วันจันทร์, มีนาคม 31, 2025
หน้าแรกGuideมินบยองกู Solo Leveling:Arise รีวิว มินบยองกู ตัวซัพสุดเทพ

มินบยองกู Solo Leveling:Arise รีวิว มินบยองกู ตัวซัพสุดเทพ

ภายในเกม Solo Leveling:Arise  มินบยองกู ( Min Byung-Gyu ) เป็นฮันเตอร์ที่เป็นคลาสซัพพอร์ตแม้ว่าจะแต่งตัวเหมือนแทงค์ก็ตาม โดยสกิลของเค้านั้นจัดว่ามีประโยชน์กับทีมมากทั้งสามารถฮีลเพื่อนได้ แถมยังดีบัฟมอนสเตอร์ให้โดนดาเมจแรงขึ้นได้อีกต่างหาก และยังปิดด้วยการบัฟเพื่อนให้โจมตีแรงขึ้นได้ด้วย เรียกว่าเป็นซัพพอร์ตที่ครบเครื่องสุด ๆ ซึ่งถ้าหากว่ากันตามเนื้อเรื่องของต้นฉบับแล้ว เค้าเป็นฮันเตอร์ที่ไม่อยากจะต่อสู้แล้วและได้ถอนตัวออกมาแต่มีเหตจำเป็นจึงต้องกลับมาช่วยต่อสู้กับมอนสเตอร์ ซึ่งภายในเกมนี้เค้าจะเป็นยังไงเราไปชมกัน สำหรับคนที่จะอ่านบทความอื่น ๆ ดูได้ที่ >>Click<<

คำอธิบายสกิลโดยสรุป

มินบยองกูเป็นซัพพอร์ตธาตุแสงที่มีทั้งสกิลฮีลและสกิลดีบัฟศัตรู โดยสกิลหลักของเค้าเลยจะเป็นการลงทัฑณ์แห่งแสงที่ทำให้เป้าหมายที่โดนติดสถานะลงทัณฑ์ที่ทำให้ดดนดาเมจแรงขึ้น ติดกัน 20 วินาที และอีกสกิลที่เอาไว้ฮีลและทำดาเมจได้ด้วยคือประกายแห่งแสง ที่สามารถฮีลเพื่อน ๆ และตัวเองได้

ต่อที่ QTE และสกิลพิเศษ โดยสกิล QTE ของเค้าจะทำการฟื้นฟูพาเวอร์เกจและทำดาเมจตามพลังชีวิตของตัวเอง ส่วนสกิลช่วยเหลือ จะลงมาและทำให้ศัตรูติดสถานะลงทัฑณ์ซึ่งดีมาก ๆ ในการเอาไปใช้งานภายในทีมด่านที่เราต้องเล่นเป็นจินอู อีกทั้งยังฮีลได้อีกด้วย

ปิดท้ายที่ท่าไม้ตายของมินบยองกู เค้าจะทำการสร้างวงแสงขึ้นมารอบ ๆ ตัวและจะทำให้เพื่อนในทีมให้ตีคริติคอลแรงขึ้น พร้อมทำดาเมจศัตรูที่อยู่รอบ ๆ ครับ

นอกจากนี้เมื่อใช้สกิลที่ทำให้ศัตรูติดสถานะทัณฑ์สวรรค์ หรือใช้แท็กอิน จะทำให้ได้เอฟเฟกต์พรางตา ทำให้ดาเมจที่ได้ลดลง 50% และทำให้สกิลต่าง ๆ มีผลพิเศษเพิ่มเติม แต่ถ้าหากว่าโดนโจมตีสถานะนี้ของเค้าจะหายไป ซึ่งสกิลนี้จะช่วยทำให้เรารับดาเมจได้เยอะขึ้นมาก และเอาตัวรอดสกิลแรง ๆ ของบอสได้ดีครับ

อุปกรณ์แนะนำ มินบยองกู

แน่นอนว่าอาวุธประจำตัวของตัวละครนี้หากว่าหามาใช้งานได้จะดีที่สุดเพราะว่า หลังจากใช้สกิลพรจากวรรค์จะทำให้บัฟดาเมจตัวเองและเพื่อนร่วมทีมอีกถึง 4% (ในเลเวล 1 ) แต่ทั้งนี้ด้วความที่อาวุธประจำตัวทำได้ค่อนข้างยาก เลยอาจจะข้ามไปดูระดับ SR แทนได้ครับ แต่ถ้าหากว่ามีโอกาสเป็นหนึ่งในตัวที่ควรหาอาวุธประจำตัวมาใช้งานเพราะส่วนใหญ่แล้วตัวละครนี้มักจะเป็นตัวที่มีติดทีมไว้เกือบตลอด

มินบยองกู อาวุธ

ลำดับการอัปสกิลแนะนำของ มินบยองกู

พิพากษายุติธรรม >พรจากสวรรค์ > ประกายแห่งแสง > การลงทรัณฑ์แห่งแสง > ทัฑณ์สวรรค์ > คอร์แอทแทกต์ > โจมตีปกติ ซึ่งสาเหตุที่เอาการโจมตีปกติเอาไว้ท้ายสุดเนื่องจากตอนเล่นจริง ส่วนมากเราจะเาเค้ามากดสกิลแล้วเปลี่ยนตัวมากกว่า ไม่ค่อยได้ยืนสู้นานเท่าไหร่นักครับ เนื่องจากหาากจะทำดาเมจตัวละครอื่นสามารถทำดาเมจได้ดีกว่า

แนะนำทีม

ในส่วนนี้จะเป็นแนะนำทีมเบื้องต้นนะครับ ซึ่งไม่จำเป็นต้องจัดตามนี้ก็ได้ โดยทีมหลักที่เห็นคนนิยมเล่นกันกรณีด่าน Hunter จะเป็น มินบยองกู + ชเวจงอิน และหา DPS มาอีกตัวนึงครับ ซึ่งสกิลของชเวจงอินจะช่วยลดเกราะศัตรู ประกอบกับตัวของมินบยองกูก็มีสกิลดีบัฟอีกทีแถมฮีลเพื่อนได้ ทำให้สามารถสร้างดาเมจให้กับบอสและมอนสเตอร์ได้แรงมาก ๆ

วิธีเล่น มินบยองกู

มินบยองกูจะมีหน้าที่หลักเลยคือลงมาสกิลและดีบัฟศัตรูหลังจากนั้นเราก็จะเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่น จะไม่ค้างไว้ที่ตัวละครนี้นานนัก ซึ่งหน้าที่หลักของเค้าคือดีบัฟ / บัฟ ให้เพื่อนแล้วเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นได้เลย ซึ่งหากเพื่อนเลือดเต็มอยู่แล้วก็กดแค่สกิลการลงทรัฑ์แห่งแสงแล้วรีบเปลี่ยนตัว เพื่อทำเวลาในแมพที่มีเวลาจำกัดก็ได้ครับ

มินบยองกู สกิล

Content ที่เหมาะกับตัวละครนี้

เป็นอีกหนึ่งตัวที่ไปได้ทุก Content เลยเพราะสกิลของเค้าค่อนข้งาจะครบเครื่องและจบในตัวละครเดียว ซึ่งถ้าหากว่าสังเกตุดูในโหมดทำเวลาต่าง ๆ ตัวละครนี้ก็จะเห็นได้ในแทบทุกทีมที่ติดอันดับเลย

จุดคุ้มในการปลดดาว

ตัวละครนี้แค่ 0 ดาวก็ค่อนข้างจะเก่งแล้ว แต่ถ้าหากว่าทำได้เราสามารถเลื่อนเป็น 1 ดาวเพื่อให้ได้บัฟที่มีประสิทธิภาพขึ้น และรอเอาไปใช้คู่กับตัวละคร DPS แสงในอนคตได้ ซึ่งดาวที่มากกว่า 1 ส่วนมากจะเป็นการบัฟเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้ไม่จำเป็นต้องรีบทำดาวขนาดนั้นก็ได้ครับ แต่ถ้าหากว่าสามารถปลดได้ก็จะทำให้เล่นได้ง่ายขึ้นบางส่วนเฉย ๆ แต่ถ้าจะเอาคุ้มที่สุดและเห็นผลสุดเลย ส่วนตัวผมมองว่าอยู่ที่ 1 ดาว

สรุป

มินบยองกูเป็นซัพพอร์ตที่ควรหามาติดทีมเอาไว้สักตัวนึงเนื่อจากตัวนี้เป็นตัวละครที่มีความสามารถครบเครื่องมากและสามารถทำหน้าที่ได้หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นตัวที่ค่อนข้างจำเป็นในการเอาไปใช้ทำเวลาในโหมดแข่งขันด้วยครับ ด้วยดีบัฟที่สามารถทำให้มอนสเตอร์ได้รับดาเมจมากขึ้น และยังมีบัฟที่เอาไว้ช่วยทีมอีกต่างหาก จัดว่าเป็นตัวที่หากทำได้ควรจะมีเก็บเอาไว้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม จนกว่าในอนาคตจะมีตัวที่ดีกว่านี้เข้ามา ซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะนึง

RELATED ARTICLES

Most Popular

Recent Comments