วันศุกร์, มกราคม 10, 2025
หน้าแรกUncategorized @th Skull : จะเป็นกระโหลกหรือจะเป็นดอกไม้ เธอว่าไง?

[Review] Skull : จะเป็นกระโหลกหรือจะเป็นดอกไม้ เธอว่าไง?

Tabletop Game เล็กๆ เล่นง่ายจบไววันนี้ขอเสนออีกหนึ่งในเกมสายที่เพื่อนๆ ชื่นชอบกับ Bluff Game เด็ดๆ กันบ้าง แต่แน่นอนว่าจะไม่ได้พูดถึงเกมที่ส่วนมากเล่นกันอย่าง Werewolf หรือ Salem หรอกน้า เราจะพูดถึงเกมเล็กๆ แต่เด็ดไม่แพ้กันอย่าง Skull กันจ้า

Skull เธอให้กี่ใบ?

Skull, กระโหลก หรือในอีกชื่อ Skull & Rose นั้น ถูกสร้างโดย Hervé Marly ในปี 2011 ตัวเกมจัดเป็นเกมแนว Bluff อย่างหนึ่งที่ผู้เล่นจะต้องเกทับอีกฝ่ายเพื่อชิงชัยเอาชนะ ซึ่งในการเล่นก็จะอาศัยการประมูลแบบเปิดเป็นเงื่อนไขในการบลัฟเป็นหลัก

หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า Skull เป็นเกมที่อาศัยดวง อันที่จริงแล้ว มันเป็นเกมบลัพดีๆ นี่เอง ซึ่งแม้จะไม่ได้บลัฟถึงพริกถึงขิงเหมือนเกมอื่นๆ แต่ก็ต้องอาศัยการเดาใจคู่ต่อสู้อย่างมาก ตัวเกมเองก็ยังมีวิธีการเล่นที่อธิบายได้ง่ายมาก สามารถเล่นจบในแต่ละเกมได้ไว เหมาะเป็นเกมคั่นเวลา ฆ่าเวลาหรือวอร์มเครื่องสำหรับเกมหนักๆ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ประเภท : บลัฟ, แข่งขันระหว่างผู้เล่น, ประมูล
จำนวนผู้เล่น : 3-6 คน
ระยะเวลาเตรียมการ : ครึ่งนาที
ระยะเวลาเล่น : 15-30 นาที

▲ จุดเด่น

  • พกพาง่าย ใช้พื้นที่การเล่นไม่เยอะมาก
  • เตรียมตัวง่าย สามารถสอนได้ง่าย เหมาะกับทุกวัย
  • เกมเร็ว จบค่อนข้างไว (ทั้งนี้ขึ้นกับจำนวนผู้เล่นด้วย)
  • ไม่จำเป็นต้องบลัฟด้วยคำพูดหนักๆ เพียงอย่างเดียว

▼ จุดด้อย

  • ตัวอุปกรณ์ของเกมมีขนาดเฉพาะตัว ทำให้ยากแก่การหาซองเก็บรักษา
  • เหมาะกับผู้เล่น 4-6 คนมากกว่า 3 คนก็ยังได้แต่หมดสิทธิ์ 1-2 คนจ้า

ใบเดียวจอกไป พี่ให้สามเลยมา

ตัวเกม Skull นั้นว่าด้วยเรื่องของการบลัฟโอกาสในการเก็บแต้มกัน เพราะการคิดแพ้ชนะนั้นจะว่าเร็วก็เร็ว จะว่านานก็นาน ใครที่ได้แต้มสองแต้มก่อนจะเป็นผู้ชนะ และมีโอกาสแพ้ได้ถึง 4 ครั้งก่อนจะถูกคัดออก ทำให้ยิ่งได้แต้มต่อนำก่อนหนึ่งแต้มเท่าไหร่ เกมจะยิ่งเข้มข้นและกดดันมากขึ้น (โดยเฉพาะในการที่ต้องการแข่งเอาชนะกันจริงๆ)

ตัวเกมนั้นก็มาพร้อมกับพร๊อบจำนวนน้อยนิดจนน่าอึ้งว่า ไอ้พร๊อบแค่นี้จะเล่นได้ลึกซึ้งขนาดไหนกันเชียว ซึ่งก็ไม่ผิดเท่าไหร่นัก เพราะตัวเกมจริงๆ ไม่ได้ถึงกับลึกซึ้งเยี่ยงบอร์ดเกมอลังๆ แต่กฎการเล่นทำให้มันสามารถเล่นได้มากกว่าที่เห็นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

จุดที่แตกต่างไปจากเกมบลัพอย่าง werewolf นั้นอยู่ตรงที่ในสกัลนั้น เพื่อนๆ จะไม่ได้พูดจาหว่านล้อมให้อีกฝ่ายเชื่อใจเป็นหลัก แต่อาจจะพูดลอยๆ หรือแสดงภาษากายวางด้วยความมั่นใจ แกล้งทำเป็นโลเลเอาอะไรดี อันเนื่องจากไม่ใช่เกมที่เน้นการจับผิดคนเพื่อคัดออก แต่เป็นการแข่งกันประมูลความเสี่ยงเพื่อแย่งแต้มเอาชนะกันให้ได้ 2 ครั้ง แต่ละคนจึงมีโอกาสที่จะทำเกมชิงแต้มได้ตลอดเวลา ….. รวมถึงหาทางตัดขาคนอื่นได้ตลอดเวลาไม่แพ้กัน

 


วิธีการเล่น Skull

ในการเตรียมตัวเล่นสกัลนั้น ตัวเกมจะมีอุปกรณ์ให้ผู้เล่นแต่ละคนประกอบไปด้วยแผ่นสี่เหลี่ยม 1 แผ่น และแผ่นวงกลม 4 แผ่น สีเดียวกัน (ด้านหลังเป็นรูปกระโหลก 1 ใบและดอกไม้ 3 ใบ) ซึ่งแผ่นกระดาษนี้จะมีลวดลายกับสีที่แยกกันเป็นจำนวน 6 ชุด เท่าจำนวนผู้เล่นสูงสุดที่เล่นได้นั่นเอง

การเตรียมการจึงไม่มีอะไรมากกว่า เลือกสีที่ชอบ และแจกแผ่นกระดาษเหล่านี้ให้คนๆ นั้นให้ครบชุด 1+4 ใบนั่นเองจ้า จบแล้ว

*หลังจากนี้จะขออณุญาติเรียกแผ่นวงกลมว่าการ์ดจ้า*

เริ่มเกม

การเริ่มเล่นในแต่ละเทิร์น จะเริ่มโดยผู้เล่นแต่ละคนเลือกการ์ดในมือ ใบไหนก็ได้ จะเป็นกระโหลกหรือดอกไม้ก็ได้ วางไว้ด้านหน้าตัวเอง เป็นอันจบสิ้นการเริ่มขั้นแรก หลังจากนั้นความสนุกจะเริ่มขึ้น โดยเลือกใครก็ได้เป็นผู้เริ่มเกมตาแรกสุด ซึ่งหลังจากนี้เทิร์นจะแบ่งเป็นสองช่อง คือช่วงเตรียมตัวกับช่วงแข่งเดิมพัน

ในแต่ละเทิร์นของช่วงเตรียมตัวนั้น ผู้เล่นแต่ละคนจะทำตามนี้

  • วางการ์ดเพิ่ม 1 ใบ อะไรก็ได้เช่นเดิม และจบเทิร์นของตัวเอง หรือ!
  • ขอท้าเดิมพันชิงคะแนน (ถ้าวางการ์ดเพิ่มไม่ได้จะต้องเลือกข้อนี้เท่านั้น)

ซึ่งหากมีการวางการ์ดเพิ่ม ผู้เล่นคนถัดไปทางซ้ายมือ จะเลือกที่จะวางการ์ด หรือท้าเดิมพันก็ได้ หากวางการ์ดเพิ่ม ก็จะผลัดไปตาของคนถัดไป แต่เมื่อใดที่มีการท้าเดิมพันเกิดขึ้น การวางการ์ดเพิ่มจะยุติลงและเข้าสู่ช่วงที่สอง ซึ่งเป็นช่วงแข่งเดิมพันกัน โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ

ผู้ที่ทำการเปิดเดิมพัน จะระบุจำนวนการ์ดที่ตัวเองต้องเปิดขึ้นมา ซึ่งจำนวนที่ระบุจะต้องไม่มากไปกว่าการ์ดทั้งหมดที่มีในเกมตอนนี้ หลังจากนั้นการประมูลความเสี่ยงก็จะเริ่มต้นขึ้น โดยผู้เล่นคนถัดไปจะเลือกได้ว่า

  • เดิมพันให้มากกว่าที่คนแรกระบุ (กี่ใบก็ได้ แต่ต้องไม่มากกว่าการ์ดทั้งหมดบนสนาม) หรือ!
  • ขอผ่านให้กับคนถัดไปแทน (ไม่มีสิทธิประมูลได้อีกในรอบนั้น)

การประมูลความเสี่ยงจะยุติลงต่อเมื่อเหลือผู้เดิมพันเพียงคนเดียว คนที่เหลือผ่านหมด หรือจำนวนที่เดิมพันเท่ากับจำนวนการ์ดในสนามแล้ว (เพราะไม่สามารถเดิมพันได้มากกว่านี้) เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็จะเปิดการลุ้นระทึกทำตามเดิมพันกันเสียที

 

ท้าอะไรไว้ทำตามซะ

เมื่อได้ตัวผู้ชนะประมูลแล้ว ความสนุกที่แท้จริงจะเริ่มขึ้น โดยผู้ที่ชนะเดิมพัน หรือผู้ท้าชิง จะต้องทำการเปิดการ์ดในสนาม เท่ากับจำนวนที่ตัวเองได้ทำการเดิมพันไว้ และขอพรต่อเทพแห่งการบลัฟว่า ในจำนวนที่ต้องเปิดไปนี้ จะไม่มีหัวกระโหลกซักใบหลุดออกมา การเปิดการ์ดจะมีเงื่อนไขดังนี้

  • การ์ดจะถูกเปิดทีละใบ จากด้านบนลงไปด้านล่าง (หากมีมากกว่า 1 ใบในกองนั้น)
  • ผู้ชนะประมูล ต้องเปิดการ์ดของตัวเองให้หมดก่อนเสมอ (ฮุฮุฮุ ลงอะไรไปจ๊ะ)
  • หลังจากเปิดการ์ดของตัวเองครบแล้ว จะสามารถเปิดการ์ดของใครก็ได้บนสนาม ทีละ 1 ใบ
  • จะเปิดของใครก็ได้ จะเปิดจากคนทางซ้ายใบนึง คนทางขวาสองใบก็ได้ แต่ต้องเปิดทีละใบ ไล่จากบนสุดนะ
  • หากการ์ดที่เปิดออกมามีลายรูปดอกไม้ มีสิทธิ์เปิดใบต่อไปได้จนกว่าจะครบจำนวนที่ประมูลชนะไว้
  • หากการ์ดใบไหนก็ตามเป็นลายหัวกระโหลก ….. OUT! จบการเดิมพันด้วยความพ่ายแพ้ทันที
  • หากเปิดการ์ดออกมาเป็นดอกไม้หมดเลย ยินดีด้วย คุณได้รับ 1 แต้ม!

เมื่อการ์ดหัวกระโหลกถูกเปิดขึ้นมานั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ท้าชิงจะต้องเสียการ์ดไป 1 ใบออกจากเกมแบบสุ่ม เท่ากับจะมีการ์ดในมือไว้ใช้น้อยลงทันที ทำให้การเกทับครั้งหลังเริ่มฝืดเคืองขึ้น การ์ดที่ถูกนำออกจะไม่ถูกเปิดหน้า ทำให้คนที่เหลือไม่รู้ว่าใบไหนถูกนำออกไป ยกเว้นเจ้าตัวที่รู้เพราะดูการ์ดในมือตัวเองได้

แต่หากว่าการ์ดหัวกระโหลกที่ถูกเปิดมา ดันเป็นของผู้ท้าชิงซะเอง (กะว่าจะระเบิดคนอื่น ดันโดนซะเอง) ผู้ท้าชิงสามารถเลือกเอาการ์ดใบไหนในมือออกจากเกมก็ได้ ไม่มีการสุ่ม แต่คว่ำหน้าไว้นะ คนอื่นจะได้ไม่รู้เอาอะไรออก

ในกรณีที่เป็นดอกไม้ทุกใบจะได้รับคะแนน ให้ทำการพลิกกลับด้านของแผ่นสี่เหลี่ยมเพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบว่า อิ๊อิ๊ ได้มาแล้วนะแต้มนึง อีกแต้มเดียวชนะแล้วล่ะเอ้อ อื้อหือ งานนี้กระโหลกมาแน่ๆ ล่ะคุณ ใครจะยอมให้ชนะ

หลังจากที่การเดิมพันจบลงแล้ว ให้ทุกคนเก็บการ์ดในมือกลับไป และเตรียมเริ่มเทิร์นใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้ ผู้ชนะประมูลในตาที่แล้วจะเป็นผู้เริ่มก่อนแทน

 

วิธีการคิดแพ้ชนะ

ด้วยสไตล์การเล่นที่มีการคัดออกด้วยเช่นนี้ การหาผู้ชนะจึงเกิดขึ้นได้สองทาง

  1. ใครที่ได้แต้มครบ 2 แต้มก่อน จะเป็นผู้ชนะ
  2. ใครที่เหลือรอดเป็นคนสุดท้าย คนอื่นการ์ดหมดเพราะอิ่มกระโหลก จะเป็นผู้ชนะ

เรียกได้ว่า ต่อให้ทำตัวน่าตีวางแต่กระโหลก ก็ยังเอาชนะได้ ….. ถ้าไม่เจอประมูลน้อยๆ แล้วเมินไปตลอดจนได้แต้ม 2 แต้มก่อนล่ะนะ โอกาสเหลือรอดคนสุดท้ายนี่ยากมากๆ ในสกัล แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เจ้าพวกคนเล่น tabletop สายบลัฟน่ะ ไว้ใจกันได้ที่ไหน!

 


เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่า ตัวเกมสกัลนั้นไม่ได้มีอะไรมากกว่าการเดาใจอีกฝ่ายและบลัฟเพื่อชิงคะแนนกันเลย แต่ในขณะเดียวกัน หากใครตั้งใจจะเก็บคะแนน ก็มีโอกาสโดนระเบิดที่ตัวเองวางไว้กะสอยฝั่งตรงข้ามให้เดี้ยงได้ทุกวินาทีเช่นกันถ้าเขาไม่สู้ต่อ หรืออาจจะโดนคนอื่นดักทางเก็บคะแนนไปชิวๆ สบายๆ ก็ได้

ด้วยความที่ตัวเกมมีแค่นี้ ทำให้มันเป็นเกมที่เล่นง่าย ย่อยง่าย สามารถเล่นให้จบได้ไว ไม่ใช้เวลานานมากนัก และเต็มไปด้วยสีสรรในรูปแบบของมันเองไม่เหมือนใคร สามารถเรียกเสียงเฮฮาหรือเสียงฮือฮาได้ทั้งผู้เล่นและคนดูได้เป็นอย่างดีทีเดียว

แน่นอนว่าอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชอบเกมแนวบลัฟ แต่ความเป็น Tabletop Game ทำให้กฎการเล่นสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เพื่อนๆ อาจจะคิดปรับเปลี่ยนกฎให้มันมีความกดดันน้อยลง มีการบลัฟน้อยลงหรือมากขึ้นก็ได้เช่นเดียวกัน อันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเล่น Tabletop Game ที่ไม่ใช่เกมคอมพิวเตอร์ที่กฎตายตัวตลอดเวลา

จุดด้อยที่สุดของสกัลนั้นก็คงไม่พ้นการที่ตัวเกมมาเป็นลักษณะของแผ่นกระดาษที่มีขนาดเฉพาะ (แถมยังเป็นวงกลมอีกต่างหาก) ทำให้การใส่ซองรักษานั้นทำได้ยากเป็นอย่างมาก หนำซ้ำพื้นฐานการเล่นยังสนับสนุนให้มีการถู ลาก ขูดไปกับพื้นผิวที่เล่นอีก (ไม่งั้นไม่ได้อารมณ์) ทำให้ตัวเกมอาจจะได้รับความเสียหายอย่างรวดเร็วกว่าที่คิดได้

แต่นอกจากนั้นแล้วสกิลเองก็เป็นเกมหนึ่งที่สายบลัฟหลายคนชื่นชอบ เพราะใช้เวลาสั้น เล่นง่ายและไม่จำเป็นต้องเก่งด้วยการเจรจากันสุดๆ เหมือนในเกมอื่นๆ ก็ยังบลัฟกันได้ผ่านภาษากาย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนชอบเกมแนวบลัฟแล้วนั้น อยากให้ลองสกัลดูซักครั้งว่าจะถูกใจหรือเปล่าก็ไม่เสียหายจ้า


RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments