ในซีรี่ย์ Monster Hunter แต่ละภาคนั้นก็มักจะมีของเล่นใหม่ๆ เพิ่มมาเรื่อยๆ เสมอ และใน Monster Hunter Rise เองก็เช่นกันที่มีการเพิ่มระบบใหม่ชูโรงปรับการเล่นให้หวือหวาขึ้น ใช่แล้ว มันคือเจ้าแมลงสายลวด Wirebug นั่นเอง ในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงเกี่ยวกับเจ้า Wirebug นี้กันว่ามันทำอะไรได้ถึงระดับไหนกัน!
Wirebug 101
เจ้า Wirebug นั้นจะเป็นอุปกรณ์ติดตัวเพื่อนๆ และสะสมไว้ใช้งานได้ครั้งละ 2 ตัว (สามารถเก็บเพิ่มจากในแผนที่เป็น 3 ตัวได้ชั่วคราว) ซึ่งหน้าที่ของมันหลักๆ นั้นก็คือใช้ทำให้เพื่อนๆ เคลื่อนที่ไปมาได้สะดวกขึ้นนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นพุ่งตัวไปด้านข้าง พุ่งตัวขึ้นด้านบน หลบการโจมตี ตั้งลำระหว่างที่โดนกระแทกหรืองัดจนปลิว ไปจนถึงการใช้เป็นส่วนหนึ่งของท่าโจมตีก็ยังได้
ตัว Wirebug นั้นเมื่อถูกใช้งานไปจะขึ้นวงกลมสีส้มนับเวลาฟื้นฟูกลับคืนมาใหม่ (ใช้เวลาไม่ค่อยนานมากนัก) และ Wirebug แต่ละตัวจะนับเวลาฟื้นฟูกลับมาแยกจากกันต่างหาก ไม่ต้องรอตัวเก่าเต็มถึงจะเริ่มนับตัวต่อไป ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกว่าที่คิดมากๆ เลยล่ะ
อนึ่ง หากติดสถานะ Ice Blight จากการโจมตีธาตุน้ำแข็งต่างๆ จะทำให้ระยะเวลาฟื้นฟูของ Wirebug ช้าลงเป็นอย่างมาก!
อาวุธแต่ละชนิดนั้นก็จะมีการใช้งาน Wirebug ที่แตกต่างกันไป ซึ่งตรงนี้ระบบของเกมจะเรียกว่า Silkbind Attack เช่นค้อนจะทำให้ใช้ท่าหมุนตัวควงสว่านจากด้านบนได้ ธนูจะทำให้กระโดดถอยหลังไปฟื้นค่า Stamina ได้เป็นต้น ทำให้อาวุธแต่ละชนิดมีรูปแบบการเล่นที่พลิกแพลงได้มากขึ้นกว่าเดิม
ด้วยความที่พลิกแพลงได้มากขึ้นนี้ ประกอบกับการมี Switch Skill ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีของ Silkbind ได้ ยิ่งทำให้การบริหารจัดการเจ้าแมลงสีฟ้านี้ล้ำค่ายิ่งไปอีก
ในด้านของการขี่มอนสเตอร์มาตีกัน Wirebug ก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นเดียวกัน โดยเป็นเกจที่จะทำให้เพื่อนๆ สามารถใช้ท่า Emergency Evade หรือจับกระแทกผนัง ได้ตามจำนวนครั้งของเจ้า Wirebug ที่เรามีอยู่นั่นเอง (กรณีที่ไม่ได้จับกระแทกผนัง เจ้า Wirebug จะค่อยๆ ฟื้นกลับมาตามปกติ)
เรียกได้ว่าในภาคนี้เจ้า Wirebug นั้นจะคอยตามป่วนเพื่อนๆ อยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่มันค่อนข้างที่จะใช้งานสะดวกกว่า Clutch Claw ในภาค World เป็นอย่างมาก เลยให้ความรู้สึกว่าเป็นรางวัลกรณีที่สามารถใช้ได้ดี มากกว่าฝืนบังคับให้ใช้เสียด้วย
การเพิ่มจำนวน Wirebug
เพื่อนๆ มีโอกาสที่จะเจอเจ้า Wirebug กลางทางระหว่างที่กำลังสำรวจแผนที่อยู่ โดยเมื่อเก็บ Wirebug แล้วนี้แล้ว มันจะกลายเป็นเกจ Wirebug ตัวที่ 3 ให้เพื่อได้เอามาใช้งานต่างๆ ได้ เป็นเวลาประมาณ 2 นาที และการเก็บซ้ำหลังจากนี้จะเป็นการรีเซ็ทระยะเวลาของ Wirebug ให้ม่อีกครั้ง
หากมีสกิล Wirebug Whisperer เลเวล 1 หรือมากกว่า เจ้า Wirebug ที่เก็บมาจะอยู่ได้นานขึ้น 30 วินาที
การเก็บ Wirebug มาไว้ติดตัวจะช่วยได้หลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำให้สามารถใช้ท่าโจมตี Silkbind ต่างๆ ได้ถี่ขึ้นต่อเนื่องขึ้น ทำให้เรามีความคล่องตัวระหว่างสำรวจแผนที่หรือการต่อสู้มากขึ้น แม้แต่ในตอนที่เราขี่มอนสเตอร์อยู่ การจับโขกกำแพงได้อีกครั้งนึงก็ช่วยเร่งความเสียหายที่ทำกับมอนได้เยอะขึ้นด้วย
ทริคอย่างหนึ่งในการเก็บ Wirebug ไว้ใช้งานนอกจากจะใช้สกิล Wirebug Whisperer แล้ว ก็เป็นการดูว่ามอนสเตอร์ที่เราจะสู้อยู่ตรงไหน แล้วเก็บเจ้าแมลงมาจากแอเรียใกล้เคียงก่อน จากนั้นค่อยวิ่งเข้าไปสู้ จะทำให้ระหว่างที่สู้กับมอนสเตอร์อยู่ ถ้าในพื้นที่นั้นมีเจ้า Wirebug ให้เก็บก็จะสามารถยืดระยะเวลาเพิ่มได้อีกด้วย เราก็จะมีไว้ใช้ 3 ตัวตลอดเวลา (หรืออย่างน้อยก็นานกว่า) หรือจะใช้น้องเหมียวที่มีสกิลสามเป็นสกิล Summeown Endemic Life ก็ได้จ้า เพื่อนๆ สามารถดูเกี่ยวกับสกิลน้องเหมียวได้ [ ที่นี่ ] จ้า
ข้อควรระวังในการใช้ Wirebug
แม้ว่าตัว Wirebug จะสะดวก สบาย ใช้ร่วมกับการโจมตี Silkbind ต่างๆ ได้ แต่หากใช้ผิดจังหวะ ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาหลายๆ อย่างเช่นเดียวกัน เหมือนกับการเอาตัวเองไปอยู่ผิดที่หรือโจมตีผิดท่านั่นเอง
อย่างที่ทราบว่าตัว Wirebug นั้นใช้ในการหลบหนีจากท่าโจมตีบางอย่างได้ หรือแม้แต่ใช้ในการปรับตำแหน่งตัวเองหลังถูกโจมตีกระเด็น/งัดให้ลอย ทำให้ในบางจังหวะ หากเรายังมี Wirebug อยู่ ก็อาจจะรอดจากท่าต่อเนื่องได้ หรือบางจังหวะหากเราใช้มันในการหนี อาจจะโดนอัดต่อเนื่องแทนได้ซะงั้น!?
อย่างแรกเลยคือ ถ้าหากไม่จำเป็น พยายามอย่าเผา Wirebug ที่มีทั้งหมดจนหมดตลอดเวลา ควรดูจังหวะให้มันฟื้นตัวทันซักตัวนึงเสมอ เพื่อที่จะได้ใช้มันในการหลบหลีกท่าโจมตีบางอย่างได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น
- ควันหลับรอบวงของ Somnacanth ที่ถ้าไม่มีล่ะก็ มีแค่วิ่งป่าราบสุดจอหรือนอนหลับรอพี่แกทุบเลย
- การโดนจับทุ่มลงพื้นจนต้องค่อยๆ คลานหนี หากมีแมลงเหลือยังสามารถหนีเอาตัวรอดได้ทันที ไม่งั้นก็รอ Rajang ต่อยซ้ำคาที
แต่ถ้าคิดว่าสามารถอ่านทางและหลบหลีกได้โดยไม่ต้องใช้การโดดเยี่ยงนินจา การจะใช้ให้หมดเลยก็ไม่เสียหายแต่อย่างใด
อีกอย่างหนึ่งคือในด้านของการฟื้นตัวหลังโดนโจมตี ปกติแล้วเมื่อเราโดนโจมตีแรงๆ จนกระแทกพื้น เราจะนอนอยู่และไม่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมจนกว่าตัวละครจะเริ่มขยับตัวลุกขึ้นมา ทำให้หลีกเลี่ยงจากการโดนซ้ำได้หากท่ามารัวและต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเกิดว่าเราใช้ Wirebug ปรับตำแหน่งหนีเอาตัวรอดแล้ว แต่ปรากฎว่าเราดั๊นลอยเข้าไปอยู่ในรัศมีการโจมตีอยู่ จากที่น่าจะรอดก็จะกลายเป็นไม่รอดเอาได้ง่ายๆ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ควรระวังเป็นอย่างมาก
หากเพื่อนๆ คอยระวังตัวดีๆ แล้ว Wirebug ก็จะเป็นอุปกรณ์ในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือในการล่าได้เป็นอย่างดี มากกว่าโทษในการใช้งาน รวมถึงตัวเกมเองก็ไม่ได้บังคับว่าเราต้องใช้ Wirebug ถึงจะล่ามอนได้ (แม้ว่าหลายๆ จังหวะการใช้ Wirebug จะดีกว่าอย่างมหาศาลก็ตาม) ทำให้มันเป็นระบบที่เป็นมิตรกว่า Clutch Claw เป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ
ของแถม Great Wirebug
เจ้า Great Wirebug นั้นจะเป็นแมลงพิเศษที่สามติดตั้งลงไปบน Jewel Lily ที่อยู่ในแผนที่ต่างๆ เมื่อติดตั้งแล้ว จะสามารถใช้เป็นจุดเดินทางระยะไกลได้ เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับการสร้างทางลัดในแผนที่ต่างๆ อย่างถาวรดั่งการอัพเกรดแผนที่ของเราไปในตัว
ตัว Great Wirebug นั้นจะหาได้จากการทำเควสกับ NPC ที่อยู่ในหมู่บ้านทางไปยัง Buddy Plaza ซึ่งเขาจะให้เควสที่เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ (Endemic Life) มา เมื่อทำแล้วก็จะได้รับ Great Wirebug มาจำนวนหนึ่งไว้สำหรับติดตั้งลงไปบน Lily นั่นเอง ตัวเควสนั้นก็จะได้รับหลังจากที่เพื่อนๆ ทำเควสไปถึงจุดๆ ในแต่ละช่วงการเล่นเกมนั่นเองจ้า
ในจุดนี้ก็ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ทำเควสนี้และคอยติดตั้งพวก Great Wirebug เอาไว้ และหากมีโอกาสพยายามลองใช้ดู เผื่อบางครั้งมันก็ไวกว่าการขี่น้องหมาวิ่งตามมอนได้เยอะจริงๆ รวมถึงบางเส้นทาง อาจจะเข้าถึงพื้นที่ที่ต่อให้มีน้องหมาก็ต้องวิ่งกันนานมากๆ ไม่ก็พื้นที่ยากๆ ได้สะดวกๆ อีกด้วยล่ะ
ตัว Wirebug นั้นบางทีอาจจะดูยุ่งยากหรือกดลำบาก แต่อยากจะให้เพื่อนๆ นักล่ามือใหม่ฝึกเอาไว้ เพราะช่วยในการเล่นได้มากจริงๆ และเป็นระบบชูโรงในภาคนี้เลยทีเดียว ถ้าชำนาญและใช้เข้ากับสถานะการณ์ได้ดีล่ะก็ จะทำให้เราล่ามอนสเตอร์ได้ลื่นไหนมากๆ เลยล่ะน้า Happy Hunting ยังไงล่ะ