วันพุธ, มกราคม 8, 2025
หน้าแรกUncategorized @thปัดฝุ่นจอยเก่า Ragnarok Battle Offline

ปัดฝุ่นจอยเก่า Ragnarok Battle Offline

อีกหนึ่งในเกมเครือ Ragnarok Online เกม MMORPG ช่อดังที่ถ้าพูดถึงจะมีหลายคนร้องอ๋อ กับเจ้า Ragnarok Battle Offline ที่เป็นเกมล้อเลียนจากทางค่าย French-Bread ที่ทำตัวเกมออกมาเป็นแนวเดินหน้าท้าตี Beat ’em Up และก็ถูกอกถูกใจทาง Gravity จนถึงกับยอมรับแล้วให้ออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้นอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในไทยเองก็เคยมีการวางจำหน่ายเช่นกัน

RBO : Ragnarok Battle Offline

ถ้าพูดถึงตัวเกม RBO แล้ว หลายคนก็อาจจะนึกถึงวันวานที่เคยเห็น Trailer ของตัวเกมเป็นแค่ Flash ทำล้อเลียนตัวเกม Ragnarok Online ดังที่เห็นข้างบน ซึ่งทำให้หลายต่อหลายคนฮือฮาบอกว่าทำมาดีมาก อยากให้เป็นเกมจริงๆ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรหลังจากนั้น (อาจจะด้วยส่วนหนึ่งคือในสมัยก่อนนั้น ข่าวสารจากต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษนั้น ไม่ค่อยมีคนแปลหรือกระจายข่าวเท่าไหร่) ทำให้ได้แต่ดูกันขำๆ ไป

แต่วันหนึ่งในช่วงปี 2007 แต่ละคนก็ต้องตะลึงว่าตัวเกม RBO นั้นดันมีเกมออกมาจริงๆ แม้ว่าหลายๆ อย่างจะเปลี่ยนไปจากตัว Trailer ข้างบนไป แต่ก็มีความเป็นเกม RPG แนว Beat ’em up มากขึ้น ทั้งการเล่นที่ตื่นตาตื่นใจและเพลงประกอบที่แต่งใหม่แต่ดึงบรรยากาศของแต่ละฉากมาได้อย่างดี รวมถึงสไตล์การเล่นเฉพาะทางอันเป็นเอกลักษณ์ของค่าย French-Bread ทำให้หลายคนถึงกับตะกุยพยายามหามาเล่นให้จงได้เลยทีเดียว

 

มันคือ Ragnarok!

แม้ว่าตัวเกมจะเปลี่ยนแนวไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าทีมงานนั้นดึงความเป็น Ragnarok เดิมๆ มาเล่นใหม่ได้ดี เริ่มจากอาชีพต่างๆ จากสายพื้นฐานอย่าง Swordman, Thief, Acolyte ที่แม้ว่าจะเป็นแค่ Class 1 แต่ก็มีอะไรให้เล่นได้เยอะกว่าที่คิดโดยไม่ทำให้มันซับซ้อนเกินไป (ในช่วงที่ตัวเกม RBO ออกมานั้น ตัวเกม Ragnarok Online ก็ได้มีพวก Class 2 อะไรกันมาแล้ว อย่างที่จะเห็นได้จากในเกมที่มี Knight หนุ่มวิ่งลากมอนป่วนไปทั่ว) สกิลต่างๆ ก็ถูกนำมาใช้ในการต่อสู้ในจุดที่มีจุดเด่นของแต่ละสกิลได้ชัดเจน

ในด้านของศัตรูนั้นก็มีการนำมอนสเตอร์แต่ละตัวในเกมมาเล่น บางตัวก็ถูกยกระดับกลายเป็น Miniboss ทั้งที่เป็นมอนสเตอร์ธรรมดา และก็มาพร้อมกับความน่ารักแบบตาขาวๆ ทั้งดวง ดันเจี้ยนต่างๆ ก็ถูกนำมาเป็นฉากพร้อมกับใส่ศัตรูประจำฉากนั้นให้คนที่เคยเล่นตัว Ragnarok Online มาเจอพอจะเดาหรือร้องอ๋อได้ทันทีเมื่อเจอ ซึ่งบางทีก็อาจจะเงิบว่า มันมีท่าพรรคนี้ด้วยเรอะ! ก็แหม … เกมล้อเลียนนี่นา แต่ก็เรียกว่ามากันครบแม้กระทั่งตอนสู้จบยังจะเล่นมุกตั้งห้องแชท

 

Battle!! Offline!!!

การเปลี่ยนแนวเกมจาก MMORPG คลิ๊กตีไปเรื่อยๆ เป็นแนว Beat ’em up ผสมกับ RPG และ Fighting เข้าไปด้วยทำให้ตัวเกมมีอะไรมากกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นค่า Status สกิล หรือแม้แต่การจะกดสกิลยังต้องออกปุ่มให้ถูกไม่งั้นสกิลไม่ออก ก็ทำให้มันมีความน่าจดจำรวมถึงยุ่งยากแต่สนุกในตัวสมชื่อ Battle และก็ด้วยความเป็นเกมแนวนี้ ศัตรูหรือบอสต่างก็จะมี pattern การโจมตีเฉพาะของตัวเองที่ผู้เล่นจะต้องเรียนรู้เพื่อหลบและเอาชนะให้ได้ ต่างกับแบบเดิมๆ ที่ค่า Status ถึงปั้มยาตีไปเรื่อยๆ ก็ได้

นอกจากนี้ดังที่ชื่อกล่าว ตัวเกมนั้นเป็นเกม Offline และเล่นได้เฉพาะในแบบ Local Co-op หรือเล่นบนเครื่องเดียวกันเท่านั้น ทำให้ในสมัยก่อนนั้นหลายคนที่อยากเล่นด้วยกันก็ต้องจ๋อยกันไปตามระเบียบ แต่ถึงกระนั้น ตัวเกมก็ยังสนุกและเพลิดเพลินจนวางจอยหรือ keyboard กันไม่ค่อยจะลง ต่างเล่นต่างแชร์เทคนิคกันอย่างเมามัน รวมถึงวิธีการพยายามผ่านด่านอะไรกันสุดๆ ซึ่งสำหรับปัจจุบันถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากจะเล่นด้วยกันก็สามารถทำได้แล้ว โดยใช้โปรแกรมช่วย อย่างเช่น [ Parsec ] ก็ได้จ้า

 

ตีมันเข้าไป๊

ไม่ใช่ว่าตัวเกมนั้นจะไม่มีข้อเสีย จากการได้กลับไปเล่นจริงจังอีกครั้งก็พบว่าตัวเกมนั้นออกไปในทางค่อนข้างซ้ำไปมาไม่น้อย โดยจุดที่ชัดที่สุดก็คือบอสแต่ละตัวที่จะมีรูปแบบการโจมตีเหมือนเดิมตลอดเวลา (มีเพิ่มท่าตอนเลือดลดถึงที่กำหนด) แต่ไม่ว่ายังไง ท่าก็จะวนแบบเดิมตลอดเวลา ทำให้ถ้าเราจำท่าบอสได้ ก็เหลือแค่เราจับจังหวะโจมตีถูกไหมเท่านั้น ซึ่งก็เป็นดาบสองคม ทำให้ตัวเกมขาดความหลากหลายจากการสุ่มท่าไป และก็ทำให้ตัวเกมนั้นเล่นง่าย แฟร์สำหรับทุกอาชีพไปพร้อมๆ กัน

การที่ตัวละครนั้นพัฒนาได้แค่ในส่วนของค่าสเตตัสและสกิล แต่ขาดในส่วนของอุปกรณ์ตามประสาเกมแนว Beat ’em Up (ที่ผสม RPG) ก็ทำให้ความหลากหลายน้อยลงไปอยู่ไม่น้อย ซึ่งแม้ว่าจะตอบโจทย์ของเกมแนวนี้ แต่เชื่อได้ว่าคนที่เล่น Ragnarok Online มาก่อนก็อาจจะรู้สึกขัดๆ อาจจะให้มันมีอยู่บ้าง และในขณะที่ค่าสเตตัสช่วยทำให้เล่นง่ายขึ้นสะดวกขึ้น รวมถึงปลดล๊อคท่าเพิ่ม แต่ก็ในช่วงที่สเตตัสสูงแล้ว ค่าต่างๆ เหล่านี้ก็ไม่ได้ปลดล๊อคท่าอะไรเพิ่มเป็นพิเศษเท่าไหร่นัก (ยกเว้น Acolyte หญิงไว้ตัว) ก็อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกว่าเล่นจบแล้วรู้สึกว่าโหวงๆ ไม่ชวนให้ลุยต่อกันอีกเท่าไหร่นักแม้จะยังไม่เลเวลตันก็ตาม ยกเว้นแต่จะเล่นตัวใหม่ (ซึ่งเป็นจุดอ่อนหลักของเกมแนว Beat ’em Up ที่ค่าของการเล่นซ้ำนั้นไม่ค่อยมากเท่าไหร่)

 

Expansion!

ถ้าว่ากันตรงๆ แล้วทางผู้เขียนเองก็ได้เล่นแค่สมัยที่ยังมีแค่ 8 ด่านเท่านั้น จนเมื่อได้กลับมาเล่นอีกครั้งก็พบว่าตัวเกมนั้นมี Expansion หรือตัวเสริมด้วยกันถึง 3 ขั้น เพิ่มด่านมาอีก 6… ไม่ซิมันเยอะกว่านั้น! ด่านซึ่งก็โหดร้ายทารุณกันทั้งนั้น ตั้งแต่การลงท่อระบายน้ำ (Culvert) จนถึงปราสาทอามัทสึที่เต็มไปด้วยศัตรูมากมาย ทั้งแสบ ทั้งน่ารักตามประสาตัวเกม

อย่างไรก็ดีนั้น แม้ว่าทาง Gravity จะมีการจัดจำหน่ายตัวเกม RBO อย่างเป็นทางการ แต่ตัวตัว Expansion ก็ไม่ได้นับด้วยเท่าไหร่นัก ทำให้ใครที่อยากจะเล่นตัวภาคเสริมก็ต้องขวนขวายหาทางกันเองอย่างอิหลักอิเหล่อยู่ไม่น้อย แต่พอได้มาเล่นแล้วก็ยังรู้สึกถึงความฟินกับการได้เล่นฉากใหม่ๆ ตีกับบอสใหม่ๆ รวมถึงความแสบที่ทีมงานยังเก็บมาเล่นงานผู้เล่นทีเผลอได้ครบ

 

สรุป RBO

อันที่จริงแล้วก้ต้องบอกว่า การกลับไปเล่น RBO อีกครั้งก็ทำให้นึกถึงความสนุกที่เคยเล่นสมัยก่อนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการได้เจอมอนต่างๆ ท่าคอมโบรัวๆ ที่เวลากดแล้วเมื่อยนิ้วเป็นบ้าเป็นหลัง การต้องมาจำท่าบอสเพื่อหลบให้ทันเพราะโดนทีตัวแทบสลาย มันเป็นความสนุกของ RBO จริงๆ

แม้ว่าตัวบอสอาจจะขาดด้านความหลากหลายจากการสุ่มท่า แต่ก็ทำให้การจำท่าของบอสได้ ก็สร้างจังหวะให้เราสามารถเล่นอะไรเสี่ยงๆ ตามจังหวะได้มากขึ้นและทำเวลาให้ดีขึ้นสมกับที่มีระบบ Time Record ให้ และการมีหลากอาชีพก็ทำให้อยากที่จะเล่นซ้ำตัวอื่นๆ ว่าตัวไหนทำอะไรได้ไปในตัว

ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาส และเป็นแฟนของ Ragnarok Online หรือชอบแนว Beat ’em Up ก็อยากแนะนำให้ลองจับ RBO ดูซักครั้ง หรือลองกลับไปเล่นใหม่หลังจากที่ไม่ได้เล่นมานานแล้ว เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ จะได้เจอความแปลกใหม่อย่างแน่นอนจ้า


RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments