เรียกได้ว่ากำลังมาแรงเลยทีเดียวกับเกม Harry Potter Wizard Unite ที่จะให้เราได้รับบทเป็นพ่อมดแม่มดออกไปลุยในโลกจริงๆ ซึ่งตัวเกมนี้เนี่ยจะอ้างอิงมาจากเกม Pokemon Go จากผลงานของค่าย Niantic เจ้าเดียวกันนั่นเองครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวกบเองก็ได้เคยเขียนรีวิวเอาไว้ก่อนแล้วหากใครสนใจดูรีวิวก็ไปชมได้ที่บทความเก่านะครับ สำหรับบทความนี้เราจะมาพูดกันถึงแนวทางการเล่นกันครับว่าควรจะต้องรู้อะไรบ้าง
เราต้องทำอะไรบ้างในเกม?
หลักๆ แล้วสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องทำก็คือการเข้าไปจัดการกับภัยพิบัติต่างๆ จากโลกเวทย์มนต์ที่หลุดมายังโลกมนุษย์ ซึ่งมันจะโผล่ออกมาเป็นไอค่อนสัญลักษณ์ต่างๆ โดยเมื่อเราจัดการเรียบร้อยแล้วเราจะส่งของหรืออะไรสักอย่างที่เจอกลับไปที่โลกเวทย์มนต์ได้ครับ
ทีนี้เมื่อเราส่งคืนของกลับไปมากๆ เราจะสามารถเก็บสะสมแต้มเพื่อปลดล็อคระดับเลเวลได้ ยิ่งเมื่อเราระดับเลเวลเยอะเราก็จะยิ่งได้ของมาอัพเลเวลทักษะมากขึ้นตามไปด้วย โดยจุดสนุกของเกมนี้คือมันมีความเป็น RPG มากครับ เราสามารถเลือกสายการเล่นได้ถึง 3 สายและแต่ละสายแพ้และชนะทางแตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่งก็แล้วแต่ผู้เล่นว่าอยากจะทำอะไรเป็นหลัก บางคนอาจจะอยากเล่นให้เลเวลตันหรืออัพสกิลทุกสาย แต่บางคนอาจจะสนุกกับเกมโดยการสะสมข้าวของต่าง และพบเจอกับตัวละครสำคัญในเรื่อง Harry Potter อันนี้ก็สนุกไปอีกแบบครับ เอาเป็นว่าเรารู้แกนหลักของเกมแล้วเราไปชมเทคนิคและสิ่งที่ควรรู้ในการเล่นเกมนี้กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง!
1.พลังงานในเกม Wizard Unite หาจากไหน?
ภายในเกม Harry Potter Wizard Unite จะไม่ฟื้นพลังงานให้เราอัตโนมัติแบบเกมอื่นๆ วิธีการฟื้นพลังงานเราสามารถทำได้โดยการเดินไปยังจุดสำคัญๆ ต่างๆ เพื่อเก็บหรือได้รับจากภารกิจเท่านั้น!! หมายความว่าเราจะนั่งๆ นอนๆ รอพลังงานเต็มแบบเกมอื่นๆ ไม่ได้นั่นเอง จริงๆ ก็มีอีกวิธีนึงคือเปย์เงินเข้าไปเลยเพื่อซื้อพลังงานก็ได้เหมือนกันครับ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็เดินเอาสักนิดเถอะนะไหนๆ เกมก็ออกแบบมาให้เราเดินกันแล้ว สำหรับสิ่งปลูกสร้างมรอะไรบ้างเราจะพาไปดูในหัวข้อถัดไปครับ
2.สิ่งปลูกสร้างสำคัญมีอะไรบ้าง
สิ่งที่เราต้องทราบในการเล่นเกมนี้คือสิ่งปลูกสร้างภายในเกมครับ โดยสิ่งปลูกสร้างแต่ละอย่างเนี่ยก็จะมอบของให้เราแตกต่างกันไปออกไป ซึ่งสิ่งปลูกสร้างแต่ละอย่างจะมีดังนี้คือ
1.Inn(โรงแรม) : เมื่อเราอยู่ใกล้กับโรงแรมเราจะสามารถเข้าไปเพื่อรับพลังงานฟรีได้ จากอาหารที่โรงแรมเสริฟ นอกจากนี้เรายังสามารถใส่ Dark Detectors เข้าไปเพื่อเร่งในการเจเหตุการ์รต่างๆ มากขึ้น ซึ่งเราสามารถใส่ได้ 3 ชิ้น โดยช่วยกันกับเพื่อนใส่ได้ครับ
2.Greenhouse(เรือนเพาะปลูก) : ภายใน Greenhouse เราจะได้รับสมุนไพรในการผสมยาหรือบางครั้งอาจจะได้พลังงานมาด้วยครับ นอกจากนี้เรายังสามารถปลูกพืชไว้ใน Greenhouse ได้ด้วย โดยเราสามารถกลับมาเอาได้หลังจากที่มันโตแล้วครับ
3.Fortresses (ป้อม) : ป้อมจะมีลักษณะเป็นหอคอยใหญ่ๆ เรามักจะเจอในจุดสำคัญๆ ของเมือง ซึ่งเราจะสามารถรวมตัวกับเพื่อนมาทำภารกิจที่เรียกว่า Wizard Challenges ได้มากถึง 5 คน เรียกว่าเป็นแหล่งเก็บ EXP แบบชั้นดีมากๆ
3.แรกๆ เล่นยังไงดี?
อันนี้หลายคนอาจจะงงๆ หลังจากเราจบที่เรื่องเบาๆ กันไปแล้วสิ่งที่แนะนำเลยสำหรับผู้ที่พึ่งเล่นคือรีบเล่นให้เลเวล 6 ครับ เพราะเราจะสามารถปลด Professions หรือขอเรียกง่ายๆ ว่าอาชีพละกัน เพราะมันจะมีให้เราเลือกอยู่ 3 สายครับ เดี๋ยวขยายอีกที ทีนีั้ทำไงให้เวลไวๆ ก็ไม่ยากครับ พยามกดไอค่อนที่เจอให้หมด ถ้าอยู่ในเขตชุมชนเดินแปบๆ ก็เจอแล้ว มันก็จะมีภารกิจต่างๆ ให้เราทำ ส่วนมากก็ร่ายๆ เวทย์ก็จบ เพียงแต่แรกๆ อาจต้องหลีกเลี่ยงภารกิจที่ให้สู้ไปก่อนเพราะถ้าเรายังไม่ได้เรียนสกิลจะสู้ยากมากกกกกกกกกกก และเปลืองยาสุดๆ
ทีนี้พอเริ่มเวลอัพเราจะได้ยาที่ชื่อว่า Baruffio’s Braind Elixir มาผลคือมันจะทำให้เราได้ XP หรือค่าประสบการ์ณเป็น 2 เท่าชั่วระยะเวลานึง กดไปเลยไม่ต้องเสียดาย เดี๋ยวเวลเยอะๆ แล้วทำเพิ่มได้ แต่ควรกดตอนอยู่ในที่ๆ มีเสาเยอะๆ นะไม่งั้นอาจจะเจออีเว้นน้อยแล้วไม่คุ้ม
พอเล่นไปสักพักเลเวลเริ่มสูงแล้วแนะนำว่าให้ลองรวมตัวกับเพื่อนไปตี Wizard Challenges ที่หอคอยครับ เราจะได้ของคุ้มมากๆ แต่หากหาเพื่อนไม่ได้จริงๆ ก็ลุยเดี่ยวเลยก็พอได้แหละแต่อาจจะเปลืองยาไปสักหน่อย ซึ่งแรกๆ เราสามารถวนฟาร์มหาของหรือเก็บเวลที่ชั้น 1 – 2 ไปก่อน พอเวลมากก็ค่อยขยับก็ได้ครับ
นอกจากการเก็บเลเวลด้วยการทำภารกิจหรือตีหอแล้วอีกอย่างคือการเปิด Portkeys ครับ เราจะเก็บมันได้ตามจุดต่างๆ ของเกมแบบสุ่ม ทีนี้ถ้าเก็บได้แล้วเอากุญแจไข เมื่อเดินถึงระยะที่กำหนด(คล้ายๆ ไข่ใน Pokemon Go) เราจะสามารถเอารองเท้าไปวางในที่ว่างๆ เพื่อเดินเข้าไปเก็บของในพื้นที่พิเศษได้ (ก่อนจะเอารองเท้าวางได้ต้องหาจุดเวทย์มนต์ก่อนนะ) ทีนี้มีเทคนิคคือให้กด *2 ก่อนแล้วค่อยใช้ทีเดียวเยอะๆ ครับเพราะจะได้ XP เยอะสะใจมาก
4.สภาพอากาศและพื้นที่มีผลกับการเล่นด้วย
สิ่งนึงที่หลายคนอาจจะไม่รู้คือสภาพอากาศภายในเกมและพื้นที่มีผลกับเหตุการ์ณหรือ icon ที่เราสามารถพบได้ด้วยครับ อาทิเช่นเราจะสามารถพบมนุษย์หมาป่าได้ง่ายในช่วงเวลากลางคืน หรืออาจจะเจอไอเทมบางอย่างง่ายกว่าปกติในช่วงหลังฝนตกเป็นต้น
นอกจากนี้แล้วเราสามารถดูสัญลักษณ์หรือธงที่ปรากฎอยู่บนแผนที่ได้ ซึ่งถ้าหากว่าเราอยู่ในเขตที่มีธงหรือสัญลักษณ์ของกลุ่มไหนเราก็จะมีโอกาสพบเจอกับสิ่งของหรือบุคคลจากในสัญลักษณ์นั้นบ่อยกว่าปกติครับ ซึ่งตรงนี้จำเป็นมากๆ สำหรับคนที่ต้องการเก็บสะสม
5.อย่าลืมใช้ยาระหว่างการเล่น
ไม่ว่าเราจะเจอกับ Traces หรือ ต่อสู้ หากระดับความยากมันมีมากเกินไปเราสามารถใช้ยาในการทำให้ง่ายขึ้นได้ สำหรับในส่วนของ Traces ที่เราต้องทำการช่วยเหลือหรือเก็บกู้นั้นจะมีเกจวัดระดับของความยากอยู่หากเป็นสีเขียวคือง่าย และหากเป็นสีแดงคือยากมากๆ ครับ หากเกจมันค่อนไปทางยากก็อย่าเสียดายกดใช้ยาได้เลย ส่วนในการต่อสู้อาจไม่ได้มีการบอกว่ายากหรือง่ายตรงๆ แต่เราสามารถดูได้จากว่าตัวละครเราทำดาเมจหรือรับดาเมจจากศัตรูค่อนข้างมากไหม หากโดนแรงหรือตีศัตรูเบาก็ควรกดยาครับ
6.อย่าลืมทำเควสประจำวัน
อันนี้น่าจะเป็นเบสิคของทุกเกมผมเลยเอามาไว้ข้อหลังๆ ซึ่งภารกิจประจำวันของเกมนี้เราจะได้รับพลังงานและได้หน้ากระดาษมาอัพเลเวลสกิลครับ แนะนำว่าหากมีเวลาก็ควรทำนะ เท่าที่ผมลองดูถ้าหากว่าอยู่ใกล้จุดที่ค่อนข้างมีเสาเยอะทำสัก 10 นาทีก็ครบหมดแล้ว แต่ถ้าหากบ้านเราอยู่ไกลจากจุดที่มีเสาเยอะๆ ก็อาจจะต้องเหนื่อยหน่อยแนะนำว่าให้ไปเล่นในที่ๆ มีเสาเยอะๆ ดีกว่า
7.ทำยาทิ้งไว้บ้าง
ด้วยความที่ยาในเกมนี้มันสำคัญเอามากๆ แม้ว่าเราอาจจะได้จากเควสมาบ้างก็จริงแต่ว่าหากใช้ไปเรื่อยๆ ก็หมด ดังนั้นอย่าลืมเข้าไปทำยาเอาไว้บ้างโดยมันจะอยู่ในหน้า Suitcase แล้วเข้าไปที่ Potion จากนั้นก็เลือกยาที่ต้องการทำได้เลยยย
ทีนี้มีเทคนิคนิดหน่อยคือยาแต่ละประเภทจะมีสูตรเฉพาะเร่งเวลาการทำให้ไวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจิ้ัมฟองในยา การคนหม้อ หรืออื่นๆ อันนี้แล้วแต่สูตร เราสามารถลองมั่วๆ ดูได้เพื่อความสนุกครับหากทำตามสูตรสำเร็จเวลาในการผลิตยานั้นๆ จะลดลง 15% เลยทีเดียว เอาไว้ถ้ามีเวลาจะมาเฉลยให้นะครับ
8.ทิ้งของที่ไม่ใช้ซะบ้าง
อันนี้สำคัญเลยคือเวลาเราเล่นๆ ไปของที่ไม่ใช้จะเยอะมากกกกกก แล้วมันรก ทีนี้พอของเต็มเกมก็จะเด้งบอกว่าเราเก็บเพิ่มไม่ได้ หรืออยากเก็บเพิ่มต้องเติมตังนะไรงี้ ทีนี้เอาจริงๆ ของที่ใช้มันก็มีเยอะแหละ แต่บางทีของที่ยังไม่ได้ใช้มันเยอะกว่าก็อย่าลืมเข้าไปหน้า Vault แล้วจัดการทิ้งไปซะบ้างไม่ต้องเสียดายมากก็ได้ครับ หาใหม่ได้เรื่อยๆ แต่ของที่หายากจริงๆ ก็ควรเก็บไว้นะเช่น Bitter Root, Abraxan Hair, Re’Em Blood อะไรแบบนี้เป็นต้น
9.เกี่ยวกับการต่อสู้
ด้วยความที่ว่าเกมนี้เราจะต้องสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ด้วย ถ้าเรียกแบบให้อินหน่อยก็เหล่าพ่อมดชั่วร้ายหรือสัตว์เวทยมนต์นั่นแหละครับ ทีนี้เกมนี้เนี่ยจะมีการแพ้และชนะทางด้วย โดยหลังจากที่เราเลเวล 6 จะมีให้เลือกสาย หรือเลือก Profession ครับ ซึ่งรายละเอียดเบื้องต้นมีประมาณนี้
1.Auror : สายนี้จะเน้นที่การต่อสู้ จะเก่งเป็นพิเศษกับศัตรูจำพวก Dark Forces อย่างเช่นผู้กลืนกินความตายหรือพวกพ่อมด แต่จะอ่อนแอกับพวกสัตว์ สกิลพิเศษที่ใช้ได้ก็จะเป็นพวกดีบัฟศัตรูทำให้เพื่อนสู้ได้ง่ายขึ้น แต่ก็จะมีสกิล Charm เอาไว้เพิ่มค่า Focus ให้เพื่อนด้วยนะ
2.Magizoologist : สายนี้จะมีสกิลช่วยเหลือเพื่อนค่อนข้างเยอะครับเช่นท่าฮีลหรือท่าชุบ เราสามารถเอาไปใช้ในหอคอยได้ครับ สำหรับการต่อสู้สายนี้จะเก่งเป็นพิเศษกับพวกสัตว์อย่างเช่น พวกแมงมุม
3.Professor : สายนี้จะค่อนข้างสมดุลมีทั้งท่าที่ใช้ช่วยเหลือเพื่อนและท่าที่เอาไว้โจมตีศัตรู โดยสายนี้จะค่นอข้างเก่งกับพวก Curiosities เช่น Pixie หรือหมาป่า เป็นพิเศษแต่จะโดนดาเมจจากพวก Darkforce ค่อนข้างแรงกว่าปกติ
ทีนี้การต่อสู้เกมนี้จะแบ่งออกเป็นสองเฟสคือเฟสโจมตีที่เราจะต้องลากนิ้วคุมจุดกลมๆ ไปให้โดนตัวศัตรู จากนั้นก็ลากเพื่อร่ายเวทย์มนต์ และอีกเฟสนึงคือเฟสป้องกัน ที่ต้องลากนิ้วไถลงมาตามที่เกมกำหนดเพื่อป้องกันดาเมจครับ จะช่วยลดดาเมจจากการโดนโจมตีได้ระดับนึงเลย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องต่างๆ ที่ควรทราบในการเล่นเกม Harry Potter Wizard Unite ที่กบได้รวบรวมไว้ให้ครับ ถ้าหากว่ามีโอกาสจะนำเทคนิคหรือข้อมูลเชิงลึกมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันเพิ่มนะครับ
