ใน Ragnarok Online นั้น อาชีพคลาสสามนั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก สมกับที่เพื่อนๆ ต้องตะลุยเก็บเลเวลกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะคนที่ผ่านการจุติมา ทางด้านของ Maestro นั้นก็มีบัพต่างๆ ที่เพิ่มมาอย่างมากมาย ทำให้มีตัวเลือกในการสนับสนุนการเล่นมากขึ้น ถึงแม้ว่าหลายคนจะยังคงใช้กันแต่ Magic Strings ก็ตาม

Maestro

ถ้าว่ากันถึงอาชีพกลุ่ม Support ที่ทรงพลังมากๆ สำหรับปาร์ตี้ใหญ่ๆ ในงานยากๆ แล้ว นอกจากสาย Arch Bishop ก็ไม่พ้นเหล่านักดนตรีอย่าง Maestro เช่นกัน สกิลของเขานั้นสามารถทำให้การลงดันเจี้ยนหรือ Raid และการถล่ม WoE นั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย

สิ่งที่แลกมานั้นก็มากับการ Solo ที่ทรมาณทรกรรมเป็นอย่างมาก และหลายๆ คนก็มักจะใช้งานหลักกับสกิล Magic Strings มากกว่าสกิลอื่นๆ ทำให้ขาดความโดดเด่นในด้านการใช้งานสกิลอื่นๆ ไป เนื่องจากใช้งานได้ง่ายและไม่มีเงื่อนไขอะไรให้เข้าใจยาก อย่างไรก็ดี หากมีโอกาสแล้วนั้น สกิลอื่นๆ ของเขาก็สามารถสร้างความแตกต่างในสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เกี่ยวกับค่า Status ของ Maestro

► Bonus Status (ได้รับเมื่อมี Job level ถึงที่กำหนด)

รวม Bonus Status

► ความเร็วการโจมตี

สกิลของ Maestro

► สกิลเพลงเดี่ยว

	ชื่อสกิล	ผลของสกิล	เลเวล	ชนิด
	Voice Lessons	เพิ่มค่า Max SP และอัตราการฟื้นฟู SP เมื่อเลเวล 5 ขึ้นไปจะสามารถใช้สกิลของ Maestro ระหว่างเล่นเพลงของ Class 2 ได้	10	Passive
	Frigg’s Song	ใช้ Regrettable Tear : เล่นเพลงที่จะเพิ่มค่า Max HP และฟื้นฟู HP ทุกๆ วินาทีชั่วคราว	5	Supportive
	Deep Sleep Lullaby	กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะทำให้คู่ต่อสู้มีโอกาสติด Deep Sleep ใช้ได้เฉพาะพื้นที่ที่เป็นแบบ PvP	5	Negative Effect
	Reverberation	สร้างคลื่นเสียงไว้ยังจุดที่กำหนด ก่อนจะระเบิดออกมาในภายหลัง สร้างความเสียหายกายภาพ และเวทย์มนตร์ตามลำดับในรัศมี 3*3 ความเสียหายจะถูกแชร์ตามจำนวนศัตรูที่โดน สามารถใช้ Dominion Impluse ระเบิดคลื่นเสียงได้ คลื่นเสียงจะมีพลังชีวิตและถูกทำลายได้ แต่จะได้รับความเสียหายทีละ 1 หน่วยเท่านั้น	5	Offensive
	Metallic Sound	สร้างเสียงอันดังมากออกมา ทำความเสียหายเวทย์ไร้ธาตุใส่เป้าหมายเดี่ยวและลดค่า SP ของเป้าหมายลง เป้าหมายที่ติด Sleep, Deep Sleep จะได้รับความเสียหายเพิ่มเติมพิเศษอีก 50% (ซ้อนทับกับ Deep Sleep, Lex Aeterna ได้)	5	Offensive
	Dominion Impulse	ส่งเสียงดัง ทำให้คลื่นเสียงจาก Reverberations ในรัศมีทำงานทันทีโดยไม่สนใจว่าจะเป็นของใคร	1	Active
	Harmonize	บัพเป้าหมายและตัวเอง ทำให้ค่าโบนัสสเตตัสกลายเป็นจำนวนที่กำหนดไว้ตายตัว	5	Supportive
	Windmill Rush	กลุ่ม A : เล่นเพลงที่จะเพิ่มพลังโจมตีให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ชั่วคราว	5	Supportive
	Echo Song	กลุ่ม A : เล่นเพลงที่จะเพิ่มพลังป้องกันให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ชั่วคราว	5	Supportive
	Circle of Nature	กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะดูด SP ของคู่ต่อสู้และเพิ่ม HP ให้กับผู้เล่นเพลง ใช้ได้เฉพาะพื้นที่ที่เป็นแบบ PvP	5	Supportive
	Death Valley	ใช้ Regrettable Tear : เล่นกวีที่มีโอกาสสูงมากที่จะชุบชีวิตเป้าหมายขึ้นมา และใช้ SP ของเป้าหมายในการเพิ่ม HP ของผู้ที่ถูกชุบขึ้นมา	5	Supportive
	Song of Despair	ใช้ Throat Lozenge : เล่นเพลงในจุดที่กำหนด เป้าหมายในรัศมี 3*3 จะถูกทำให้ขยับไม่ได้ชั่วขณะ ไม่มีผลกับบอส สามารถใช้ได้ 5 ครั้งต่อเนื่อง	5	Negative Effect
	Siren’s Voice	กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะทำให้ศัตรูเชื่องและไม่โจมตีชั่วคราว หากใช้กับศัตรูที่วางกับดัก จะทำให้กับดักไม่ทำงานใส่ผู้เล่นเพลงถ้าไปเหยียบ	5	Negative Effect
	Improvised Song	สุ่มใช้สกิลของ Mage / Wizard โดยไม่สนใจเงื่อนไขการร่าย	5	Active
	Gloomy Shyness	กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะเพิ่มความเสียหายของสกิล Brandish Spear, Clashing Spiral, Rapid Smiting, Shield Boomerang, Shield Press แต่หากไม่มีสกิลเรียนไว้จะถูกลดค่า Flee, Attack Speed แทน มีโอกาสทำให้ตกนกและลดความเร็วการเคลื่อนที่เล็กน้อย	5	Supportive
	Severe Rainstorm	ธนู : ยิงธนู 20 ดอกถล่มลงไปยังพื้นที่เป้าหมาย สร้างความเสียหายทุกๆ 0.3 วินาทีใส่ศัตรูทั้งหมดในพื้นที่	5	Offensive
	Full Throttle	เติม HP เต็ม, เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่เป็นสองเท่า และเพิ่มค่า Base Status (ไม่รวม +) 20% แต่เมื่อหมดเวลาจะเคลื่อนที่ช้าลง 25% และไม่ฟื้นฟู HP / SP อัตโนมัติ 10 วินาที	1	Active

► สกิลเพลงกลุ่ม

สกิลสายประสานเสียงนั้น เป็นสกิลที่ต้องร่ายเอาไว้เหมือนกับสกิลสายร้อง/เต้นใน Class 2 แต่มีโบนัสพิเศษตรงเมื่อมี Minstrels / Wanderers ในปาร์ตี้เพิ่ม ผลของสกิลนั้นๆ จะทรงพลังขึ้น อย่างไรก็ตาม จะส่งผลสูงสุดแค่ 7 คนเท่านั้น มากกว่านั้นจะไม่มีผลเพิ่มแล้ว

	ชื่อสกิล	ผลของสกิล	เลเวล	ชนิด
	Great Echo	ประสานเสียง + ใช้ Throat Lozenge : สร้างคลื่นเสียงไปยังจุดที่กำหนด สร้างความเสียหายกายภาพระยะไกลใส่ศัตรูทั้งหมดในรัศมี	5	Offensive
	Dances with Wargs	ประสานเสียง กลุ่ม B : เพิ่มพลังโจมตี, ความเร็วการโจมตี และลดระยะเวลาร่ายตายตัว, ความเสียหายของสกิล Warg ต่างๆ	5	Supportive
	Song of Mana	ประสานเสียง กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะช่วยฟื้นฟู SP ให้กับทุกคนในปาร์ตี้ในรัศมีทุกๆ 5 วินาที	5	Supportive
	Lerad’s Dew	ประสานเสียง กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะช่วยเพิ่มค่า Max HP ให้กับทุกคนในปาร์ตี้ในรัศมี	5	Supportive
	Saturday Night Fever	ประสานเสียง กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะทำให้ทุกคนในรัศมีติด Frenzy แบบพิเศษ เพิ่มพลังโจมตีแต่ลดพลังป้องกันและการหลบหลีก ค่า HP, SP ไม่ฟื้นฟู ใช้ไอเทมไม่ได้ เมื่อหมดเวลาจะถูกบังคับให้นั่งเป็นเวลา 3 วินาที ถ้ามีคนโดนสกิลนี้ 7 คนขึ้นไป จะะมี Lord of Madness ปรากฎขึ้นมาทำความเสียหาย 9,999 หน่วยใส่คนที่มีสถานะนี้ด้วย ใช้ได้เฉพาะพื้นที่ที่เป็นแบบ PvP	5	Active
	Warcry from Beyond	ประสานเสียง กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะลดค่า Max HP แต่เพิ่ม STR, โอกาสคริติคอลให้กับศัตรูทั้งหมดรอบๆ ผู้เล่นเพลง การประสานเสียงเพิ่มจะลด Max HP เพียงอย่างเดียว	5	Active
	Sinking Melody	ประสานเสียง กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะลดค่า INT และลดค่า SP ของศัตรูทั้งหมดรอบๆ ผู้เล่นเพลง	5	Active
	Song of Destruction	ประสานเสียง : เล่นเพลงพิเศษไปยังพื้นที่เป้าหมาย มีโอกาสทำให้ผู้ประสานเสียงคนอื่นในรัศมีนั้นติด Silence ถ้าเกิดผลจะทำความเสียหายและทำให้ติด Stun แถมไปด้วย (การเล่นเพลงของ Class 2 ก็นับเช่นกัน)	5	Offensive
	Infinity Humming	ประสานเสียง กลุ่ม B : เล่นเพลงที่จะทำให้การใช้สกิลของผู้เล่นทั้งหมดในรัศมีไม่สามารถถูกขัดขวางได้ แต่ก็จะใช้ SP มากขึ้น 15%	5	Supportive

วิธีการเปลี่ยนอาชีพ

1. ไปยังเรือลำล่างของ Alberta และคุยกับ Bard (alberta 196, 133) และเลือกการตามหา Minstrel Song ซึ่งเขาจะให้ไปหาที่ Prontera ดู

2. ไปยัง Prontera บริเวณด้านล่างเมืองเลยคุยกับ Warmhearted Woman (prontera 141, 97) ใกล้ๆ กับ Kafra เธอจะบอกให้ลองไปหาคนใกล้ๆ Prontera Castle

3. คุยกับ Glasses-wearing Man (prontera 140, 331) ใกล้ๆ ทางเข้าปราสาท เขาจะให้ไปคุยกับหญิงสาวกลางเมือง

4. ไปคุยกับ Woman (prontera 146, 218) แถวร้านขายของ เธอจะช่วยไรไม่ค่อยได้ ให้กลับไปที่ Alberta

5. คุยกับ Bard อีกครั้ง เขาจะบอกว่าเบาะแสนั้นอยู่ที่ Hugel แต่ว่าเส้นทางเดินเรือปิดไปนานแล้ว ตั้งนั่งเรือเหาะไป ให้ไปเรือเหาะ Juno-Hugel (Domestic)

6. คุยกับ Karian ทางด้านบนซ้าย (airplane 222, 67) จะถูกส่งไปยังโรงแรมใน Hugel

7. คุยกับ Karain ที่นี่อีกที เขาจะแนะนำให้ไปที่ผับ (hugel 127, 65)

8. เข้าผับไป ในห้องแรกคุยกับ Tone-deaf Person

9. หลังจากฟังเรื่องราวแล้วให้กลับไปหา Karian และบอกเกี่ยวกับ Minstrel Song จากนั้นก็บุกไป Thanatos Tower พร้อมกับพี่แกได้เลย ตรงนี้ Bard lv 99 เอาตัวรอดด้วยการเดินไม่ไหวแน่ๆ เพราะงั้นสามารถใช้วิธี spam flywing จนกว่าจะถึงที่หมาย หรือหาคนนำทางให้จะดีที่สุด

10. คุยกับ Tower Keeper (hu_fild01 143, 162) เพื่อเข้าไปยังทางเข้าหอคอย

11. เดินใกล้ๆ กับทางเข้าด้านบนหอคอยซ้าย จนเจอเศษกระดาษ

12. กลับไปที่ Juno และคุยกับ Mr. Click (yuno 143, 170) เพื่อรับรูปภาพ Minstrel Song และการตามล่าหา Teddy Bears 33 ตัว ก็ไปไล่ล่าได้เลย โดยแผนที่ที่ล่าง่ายๆ ก็จะเป็น ein_fild03 โดยเดินทางจาก Einbroch ขึ้นบนและออกซ้าย

13. ที่ Lighthalzen ให้คุยกับ Little Girl (lighthalzen 162, 126) ตัวเธอจะบอกว่า Minstrel Song ไปยัง Ice Cave ก็ไปซะดีๆ โดยเดินทางไปที่ Rachel เดินออกขวา ขึ้นบน 3 แผนที่

14. ใน Ice Cave เพื่อนๆ จะเจอร่องรอยของบทกวีตามกำแพง และถูกวาร์ปไปเรื่อยๆ ระหว่างที่อ่าน

15. เมื่อตื่นขึ้นมาให้คุยกับ Old Woman ที่จะบอกว่า Minstrel Song เดินทางไป Comodo หลังจากที่สลักบทกวีไว้ ก็ต้องไป แต่ว่า Karain นั้นกลัวเรือเหาะ เลยต้องนั่งเรือไปเท่านั้น ห้ามเดินทางไปด้วยวิธีอื่น

16. ให้ไปยังแผนที่ด้านล่างของ Vein จะเจอเรืออยู่ ให้พยายามเคลียร์มอนแถวท่าเรือให้หมดก่อนคุย ไม่งั้นมีศพแน่นอน จากนั้นให้คุยกับป้าย =Notice= (ve_fild07 131, 132) แลกเลือกนั่ง Kayak, วิดน้ำออกจากเรือ

17. เมื่อมาถึง Komodo ให้เดินขึ้นและคุยกับ Kayak Master (comodo 192, 119) เพื่อรับคำแนะนำ

18. ไปยังด้านบนสุดและคุยกับ Woman Roasing Meat (comodo 159, 318) เธอจะบอกว่า Minstrel Song อยู่แถวด้านล่างของ Morroc ให้ไปที่ Assassin Guild ได้เลย

19. บริเวณ (moc_fild16 205, 231) จะมีเศษกระดาษอยู่ Karian จะบอกว่าให้ไปที่หอนาฬิกาละกัน งานนี้ก็ไป Aldebaran กันต่อ

20. เมื่อมาถึงหอนาฬิกาแล้ว Karian จะร้องเพลงให้ฟังก่อนจะแนะนำว่ากลับ Prontera กันเถอะ

21. แถวๆ ด้านล่างของ Prontera ใกล้กับ Kafra (prontera 157, 39) Karian จะคุยกับเรา ให้เข้าไปคุย ก่อนจะถูกวาร์ปมาห้องเล็กๆ

22. พี่แกจะบอกว่า ตัวเองนี่ล่ะ Minstrel Song และเราผ่านการทดสอบแล้ว เย่ะ ต่อยกันเลย

ตัวอย่าง Build

◘◘◘ Severe Rainstorm ◘◘◘

เป็น Build ที่หากินกับสกิลเดียวคือ Severe Rainstorm ตามชื่อ ก็จะเน้นไปทางสายบู๊เต็มที่เลย เน้น DEX AGI และค่าอื่นกระจายกันไป เหมาะสำหรับการเก็บเลเวลด้วยตัวเองเป็นหลัก และหลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปสายผสมหรือสาย Support ล้วนก็อีกเรื่องหนึ่งกันไป

◘◘◘ SR / Support ◘◘◘

เป็นสายที่ใช้ Severe Rainstorm ได้ในระดับนึง และผสมไปกับการสนับสนุนปาร์ตี้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ทำให้ไม่สุดไปซักด้านจนเกินไป หากเลเวลสูง (150+) และมีปาร์ตี้ประจำแล้ว การเปลี่ยนไปเป็นสาย Support เต็มตัวก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี สกิลของ Maestro มักจะเหลือกินเหลือใช้อยู่แล้ว จึงสามารถเทลงสาย Support ได้ตามสะดวก โดยให้ดูจากปาร์ตี้หลักว่าต้องการสกิลด้านไหนเป็นพิเศษ หรือมีสกิลด้านไหนที่อยากเล่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะ แต่ที่แน่ๆ Magic Strings ของ Bard นั้นต้องมีเสมอ

ในด้านของอุปกรณ์นั้นก็จะเน้นในด้านการเอาตัวรอดเป็นหลัก เพราะ Support ที่นอนกองอยู่มันทำอะไรไม่ได้นอกจากรอคนชุบเท่าไหร่

[ หาเพื่อน, ข้อมูล และเข้ากลุ่มผู้เล่นไทย ได้ที่นี่ ]