หลังจากที่ Raid – 001 ตะลุยเมทริกซ์ ได้เปิดให้เล่นในวันที่ 18 / 5 / 2561 ที่ผ่านมานั้นระยะเวลาก็ผ่านมาพอสมควรทำให้ปลดระดับที่ให้กัปตันได้ท้าทายขึ้นมาอีกขั้นนั้นก็คือ ความยากระดับ H และความยากระดับ M นั้นเอง ซึ่งในแต่ละระดับที่เพิ่มเข้ามานั้นมีด่านเพิ่มเข้ามาและความยากของศัตรูที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกันรายละเอียดมีดังนี้
** บทความนี้จะเพิ่มเติมส่วนที่ต่างไปจากในระดับปกติและด่านที่เพิ่มเข้ามาสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดด่านทั้งหมดในระดับปกติได้ที่นี้ https://playpost.gg/honkai-impact-3-matrix/ **
มิติเมทริกซ์ ระดับยาก [ H ]
มิติเมทริกซ์ ระดับยาก [ M ]
** แนะนำให้หาทีมไปกันสามคนจะดีที่สุดเพื่อการสื่อสารที่ดีและการวางแผนเลือกตัวละครให้เหมาะสมในแต่ละด่าน **
ด่านที่ 1 พื้นที่ฮงไก ( ระดับยาก H / M )
ศัตรูที่พบในระดับนี้จะเจอเหมือนเดิมแต่ความถึกของศัตรูที่สูงขึ้นอย่างมากแนะนำให้เลือก Valkyrie Bladestrike ติดทีมใช้ท่าไม้ตายให้บ่อยที่สุดก็เพียงพอที่จะสามารถผ่านด่านแรกไปได้
ด่านที่ 2 อีเล็คตรอนคลาวด์ ( ระดับยาก H / M )
ศัตรูไม่หนามากเท่ากับด่านแรกแต่พลังโจมตีของศัตรูก็ค่อนข้างทำให้เจ็บได้พอสมควรทั้งสองระดับ แนะนำให้หยิบ Divine Praye ไปคอยช่วยเพิ่มเลือดให้ทีมและช่วยหยุดเวลา หรือ Yamabuki Armor สร้างเกราะป้องกันให้กับทีมทำให้โดนดาเมจได้น้อยลง ในฉากที่สองจะต้องวิ่งไปยืนให้ครบ 3 จุดเกราะของศัตรูจึงจะเปิดออกแต่ในสองระดับนี้จุดเหยียบทั้ง 3 จุดจะไม่อยู่ใกล้กันแบบระดับปกติแต่จะแยกอยู่ซ้ายสุดของแมพ กลางแมพ และขวาสุดของแมพ ส่วนอื่นของนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม ในฉากสามยังต้องใช้ความเร็วในการรีบผ่านด่านก่อนเวลาเช่นเคย
ด่านที่ 3 กระสวยอวกาศ ( ระดับยาก H / M )
ศัตรูประเภทฮงไกที่เป็นพลังจิตทั้งหมดเช่นเคยแนะนำวาลคิเรียที่สามารถชง QTE รัวๆได้ศัตรูจะตายอย่างรวดเร็ว และคอยลากศัตรูให้เข้ามาใกล้กับหุ่น Eins เพื่อทำลายเกราะป้องกันของศัตรูให้สามารถโจมตีได้ บอสเลือดหนาไม่มากมีตัวดาเมจหนักๆ ไปด้วยใช้เวลาไม่นานก็กำจัดบอสทั้งสองตัวได้แล้ว
ด่านที่ 4 ควอนตัมเรโซแนนซ์ ( ระดับยาก H / M )
ภายในด่านนี้จะแบ่งเส้นทางเป็น 3 สายทางทั้งหมดจะแยกเป็น 3 ทางซ้าย จิต กลาง จักรกล และขวา ชีวภาพจะเป็นแบ่งทางแบบนี้เหมือนเดิมตลอดไม่มีเปลี่ยนฝั่งใดๆ เหมือนระดับปกติไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพียงแค่ศัตรูที่เจอจะถึกขึ้นมาตามระดับ ส่วนของบอสนั้นค่อนข้างเกราะหนามากและดาเมจที่เริ่มรุนแรงขึ้นควรหยิบตัวที่มีดาเมจมาจัดการจะดีที่สุดยิ่งยื้อนานจะยิ่งลำบากแถมสกิลการโจมตีของจิ้งจอกที่อลังการจนมองอะไรไม่เห็นเป็นอุปสรรคของการต่อสู้ที่สุด บอสทุกตัวในด่านจะเชื่อมสายเข้าหากันหากไม่ตายพร้อมกันระยะสั้นๆ จะพื้นกลับขึ้นมาเพื่อโจมตีใส่เราอีกครั้ง
ด่านที่ 5 สมการดิแรก ( ระดับยาก H / M )
ด่านที่น่าปวดหัวชวนร้องไห้ที่สุดของ Raid – 001 ตะลุยเมทริกซ์ ที่ลงผ่านแล้วจะไม่อยากกลับมาลงซ้ำอีก! ในช่วงแรกให้ปกป้องฐานเหมือนเดิมแต่ศัตรูจะถึกขึ้นพอสมควรแต่ไม่มากนัก สำหรับสองระดับนี้บอสม้าสุดปวดหัว ดาร์คซวยหยวน วาลคิเรียที่แนะนำสำหรับด่านนี้ที่จำเป็นคือ Divine Praye เพื่อคอยช่วยเพิ่มเลือดให้สามารถลุยกับบอสได้นานขึ้นปืนควรใส่ Artemis’ Guardian เพราะมีสกิล Time Lock เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของบอสให้อยู่นิ่งที่สุดจะได้สามารถโจมตีได้บ่อยครั้งขึ้น และตัวดาเมจสายจักรกลอย่าง Goushinnso Memento ( ยาเอะน้ำแข็ง ) , Scarlet Fusion เป็นต้น หรือจะเป็นสายชีวภาพที่ดาเมจเบิร์สได้หนักๆอย่าง Gyakushin Miko ก็ได้เช่นกัน เมื่อบอสตายต้องกำจัดดาบในฉากที่เหลืออยู่ทั้งหมดจึงจะผ่านด่านนี้
ด่านทางแยก แมวของชเรอดิงเจอร์ ( ระดับยาก M )
ในระดับยาก ( M ) นั้นจะต้องเล่นด่านทางแยกนี้ก่อนจึงจะเปิดทางไปสู่ด่าน RPC – 6626 ได้
ด่านนี้ไม่มีอะไรมากศัตรูค่อนข้างบางแต่ดาเมจหนัก ศัตรูจะเป็นร่างแยกเงาของฮิเมโกะมาต่อสู้กับเราและต้องเข้าจุดวาร์ปเพื่อตามหาให้ครบก็สามารถผ่านด่านไปได้อย่างง่ายได้ แนะนำให้ทำเควสเป้าหมายให้เสร็จก่อนค่อยจัดการจะดีที่สุด
ด่านที่ 6 RPC – 6626 ( ระดับยาก H / M )
บอสไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักมีเพียงแค่เลือดของบอสที่เยอะและถึกขึ้นนิดหน่อย แต่ดาเมจค่อนข้างรุนแรงหาวาลคิเรียที่ดาเมจหนักๆ ไปจัดการก็เพียงพอแล้ว
ด่านที่ 7 อิเล็กตรอนหลบหนี ( ระดับยาก H / M )
ด่านสุดท้ายเราจะต้องกำจัดศัตรูและรีบหนีไปทางออกให้เร็วที่สุดเนื่องจากหากเราช้าจะมีกำแพงไฟฟ้าไล่หลังมาหากโดนเข้าจะตายทันทีศัตรูในด่านนี้ทั้งสองระดับค่อนข้างบางสามารถผ่านไปได้สบายๆ
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH [-กลุ่มคนไทย-]
