หนึ่งในความเป็น Monster Hunter นั้นก็คงไม่พ้นการจบเนื้อเรื่องแล้วยังมีอะไรให้ฟาร์มต่อกันอย่างยาวนาน ซึ่งสำหรับตัว Monster Hunter World: Iceborne นี้ก็จะเป็นเจ้า Guiding Land ที่มาแทนการฟาร์มเพชรและ Augment แบบเดิมๆ กันไปเลยจ้า เจ้าระบบนี้มีอะไรบ้างมาทำความเข้าใจกันดีกว่า
Guiding Land
เพื่อนๆ จะเข้าเล่นใน Guiding Land ได้หลังจากที่จบเนื้อเรื่องแล้วเท่านั้น เมื่อดูฉากจบแล้ว จะมีการเรียกจากผู้การน้อยให้ไปตามรอยเจ้า Nergigante ต่อ ให้รับเควสแล้วไปลุยได้เลยจ้า ตรงนี้ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก เพราะเป็นการเปิดตัวแผนที่ใหม่เฉยๆ ก็จะมีฉากสวยๆ ให้เราได้ดูกันอย่างเพลิดเพลิน หลังจากนั้นเราจะได้เดินสำรวจต่อเล็กน้อย ตามด้วย Cut Scene สนุกๆ กันต่อ
ใน Guiding Land นั้นจะมีลักษณะที่น่าสนใจดังนี้
- เป็น Expedition หมายถึงตายได้ไม่จำกัดครั้งไม่มี Fail
- มอนสเตอร์จะสามารถหนีออกนอกแผนที่ได้ถ้าเราไม่ไปตีมันนานๆ (แต่ใน Guiding Land ถ้าเราไปตีมันจะเพิ่มเวลาก่อนหนีให้อีกพักนึง)
- แผนที่เดียวแต่แยก Area ต่างๆ ตามแผนที่อื่นในเกม แผนที่ละ 2-3 Area ทำให้มีทั้งภูมิประเทศแบบ Ancient Forest, Wildspire Waste, Coral Highland ต่างๆ รวมในแผนที่เดียวกันหมด เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินต่างๆ
- มอนสเตอร์ในนี้จะโจมตีแรงกว่าปกติรวมถึงดรอปไอเทมที่ใช้ในการ Augment อาวุธหรือชุดเกราะต่างๆ แทน
- มีระบบเลเวลของแต่ละพื้นที่ เพื่อใช้ในการปลดล๊อคมอนสเตอร์ใหม่ๆ
- มีระบบการล่อมอนสเตอร์
- แร่และกระดูกจะเป็นลักษณะเฉพาะของแผนที่นี้
ไอเทมที่ได้จาก Guiding Land
มอนสเตอร์ในแผนที่นี้จะดรอปไอเทมเฉพาะตัวของตัวเองทั้งเวอร์ชั่นปกติและเวอร์ชั่นม่วง (Tempered) เช่น Rathalos จะดรอป King Scale ลงมา ซึ่งไอเทมเหล่านี้จะใช้ในการอัพเกรดอาวุธ, เครื่องราง หรือ Augment ชุดเกราะ, อาวุธต่างๆ และจะไม่มีดรอปที่อื่นนอกจากในแผนที่นี้
เพื่อนๆ จะได้ไอเทมจากการฆ่า, จับ เป็นรอง วิธีหลักจะเป็นการโจมตีจนมอนสเตอร์ชะงัก, ทำลายชิ้นส่วน หรือจับ Flinch Shot โขกกำแพงน๊อคลงไป โดยจะดรอปมาเป็นไอเทมให้เก็บที่พื้นแทน กว่ามอนสเตอร์ตัวนึงจะตายหรือจับได้นั้น จะมีไอเทมหล่นมาให้เก็บเยอะเลยทีเดียวล่ะ
TIP : อาจจะเป็นบัคของตัวเกม แต่การมีสกิล Geology ติดตัวเลเวลใดก็ได้ จะทำให้เก็บไอเทมดังกล่าวได้จุดละ 2 ชิ้นแทนที่จะเป็นชิ้นเดียว (ยกเว้นบางตัวเช่น Kulu-Yaku) ขอแนะนำให้ชุดที่จัดลงแผนที่นี้มีสกิลนี้ติดตัวด้วย
คำเตือน : ไอเทมถ้าปล่อยไว้ซักพักจะหายไป ไม่ต้องรีบร้อนโฟกัสไปที่การกำจัดมอนสเตอร์ หากไอเทมหล่นมากๆ ควรกะจังหวะไล่เก็บหรือบอกเพื่อนในทีมให้หาจังหวะเก็บเสมอๆ
ระบบล่อมอนสเตอร์
ในขณะที่เพื่อนๆ เล่นใน Guiding Land นั้น ทางขวามือจะมีการขึ้น Process พร้อมกับสายพันธุ์ของมอนสเตอร์ต่างๆ เป็นระยะอยู่เสมอ เจ้าแถบนี้จะได้รับจากการทำลายชิ้นส่วน, ฆ่า, จับ มอนสเตอร์ต่างๆ เมื่อแถบนี้เต็ม เพื่อนๆ จะได้รับเหยื่อล่อมอนสเตอร์ (Lure) มาใช้งาน โดยจะมีการบอกว่าได้รับตัวอะไรของสายพันธุ์นั้นๆ (สุ่มได้)
TIP : กรณีของมอนสเตอร์ม่วง (Tempered) เมื่อจัดการได้จะได้แถบนี้เต็มทันทีถ้ามีอยู่แล้ว หรือถ้าไม่มีจะเด้งขึ้นมาเต็มเลยทีเดียว
TIP : การตัดหางและแล่หางสำเร็จ จะมีผลเหมือนจัดการมอนสเตอร์ได้เช่นกัน รวมถึงโบนัสแบบตัวม่วงด้วย
การใช้งานเหยื่อล่อนั้น เพื่อนๆ จะต้องเก็บเกจให้เต็มครั้งหนึ่งก่อน คู่หูเราจะส่งข้อความบอกว่าสามารถล่อมอนสเตอร์ได้แล้ว อย่างไรก็ดีคำสั่งนี้จะใช้ได้เมื่อเพื่อนๆ ยังไม่ได้จัดการมอนสเตอร์ หากเพื่อนๆ ฆ่าหรือจับมอนสเตอร์ได้แล้ว จะต้องเลือกรายงาน (Report Investigation) กับคู่หูของเราก่อน คำสั่ง Lure Monster จะใช้ได้ และปรากฎเป็นหน้าจอสำหรับเลือกมอนสเตอร์ออกมา
เพื่อนๆ สามารถเลือกมอนสเตอร์ที่มีเหยื่อล่อออกมาในพื้นที่ที่กำหนดได้ หากมอนสเตอร์ตัวนั้นมีพื้นเพมาจากถิ่นนั้นๆ เช่น Pink Rathian สามารถเรียกออกมาที่ Coral Highland หรือ Wildspire Waste ก็ได้ แต่ในขณะที่ Kirin จะเรียกออกมาได้แค่ที่ Coral Highland เท่านั้น
เมื่อเรียกออกมาแล้ว มอนสเตอร์ตัวเก่าก็จะถูกแทนที่ด้วยตัวใหม่ (ใช้เวลาไม่นานมาก) แน่นอนว่าตัวไหนที่มีอยู่แล้วในแผนที่จะไม่สามารถเรียกเพิ่มได้นะจ๊ะ
ระบบเลเวลของพื้นที่
ระบบนี้น่าจะเป็นระบบที่วุ่นวายที่สุดสำหรับเพื่อนๆ แล้ว พื้นที่แต่ละเขตจะมีเลเวลของมันอยู่ การกระทำต่างๆ ที่ทำให้ได้รับแต้มวิจัย (Research Point) จะส่งผลกับเลเวลของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรอย, การทำลายชิ้นส่วน, ฆ่า, จับ จะทำให้หลอดเลเวลขยับทั้งสิ้น โดยจะได้ของพื้นที่ไหน ก็จะขึ้นกับว่า มอนสเตอร์ตัวนั้นมีจุดกำเนิดที่ใด และเราไปสู้กับมันที่ไหน ก็จะทำให้ได้รับเลเวลของพื้นที่นั้น แต่ในเวลาเดียวกัน ก็จะลดเลเวลของพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องลงไปด้วย
เช่น Pink Rathian มีถิ่นที่ Coral Highland และ Wildspire Waste ในตอนนี้มันเกิดที่ Wildspire Waste และเพื่อนๆ ทำการต่อสู้ ทำลายชิ้นส่วนจนเอาชนะ จับมันได้ที่นั่น เมื่อรายงานกับคู่หู ผลที่เกิดขึ้นคือ เลเวลของ Wildspire Waste จะเพิ่มขึ้นมาก (เพราะสู้และจับที่นั่น) ส่วนของ Coral Highland จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ Ancient Forest, Rotten Vale จะลดลงพอประมาณ
มอนสเตอร์ที่มีถิ่นกำเนิดจุดเดียวนั้น จะให้เลเวลของพื้นที่นั้นๆ สูงมาก และก็จะลดเลเวลของพื้นที่อื่นเล็กน้อย ในขณะที่มอนสเตอร์ที่มีสองถิ่น จะเพิ่มสองถิ่นและลดสองถิ่นลงพอประมาณ ส่วนมอนสเตอร์ที่อยู่ได้ทุกที่เช่น Velkhana นั้น จะเพิ่มทุกพื้นที่เล็กน้อย (จะเห็นผลได้มากถ้าเลเวลพื้นที่ยังต่ำอยู่)
เลเวลของพื้นที่นี้จะเป็นตัวกำหนดว่า ตัวเกมจะสุ่มมอนสเตอร์อะไรออกมาบ้างในแผนที่ของเพื่อนๆ เช่นในขณะที่ Ancient Forest เลเวล 1 เพื่อนๆ จะได้เจอแค่ Great Jagra, Pukei-Pukei, Tobi-Kadachi อะไรทำนองนี้ แต่พอ Ancent Forest เลเวลสูงขึ้นไปซัก 4-5 จะเริ่มเจอ Rathalos, Azure Rathalos หรืออาจจะเจอตัวม่วงอย่าง Tempered Tobi-Kadachi จนกระทั่งเลเวล 7 ที่เป็นระดับสูงสุด เพื่อนๆ จะเจอแต่พวก Tempered เดินกันดุ่มๆ รวมถึง Tempered Kushala Daora อีกด้วย
เลเวลนั้นจะมีขีดจำกัดไล่ตามลำดับ Master Rank ของเพื่อนๆ ดังนี้
Master Rank | Guiding Land | เงื่อนไข |
20-49 | สูงสุดที่เลเวล 4 | ผ่านเนื้อเรื่อง Iceborne |
50-69 | สูงสุดที่เลเวล 5 | ปลดล๊อค Master Rank เควส Sleep Now in the Fire |
70-99 | สูงสุดที่เลเวล 6 | ปลดล๊อค Master Rank เควส Big Burly Bash |
100+ | สูงสุดที่เลเวล 7 | ปลดล๊อค Master Rank เควส To the Very End with You |
สิ่งที่อยากให้เพื่อนๆ ทราบก่อนคือ ในด้านการปฎิบัติทั่วไปแล้ว เราไม่สามารถทำให้ทุกพื้นที่มีเลเวลเต็มได้ โดยมากนั้นจะทำให้เต็มได้เพียง 2-3 พื้นที่เท่านั้น การเลือกเก็บเลเวลพื้นที่ไหนก่อน หรือตกลงกับเพื่อนที่เล่นด้วยการแยกย้ายพื้นที่กันเก็บ จะช่วยให้สามารถเข้าถึงมอนสเตอร์ต่างๆ ในเกมได้ง่ายขึ้นมาก
TIP : ใน patch ปัจจุบันเลเวลรวมจะเต็มที่ประมาณ 27 เท่านั้น (เช่น 7-7-7-4-1-1 / 1-7-7-1-7-4) อาจจะมีเกินได้เล็กน้อยตามจำนวนมอนที่ตีไปหลายร้อยตัว
TIP : เพื่อนๆ สามารถเพิ่มแคปเลเวลดังกล่าวได้ด้วยการตีมอนม่วงระดับ T2-3 ไปเรื่อยๆ ประมาณ 400-500 ตัวต่อเลเวล (เหวอ)
การไปแจม Guiding Land ของคนอื่นนั้น ตัวแผนที่จะอ้างอิงจากเจ้าของเควสเป็นหลัก แต่ว่าการเก็บเลเวลนั้นจะส่งผลของแต่ละคนแยกกันไป เช่น A มี Coral Level 7 เป็นคนสร้าง ส่วน B ผู้มาร่วมแจมมี Coral Level 1 และ Forest Level 7 หากในเควสทำการตีแต่ Kirin ผลที่เกิดขึ้นคือ A ไม่ได้รับผลอะไร ส่วน B จะมีเลเวลของ Coral เพิ่มขึ้น และ Forest ลดลง ในทางกลับกันก็เช่นกัน หากทำการตีแต่ Diablos ทั้งคู่จะได้เลเวลของ Wildspire เพิ่มขึ้น แต่โดนลด Coral / Forest ลง เพื่อนๆ สามารถดูได้ว่ามอนสเตอร์ตัวไหนมีถิ่นที่ไหนได้จากตารางด้านล่างจ้า
มอนสเตอร์หลายๆ ตัวนั้นจะมีเงื่อนไขการพบเจอที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
มอนสเตอร์ | พื้นที่ / เงื่อนไข |
Zinogre | ผ่านการวิจัย Fanged Wywern ตัวแรกสุด |
Yian Garuga | Ancient Forest เลเวล 3 + รับเควสให้จัดการ Yian Garuga จากผู้การน้อย |
Scarred Yian Garuga | Ancient Forest เลเวล 6 (หรือใช้ Lure เรียก Yian Garuga เมื่อเลเวล 6-7) |
Brute Tigrex | Rotten Vale เลเวล 6 |
Gold Rathian | Wildspire Waste, Volcanic เลเวล 6 |
Silver Rathalos | Coral Highland, Volcanic เลเวล 6 |
Ruiner Nergigante | พื้นที่ใดก็ได้ เลเวล 5 + Master Rank 99 และผ่านเควสปลดล๊อค MR แล้ว |
Rajang | ผ่าน Special Assignment จากนั้นจะสุ่มปรากฎตัวในพื้นที่ที่มีเลเวล 4 หรือ Volcanic เลเวล 3 |
Stygian Zinogre | ผ่าน Special Assignment จากนั้นจะสุ่มปรากฎตัวในพื้นที่ Tundra |
โดยมอนสเตอร์ที่ผ่านการปลดล๊อคแล้ว จะทำการสุ่มเกิดในพื้นที่นั้นๆ เมื่อมีเลเวลถึงที่กำหนด ทำให้บางครั้งหรือหลายครั้งอาจจะยังไม่เจอตัวเพราะมีมอนสเตอร์สูงสุดได้แค่ 3 ตัวในแผนที่เท่านั้น (หากมี Elder Dragon เกิด จะเหลือแค่ 2 ตัว) หากเพื่อนๆ ต้องการหาให้เจอตัวไวๆ ก็สามารถใช้เหยื่อล่อออกมาได้ หรือจะใช้วิธีวนไปยังแผนที่อื่นไปมาจนกว่าจะเจอตัวขึ้นมาใน Guiding Land ก็ได้
ตารางถิ่นของมอนสเตอร์ต่างๆ และของที่ได้
Great Jagras |
|
||||||
(T1) Tobi Kadachi |
|
||||||
(T1.5) Rathalos |
|
||||||
(T2) Azure Rathalos |
|
||||||
Yian Garuga (ไม่มีเวอร์ชั่น Tempered) |
|
||||||
T2 – Scarred Yian Garuga (ไม่มีเวอร์ชั่นปกติ) |
|
||||||
(T3) Kushal Daora |
|
||||||
Kulu-Ya-Ku |
|
||||||
(T1) Barroth |
|
||||||
(T1.5) Diablo |
|
||||||
(T2) Black Diablos |
|
||||||
(T3) Teostra |
|
||||||
(T3) Lunastra |
|
||||||
(T3) Gold Rathian |
|
||||||
Tzitzi-Ya-Ku |
|
||||||
(T1) Paolumu |
|
||||||
(T1.5) Coral Pukei-Pukei |
|
||||||
(T1.5) Legiana |
|
||||||
(T3) Kirin |
|
||||||
(T3) Namielle |
|
||||||
(T3) Silver Rathalos |
|
||||||
Great Girros |
|
||||||
(T1) Radobaan |
|
||||||
(T2) Acidic Glavenus |
|
||||||
(T3) Blackveil Vaal Hazak |
|
||||||
(T2) Brute Tigrex |
|
||||||
Dodogama |
|
||||||
(T1) Lavasioth |
|
||||||
(T1.5) Uragaan |
|
||||||
(T2) Brachydios |
|
||||||
(T3) Seething Bazelgeuse |
|
||||||
(T1) Viper Tobi-Kadachi |
|
||||||
(T1.5) Barioth |
|
||||||
(T2) Shrieking Legiana |
|
||||||
(T3) Stygian Zinogre |
|
||||||
(T1) Pukei-Pukei |
|
||||||
(T1) Anjanath |
|
||||||
(T1) Rathian |
|
||||||
(T1) Nightshade Paolumu |
|
||||||
(T2) Glavenus |
|
||||||
(T2) Nargacuga |
|
||||||
(T2) Zinogre |
|
||||||
(T1.5) Pink Rathian |
|
||||||
(T1.5) Odogaron |
|
||||||
(T2) Tigrex |
|
||||||
(T1) Banbaro |
|
||||||
(T1.5) Fulgur Anjanath |
|
||||||
(T2) Ebony Odogaron |
|
||||||
(T3) Savage Deviljho |
|
||||||
(T3) Velkhana |
|
||||||
Ruiner Nergigante |
|
||||||
(T3) Rajang |
|
นอกจากนี้แล้ว เลเวลของพื้นที่ยังส่งผลต่อการเจอมอนสเตอร์ในถิ่นนั้นแบบตัวม่วงอีกด้วย
เลเวลของพื้นที่ | ระดับของตัวม่วง |
เลเวล 4 | ตัวม่วง Threat 1 (เช่น Tobi-Kadachi, Rathian, Lavasioth) |
เลเวล 5 | ตัวม่วง Threat 1.5 (เช่น Coral Pukei, Uragaan, Rathalos) |
เลเวล 6 | ตัวม่วง Threat 2 (เช่น Azure Rathalos, Black Diablos, Zinogre) |
เลเวล 7 | ตัวม่วง Threat 3 (เช่น Elder Dragon) |
*โบนัสพิเศษสำหรับพื้นที่ไหนที่มีเลเวล 7 จะทำให้การล่อมอนสเตอร์มาที่พื้นที่นั้นการันตีเป็นตัวม่วงอย่างแน่นอน*
อย่างไรก็ตามมีมอนสเตอร์ที่เป็นข้อยกเว้นดังนี้
- Rajang : ตัวม่วงเกิดเฉพาะที่ Volcanic
- Gold Rathian : ตัวม่วงเกิดเฉพาะที่ Wildspire Waste
- Silver Rathalos : ตัวม่วงเกิดเฉพาะที่ Coral Highland
- Ruiner Nergigante : ตัวม่วงเกิดที่ Tundra 100% ถ้าเป็นพื้นที่อื่นมีโอกาสเกิด 50%
Fix / Adjust Region Level
ระบบนี้จะเป็นของแถมที่ช่วยให้เพื่อนๆ ดูแลจัดการพื้นที่ได้ง่ายขึ้น โดย Fix Region Level จะเป็นคำสั่งที่ใช้ล๊อคไม่ให้เลเวลของแต่ละพื้นที่มีการขยับเพิ่มขึ้นหรือลดลงจนกว่าจะปลดล๊อค ไม่ว่าเพื่อนๆ จะฟาร์มตาเหลือกแค่ไหนก็ตาม เหมาะสำหรับการล๊อคพื้นที่ไว้และไปแจมของคนอื่นเป็นอย่างมาก
ส่วน Adjust Region Level หรือที่เรียกว่าลดเลเวลนั้น จะช่วยในการลดเลเวลพื้นที่ที่ไม่ต้องการ ทำให้เพื่อนๆ เก็บพื้นที่ที่ต้องการได้สะดวกขึ้น เนื่องจากตัวเกมจะมีการกำหนดเลเวลรวมทั้งหมดเอาไว้ไม่ให้บวกกันแล้วได้เกินที่กำหนด รวมถึงยิ่งเลเวลพื้นที่ยิ่งสูง เวลาโดนลดจะลดค่อนข้างมากและส่งผลต่อพื้นที่อื่นๆ ด้วย การใช้คำสั่งนี้ลดพื้นที่ที่ไม่อยากเก็บเลเวลแล้ว จะช่วยให้บริหารเลเวลโดยรวมของพื้นที่ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
อนึ่ง เพื่อนๆ ไม่สามารถ Adjust Region ได้หากสั่ง Fix ไว้อยู่ และไม่สามารถเพิ่มเลเวลได้ด้วยคำสั่ง Adjust นะจ๊ะ ลดได้อย่างเดียว ไม่เข้าใจว่าทำไมใช้คำว่า Adjust (ปรับแต่ง) เหมือนกัน ฮา
การขุดหากระดูกและแร่ต่างๆ
จุดที่แปลกไปอีกอย่างของตัว Guiding Land นั้นคือ ส่วนของสินแร่และกระดูกจะเป็นลักษณะเฉพาะของแผนที่นี้ โดยในแต่ละพื้นที่ จะมีอยู่สองเขตที่สามารถขุดแร่หรือกระดูกได้ และมีหลักการดังนี้
- ตัวจุดเกิดของแร่และกระดูกจะมีตำแหน่งตายตัว
- การเกิดแร่และกระดูกจะสุ่มเกิด ของใครของมัน คนนึงอาจจะเห็นอีกคนอาจจะไม่เห็น
- เลเวลของแร่และกระดูกไม่เกี่ยวกับเลเวลของพื้นที่และมีเลเวลของตัวเอง
- เลเวลของแร่และกระดูกจะอ้างอิงจากเจ้าของ Guiding Land (เช่นไป join คนที่เป็นสีแดง ในขณะที่ตัวเองเป็นสีเหลือง จะเห็นแร่เป็นสีแดง และอัพเดทตามนั้น)
- เมื่อเลเวลเต็ม จะรีเซ็ทกลับไปที่สีเหลือง (1 ใน 4) พร้อมกับมีแจ้งเตือนว่ามีจุดขุดขนาดใหญ่ (Giant Outcrop) เกิดขึ้น
- จุดขุดขนาดใหญ่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่หายไปจนกว่าจะไปขุด
- จุดขุดขนาดใหญ่จะการันตีได้แร่หรือกระดูกระดับสูงสุด 1 ชิ้นเท่านั้น
การขุดแร่หรือกระดูก จะค่อยๆ เพิ่มเลเวลของแร่หรือกระดูกไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจาก 0 (สีขาว) เป็นสีเหลือง สีส้ม และสีแดงรวมถึงกระดูกและแร่ชนิดนั้นๆ ที่เราเจอในพื้นที่นั้นก็จะมีขนาดใหญ่ เด่นชัดมากขึ้นเป็นเงาตามตัวไป ยิ่งแร่และกระดูกเหล่านี้เลเวลสูงเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสเก็บแล้วได้ของที่มีระดับสูงขึ้นเท่านั้น
หลังจากที่เลเวลเต็มหลอดนั้น จะปรากฎข้อความ Giant Outcrop ขึ้นทางขวามือ (รวมถึงมีการแจ้งเตือนว่ามีปรากฎขึ้นมาตอนจบในพื้นที่ไหนด้วยถ้าลืมไปเก็บ) ซึ่งเมื่อ Giant Outcrop ปรากฎขึ้นมา หลอดเลเวลของแร่หรือกระดูกในพื้นที่นั้นจะเด้งกลับไปที่ 1/4 (สีเหลือง) อีกครั้งหนึ่ง รวมถึงสภาพหน้าตาของแร่และกระดูกที่เกิดใหม่หลังจากนั้นจะมีขนาดหดลงไปด้วย (ฮา) ….. แต่ถ้าอันไหนที่เกิดก่อน Giant Outcrop ปรากฎขึ้นมา จะยังมีขนาดไซส์เดิมนะเอ้อ
พื้นที่ | แร่ที่ได้ | กระดูกที่ได้ |
Ancient Forest | Decayed Crystal | Mossy Greatbone |
Forest Crystal | Woodland Greatbone | |
Prosperous Crystal | Slumbering Greatbone | |
Guiding Forest Crystal | Guiding Forest Dragonbone | |
Wildspire Waste | Crack Crystal | Weathered Cragbone |
Wasteland Crystal | Wasteland Cragbone | |
Serene Crystal | Tempered Cragbone | |
Guiding Wasteland Crystal | Guiding Wasteland Dragonbone | |
Coral Highland | Pale Crystal | Vivid Crimsonbone |
Reef Crystal | Coral Crimsonbone | |
Deepsea Crystal | Vibrant Crimsonbone | |
Guiding Reef Crystal | Guiding Reef Dragonbone | |
Rotten Vale | Distorted Crystal | Malformed Frenzybone |
Effluvial Crystal | Effluvial Frenzybone | |
Twilight Crystal | Afflicted Frenzybone | |
Guiding Effluvial Crystal | Guiding Rotten Dragonbone | |
Volcanic | Melted Crystal | Simmering Wildbone |
Magma Crystal | Volcanic Wildbone | |
Hellfire Crystal | Dragonscorched Wildbone | |
Guiding Magma Crystal | Guiding Volcanic Dragonbone | |
Tundra | Frozen Crystal | Hoary Icebone |
Rime Crystal | Tundra Icebone | |
Daybreak Crystal | Everfrost Icebone | |
Guiding Rime Crystal | Guiding Tundra Dragonbone |
ในการขุดแร่จะมีโอกาสได้เชื้อเพลิงของ [ Steamwork ] ด้วยดังนี้
- Dragonvein Shard (20 แต้ม)
- Dragonvein Coal (100 แต้ม)
- Dragonvein Coal Chunk (500 แต้ม)
ส่วนการเก็บกระดูกจะมีโอกาสได้รับกระดูกที่เป็นแต้ม Resource Point (แต้มเขียว) ดังนี้
- Crystalized Bone Shard (100p)
- Crystalized Monster Bone (250p)
- Crystalized Elder Dragon Bone (700p)
โดยโอกาสได้จะขึ้นกับระดับของแร่และกระดูกนั้นๆ ยิ่งระดับสูงก็จะมีโอกาสได้ของระดับสูงเยอะขึ้นเช่นเดียวกับแร่และกระดูกทั่วไปที่จะได้ด้วย
แถมท้าย ต. ตุ่น
สุดท้ายนี้ ใน Guiding Land ยังมี Endemic Life หรือสัตว์เลี้ยงที่จับได้เฉพาะของที่นี่อีกด้วย มันคือเจ้า Moly หรือตัวตุ่นนั่นเอง เจ้าตุ่นนี้จัดเป็นสัตว์หายาก และยังมีเวอร์ชั่นแรร์ของมันในแต่ละพื้นที่อีกด้วย รวมแล้วก็มีดังนี้
- Moly – ตุ่นธรรมดาๆ
- Mossy Moly – ตุ่นป่า เกิดเฉพาะเมื่อมี Ancient Forest Level 5 ขึ้นไป
- Rocky Moly – ตุ่นหิน เกิดเฉพาะเมื่อมี Wildspire Waste Level 5 ขึ้นไป
- Fluffy Moly – ตุ่นฟูๆ เกิดเฉพาะเมื่อมี Coral Highland Level 5 ขึ้นไป
- Spiny Moly – ตุ่นหนาม เกิดเฉพาะเมื่อมี Rotten Vale Level 5 ขึ้นไป
- Rowdy Molly – ตุ่นร๊อคไฟ เกิดเฉพาะเมื่อมี Volcanic Level 5 ขึ้นไป
- Frosty Molly – ตุ่นหนาวหิมะ เกิดเฉพาะเมื่อมี Tundra Level 5 ขึ้นไป
เจ้าตุ่นพวกนี้จะมีจุดเกิดตายตัวอยู่ แต่โอกาสเกิดนั้นต่ำมาก และยังขี้ตกใจอีกด้วย แม้ว่าถ้าเข้าใกล้จะยังไม่หนี แต่จะผลุบๆ โผล่ๆ รัวๆ ทำให้จับได้ยาก หากจับพลาดพวกมันจะรีบมุดหนีไปทันที ดังนั้นหากต้องการจับตุ่นแนะนำให้เพื่อนๆ ใส่ Ghillie Mantle ไว้ด้วยจะดีกว่า
*คำเตือน : สำหรับ Frosty Moly หากในแผนที่มี Wulg อยู่ เพื่อนๆ จะต้องอเา Slinger ยิงใส่แล้วกำจัด Wulg จากพื้นที่แถวนั้นก่อน ไม่งั้นน้องตุ่นจะกลัวไม่กล้ามุดออกมาจากรูทำให้ไม่สามารถจับได้ ดังนั้นอย่าพึ่งรีบใส่ Ghillie Mantle ตอนเข้าพื้นที่ ให้เคลียร์ Wulg ให้เรียบร้อยก่อนค่อยใส่*
สำหรับทริคในการจับตุ่นนั้น ก็ขอแนะนำให้เพื่อนๆ กินข้าวแมวเอาสกิล Zoomaster เสียก่อน จากนั้นหากต้องการเจอตุ่นง่ายๆ ให้รอเวลาช่วงเช้ามืด/ใกล้ค่ำ ช่วงแสงสลัว จะเป็นช่วงที่ตุ่นมีอัตราเกิดสูงสุด (เวลาอื่นก็เจอได้แต่โอกาสเจอจะต่ำมากๆ แม้จะมีสกิล Zoomaster แล้ว) นอกจากนี้ตุ่นยังมีระยะเวลาเกิดใหม่ที่ค่อนข้างนาน หากเพื่อนๆ อยากฟาร์มตุ่น ก็แนะนำให้ออนตัวละครทิ้งไว้ใน Guiding Land จนกระทั่งเวลาในเกมเปลี่ยนจากช่วงเช้ามืด -> ใกล้ค่ำ หรือใกล้ค่ำ -> เช้ามืด แล้วออกล่า จะค่อนข้างมั่นใจได้ว่าจะเจอตุ่นแน่นอน (ทดลองด้วย Zoomaster เจอเกือบ 80% เลยทีเดียว)
สำหรับจุดเกิดของเหล่าตุ่นก็สามารถดูตามรูปได้เลยจ้า ขอขอบคุณทางช่อง ララ9hJQr3//3o มา ณ ที่นี้
สำหรับตัว Guiding Land นั้นโดยรวมก็จะมีประมาณนี้ ก็ขอให้เพื่อนๆ ออกล่ากันอย่างสนุกสนาน และระวังปุ๋ยระเบิดจนไม่ได้ฟาร์มของในสวนน้า (แต้มเควสจะนับทุกครั้งที่เพื่อนๆ ทำการกด Report กับคู่หูจ้า)