[Guide] 8 เรื่อง ควรรู้ก่อนเล่น Honkai : Star Rail

Honkai : Star Rail เป็นเกมจักลวาลใหม่ของซีรีย์ “Honkai” จากทางค่าย HoYoverse นั้นเอง โดยตัวเกมนำเสนอเกมเพลย์ฉบับใหม่เป็นเกมแนว Turn-base RPG ที่มีระบบเข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน ด้วยเอกลักษณ์ตัวละครดูน่ารัก หล่อ เข้ม ดุดันและสดใสตามฉบับของค่าย HoYoverse นั้นเอง หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจตัวเกม บทความนี้ได้รวบรวม 8 เรื่องควรรู้เอาไว้ให้แล้ว มีเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน

1. เนื้อเรื่องสุดเข้มและผองเพื่อนที่คุ้นเคยจากซีรีย์ Honkai

Honkai: Star Rail เป็นเกมใหม่ล่าสุดในซีรี่ย์ Honkai โดยจะมีเนื้อเรื่องแยกออกมาเป็นของตัวเอง ในเกมผู้เล่นจะรับบทเป็น “ตัวหลัก” คนหนึ่งได้รับพลังจากเมล็ดพันธุ์แห่งหายนะ Stellaron อยู่ในร่างกาย เดินทางบนรถไฟ Astral Express ไปกับกลุ่มผู้โดยสารที่อ้างว่าได้สืบทอดเจตจำนงของ “การบุกเบิก” เพื่อค้นหาสาเหตุต่างๆ ของพลังอันลี้ลับว่า ทำไมเหล่าผู้คนถึงอยากได้พลัง Stellaron นี้มาครอบครอง

ผู้เล่นจะได้พบกับตัวละครจากซีรีส์ “Honkai” ไม่ว่าจะเป็น Himeko / Bronya / Welt / Seele / Luocha (สันนิฐานกันว่าคือ Otto) และตัวละครใหม่จากภาคล่าสุด เพื่อร่วมมือกันแก้ไขความขัดแย้งที่มาจากการแย่งชิง “พลัง Stellaron” พร้อมทั้งไขความลับของพลังเหล่าว่ามีพลังการทำลายล้างมากน้อยเพียงใด

2. รายละเอียดเบื้องต้นภายในเกมที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย

เกมนี้เป็นเกมแนว Turn-base RPG พร้อมด้วยตัวละครในปาร์ตี้จำนวนมากสุดถึง 4 คน ดำเนินเรื่องไปพร้อมกับเนื้อเรื่องสุดเข้มตลอดการเดินทางผจญภัยด้วยโลกทัศน์ที่งดงามผสมผสานกับศิลปะสิ่งก่อสร้างทำให้ดูเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกของเกมเลย ภายในเกมมีรูปแบบการนำเสนอที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้เล่นใหม่สามารถเรียนรู้เกมเพลย์และรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว สำหรับรายละเอียดต่างๆ ที่ผู้เล่นควรรู้มีดังนี้

2.1 ค่าสถานะภายในเกม ในเกมจะแบ่งค่าสถานะหลักที่ควรรู้มีอยู่ 4 อย่างได้แก่

• HP ค่าพลังชีวิต
• ATK ค่าพลังโจมตี
• DEF ค่าพลังป้องกัน
• ความเร็ว หากมีค่านี้มาก เราจะได้เริ่มเล่นเทิร์นนั้นก่อนและยังเพิ่มจำนวนเทิร์นของเราด้วย

ส่วนเรื่องของค่าสถานะอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังต้านธาตุหรือต้านสถานะ จะเป็นค่าสถานะรองที่ได้มาจากการอัปเกรดและการใส่อุปกรณ์ต่างๆ

2.2 ธาตุ ตัวเกมจะมีธาตุอยู่ด้วยกัน 7 อย่าง จะมีสัญลักษณ์กำกับอยู่ในทุกตัวละครและของศัตรู หากผู้เล่นโจมตีด้วยธาตุนั้นจนหลอดสีขาวหมด ศัตรูก็จะเกิดสถานะตามธาตุนั้นดังตารางต่อไปนี้

2.2 ระบบกรวยแสง ระบบนี้เปรียบเสมือนหนังสือเล่มหนึ่สามารถใส่ได้แค่ 1 เล่มต่อหนึ่งตัวละคร ที่เพิ่มค่าสถานะพิเศษและความสามารถติดตัวให้กับตัวละครให้เลือก ใช้ตามสถานการณ์การต่อสู้หรือตำแหน่งต่างๆ ของตัวละคร สามารถเพิ่มเลเวลได้จากการนำหนังสือเล่มอื่นหรือใช้แบตเตอร์รี่มาทำการอัปเกรด หาได้จากการเปิด “การวาร์ป (การสุ่มกาชา)” หรือจะใช้แต้มแลกซื้อในเกมได้ จะอยู่ในหมวดของร้านค้า

2.3 ระบบจัดทีม ถ้าหากให้เรียกง่ายๆ คือเป็นส่วนของหน้าต่างการจัดปาร์ตี้ภายในเกม สามารถจัดรูปแบบได้สูงสุดจำนวน 6 แบบ เลือกสลับไปมาได้อย่างสะดวก เหมาะหยิบใช้ตามสถานการณ์หรือการสู้กับศัตรูในธาตุต่างๆ

2.4 ระบบ Fast travel และแผนที่ภายในเกม เกมนี้ได้ใส่ระบบแผนที่เข้ามาเพื่อให้ผู้เล่นได้รู้จุดภารกิจภายในเกม ทำให้เราเดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้อย่างสะดวก ผู้เล่นสามารถใช้ระบบ Fast travel ในการวาร์ปไปยังจุดต่างๆ ภายในเกมได้อีกด้วย โดยการกดที่รูปหินสีน้ำเงินตามแหล่งที่จะไปแล้วกดปุ่มเทเลพอร์ต เพียงเท่านี้ผู้เล่นก็สามารถไปยังสถานที่ที่ต้องการได้แล้ว

2.5 ศูนย์รวมการตั้งค่าในหน้าเดียว สำหรับผู้เล่นขี้ลืมหรือจำเมนูจุดต่างๆ ไม่ค่อยได้ สามารถกดปุ่ม “ไอคอนรูปโทรศัพท์” อยู่ทางซ้ายบนใกล้ส่วนของแผนที่ เป็นทางเข้าถึงจุดศูนย์รวมการตั้งค่าทั้งหมด ภายในเมนูจะประกอบด้วยการปรับแต่งตัวละครต่างๆ , การตั้งค่า , การสอนเล่นและเข้าร้านค้า มีให้เลือกใช้ได้อย่างสะดวก ถือว่าเป็นระบบที่ออกแบบมาได้ดีจนไม่ต้องไปกดปุ่มอื่นภายในจอหรือไปจำจุดเมนูต่างๆ บนหน้าจอมือถือหรือหน้าคอมพิวเตอร์เลย

3. กิจกรรมต่างๆ ภายในเกม

ผู้เล่นสามารถเดินทางสำรวจได้รอบแผนที่ได้อย่างอิสระ ทั้งชมวิว คุยกับ NPC หรือการสอบถามข้อมูลต่างๆ ของเมืองนั้น ทำให้โลกของเกมไม่ดูเงียบเหงาจนเกินไป ทั้งนี้ในช่วงดังกล่าวเรายังจำเป็นต้องรู้จุดของNPC ที่ยืนในแผนที่ด้วย เนื่องจากภายในเกมยังไม่มีการบอกจุด NPC แต่ละตัวว่าอยู่ที่ไหนบ้าง (อนาคตอาจจะเพิ่มขึ้นมาก็เป็นได้)

นอกจากในเกมให้เราได้สำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัวแล้ว ยังมีไอเทมให้เก็บตามพื้นด้วย มักจะซ่อนอยู่ในรูปแบบกล่องขยะ หีบสมบัติและการไขปริศนาตามแผนที่ตัวอย่างเช่น “ปริศนาการเดินให้ครบช่อง” โดยเราต้องเดินให้ครบช่องตามที่เขากำหนด ถือว่าเป็นปริศนาดูน่าสนใจและสนุกแบบใช่ได้เลยในเรื่องการแก้ปัญหา

4. ระบบการต่อสู้แบบ Turn-base RPG

ระบบการต่อสู้จะแบ่งเป็น 2 ช่วงได้แก่ ช่วงก่อนเริ่มต้นต่อสู้และช่วงเริ่มต่อสู้ มีดังนี้

4.1 ช่วงก่อนต่อสู้

ภายในเกมผู้เล่นจะพบกับศัตรูต่างๆ เดินไปมาและบางตัวหากผู้เล่นเข้าใกล้ ศัตรูจะเริ่มโจมตีเรา หลังจากนั้นจะเริ่มเทิร์นของศัตรูทันทีในเทิร์นแรก หากผู้เล่นโจมตีเริ่มทำการกดปุ่มโจมตีศัตรูก่อน ผู้เล่นจะเป็นฝ่ายเริ่มเทิร์นก่อน ดังนั้นเวลาเดินสำรวจทั่วไป อย่าลืมสังเกตศัตรูด้วยว่ากำลังเดินมาหาเราอยู่หรือป่าว

4.2 ช่วงเริ่มเทิร์นต่อสู้

ระบบการต่อสู้ของเกมจะเป็นรูปแบบ Turn-base RPG หากเรียกสั้นๆ คือระบบผลัดกันตีนี่เอง ระบบภายในเกมนั้นมีความเข้าใจง่ายทั้งในส่วนของการบังคับตัวละคร คำสั่งให้เลือกใช้งานและการเลือกเป้าหมายโจมตี แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากเกมอื่นนั้นก็คือ เรื่องการแพ้ทางของศัตรู เกมนี้ศัตรูจะแพ้ทางธาตุตามที่เราตีธาตุนั้น สามารถสังเกตได้จากไอคอนบนหลอดเลือดของศัตรู จะบอกว่าตัวไหนแพ้ทางธาตุอะไร

เมื่อเราโจมตีตรงตามธาตุแล้ว หลอดพลังสีขาวจะลดลง หากลดจนหมดหลอด ตัวศัตรูก็จะล้มลง 1 Turn และจะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นจากเราอีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับการตีบอสหรือการขัดจังหวะศัตรูเป็นอย่างดีเลย

สำหรับเกม Honkai Star Rail จะมีสกิลอัลติเมต (ท่าไม้ตาย) ไม่เหมือนเกมอื่นคือ สกิลอัลติเมต สามารถใช้ในเทิร์นไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นเราหรือศัตรู เราสามารถใช้เพื่อฆ่าศัตรูในเทิร์นนั้นได้เลยโดยไม่ต้องรอถึงเทิร์นของตัวละครนั้น เกจพลังของสกิลอัลติเมตจะได้จากการโจมตีศัตรูในแต่ละรอบ

เมื่อเกจสกิลเต็มหลอดสามารถใช้ท่าไม้ตายได้เลยแล้วยังสามารถใช้ร่วมกับตัวละครอื่นๆ ในปาร์ตี้แบบต่อกันได้อีกด้วย ถือว่าเป็นระบบที่น่าสนใจมากในการต่อ Combo ทำความเสียหายต่อเนื่องใน 1 เทิร์น

5. ตัวเกมมีระบบเร่ง Speed และระบบ Auto นะ

สำหรับผู้เล่นคนใดรู้สึกว่าเกมเพลย์มีความเร็วที่ช้า ในการร่ายแต่ละทีมีระยะเวลานาน เกมนี้มีปุ่มสำหรับเร่ง Speed เกมให้เร็วขึ้น 2 เท่าพร้อมกับพ่วงระบบ Auto Attack ที่ให้ AI เป็นคนเล่นเกมเพลย์เอง ทั้ง 2 ระบบนี้หากเปิดใช้พร้อมกันจะเหมาะสำหรับคนที่อยากจะฟาร์มแบบรวดเร็ว เก็บเลเวลไวๆ อีกด้วย เมนูดังกล่าจะอยู่ทางมุมขวาบนสุดของขอบจอ

• วงกลมสีแดง คือปุ่มเร่ง Speed เกม
• วงกลมสีขาว คือปุ่ม Auto Attack

6. เติมพลังชีวิตยังไง มี Game over ไหม?

หากใครรู้สึกกังวลว่าเกมนี้มี Game over ไหม ขอบอกได้เลยว่า “ไม่มี” หากผู้เล่นเกมนี้ตายในระหว่างการต่อสู้ ผู้เล่นจะถูกส่งไปยังจุด Checkpoint ของแผนที่และจะวนเรื่อยๆ จนผู้เล่นรู้สึกท้อแท้ใจไปเอง จุด Checkpoint จะมีลักษณะเป็นแท่นหินลอยได้สีน้ำเงินเรียกว่า (Anchor Energy) ผู้เล่นสามารถชุบตัวละครและเพิ่มพลังชีวิตให้เต็มหลอดได้อีกด้วย

แต่อย่ามัวเล่นแบบตายบ่อยๆ เพราะค่าพลังชีวิตของหินสีน้ำเงินจะลดลงตามจำนวน HP ที่ใช้ชุบและการเติมพลังให้กับตัวละคร ถ้าจะรอให้พลังชีวิตของหินเต็มอาจจะต้องใช้เวลา Cooldown ซักเล็กน้อยประมาณ 3 – 4 นาที ในช่วงแรก จะเพิ่มระยะเวลาขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวน Max HP ที่หายไป อยากให้ผู้เล่นระมัดระวังในส่วนนี้ด้วย ถ้าไม่ไหวให้ไปฟาร์มก่อน

หากผู้เล่นรู้สึกกังวลว่าไม่อยากใช้การฮีลของหินสีน้ำเงินไปมากกว่านี้ สามารถไปตั้งค่าได้ที่หินสีน้ำเงิน จะมีไอคอนรูปเฟือง ผู้เล่นสามารถไปตั้งค่าเปอร์เซ็นในการฮีลได้ เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการจำกัดทรัพยากรที่ใช้ไม่ให้สิ้นเปลืองและรอระยะเวลาฟื้นฟูนาน

7. ระบบร้านค้าและการชาสุ่มสุดคุ้ม

ระบบร้านค้าภายในเกมในช่วงทดสอบ Close beta ยังไม่มีมากนัก ไอเทมภายเกมในจะประกอบไปด้วยบัตรเพิ่ม EXP บัตรเพิ่มเลเวลสกิล ใบแลกตัวละครและคูปองสุ่มกาชาตัวละคร

ในส่วนของคูปองสุ่มกาชาตัวละคร ในเกมจะใช้คำว่า “การวาร์ป” ไอเทมดรอปจะประกอบด้วย กรวยเรืองแสง ตัวละครระดับ 4 ดาว และตัวละครระดับ 5 ดาว ในแต่สุ่มแต่ละครั้งจะกำกับด้วยว่า มีไอเทมชิ้นใดบ้าง ตัวละครใดบ้างภายในการวาร์ปแต่ละชนิด

สำหรับไอเทมส่วนมากที่ขายทั่วไปจะเป็นไอเทมที่ช่วยย่นระยะเวลาและอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเพิ่ม EXP บัตรเพิ่ม , เลเวลสกิล , วัตถุดิบในการคราฟของและใช้แลกตัวละครจากแต้มที่ได้จากการสุ่มกาชา

ส่วนความคุ้มค่าในการเติมเงิน ผมแนะนำว่าให้ซื้อในส่วนของการสุ่มกาชาตัวละครจะคุ้มมาก เพราะหากผู้เล่นได้ตัวละครใหม่ๆ แล้วจะได้ทักษะความสามารถใหม่ๆ ด้วย เช่น สกิลเพิ่มพลังชีวิตหรือท่าสกิล AOE ของแต่ละธาตุในช่วงแรก จะทำให้การสู้มอนเตอร์ในแต่ละครั้งใช้ระยะเวลาน้อยลงและทำให้การเล่นเกมสนุกขึ้น ถือว่าคุ้มแถมประหยัดเวลาไปมากขึ้นเลยทีเดียว

8. ภาพรวมและบรรยากาศจากที่ได้สัมผัส

เกม Honkai Star Rail นั้นเป็นการสร้างจักรวาลใหม่ของซีรีย์ Honkai พร้อมกับเปิดประสบการณ์เกมเพลย์ในรูปแบบใหม่ที่เป็นแบบ Turn-base RPG ถือว่าแปลกใหม่สำหรับเกมค่าย HoYoverse อยู่พอสมควร แต่ก็มีกิมมิคหรือระบบบางอย่างที่นำมาปรับใช้รวมกันจากเกมภาคก่อนและเกมรุ่นน้องอย่าง Genshin Impact เข้ามารวมอยู่ด้วย ทำให้เกมมีเอกลักษณ์หลายอย่างรวมกันได้อย่างลงตัว ทำให้ภาพรวมเวลาเล่นดูสนุก ไม่ยาก ไม่ง่ายจนเกินไป สามารถเข้าถึงได้ทั้งผู้เล่นหน้าใหม่และหน้าเก่า

ตัวเกมยังมาพร้อมกับเนื้อเรื่องสุดเข้มข้น น่าติดตาม ด้วยการดำเนินเรื่องเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มีเหตุมีผลอยู่ทุกการกระทำและความตลกในบางช่วงชวนให้ผู้เล่นได้รู้สึกกับเหตุการณ์นั้นจริงๆ ภาพรวมการนำเสนอในโลกของเกมที่ดูสวยงาม กราฟิก เสียง เอฟเฟคที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว ทำให้รู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกของเกม

สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือเรื่องการแสดงลักษณะนิสัยของตัวละคร ทำให้ผู้เล่นได้รับรู้อารมณ์ความรู้สึกของตัวละครนั้นอยู่ตลอดและยังทำให้ผู้เล่นรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครอีกด้วย

ภาพสวยๆ จากเกม

สำหรับเกมนี้ยังอยู่ในสถานะ Close Beta อยู่และยังไม่ประกาศวันเปิดตัว ผู้เล่นสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ในแฟนเพจ Facebook >>>Honkai:Star Rail <<< ตามลิงค์ที่แนปไว้ หากตัวเกมประกาศ Open beta แล้ว ทีมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

หากเพื่อนๆ ยังดูข้อมูลเกมอื่นๆ จากค่าย HoYoverse เพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ลิ้งก์นี้
https://playpost.gg/tag/mihoyo/