสียก็คงต้องบอกว่าการจะกดคอมโบนี่แอบยุ่งยากเพราะต้องไล่ทีละปุ่มในจังหวะของมัน แถมเริ่มเปิดคอมโบเองก็ไม่ได้ต้องรอสุ่ม แต่ก็คุ้มค่าแบบที่อาชีพอื่นทำกันไม่ได้ล่ะ
ค่าสเตตัสก็จะเหมือนกับสายบู๊กายภาพทั่วไป แต่มี INT เพื่อเร่งการฟื้นค่า SP เพราะการคอมโบนี่กิน SP หนักมากกกกกกก
STR – 90+
INT – 40+
DEX – 45+
VIT – 1+
AGI – 80+
LUK – 1+
► สายอาชูร่า
สายนี้จะมาแปลกหน่อยตรงกลายเป็นทานอสที่แลกทุกอย่างเพื่อเป้าหมายคือการซัดหน้าบอส เนื่องจาก Asura Strike นั้นเป็นท่าพิเศษที่สิ้นเปลืองมากๆ ยิ่งถ้าอยากให้แรงได้สูงสุดแทบจะต้องแลกกับทุกสิ่งทุกอย่างเลย โดยอาศัยความแรงในการโจมตีและค่า SP รวมเข้าด้วยกันกับการเพิ่มความเสียหายจากการ์ดต่อยกันทีหลักแสน เก็บ MVP ระยะสั้นได้สบายๆ และนั่นทำให้การเก็บเลเวลมันจะค่อนข้างชีช้ำมาก แต่นะ การได้ MVP ก็คุ้มอยู่นะ
ค่าสเตตัสแบบทานอสนั้น จะเน้น STR, INT เป็นหลัก มี VIT แค่เอาตัวรอดและ DEX เพื่อให้ร่าย Asura Strike ได้ไวขึ้น ทีเหลือคือการภาวนาว่าไม่ให้ตายก่อนได้ต่อย และหลังต่อยเรายังไม่ตาย(ถ้ามันยังไม่ตาย) กับสติ ต่อยให้ถูกตัว!!!
STR – 90+
INT – 85+
DEX – 45+
VIT – 30+
AGI – 1+
LUK – 1+
Blacksmith (ผู้ที่ชื่นชอบในการสร้างอาวุธ หรือใช้อาวุธทุบหัวคน)
อาชีพแห่งการตีอาวุธชนิดต่างๆ หรือจะละทิ้งศาสตร์แห่งการสร้างไปบู๊ล้างผลาญก็ทำได้เช่นกัน โดยจุดเด่นคือการที่สามารถพกรถเข็นไปได้ ทำให้แบกของแบกยาได้มหาศาลมากๆ และความสามารถในการบู๊ก็ไม่ได้น้อยหน้าคนอื่นเลยด้วยเอาจริงๆ อาชีพนี้จะให้ความรู้สึกว่าเป็นการ์ตูนหรือเกมแฟนตาซีพอสมควรกับการที่ตั้งร้านขายของ ทำอาวุธแบบสโลว์ไลฟ์ หรือจะลงดันไปฟาดมอนเอาของมาขายด้วยตัวเองก็ได้
สายที่มีก็จะแยกเป็นสายตีอาวุธและสายตีหัวมอนกันไปตรงๆ เลย ซึ่งแน่นอน ค่าสเสตัสไปคนละทางไม่พอ สกิลก็ด้วยนั่นแหละ
► สายตีอาวุธ
สายนี้เก็บเวลเอง “ไม่ได้” เพราะค่าสเตตัสที่ใช้ในการตีอาวุธใช้ตีมอนไม่ได้เลย และสกิลตีอาวุธก็ไม่ช่วยตีมอนใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ต้องพึ่งพาอาศัยปาร์ตี้เป็นอย่างมาก หรือเล่นพลังมันนี่จ้าง / รีมันซะเลย และการตีอาวุธก็ยังมีโอกาสพลาดได้ แต่ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้เพื่อนๆ สามารถมีอาวุธธาตุแบบไม่ต้องไปหา Sage มาช่วยเสกให้ทุกครึ่งชั่วโมง ใช้ได้ และว่ากันตรงๆ มีชื่อตัวเองบนอาวุธที่ขายมันก็ฟีลกู้ดมากๆ
ค่าสเตตัสไม่ต้องโชว์ ทั้งหมดลง DEX และ LUK จ้า ลงไปตามนั้นเลย แต่ให้ลงในอัตรา 2:1 เพราะมีผลกับการสร้างอาวุธตามนี้เป๊ะๆ และไม่ใช่ว่า DEX LUK 99 แล้วจะตีติดเสมอนะ มีโอกาสแตก หมดสิ้นทุกอย่างกับมือเช่นกัน ฮูเร
► สายตีหัวมอน
สายนี้จะเล่นเหมือนกับ Knight AGI เป๊ะๆ เลยจ้า ละทิ้งการสร้างอาวุธ เปลี่ยนเป็นจับอาวุธโบกมอนเข้าไป สกิลเร่งความเร็วก็มี สกิลเร่งความเสียหายก็มี เสี่ยพอก็เอาเงินฟาดหน้า 1000% ดาเมจได้อีก เอาดิพี่ และบอกเลยว่าตีแรงด้วยนะ เลือดก็ไม่ใช่น้อย มันจะน้อยก็แค่พลังป้องกันที่น้อยกว่านิดนึงแค่นั้นแหละ ใครลองมาดูถูกพ่อค้าสายตีมอนนี่ ยอมไม่ได้อ่ะบอกเลย
ค่าสเตตัสก็เลยเหมือนกับ Knight AGI เด๊ะเลยจ่ะ
STR – 90+
INT – 1+
DEX – 40+
VIT – 30+
AGI – 80+
LUK – 1+
Alchemist (เทพแห่งการสร้างตั้งแต่น้ำยายันโฮมูนครูส)
อาชีพนี้เป็นอาชีพที่พูดถึงยากมากๆ เนื่องจากมีความแปลกและเป็นเอกลักษณ์มาก เอาสั้นๆ คือเป็นสายสร้างน้ำยาที่แท้ทรู พวกเขาสามารถสร้างน้ำยาฟื้นพลังที่เบากว่าน้ำยาปกติได้ สามารถใช้น้ำยาแปลกๆ ในการโจมตีหรือเรียกพืชมาก่อกวนได้ แต่ถ้าที่เด่นที่สุดคือ สร้างโฮมูนครูส ที่เป็นเหมือนกับสัตว์เลี้ยงที่สั่งการได้ เติบโตได้ มีสกิลของตัวเอง ช่วยในการเก็บเลเวลหรือเป็นเพื่อนเล่นก็ยังได้ พวกเขาเป็นเป็ดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ขั้นสุดมากๆ
สายการเล่นของพวกเขานั้นจะแยกเป็นสายทำยา และสายวอร์เป็นหลัก ซึ่งจะมีจุดต่างกันตรงค่าสเตตัสกับสกิลบางส่วน แต่ทั้งสองสายสามารถเล่นกับโฮมูนครูสได้ เนื่องจากใช้แต้มสกิลน้อยและไม่ขึ้นกับค่าสเตตัสของเจ้าตัวเลย เพียงแค่ใช้เวลาเก็บเวลโฮมูนครูสเนี่ยล่ะที่โคตรนานเลย
► สายปรุงยา
สายนี้จะเน้นไปที่ความสามารถในการปรุงยาให้สูงสุด เนื่องจากอาชีพนี้เป็นอาชีพที่เวลาใช้ยาจะใช้แบบ โคตรเปลืองมากๆ สามารถทำรายได้เป็นกอบเป็นกำได้สบายๆ จากการปรุงยา (แหงดิ ของใช้แล้วหมดไปย่อมกำไรงามและต่อเนื่องกว่าของขายขาดแบบอาวุธอ่ะ) แน่นอนว่าการเก็บเวลก็จะทรมาณหน่อย ต่อให้ใช้โฮมูนครูสก็ยังช้ากว่าให้ตี้แบกอยู่ดีนั่นล่ะ แต่ก็ดีกว่าไม่มีจ้า
ค่าสเตตัสก็จะเทไปในด้านการทำยาเลย ซึ่งประกอบไปด้วยค่า DEX และ LUK ที่จะส่งผลเท่ากัน และค่า INT ที่จะส่งผลน้อยกว่าเท่าตัว ทำให้การกระจายแต้มจะต่างกันเล็กน้อย (ส่วนหนึ่งก็เพราะทำยาต้องกดบ่อย เปลือง SP กว่าด้วยนั่นล่ะจ้า)
STR – 1+
INT – 50+
DEX – 90+
VIT – 1+
AGI – 1+
LUK – 90
► สายวอร์
สายนี้จะมีความสามารถในการต่อสู้ด้วยตัวเองด้วย เนื่องจากสกิลปาขวดยาอย่าง Acid Terror หรือ Demonstration นั้นใช้ค่าพลังโจมตีมาคิดความเสียหาย และการเคลือบน้ำยาก็ไม่ต้องใช้ค่าสเตตัสอะไร แต่ก็ทำให้การปรุงยาไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราวเท่ากับสายปรุงยาแท้ๆ ซึ่งถ้ารับได้มันก็โอเคแหละนะ และเป็นความลังเลของสายนี้ที่จะไปทางปรุงยาเพื่อวอร์ หรือเอาเวลด้วยดีนะ ซึ่งถ้าอยากไปวอร์ 100% เลยก็ขอบอกว่า ค่าสเตตัสพลังโจมตีไม่ส่งผลต่อโอกาสทำให้อุปกรณ์พังจากสกิลน้ำยาสายโจมตี! ปล่อยเพื่อนตีได้เต็มที่
ค่าสเตตัสก็จะเน้นไปทาง VIT หนาเอาตัวรอดและที่เหลือเน้นไปทางปรุงยาก็ได้ หรือเน้นโจมตีไปเลยก็ได้จ้า ถ้าจะเอาโจมตีก็เอาเปลี่ยนค่า LUK มาเป็น STR แทนก็ และลดค่า INT ลงอีกซักหน่อยก็ยังได้
STR – 1+/
INT – 40+
DEX – 65+
VIT – 90+
AGI – 1+
LUK – 65+
จบกันไปกับ RO Classic อาชีพไหนดี ที่แม้ว่าจะดูเหมือนจะเป็นมินิไกด์มากไปนิด แต่ก็แสดงให้เห็นได้ว่า แม้ว่าจะเป็นเกมที่เรียกว่าเก่าระดับตำนานของวงการเกมออนไลน์ไทย แต่ก็มีอะไรให้เก็บมากกว่าที่คิดมากมายจริงๆ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสงสัยอยากเล่นอาชีพไหน แล้วอ่านบทความนี้รู้สึกว่าช่วยได้ ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยล่ะน้า ไว้เจอกันใน Ragnarok Online จ้า
เติมเงินสุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิกได้เลย : https://gold.razer.com/gold/catalog/ragnarok-classic
