วันศุกร์, เมษายน 18, 2025
หน้าแรกPC GuideGleaner Heights : เริ่มเล่นเยี่ยงไรดี!?

Gleaner Heights : เริ่มเล่นเยี่ยงไรดี!?

บทความนี้ก็จะมาแนะนำถึงการเล่นเบื้องต้นในช่วงแรกของ Gleaner Heights รวมถึงจุดสำคัญๆ ต่างๆ สำหรับช่วงต้นเกมให้จ้า เนื่องจากแม้ว่าตัวเกมจะมีความเป็น Harvest Moon อยู่ แต่ว่าก็ไม่ได้มีการแนะนำ อธิบายอะไรต่างๆ มากมายเท่าไหร่นัก ดังนั้นผู้เล่นใหม่อาจจะเคว้ง เอ่อ ชั้นต้องทำอะไรยังไงดีบ้างล่ะ? ก็เป็นได้ เพราะงั้นก็ลองดูกันดีกว่าหงิงว่าต้นเกมมีอะไรน่าสนใจบ้าง

ว… แวร์แอมไอ ที่นี่ที่ไหน เริ่มต้นกับการแนะนำพื้นฐานก่อน

เช่นเดียวกับเกมฟาร์มอื่นๆ ผู้เล่นจะถูกโยนแหมะมาไว้ที่ฟาร์มที่ตัวเองได้เป็นเจ้าของ พร้อมกับมีเจ้าเมืองมาแนะนำตัวเอง จุดที่ต่างไปคือ เขา-มา-แค่-แนะนำ-ตัว อะไรนะ? อยากได้เมล็ดพืชฟรีเหรอ อิอิ … มั่ย! ผู้เล่นจะได้ยืนเอ๋ออยู่กลางฟาร์มรกร้าง นั่งคิดว่า เอ่อ ที่นี่ที่ไหน ชั้นเป็นใคร ต้องทำอะไรดี…

คู่มือในเกมก็มีให้นะจ๊ะ แต่มีแค่พื้นฐานเลย

ในจุดนี้นั้น ก็จะมีตัวเลือกให้ผู้เล่นใหม่ดังนี้

0. กด Esc หรือ I เพื่อเปิดหน้าจอช่องเก็บของขึ้นมา และดูข้อมูลต่างๆ โดยในส่วนนี้ก็จะมีตั้งแต่ช่องเก็บของที่มีอันน้อยนิดมากๆ แผนที่ของเกมแบบคร่าวๆ ของที่ขายไป ระดับหัวใจของสัตว์เลี้ยง คู่มือแนะนำการเล่นเบื้องต้น การปรับแต่งค่าต่างๆ ก็ขอให้ทำความคุ้นเคยไว้ โดยเฉพาะปุ่มทั้งหลายจ้า

1. ออกสำรวจ ทางซ้ายของฟาร์มนั้นจะเป็น Hunting Ground ซึ่งจะเป็นเขตภูเขาและมีศัตรูให้ลองต่อสู้ด้วย ทางขวานั้นจะเป็นตัวเมือง และด้านบนของเมืองก็จะเป็นทางขึ้นไปเนินเขาอีกทีหนึ่ง

2. ตระเวณในเมือง ช่วงเช้านั้นตัวเมืองจะยังไม่ค่อยเปิดทำการ แนะนำให้รอซักประมาณ 10:00 ในเกมก่อนจะดีกว่า โดยเป้าหมายเพื่อจดจำว่าสถานที่ต่างๆ ในเมืองสำคัญๆ จะอยู่ตรงไหนบ้าง แน่นอนว่าร้านหลักๆ ที่เพื่อนๆ ต้องจำก็คือร้านขายของ(ทางขวาของจตุรัสกลางเมือง), ร้าน upgrade อุปกรณ์(ทางขวาล่างของฟาร์ม), ฟาร์มขายสัตว์(ด้านล่างของฟาร์ม)นั่นเอง

3. เริ่มเคลียร์ที่ในฟาร์ม ด้วยความที่การเคลียรทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้ และต้องเผื่อค่า Stamina ในการปลูกผักด้วย ดังนั้นหมาก็ขอแนะนำให้เคลียร์ที่ใกล้ๆ กับแอ่งน้ำในฟาร์ม ซักหน่อย ให้พอพรวนดินได้ซัก 20-30 ช่องก็พอ

 

การเริ่มต้นทำฟาร์ม

ในการเริ่มทำฟาร์มนั้น แนะนำให้เพื่อนๆ ไปซื้อเมล็ดผัก (แนะนำ Lettuce จ้า ใครอยากลองเมล็ดอื่นก็ได้นะ) มาจากร้านขายของเท่าที่ซื้อได้มาก่อน (เงินเริ่มต้นมี $500 เท่านั้น และมันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากซื้อผัก) จากนั้นก็กลับมาที่ฟาร์มและเริ่มต้นใช้ Hoe เตรียมดินได้เลย ซึ่งจุดนี้ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ขุดเป็นเส้นตรงประมาณ 10×1 จะดีกว่าการขุดแบบ 3×3 เนื่องจากเมื่อต้นไม้โตได้ซักพัก เราจะเดินข้ามไม่ได้ และนั่นหมายถึงถ้าปลูกแบบมีพื้นที่เข้าไม่ถึงตรงกลาง เราจะรดน้ำมันไม่ได้และเสียไปเปล่าๆ

หลังจากนั้นก็หว่านเมล็ดและรดน้ำ จากนั้นก็ฟรีสไตล์กันเลย แน่นอนว่าแรกๆ เราจะยังวนเวียนกับการค่อยๆ ปลูก ขยายฟาร์มกันไป เพราะช่วงแรกยังหาเงินได้ไม่คล่องนัก

จุดที่ควรระวังกันสุดๆ คือ ในเกมนี้นั้นค่า Stamina ค่อนข้างจำกัดและโหดร้ายมาก หากผู้เล่นเผลอใช้ค่า Stamina จนเกินตัวปุ๊บ จะติดโทษเหนื่อยหอบ (Exhaust) ส่งผลให้ทำกิจกรรมบางอย่างไม่ได้ (แม้จะยังทำได้เกือบหมดอยู่ก็ตาม) และการทำกิจกรรมต่างๆ จะไม่ได้รับค่า EXP หรือของ Drop ที่ควรจะได้ตามปกติเลย หนำซ้ำในวันรุ่งขึ้นจะติดสถานะหารสอง ค่า Stamina สูงสุดจะโดนตัดทอนลงไปอีกด้วย เรียกได้ว่ามีแต่เจ็บกับเจ็บ ดังนั้น หากค่า Stamina ใกล้หมดแล้ว อย่าเสี่ยงทำอะไรต่อเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็นจะดีกว่า

โอ๊ก…

แน่นอนว่าสถานะนี้รักษาไม่ได้ แม้จะกินของเพิ่ม Stamina จนเต็มก็ไม่หายจ๊ะ นอนพักวันนึงและอย่าฝืนจนกว่าจะผ่านไปอีกวันเท่านั้น~

 

ของป่า!

ต่อจากนั้นก็จะขอแนะนำส่วนช่วยเหลือชั้นเลิศในเกมช่วงแรก นั่นคือการหาของป่า (อะแฮ่ม เกมนี้ของป่าน้อยหน่อยนะจ๊ะ) ในฤดูใบไม้ผลินั้น ของป่าที่ผู้เล่นหาได้ก็จะเป็น Green Herb ที่ขายได้แค่ $5 แต่เมื่อกดใช้จะเพิ่ม Stamina ถึง 10 หน่วยเลยทีเดียว! และในแต่ละวันจะมีให้เก็บทั้งสิ้น 7 ต้นในจุดต่อไปนี้

1. Hunting Ground : มีสองต้นอยู่ทางซ้ายล่างของแผนที่ ต้นหนึ่งจะอยู่ใต้หน้าผา ด้านบนของทะเลสาบ อีกต้นหนึ่งจะอยู่ทางซ้ายของทะเลสาป ใกล้ก้อนหิน

2. บนเนินเขาหลังโรงแรม : มีห้าต้น ต้นแรกจะอยู่ทางซ้ายล่างใต้เชิงผา ต้นที่สองจะอยู่บริเวณทางขวาใกล้ต้นไม้ และสามต้นสุดท้ายจะต้องเดินเลาะขึ้นไปตามทาง จะอยู่ในกลุ่มต้นไม้ทางขวามือจ้า

การเก็บครบทั้งสิบต้นก็จะทำให้ผู้เล่นมี Stamina สำรองขึ้นถึง 70 หน่วยเลยทีเดียว เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากในการเอามาบริโภค แต่ห่วยแตกสิ้นดีในการขาย (ฮา) และของป่านั้นจะเกิดใหม่ทุกวัน เพราะงั้นเท่ากับช่วงแรกของเกมเราจะมี Stamina สำรองเยอะเลยทีเดียว

 

ปศุสัตว์

ในด้านของการทำปศุสัตว์ เลี้ยงสัตว์นั้นก็เป็นอีกหนึ่งในวิธีที่ช่วงกลางๆ เกมใช้ในการหาเงินได้เป็นอย่างดี โดยฟาร์มที่ขายสัตว์ให้เรานั้นก็จะอยู่ทางด้านล่างของตัวฟาร์มของเพื่อนๆ แต่ทว่าราคาก็จะเอาเรื่องซักหน่อย โดยมีตั้งแต่ไก่พร้อมออกไข่ ตัวละ $1,000 ไปจนถึงวัวตัวละ $5,000 และอาจจะพ่วงด้วยอุปกรณ์เสริมอย่างเครื่องรีดนม ที่ตัดขนแกะอันละ $1,000 อีกด้วย ทำให้ต้นเกมนั้นอาจจะลำบากไปซักหน่อยในการครอบครองสัตว์เหล่านี้

แน่นอนว่าตัวสัตว์เองก็จะมีค่าความสัมพันธ์อยู่เช่นกัน หากดูแลมันเป็นอย่างดี หัวใจเพิ่มขึ้น มันก็จะให้ผลผลิตระดับสูงขึ้น เอาไปขายได้มูลค่ามากขึ้นเป็นอย่างมากตามตัวนั่นเอง และในทางกลับกัน หากดูแลไม่ดี พวกมันก็อาจจะป่วยจนถึงตายได้ ก็ควรจะซื้อยามารักษามันและดูแลให้ดีๆ นะจ้า

อนึ่ง หากต้องการประหยัดค่าอาหาร สามารถเลี้ยงแบบระบบเปิดได้ด้วยการล้อมรั้วและปลูกหญ้าให้พวกมันกินได้ (ต้องปล่อยไว้ข้างนอกตลอดทั้งคืนนะเอ้อ) แต่วิธีนี้ไม่แนะนำสำหรับไก่ เพราะอาจจะโดนตัวอะไรย่องมางาบไปเป็นของว่างได้ยามค่ำคืน (แง) และหากวันไหนฝนฟ้าไม่เป็นใจ ก็จะต้องพาพวกมันกลับเข้าคอกด้วยล่ะ เดี๋ยวจะป่วยกันซะก่อน

 

ตะลุยผูกมิตรชาวเมือง

แน่นอนว่าแม้ตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องซ่อนอยู่ แต่หากผู้เล่นไม่สนใจผูกมิตรกับชาวเมืองแล้วนั้น ก็คงไม่มีโอกาสจะได้เจอเนื้อเรื่องเป็นแน่แท้ และการจะผูกมิตรกับชาวเมืองนั้น ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการหมั่นทักทายวันละครั้ง หรือหากต้องการผูกมิตรไวขึ้น ก็เพียงแค่หาของขวัญที่พวกเขาชอบไปให้รายวันด้วยเท่านั้นเอง อะแฮ่ม แต่ใครชอบอะไร อันนี้คงต้องลองผิดลองถูกกันนะจ๊ะ ไม่งั้นก็คงต้องรอจนกว่าชาวเมืองจะแอบแง้มให้ฟังกันเอง

เมื่อชาวเมืองเริ่มสนิทกับผู้เล่นแล้ว (นานแน่นอนจ้า อย่าคิดว่าจะสนิทกันได้ในอาทิตย์เดียวเลย) พวกเขาจะเริ่มคุยกับเรามากขึ้น มีการบอกถึงเนื้อเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของพวกเขาเองหรือเรื่องราวของตัวเกมก่อนที่เราจะมายังเมืองนี้ รวมถึงปลดล๊อค Event ต่างๆ ให้สามารถเกิดขึ้นได้ หากผู้เล่นอยู่ในสถานที่และเวลาที่เหมาะสมอีกด้วย

นอกจากนี้แล้ว ชาวเมืองบางคนก็จะมีหัวใจอยู่ข้างชื่อ แสดงให้เห็นถึงว่าเป็นตัวละครที่เราสามารถจีบเป็นคู่ครองเราได้ด้วยนั่นเอง อ๊ะ บอกไว้เลยนะเอ้อ ชาวเมืองเกมนี้มีเยอะมากกว่าเกมอื่นๆ และอาจจะเห็นคนที่จีบได้น้อยก็จริง แต่เมื่อผูกมิตรกับพวกเขาและได้สัมผัสเนื้อเรื่องของพวกเขาแล้ว ก็จะมีการปลดล๊อคเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยนะเอ้อ~

 

ออกตะลุยสำรวจโลก

อย่างที่ได้เกริ่นไว้ก่อนหน้าว่า ใน Gleaner Heights นั้นจะมีความ RPG อยู่ค่อนข้างมาก ดังนั้นเพื่อนๆ อาจจะได้พบเจอกระทั่งหีบสมบัติที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ อันนี้หมาก็จะยังไม่ขอ spoil ตำแหน่งให้นะ เชื่อว่าการที่ผู้เล่นเดินไปพบเจอเองนั้นจะให้ความรู้สึกประทับใจมากกว่า และในต้นเกมก็มีหีบหลายใบที่ผู้เล่นสามารถเข้าถึงได้เลยตั้งแต่แรกแน่นอนจ้า ยกตัวอย่างที่ผู้เล่นจะเจออย่างแน่นอนเลย คือหีบสมบัติบนโรงพยาบาลที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากๆ นั่นเอง

นอกจากหีบสมบัติที่เห็นได้ตรงๆ แล้ว ก็จะยังมีหีบที่ฝังไว้ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยการสังเกตุ ลองผิดลองถูกของผู้เล่น หรือการปลดล๊อคจากเนื้อเรื่อง, การ upgrade อุปกรณ์หรือซ่อมแซมตัวเมืองเพื่อให้สามารถเข้าถึงหีบสมบัติเหล่านั้นได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน

ในแต่ละหีบก็จะมีสมบัติหลายๆ อย่างแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเงินสำหรับใช้เป็นทุน ชุดต่างๆ หรืออย่าง Shadow Plum ผลไม้ลึกลับที่เมื่อกินแล้วจะช่วยเพิ่มค่า Stamina สูงสุดที่มีอีก 5 หน่วยอีกด้วย

 

ระบบ Level และ Perk

หลังจากเล่นมาได้ซักพัก น่าจะสังเกตุได้ว่าบางครั้งตัวละครจะขึ้นแจ้งว่ามี skill level up โดยไอ้เจ้าสกิลพวกนี้นั้น จะได้จากการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น Fighting นั้นก็จะได้จากการต่อสู้กับศัตรู Hammer จะได้จากการใช้ค้อนทำสิ่งต่างๆ Farming จะได้จากการทำฟาร์มเป็นต้น เมื่อเลเวลสูงขึ้นก็จะส่งผลต่างๆ มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นชาร์จอุปกรณ์นั้นๆ ได้เร็วขึ้น หรือเพิ่มมูลค่าของผักต่างๆ

เมื่อเพื่อนๆ ทำการเก็บเลเวลสกิลได้ๆ ไปจนครบ 5 เลเวล (คละกันได้จ้าไม่ต้องอย่างใดอย่างหนึ่ง) ตัวละครก็จะเลเวลอัพขึ้นมา 1 เลเวล และได้รับแต้ม Perk มาหนึ่งแต้มสำหรับใช้เลือกอัพ Perk ที่ต้องการได้ แต่ว่าจะเลือกอัพได้ก็ต่อเมื่อเพื่อนๆ เลือกนอนขึ้นวันใหม่เท่านั้นนะจ๊ะ และสะสมไว้ไม่ได้ บังคับอัพจ้า

อันนี้ก็อยู่ที่ว่าเพื่อนๆ อยากจะเล่นสายอะไรแบบไหน โดยตัวเกมมีให้ทั้งหมดในตอนนี้ 35 Perk และเพื่อนๆ จะมีแต้ม Perk ได้สูงสุดที่ 24 แต้มเท่านั้น ทำให้ต้องตัดสินใจกันซักหน่อยว่าอยากได้อะไร ตรงนี้หมาก็จะมาอธิบายโดยละเอียดให้อีกทีนึงจ้า แต่สำหรับแต้มแรกสุดนั้นก็จะขอแนะนำ Gatherer เลย เนื่องจากจะทำให้เราเก็บของป่าได้สองชิ้น! เท่ากับว่าในต้นเกมเราจะเก็บผักบุ้งมากินได้ถึง 14 ต้นต่อวัน = Stamina 140 หน่วย!!! โอ้ว โอ้ว โอ้ว

 

เหมืองอันแสนวุ่นวาย

ตัวเหมืองนั้นตั้งอยู่ในบริเวณด้านล่างของเนินเขาริมแม่น้ำ โดยเพื่อนๆ สามารถเดินทางได้ด้วยการออกจากฟาร์มและเดินขึ้นเน้นเขาไปยังโรมแรม และเดินลงบันไดที่อยู่ทางขวาของโรงแรมไป จากนั้นเดินเลาะขึ้นไปด้านบนก็จะเจอกองหินและทางเข้าเหมืองแล้วจ้า

แต่เหมืองในเกมนี้นั้นอาจจะปวดตับซักหน่อยสำหรับคนที่เคยเล่นเกมแนวฟาร์มอื่นๆ มาก่อน เนื่องจากมีความ Random ถึงขีดสุดและไม่มีการลัดเผ่นกลับได้ทันใจ ทุกครั้งที่ผู้เล่นเหยียบชั้นนั้นๆ ตัวเกมจะสุ่มพื้นที่ในชั้นนั้นใหม่หมดทันที นั่นหมายถึงแม้ว่าผู้เล่นจะสำรวจจนพรุนแล้วในชั้นที่ 1 หากลงไปชั้นที่สองและกลับขึ้นมาใหม่ มันก็จะสุ่มใหม่นั่นเอง…

นอกจากนี้จุดที่น่าปวดใจอีกอย่างก็คือ ในเหมืองเกมนี้นั้น ผู้เล่นเดินลงไปกี่ชั้น ก็ต้องวิ่งกลับขึ้นมาเองตามนั้นนะจ๊ะ ทำให้การลงเหมืองอาจจะเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวในสายตาหลายๆ คนเลยก็เป็นได้ ซึ่งอย่างไรก็ตาม มันก็เป็นแหล่งในการหาแร่ต่างๆ ในการ upgrade อุปกรณ์หรือเอามาคราฟของนั่นเอง เฮ

 

การเล่นในแต่ละช่วง

เนื่องจากตัวเกม Gleaner Heights นั้นมีเนื้อเรื่องซ่อนเอาไว้อยู่ และการจะปลดล๊อคมันออกมาก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียว หน้ำซ้ำยังมีข้อจำกัดด้านเวลาที่หากลอยชายเกินไปก็อาจจะปลดล๊อคไม่ทันก็เป็นได้ (อย่างไรก็ตาม ถ้าเล่นตามปกติจะไม่มีปัญหาในด้านนี้เท่าไหร่) เพราะงั้นก็อาจจะต้องมีการวางแผนการเล่นกันซักนิดหลังจากเริ่มเล่นไปหลายวันแล้ว

► ช่วงแรกของเกม

ในช่วงแรกนี้เพื่อนๆ จะทรัพย์จาง หาลู่ทางหาเงินดีๆ ไม่ได้ และของต่างๆ ก็ดูจะแพง แพ๊งแพงกันซะเหลือเกิน ดังนั้นตัวเลือกก็จะค่อนข้างจำกัดอยู่ที่การวนเก็บของป่า ทำฟาร์มเท่าที่งบมี และรอเก็บผลผลิตไปขายมาวนเวียนเทียนกันไปนั่นเอง ซึ่งระหว่างนั้นก็อาจจะค่อยๆ ดายหญ้าหรือเก็บเศษหินเศษไม้เคลียร์พื้นที่ในฟาร์มกันไปเรื่อยๆ ไปพลาง แวะไปตีมอนเก็บเศษตังค์เพิ่มเติมพลางๆ หรือสำรวจพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้คุ้นเคยกับสถานที่ก่อนก็ได้

TIP : ดอกตูมที่เห็นในเมืองสีฟ้าๆ นั้น จะสามารถเก็บมาได้เมื่อเวลาในเกมอยู่ที่ 21:00 ขึ้นไป (ดึกแล้วนั่นเอง) และขายได้ถึงดอกละ $75 ถือว่าแพงใช้ได้เลยล่ะ นอกจากนี้ยังเอาไปเป็นของฝากชาวเมืองส่วนมากได้ด้วย ไม่ค่อยจะมีคนเกลียดดอกไม้นี้กันเลย

เมื่อเริ่มมีเงินก้อนนั้น ก็จะมีตัวเลือกเพิ่มเติมว่าจะขยายพื้นที่ฟาร์มเพื่อปลูกผักเพิ่ม ซื้อเบ็ดตกปลามาหารายได้เสริมต่อวัน หรือจะอัพเกรดอุปกรณ์อย่างค้อนหรือบัวรดน้ำเพื่อให้ลงเหมือง/ทำฟาร์มได้สะดวกขึ้น แม้กระทั่งเริ่มเลี้ยงไก่ซักจำนวนหนึ่งมาเพิ่มรายได้ก็ยังได้จ้า เรียกได้ว่าฟาร์มของผู้เล่นจะค่อยๆ โตอย่างช้าๆ แต่มั่นคงเลยทีเดียว

TIP : ฝนมีคุณสมบัติรดน้ำให้อัตโนมัติ และสุ่มทำลายเมล็ดพืชหรือต้นกล้าทิ้งได้อย่างร้ายกาจ แนะนำให้ผู้เล่น up Perk Crop Protection (ต้องการ Farming level 3 ทำใจหน่อยจ๊ะ) เพื่อลดความเสียหายลง

ที่ลืมไม่ได้คือหากมีเวลาว่างต่อวัน ควรทำงานผ่าน internet เอ้ย มะใช่ นั่นมันขายตรง ให้แวะเข้าไปหมั่นทักทายชาวเมืองเพื่อเริ่มเพิ่มความสัมพันธ์ทีละเล็กทีละน้อยนั่นเอง แม้จะไม่มากแต่ก็ค่อยๆ สะสมเอาไว้ รวมถึงมองหาคู่ครองล่วงหน้าก็ได้ หากใครสนใจที่จะแต่งงานภายในเกม

TIP : ของขวัญให้เพียงวันละครั้งก็พอจ้า ชิ้นที่สองจะเพิ่มความสัมพันธ์แค่ 20% เท่านั้น

ในช่วงแรกนั้น ผู้เล่นอาจจะลำบากในแง่ของการพยายามหาเนื้อเรื่องหรือค้นหารายละเอียดในเกมบ้าง เพราะตัว NPC ยังไม่ค่อยสนิทกับผู้เล่นเท่าไหร่นัก รวมถึงสนามที่หลายๆ จุดแม้จะเจอแต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะต้องพึ่งการ upgrade อุปกรณ์ ดังนั้นก็ขอแนะนำให้ตั้งเป้าไปที่การหารายได้จากการทำฟาร์ม เลี้ยงสัตว์และตกปลาก่อนเลยจ้า จนเมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าร้อนนั้น การเงินจะเริ่มเข้าที่ มีการอัพเกรดอุปกรณ์อะไรมากขึ้นแล้ว เริ่มสะสมเงินเล่นของใหญ่ได้

 

► เริ่มตั้งตัว

หากไม่อู้ผูกมิตรกับชาวเมือง ส่วนมากเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูร้อนนี้เพื่อนๆ จะเริ่มพบเจอกับ Event ต่างๆ ของชาวเมืองบ้างแล้ว แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่มากขึ้น ก็ขอให้พยายามผูกมิตรต่อไป ในส่วนของพืชผักนั้น ในฤดูนี้จะเป็นฤดูที่มีพืชแบบออกผลซ้ำได้แล้วอย่างข้าวโพดหรือมะเขือเทศ (อันที่จริงพืชผักต่างๆ นั้นมีมากกว่านี้แต่ต้องปลดล๊อคเพิ่มขึ้นมา ซึ่งจะทำให้มีผักที่ปลูกได้เยอะมาก และมีผักที่ออกผลซ้ำทุกฤดูเลยทีเดียว) แต่ที่ควรระวังคือ ในฤดูนอกเหนือจากใบไม้ผลิแล้ว ของป่าจะเปลี่ยนไปทำให้หวังพึ่งเป็นแหล่งฟื้นฟูค่า Stamina หลักไม่ได้แล้วนะเอ้อ

TIP : ในฤดูร้อนและฤดูหนาวนั้น จะมีวันที่ร้อนหรือหนาวจัด ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เล่นเสียค่า Stamina เป็นเท่าตัวได้ ควรระวังให้ดี หรือจะเตรียม Perk Insulated ไว้เพื่อทำให้สภาพอากาศไม่มีผลกับเราก็ได้

ในฤดูนี้ที่ผู้เล่นเริ่มกระเป๋าตุงแล้ว ก็ถึงคราวในการใช้มันในการใหญ่เสียที โดยหากใครยังไม่ทราบ เมื่อความสนิทกับเจ้าเมือง Otto ถึงที่กำหนด ผู้เล่นจะสามารถเข้าไปคุยกับเขาที่บ้านช่วง 19:00-21:00 ได้ และเขาจะบอกเกี่ยวกับการซ่อมแซมตัวเมืองให้ทราบ เป็นอีกจุดที่ทำให้ผู้เล่นได้เปย์กัน ซึ่งการซ่อมของแต่ละอย่างก็จะให้ผลแตกต่างกันไป และไม่บังคับให้ซ่อมถึงจะดำเนินเนื้อเรื่องหลักได้จ้า (แต่การซ่อมจะช่วยอำนวยความสะดวกหลายๆ อย่างเลยทีเดียว)

TIP : ม้าเป็นอีกหนึ่งในสัตว์ที่น่ามีไว้ครอบครอง นอกจากจะช่วยให้เดินทางไปไหนมาไหนได้รวดเร็วแล้ว มันยังแทบไม่ต้องการดูแลอะไรมากนัก สามารถปล่อยทิ้งไว้ท่ามกลางสายลมแสงแดด ไม่ต้องให้อาหาร แค่ใช้แปรงถูขนของมันทุกวันก็เพียงพอแล้ว โอ้ว โคตรคุ้มค่า

นอกจากนี้ก็จะมีในด้านของการเริ่มสะสมสัตว์หากชอบสายการเลี้ยงสัตว์, การ upgrade เครื่องมือเพื่อช่วยในการทำฟาร์มที่สะดวกขึ้นหรือประหยัดเวลามากขึ้น หรือจะเป็นการจัดการต่อเติมบ้านเพื่อทำห้องครัวไว้สำหรับทำอาหารเพิ่มมูลค่าการขาย/เพิ่มพลังงาน เรียกว่าแต่ละอย่างนี่ใช้เงินหนักๆ ทั้งนั้นเลยล่ะจ้า

จุดที่เพื่อนๆ ควรให้ความสำคัญอันดับต่อมาคือการเตรียมตัวลงเหมืองอย่างจริงจังเพื่อหาแร่ระดับสูงมา upgrade เครื่องมือต่างๆ (หรือหาเงิน) ซึ่งเป็นสถานที่ที่กินพลังงานมหาศาลมาก อย่างไรก็ดี มันก็มีวิธีการลัดอยู่อย่างเช่นการกดขึ้นลงบันไดรัวๆ เพื่อสุ่มชั้นนั้นใหม่จนกว่าจะเจอทางเดินสะดวกๆ แต่ว่าการจะหาแร่ในเหมืองก็จำเป็นจะต้องทุบกำแพงหาอยู่ดี ดังนั้นหากคิดจะลงเหมืองเมื่อไหร่ ก็ต้องมีการตุนอาหารไปซักหน่อย (อย่าลืมว่าถ้าเราเหนื่อย แม้จะยังทุบกำแพงได้ แต่ก็จะไม่ได้เลเวลและของแต่อย่างใด รวมถึงวันต่อมาจะซวยอีกด้วย แอ๊)

 

► ปูทางไปต่อ

หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงฤดูร้อนมาแล้ว ตอนนี้เพื่อนๆ ก็น่าจะเริ่มชินกับตัวเกมมากขึ้นเยอะและมีแนวทางการวางแผนอะไรเป็นที่เรียบร้อย รวมถึงการจัดเวลาแต่ละวันได้ดีมากแล้ว ตรงจุดนี้ก็จะเป็นจุดที่ดีที่เพื่อนๆ จะเลือกว่าจะใช้เวลาช่วงนี้ของเกมทำอะไรต่อ ซึ่งก็จะมีตั้งแต่ลองหาความลับในเกมต่างๆ, การลองทำฟาร์มต่ออีกซักปี, การดูงานเทศกาลที่ผ่านมาเพื่อเตรียมตัวสำหรับปีหน้าเพื่อเอาชนะงานเทศกาลนั้นๆ หรือจะไล่ผูกมิตรเพื่อเชื่อมโยงเนื้อเรื่องของเกมต่อก็ได้

ในบทความนี้ก็จะขอเลี่ยงการ spoil เนื้อเรื่องอะไรไว้ก่อนเพื่อให้เพื่อนๆ ได้สนุกกับการหาเนื้อเรื่องในเกมนี้ที่จัดว่าเป็นจุดขายของเกมหลักเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ก็จะขอเตือนเพื่อนๆ อย่างหนึ่งว่า เนื้อเรื่องย่อยและเนื้อเรื่องหลักบางส่วนจะมีการบังคับเวลาเอาไว้อยู่ หากผู้เล่นพลาดไปก็จะไม่สามารถเห็นได้อีกในการเล่นรอบนั้น ซึ่งจุดนี้ก็จะเหมือนกับการแย่งกันจีบในสมัย Harvest Moon นั่นเอง เรียกได้ว่าที่บอกว่าผู้พัฒนาได้แรงบรรดาลใจมาก็มาครบจริงๆ

อย่างไรก็ดี ทางผู้พัฒนาได้ให้เวลาผู้เล่นไว้ค่อนข้างมาก ซึ่งเท่าที่มีการพูดคุยผ่านทาง forum ของทีมงานนั้นก็จะอยู่ที่ราวๆ ก่อนจบปีที่สองของเกม ซึ่งเมื่อเทียบกับเกมปลูกผักทั่วไปแล้ว มักจะเป็นช่วงที่เราเริ่มทำทุกอย่างลงตัวกับการเล่นครั้งนั้นๆ แล้วพอดี และจะเริ่มอิ่มตัวในการจบปีที่สาม เพราะงั้นหากผู้เล่นหมั่นพูดคุยกับชาวเมืองทุกวัน ก็ไม่ต้องกังวลว่าแต้มความสัมพันธ์จะไม่ทันเลยทีเดียวจ้า แต่จะเจอสถานที่ที่ถูกต้องในการเจอเนื้อเรื่องนั้นๆ หรือเปล่าก็อีกเรื่องน่อ (ฮา)

ข้อมูลเชิงลึกในส่วนต่างๆ นั้นหมาก็จะขออธิบายในบทความต่อๆ ไปเพื่อไม่ให้ทำให้สับสน เพราะข้อมูลเกมนี้ก็ไม่ได้ด้อยกว่าเกมอื่นๆ เลยจริงๆ แม้จะเห็นภาพโดยรวมดูน้อยกว่าก็ตาม แน่นอนว่าย่อมเป็นการ spoil หลายๆ อย่าง ดังนั้นหากไม่ชอบการ spoil ก็แนะนำให้ลองเล่นเองดูซักรอบก่อนจะดีกว่าน่อ แล้วพบกันในบทความอื่นๆ จ้า


RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments