เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งนึงของเกมในตำนานที่หลายคนคุ้นเคยกันดี และเป็นเกมที่หลายคนประทับใจเป็นอย่างมาก ซึ่ง Resident Evil 4 Remake ถือว่าเป็นเกมนึงที่หยิบเอาเกมขึ้นหิ้งกลับมาทำใหม่โดยปัดฝุ่นและรื้อหลายๆ อย่างใหม่ รวมถึงกราฟิกของเกมที่ถูกยกเครื่องขึ้นมาแบบเห็นได้ชัด โดยภายในบทความนี้เราจะมารีวิวเกมนี้ให้ได้อ่านกัน
Review Resident Evil 4 Remake โลกของ RE4 ที่ถูกทำขึ้นมาใหม่
หากใครเคยเล่นเกมนี้ในเวอร์ชั่น PS2 เหมือนหลายปีก่อน อาจจะสงสัยว่าตัวเกมต่างจากเดิมมากไหม ต้องบอกลเยว่าค่อนข้างจะมีความแตกต่างเยอะมาก แม้ว่ารายละเอียดโดยหลัก อย่างเช่นเนื้อเรื่อง และ มอนสเตอร์ที่พบเจอจะมีหลายองค์ประกอบที่คล้ายเดิม แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมีการปรับเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีที่มาไกลขึ้นด้วยข้อดีของเทคโนโลยีที่มาไกลขึ้นเราจะได้เห็นหมู่บ้านที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่ รายละเอียดต่างๆ ของชาวบ้านและซอมบี้ที่เราต้องเจอ ที่ดูสมจริงมากขึ้น ฉากต่อสู้ที่ดุเดือด รวมไปถึงบอสไฟต์ที่อลังการงานสร้าง

เรื่องที่หลายคนรำคาญใจอย่าง AI โดยเฉพาะแอชลีย์ ก็ถูกปรับขึ้นมาใหม่ให้ดีขึ้น (แม้ว่าจะยังน่าหงุดหงิดเหมือนเดิม) ตัวเกมได้ใส่ลูกเล่นหลายอย่างที่ทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้นและสนุกขึ้น ทำให้โดยรวมแล้วแม้ว่าจะเคยเล่นภาคเก่ามาก่อน ก็รู้สึกเหมือนได้เล่นเกมใหม่เลย

การตั้งค่าเกม Resident Evil 4 Remake ที่ปรับได้เยอะมาก
เข้ามาถึงในตัวเมอย่างแรกที่ได้สัมผัสเลยคือการตั้งค่าของเกมที่สามารถปรับได้เยอะมากกกกก เยอะแบบไม่รู้จะเริ่มปรับอะไรก่อนดี ถ้าหากคนที่อยากจะลองความแรงของเครื่องสามารถลองได้เต็มที่ ปรับได้กระทั่งยันเม็ดฝน ซึ่งตรงนี้หากใครที่ชอบกราฟิกแบบอลังๆ น่าจะชอบกัน แต่ถ้าคนเครื่องไม่แรงมากก็ปรับให้ดีเทลต่างๆ ลดลงได้ไม่ต้องซีเรียสอะไรมากมาย

เรื่องราวของเกม
ก่อนไปส่วนถัดไปที่เราจะพูดถึงใน Review Resident Evil 4 Remake สำหรับคนที่อาจไม่เคยเล่นผมจะขอทวน เรื่องราวของเกมนิดหน่อย เนื้อเรื่องของ Resident Evil 4 Remake จะพูดถึง Leon S. Kennedy ที่เคยเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ซอมบี้ระบาดใน Raccoon City โดยเวลาได้ผ่านมาแล้ว 6 ปี
ลีออนได้รับภารกิจใหม่ให้ไปตามหาตัวลูกสาวของขประธานาธิบดีที่หายไปอย่างลึกลับ และได้ตามสืบมาจนถึงหมู่บ้านลึกแห่งนึง แต่ระหว่างที่เค้ากำลังสืบสวนอยู่ก็ได้ถูกชาวบ้านภายในหมู่บ้านโจมตี และก็ได้ทรราบว่าคนที่เค้ากำลังมองหาอยู่ ได้อยู่ที่หมู่บ้านนี้และเค้าจะต้องหาทางช่วยแอชลีย์ออกมาให้ได้ รวมถึงเอาตัวรอดภายในหมู่บ้านนี้ด้วย

ฉากในเกมโคตรอลังการ
ในช่วงแรกๆ ที่ไปในหมู่บ้านอาจจะไม่ได้มีความอลังการหรือหวือหวาอะไรนอกจากชมเรื่องกราฟิกที่เออก็สวยดีนะ แต่หลังจกาเล่นไปไกลๆ ที่เราได้พบกับสิ่งต่างๆ ภายในเกมมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่มีโอกาสได้เข้าไปในปราสาทของเกม จะพบว่าตัวรายละเอียดของฉากต่างๆ ทำออกมาได้ดีมากๆ ยิ่งปรับกราฟิกเอาไว้สูงๆ ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่า งานเค้าดีจริง

เกมนี้เน้นบู๊ ไม่เน้นสยอง
คนที่ติดภาพลักษณ์มาจาก Resident Evil Village อาจจะเข้าใจว่าซีรีย์นี้ทุกภาคเป็นเกมแนวสยองขวัญ โดยจั๊มป์สแกร์ แต่ทว่าภาคนี้ความสยองแม้ว่าจะมีอยู่จริง แต่ตัวเกมแล้วโดยพื้นฐานจะเน้นการบู๊เป็นหลัก แต่เกมจะกดดันด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างหนักทั้งปริศนาที่ดูลึกลับ ทรัพยากรณ์ที่ถูกจำกัด ทำให้การต่อสู้ของเราต้องคิดให้ดี ไม่อย่างนั้นทรัพยากรในการต่อสู้ของเราจะไม่เพียงพอ

ต้องเล่าไว้ก่อนว่าผู้เขียนเคยเล่นเกมนี้ในภาคอื่นมาบ้าง แต่ไม่ทั้งหมด ต้องขอเล่าว่าเกมในซีรีย์นี้บางภาคจะไม่ได้เน้นความสยอง แต่จะเน้นการบู๊เป็นหลักเฉกเช่นเดียวกับภาคนี้ โดยในเกมเราจะได้ควบคุมลีออน เข้าไปปะทะกับเหล่าชาวบ้าน โดยเราอาจจะใช้วิธีการลอบเร้นเข้าไปจัดการทีเผลอ หรือบวกเข้าไปโต้งๆ เลยก็ได้แต่ความตึงเครียดของเกมนี้อย่างที่บอกไปคือทรัพยากร
หากคุณเล่นในโหมดปกติ อาจจะพอหากระสุนหรือของต่างๆ ได้ แม้ว่าอาจจะจำกัด แต่ถ้าหากว่าเล่นแบบ Hardcore เราจะแทบหากระสุนไม่เจอเลย ต้องอาศัยการคราฟ เอาแทบจะทั้งหมด แต่ไม่ว่าจะเล่นโหมดไหน โดยรวมแล้วทรัพยากรก็ถือว่าหายากอยู่ดี เราต้องตัดสินใจให้ดีว่าจะใช้อะไร จะซื้อปืนไหนมาใช้ รวมถึงคิดว่าจะอัปเกรดดีไหม เพราะ ทุกสิ่งล้วนมีผลถึง การเล่นในท้ายเกม
ฉากบอสไฟต์ที่มันส์ได้ใจ
ที่ต้องขอชมในภาคนี้หลักๆ เลยคือบอสไฟต์ที่ทำออกมาได้ดีมาก บอสแต่ละตัวมีเมคานิกที่ไม่ยากไม่ง่ายเกินไป เราสามารถศึกษาและหาวิธีรับมือได้หากลองเล่นไปสักระยะนึงหรือลองเล่นซ้ำ หรือหากเตรียมตัวมาดี บอสบางตัวก็จะง่ายไปเลย รวมไปถึงลูกเล่นที่ไม่ใช่สักแค่ว่ายิงให้ตาย บางด่านก็จะมีเงื่อนไขหรือรูปแบบให้เราได้ลอง เช่นต้องหยุดบอสเอาไว้ กับที่ หรือบอสไฟต์บางตัวที่เราจะได้นั่งเรือสู้ เป็นต้น แม้ว่าบอสบางตัวการสู้ด้วยจะน่าหงุดหงิดไปสักหน่อย แต่ภาพรวมถือว่าสนุกมาก

AI ที่ดูมีมิติมากขึ้น
จากในภาคก่อนทางค่ายเกมน่าจะได้บทเรียนมาเรื่อง AI โดยเฉพาะของแอชลีย์ที่มีปัญหากับผู้เล่นมาก ในภาคนี้เลยมีการปรับปรุงให้เราสามารถสั่งการได้หลากหลายขึ้นไม่ว่าจะเป็นการให้ไปหลบ หรือให้อยู่ใกล้ๆ เรา รวมถึงบทพูดที่ดูมีความหลากหลายและมีมิติมากขึ้น
แต่ถึงยังไงก็ตาม ก็ต้องบอกไว้เลยว่าก็ยังค่อนข้างจะน่าหงุดหงิดอยู่ดี ในการเล่นโหมด Normal อาจจะยังยไม่ได้เห็นภาพชัดเจนเท่าไหร่ แต่พอลองเล่น Hardcore ดูจะมีความสลิดของ AI ที่ยังแอบไม่ค่อยฉลาด เท่าไหร่ โดยสาเหตุอาจมาจากการเล่นแบบปกติ ตัวชาวบ้านที่เราสู็ไม่ได้ถึกมากสามารถช่วยเหลือได้ง่ายตอนแอชลีย์โดนจับ แต่พอเล่น Hardcore ชาวบ้านคนนึงจะยากมาก ทำให้ AI มีปัญหากับการเล่นแบบชนิดเข้าขั้นหนักเลย

เกมเพลย์
ในส่วนของเกมเพลย์ก็มีหลายสิ่งที่คนเล่นเกมซีรีย์นี้น่าจะคุ้นเคยกันอย่างเช่นการผสมยา หากเรากดุ่มขึ้นมาเวลาจะหยุดเดิน ทำให้เราสามารถพักหายใจหายคอได้ และผสมของและใช้ไอเทมได้ตอนั้นเลย โดยภาครีเมคก็จะยังคงรักษาตรงนี้เอาไว้

จุดที่สนุกที่สุดที่ผู้เขียนมองว่าทำได้ดีจะเป็นส่วนการการต่อสู้ ที่แม้ว่าเราอาจจะ Doge เพื่อหลบไม่ได้แต่ก็จะมีส่วนของการ Parry ให้กดหากศัตรูโจมตี หรือมีปุ่ม หลบ ขึ้นมาในบางท่าของการต่อสู้ แม้ว่าอาจจะไม่สามารถใช้ได้ตลอดแต่ก็ทำให้การเล่นมีสีสันเยอะขึ้นพอควรเลยโดยเฉพาะตอน Boss Fight ที่หากเราทำการ Parry หรือกดปุ่ม หลบทันจะเป็นอะไรที่สะใจมาก เพียงแต่ต้องระวังเรื่องของมีดที่จะพังหน่อยเพราะตอน Parry เราจะต้องใช้มีด ในการรับ

นอกจากนี้อีกส่วนที่ค่อนข้างน่าประทับใจคือระบบส่วนของการ Stealth ที่เราสามารถเข้าไปลอบจัดการกับชาวบ้านตอนที่ไม่ได้ระวังตัวได้ ในหลายๆ ฉากเราไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปบวกแล้วจัดการทั้งหมดเพียงแค่จัดการตัวที่สำคัญๆ ก็สามารถไปต่อได้แล้ว

ส่วนของการแก้ Puzzle เกมนี้ก็ไม้ได้ยากไม่ได้ง่ายเกินไป ส่วนมากจะมีคำใบ้ให้ระหว่างทาง แม้ว่าจะไม่ได้บอกตรงๆ แต่หากคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนก็อาจจะงงๆ ได้เพราะเกมให้คำใบ้มาแค่จุดหลักๆ ที่เราตอ้งไป แต่การหาทางไปเป็นหน้าที่ของผู้เล่นเอง เพราะงั้น การจะเดินหลงทางอยู่เป็นชั่วโมงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เราสามารถกด M เพื่อดูแผนที่บ่อยๆ เพื่อช่วยในส่วนนี้ได้ระดับนึง
ทีนี้ในส่วนของการหาอาวุธใหม่ๆ มาใช้ โดยทั่วไปอาวุธส่วนมากเราจะหาได้จากพ่อค้า แต่จะมีบางชิ้นที่สามารถหาเก็บได้ภายในฉากเลย อาวุธดีๆ ส่วนใหญ่จะถูกปลดมาเมื่อเล่นไปไกลระดับนึง ทั้งนี้เราสามารถอัปเกรดอาวุธที่มีให้ดีขึ้นได้ด้วย
หากเบื่อๆ ในส่วนของเควสหลักภายในเกมจะมี Side Quest เล็กๆ ให้เราได้ทำ โดยหาสัญลักษณ์ป้ายสีฟ้าๆ ในฉาก หากเจอจะมีภารกิจเล็กๆ ให้เราจัดการ หากเราทำตามเงื่อนไขได้แล้วเอาไปส่งคืนให้พ่อค้า เราจะได้ของตอบแทนมานิดหน่อย เป็นเศษที่เอาไว้แลกไอเทมต่งๆ กับพ่อค้าได้ โดยไอเทมสำคัญที่ควรซื้อทุกคนเนลยคือแผนที่ เพราะหากไม่มีเราจะไม่รู้เลยว่าจุดไหนมีไอเทมอะไรซ่อนอยู่ยกเว้นจะเปิดไกด์ดู
ความรู้สึกหลังเล่น Resident Evil 4 Remake
การ Remake ครั้งนี้จัดว่าทำออกมาได้น่าสนใจและเล่นได้สนุก แม้ว่าจะเคยเล่นภาคก่อนหน้ามาแล้วหลายปี ตัวผู้เขียนรู้สึกว่า ตัวเกมดูมีความสดใหม่และใส่สิ่งต่างๆ สมัยใหม่เข้าไปให้ดูเข้ากับยุค
แต่องค์ประกอบและรายละเอียดบางอย่างของเกมก็แอบมีความน่าหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย เช่นส่วนของตัว AI ที่แม้ว่าจะสั่งการได้เยอะขึ้นจริง แต่ก็ยังมีมีจุดที่ไม่น่าพอใจอยู่มาก อย่างเช่น บางครั้งจะไปโผล่ให้โดนเห็นในฉากที่จำเป็นต้องค่อยๆ แอบย่องไป หรือ เวลาส่งไปปลด Puzzle ที่ตอนส่งไปเงียบๆ แต่อตเดินกลับมาหาเราลาก ซอมบี้มาเป็นขโยงอะไรแบบนี้เป็นต้น หรือตอนต่อสู้ที่แทบเป็นตัวเกะกะ แทนที่จะอยู่นิ่งๆ
ในส่วนของตัวกราฟิกโดยรวมๆ ถือว่าน่าพอใจมาก จะมีส่วนที่แอบรรู้สึกขัดใจอยู่บ้างคือชาวบ้านที่หน้าตาซ้ำกันเยอะมาก จนนึกว่าเป็นฝาแฝดบ้านเดียวกัน เราจะได้เห็นชาวบ้านหน้าตาเดิมๆ แทบจะทั้งเกม แต่ตรงนี้ถ้าไม่ได้คิดอะไรมากก็พอมองข้ามได้เพราะเป็นตัวประกอบกีกี้ ที่ต้องฆ่าทิ้งเฉยๆ
รวมๆ แล้วถือว่า Remake ออกมาได้น่าประทับใจพอสมควร แต่จุดที่หากพัฒนาขึ้นจะทำให้สนุกกว่านี้คือตัว AI ของเกมที่ ควรทำอะไรได้มากกว่านี้อีกหน่อย แต่ทั้งนี้ถือว่าเป็น Resident Evil อีกภาคนึงที่สนุกมากๆ
