วันศุกร์, มกราคม 10, 2025
หน้าแรกPC Guide ข้อมูลอาชีพ Royal Guard

[Ragnarok Online] ข้อมูลอาชีพ Royal Guard

ใน Ragnarok Online นั้น อาชีพคลาสสามนั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก สมกับที่เพื่อนๆ ต้องตะลุยเก็บเลเวลกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะคนที่ผ่านการจุติมา อาชีพในครั้งนี้ก็จะมาพูดถึง Royal Guard ที่อัพเกรดความเป็นตู้เย็นสู่ตู้เย็นระดับโหดเถื่อน ไม่ได้เป็นแค่ Tank มอนแต่ฟาดมอนไม่ยั้งกันเลย

Royal Guard

อาชีพ Royal Guard เป็นสายต่อมาจาก Crusader และ Paladin ซึ่งตามท้องเรื่องนั้นเป็นอัศวินของราชา Schmidtz ใน Glast Heim ซึ่งตัวราชานั้นได้รู้ว่าการจะปกป้องอาณาจักรของเขาจากความชั่วร้ายที่กัดกินโลกใบนี้ เขาต้องการกองอัศวินที่แข็งแกร่งกว่านี้และจงรักภักดีกับเขาเพียงผู้เดียว และนั่นคือที่มาของเหล่า Royal Guard ที่ขี่กริฟฟินเหล่านี้

อาชีพนี้มีพลังชีวิตที่สูงและค่า SP ที่มาก การเปลี่ยนเป็น Royal Guard นั้นจะทำให้เข้าถึงสกิลที่มีทั้งในด้านการโจมตีและการป้องกันที่มากขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน และมีสกิลที่สนับสนุนการเล่นเป็นทีมมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Rune Knight ที่เน้นไปทางพลังของตัวเองโดยตรง (และการเผาด้วย Dragon Breath) ทำให้เป็นอาชีพที่มีความหลากหลายในการเล่นค่อนข้างมากและรับหน้าที่ได้ค่อนข้างหลายตำแหน่งเลยทีเดียว

 

เกี่ยวกับค่า Status ของ Royal Guard

► Bonus Status (ได้รับเมื่อมี Job level ถึงที่กำหนด)

Stat\Amount +1 +2 +3 +4 +5 +6 +7 +8 +9 +10
STR 4 13 30 40 45 48 58
AGI 23 34 51
VIT 2 9 27 41 42 53 59
INT 3 5 11 19 24 26 37 38 46 60
DEX 6 14 20 31 44 49 56
LUK 16 33 54

รวม Bonus Status

STR AGI VIT INT DEX LUK
+7 +3 +7 +10 +7 +

 

► ความเร็วการโจมตี

Equip Attack Speed (เทียบกับคลาสสอง)
Bare Handed 156 0
Shield -5 0
Dagger -7 +1
Sword (One Handed) -5 −2
Sword (Two Handed) -9 +6
Axe (One Handed) -8 +2
Axe (Two Handed) -12 +3
Mace -4 +1
Spear (One Handed) -10 +3
Spear (Two Handed) -10 +2

 

สกิลของ Royal Guard

ชื่อสกิล ผลของสกิล เลเวล ชนิด
Moon Slasher โจมตีศัตรูรอบตัวเป็นวงกว้าง หากเป้าหมายเป็นผู้เล่นจะมีโอกาสทำให้ต้องนั่งลงอัตโนมัติ แต่หากเป็นมอนสเตอร์จะทำให้ขยับไม่ได้ 1-4 วินาทีแทน 5 Offensive
Exceed Break สร้างบัพที่จะทำให้การโจมตีครั้งต่อไปแรงขึ้นเป็นหลายเท่าตัว บัพนี้จะหายไปเมื่อโจมตีไม่ว่าจะพลาดหรือโดนก็ตาม ไม่สามารถถูกลบล้างได้ ระหว่างร่ายสามารถเคลื่อนที่ได้ แต่จะขยับได้ช้าลง หากใช้กับ Martyr’s Reckoning จะเกิดผลเมื่อผลของ Martyr สิ้นสุดแล้ว 5 Offensive
Cannon Spear หอก : แทงไปใส่ศัตรู สร้างความเสียหายเป็นเส้นตรงเหมือนกระสุนปืนใหญ่ กินพื้นที่กว้าง 3 ช่องยาว 11 ช่อง 5 Offensive
Vanishing Point หอก : (Range) แทงระยะไกลศัตรู มีความแม่นสูงขึ้นและความแรงมากขึ้นตามเลเวลของ Bash 10 Offensive
Pinpoint Attack หอก : (Range) พุ่งแทงจุดตายของเป้าหมาย สร้างความเสียหาย Critical อย่างแน่นอน มีโอกาสทำให้ Bleeding หรือทำลายอุปกรณ์ของศัตรูขึ้นกับเลเวลของสกิลที่ใช้ 5 Offensive
Overbrand ฟาดศัตรูอย่างรุนแรง 2 ครั้งเป็นวงกว้างมาก ครั้งแรกจะแทงไปด้านหน้าเป็นทางยาว ครั้งที่สองจะตวัดข้างเป็นวงกว้าง พื้นที่ด้านหน้าจะโดนโจมตีทั้ง 2 ครั้ง และสร้างคลื่นกระแทกผลักศัตรูออกไป ถ้าศัตรูกระแทกกับสิ่งกีดขวางจะได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 5 Offensive
Vanguard Force สร้างบัพที่จะเพิ่มค่า HP สูงสุดและพลังป้องกันโดยจะเสีย SP ไปเรื่อยๆ ระหว่างนี้จะมีโอกาสได้รับแต้ม Rage เมื่อถูกโจมตี 5 Supportive
Burst Attack ใช้แต้ม Rage ทั้งหมดที่มีโจมตีออกไป ยิ่งแต้ม Rage เยอะและค่า HP เหลือน้อย ท่านี้จะยิ่งแรงขึ้น 1 Offensive
Banding สร้างบัพที่จะช่วยเพิ่มพลังโจมตี พลังป้องกัน และแชร์เลือดของ Royal Guard ทุกคนที่มีบัพนี้ในระยะ 7*7 ช่องรอบตัว สกิลนี้จะแสดงผลต่อเมื่อมี Royal Guard คนอื่นใช้สกิลนี้ด้วยเท่านั้น การ Banding จะทำให้ใช้ Genesis Ray และ Hesperus Lit ได้ บัพนี้จะต้องเสีย SP ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะยกเลิก 5 Supportive
Trample กระทืบพื้น ทำลายกับดักในพื้นที่ 5*5 รอบตัว มีโอกาสหลบกับดักที่ทำงานตอนกระทืบได้เล็กน้อย 3 Active
Prestige สร้างบัพเพิ่มพลังป้องกันชั่วคราวและมีโอกาสหลบหลีกเวทย์ต่างๆ ได้เล็กน้อย พลังป้องกันจะมากขึ้นตามเลเวลของ Defending Aura 5 Supportive
Hesperus Lit หอก + Banding : ใช้ได้เมื่อ Banding 3 คนขึ้นไป สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงและมีผลมากขึ้นตามจำนวนเท้า

  • 4 : บังคับ Stun 4-8 วินาทีโดยไม่สนใจ Status
  • 5 : กลายเป็นการโจมตีธาตุแสง
  • 6 : เพิ่มพลังโจมตี 50% และใช้ Pinpoint Attack อัตโนมัติ
  • 7+ : เพิ่มแต้ม Rage ให้ด้วย
5 Offensive
Piety เปลี่ยนธาตุที่เกราะของสมาชิกในปาร์ตี้รอบตัว 3*3 ช่องเป็นธาตุแสง ต้องมี Holy Water 2 แก้ว 5 Supportive
Genesis Ray Banding : ใช้ได้เมื่อมี Banding 2 ขึ้นไป สร้างความเสียหายธาตุแสงแบบผสม (กายภาพ+เวทย์) ใส่เป้าหมายและพื้นที่ 11×11 รอบๆ โดยใช้ค่า HP ของ Royal Guard ในการร่าย 5 Offensive
Reflect Damage โล่ : สร้างบัพที่จะสะท้อนความเสียหายที่ได้รับใส่ศัตรูรอบๆ ในรัศมี 7×7 ช่อง ไม่มีผลกับความเสียหายที่ได้รับโอนมาเช่น Sacrifice และต้องเสีย SP ในการรักษาบัพไว้ 5 Supportive
Earth Drive โล่ : ทุบพื้นอย่างแรง ลบล้างสกิลที่อยู่บนพื้นที่รอบตัวออก และสร้างความเสียหายธาตุดินใส่เป้าหมายรอบๆ พร้อมลดพลังป้องกันกายภาพและความเร็วโจมตีลง 25% มีโอกาสทำให้โล่แตกได้ น้ำหนักของโล่มีผลต่อความรุนแรงค่อนข้างมาก 5 Offensive
Shield Spell โล่ : สุ่มใช้เวทย์สายโล่ตามระดับของเลเวลสกิล

  1. พลังป้องกัน : โจมตีรอบตัวและผลักออก | สะท้อนความเสียหาย (ไม่มีผลกับบอส) | เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ
  2. ป้องกันเวทย์ : โจมตีธาตุแสงรอบตัว | ร่าย Lex Divina ใส่ศัตรูรอบๆ | ร่าย Magnificat ใส่ตัวเอง
  3. การตีบวก : ทำลายเกราะเป้าหมายเมื่อโจมตี | เพิ่มพลังป้องกันกายภาพและสถานะ | ฟื้นฟูพลังชีวิต
3 Supportive
Inspiration เพิ่มพลังโจมตี, ความแม่น, HP สูงสุด, ค่าสเตตัส ป้องกันสถานะผิดปกติจำนวนมาก ลบล้างสถานะด้านลบเมื่อร่าย ทำให้ใช้ Genesis Ray และ Hesperus Lit ได้โดยไม่ต้อง Banding

แต่จะต้องจ่ายค่า EXP 1% เมื่อร่าย ได้รับความเสียหาย 1% ของที่ทำได้ และเสีย HP, SP เป็นระยะๆ

5 Supportive
Shield Press โล่ : กระแทกศัตรูด้วยโล่ มีโอกาสทำให้ติด Stun สูงมาก 5 Offensive
King’s Grace ทำให้เป็นอมตะ 5 วินาที ลบล้างสถานะผิดปกติส่วนมากออก และฟื้นฟูพลังชีวิตอย่างมากทุกวินาที เมื่อใช้ใน PvP, WoE จะส่งผลแค่ปาร์ตี้ตัวเองเท่านั้น และจะทำอะไรไม่ได้จนกว่าผลของสกิลจะหมดลง 5 Supportive
Full Throttle เติม HP เต็ม, เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่เป็นสองเท่า และเพิ่มค่า Base Status (ไม่รวม +) 20% แต่เมื่อหมดเวลาจะเคลื่อนที่ช้าลง 25% และไม่ฟื้นฟู HP / SP อัตโนมัติ 10 วินาที 5 Active

 

วิธีการเปลี่ยนอาชีพ

1. ไปบริเวณพื้นที่ของ Crusader ที่ปราสาท Prontera และคุยกับ Middle-Aged Gentleman (prt_cas 172, 275) ซึ่งเขาจะบอกเกี่ยวกับร่องรอยของ Schmidtz

2. ให้คุยกับเขาอีกครั้ง เมื่อเขาถามว่าอะไรคือหลักการของ Royal Gaurd ให้เลือกตอบอะไรก็ได้

3. ให้นำ 100 Burning Hearts กลับมาให้เขาเป็นการโชว์ความอดทน

4. ฟังเรื่องราวจากเขาหลังจากที่เอา Burning Heart มาให้แล้ว

5. เขาจะพูดถึงร่องรอยสุดท้ายของ King Schmidtz ที่ Glast Heim Monastery

6. ให้ไปยัง Glast Heim Abbey และเดินตรงไปยังตำแหน่ง (gl_church 158, 100) เพื่อเรียก event ขึ้นมา โดยจะมีข้อความบอกว่าเราสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง

7. ให้สำรวจทุกตำแหน่งที่อยู่บนแผนที่จนกว่าจะเจอ Saint’s Clothing Piece

8. กลับไปที่ปราสาท Prontera และคุยกับ Middle-aged Gentleman อีกครั้ง เขาจะเอาชิ้นส่วนเสื้อผ้าไปก่อนจะให้ King’s Shield กับเรามา

9. เปิดเมนูเควสเพื่ออ่านข้อความด้านหลังของโล่

10. ไปยัง Glast Heim ทางด้านบนขวา จากนั้นกดสำรวจ Memory of King Schmidtz (glast_01 240, 366) ใกล้ๆ กับต้นไม้ เป็นอันจบเรื่อง

 


ตัวอย่าง Build

◘◘◘ MVP Killer ◘◘◘

สายนี้จะเป็นสายที่เน้นการฟาดฟันกับเหล่า MVP เป็นหลัก โดยไม่ใช้สกิล Inspiration ซึ่งจะมีค่า STR, DEX, VIT ที่สูง โดยมี INT บางส่วนสำหรับการใช้ค่า SP ในสกิลสำหรับการกวาดมอนสเตอร์ตัวลูก ค่า AGI ที่สูงเมื่อรวมกับ Spear Quicken แล้วจะทำให้สกิล Vanishing Point นั้นซุยเป้าเดี่ยวได้ดีมากเลยทีเดียว

ด้วยความที่สายนี้พุ่งเป้าไปที่ค่าพลังโจมตีสูง จึงต้องหาหอกที่มีพลังโจมตีสูงๆ อย่าง Imperial Spear, Glorious Spear, Crimson Spear, Gelerdria มาใช้กับสกิลอย่าง Overbrand, Cannon Spear หรือ Vanishing Point

สกิลอย่าง Shield Spell เลเวล 1 ก็ช่วยเพิ่ม ATK ได้เป็นอย่างดี หรือคอมโบด้วย Moon Slasher ก่อนตามด้วย Overbrand ก็ช่วยให้การกวาดมอนได้ดีขึ้น

Stat ประมาณ หมายเหตุ
STR 120
AGI 120 ตามความชอบใจของผู้เล่น
VIT 50+ เพื่อเอาตัวรอด
INT 1-50 ค่าหลัก
DEX 95-100 120 เพื่อตัดปัญหาเรื่องเวลาร่ายเมื่อรวมกับบัพแล้ว
LUK 1 ขึ้นกับผู้เล่น 77 สำหรับคนที่ใช้ Arch Angeling Card

 

◘◘◘ Cannon Spear / Vanishing Point Build ◘◘◘

สายนี้จะคล้ายกับสายที่ใช้ Overbrand เป็นหลัก มีค่า STR ที่สูงและมีค่าสเตตัสโดยรวมกระจายกันมากกว่าสาย MVP พอประมาณ เนื่องจากต้องหากินกับการตื๊บมอนสเตอร์ฝูงใหญ่ๆ

สกิล Cannon Spear เป็นท่าหมู่ที่แม้จะไม่กว้างเท่า Overbrand แต่ก็จุกจิกน้อยกว่า ลากมอนและหันไปทะลวง วิ่งต่อซักนิดรอ Cooldown 2 วินาทีแล้วแทงใหม่ได้เรื่อยๆ ใช้ค่า SP น้อยกว่า เมื่อเทียบกับ Overbrand ที่ไม่มี Cooldown แต่ต้องเล็งตำแหน่งให้ได้ความเสียหายสูงสุดและทำให้มอนสเตอร์กระจายแล้ว เป็นอะไรที่ค่อนข้างใช้ง่ายกว่า

Vanishing Point ใช้สำหรับเป้าหมายเดี่ยวหรือตัวที่มีค่า Flee สูง ที่เหลือก็จะเป็นสกิลช่วยเหลืออย่าง Shield Spell เจ้าเก่าที่ช่วยเร่งพลังโจมตีได้ ส่วนหอกนั้นสามารถใช้เหมือนกับ Overbrand ได้เลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจาก Cannon Spear เป็นท่าชนิดระยะไกล ของบางอย่างเช่น Archer Skeleton Card นั้นจะช่วยเพิ่มความเสียหายได้มากกว่า

Stat ประมาณ หมายเหตุ
STR 100+
AGI 80-100
VIT 90-100 95 สำหรับการกัน Stun
INT 1-50
DEX 90-100
LUK 1-28

 

◘◘◘ Banding ◘◘◘

สายหมาหมู่รุมสกรัม (หรือเล่นหลาย ID พร้อมกัน แฮ่ม…) ดั่งชื่อคือเน้นการใช้ Banding ในการเพิ่มพลังโดยรวม ก่อนจะไปรุมเหยียบมอนอย่างเมามัน ซึ่งโดยรวมแล้วก็คล้ายกับสาย Solo อย่าง Overbrand / Cannon Spear แต่จะมีสกิลอย่าง Hesperus Lit / Genesis Ray เพิ่มมา และแน่นอน ต้องมี Banding กับ Royal Guard แบบเดียวกันอีก 2-3 คนด้วยล่ะนะ ยิ่งเยอะถึงจะยิ่งแรง

จุดที่จุกจิกอีกอย่างของสายนี้คือค่า HP ของ Royal Guard ที่ Banding ด้วยกันจะถูกแชร์เฉลี่ยให้เท่ากัน ซึ่งเป็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสียไปในตัว และการที่ต้องเกาะกลุ่มกันในรัศมี 7×7 ก็เป็นอะไรที่วุ่นวายมากๆ โดยเฉพาะถ้ามากันเยอะๆ แต่… ถ้าตกลงกันได้ ว่ากันตามตง มันก็แรง….. เวรี่เวรี่มาก และเวลา Pinpoint Attack ปลิวตามไปพร้อมกันนี่มันสะใจดีแท้

Stat ประมาณ หมายเหตุ
STR 120
AGI 90-100
VIT 90-100 95 สำหรับการกัน Stun
INT 1-80
DEX 100-120
LUK 1
RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments