วันจันทร์, มีนาคม 31, 2025
หน้าแรกPC Game ReviewCoral Island เกมทำฟาร์มบนเกาะเขตร้อนอันแสนสงบสุข!

Coral Island เกมทำฟาร์มบนเกาะเขตร้อนอันแสนสงบสุข!

Coral Island เป็นเกมแนวทำฟาร์มที่เกิดขึ้นจากการระดมทุนผ่าน Kickstarter ตั้งแต่ช่วงปี 2021 และด้วยคอนเซ็ปของตัวเกมที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากเกมทำฟาร์ม อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นต็มของตัวเกม ที่เราจะอยู่ในเกาะเขตร้อน ซึ่งแทบจะไม่มีเกมแนวทำฟาร์มเกมไหนที่โฟกัสในเกาะแบบนี้มาก่อน รวมไปถึงระบบชูโรงอย่างการฟื้นฟูทะเล และการดำน้ำ ซึ่งโดยรวมแล้วทำให้เกมนี้เป็นเกมทำฟาร์มที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจมาก ๆ นอกเหนือจากเรื่อง ปลูกผัก จีบสาว/หนุ่ม แต่งงาน และเลี้ยงสัตว์ไปวัน ๆ

เนื้อหาของ Coral Island

ผู้เล่นจะรับบทเป็นชาวสวนที่มาอาศัยอยู่ภายในเกาะ หลังจากการทำงานอย่างหนักในเมืองใหญ่มานานและเบื่อหน่าย ซึ่งสภาพที่เราพบคือเกาะกำลังอยู่ในช่วงขาลงอย่างรุนแรง ทั้งเมืองที่ไม่มีนักท่องเที่ยว ทะเลและธรรมชาติที่เต็มไปด้วยขยะและสิ่งสกปรก เนื่องจากการขยายกิจการของบริษัทน้ำมัน ส่งผลให้เมืองขาดชีวิตชีวา ซึ่งเราจะเป็นตัวแปรสำคัญในการฟื้นฟูเมืองแห่งนี้ และไขปริศนาต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเกาะ

กราฟิกและภาพ/เสียง

การออฟแบบแผนที่ ตัวเกมจะมีการอ้างอิงแผนที่ภายในเกาะมาจากเกาะเขตร้อน ซึ่งเราจะพบเห็นทะเลและแม่น้ำได้ในหลาย ๆ แห่งของเมือง โดยเฉพาะทะเลที่เต็มไปด้วยปะการัง ซึ่งในช่วงแรกของเกมที่เราพึ่งเข้ามาจะเต็มไปด้วยคราบน้ำมันและสภาพที่เสื่อมโทรม และจะดีขึ้นหลังจากที่เรามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง

สภาพของบ้านภายในเมืองและ NPC ตัวเกมทำออกมาเป็นภาพ 3 มิติซึ่งเราจะได้สัมผัสถึงความแตกต่างทางเชื้อชาติ และ ความชอบของชาวเมืองแต่ละคน โดยชาวเมืองบางคนก็จะมีการตกแต่งบ้านและการใช้ชีวิตไปทาเอเชีย หรือบางคนก็จะออกแนวไปทางตะวันตก ซึ่งโดยรวมแล้วเราจะสัมผัสได้ถึงการผสมผสานในหลาย ๆ เชื้อชาติมารวมกันอยู่ที่เกาะแห่งนี้

ในส่วนของสถานที่ต่าง ๆ นอกจากภายในเมือง ก็จะมีส่วนของทะเลที่ทำออกมาได้สวยงามมาก โดยในใต้ทะเลช่วงแรกเราจะได้สัมผัสกับทะเลที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก แต่หลังจากที่เราเล่นไปและช่วยเหลือในการฟื้นฟู มันก็จะค่อย ๆ กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ปรากฏตัวออกมาให้เราเห็นมากขึ้น

Gameplay

ส่วนของการเล่นและชีวิตภายในฟาร์ม โดยรวมก็ไม่แตกต่างจากเกมอื่นมากนัก คือเราปลูกผักและคอยเก็บ แต่ก็จะมีเครื่องอำนวยความสะดวกในการเล่น เช่น อุปกรณ์อัตโนมัติต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์เสริมของสปริงเกอร์ทำให้หลังจากเราเล่นไปไกล ๆ แล้วสามารถเล่นได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรดน้ำอัตโนมัติ, เครื่องเก็บเกี่ยวผลผลิตอัตโนมัติ, เครื่องให้อาหารสัตว์ ฯลฯ การปลดล็อกของเหล่านี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายภายในเกมเลย ซึ่งทั้งนี้ผู้เล่นสามารถทำการวิจัยและปลดล็อกสูตรได้ที่ Lab ซึ่งจะแตกต่างกับการอัปเกรดอุปกรณ์ที่เราจะต้องไปที่ร้านค้าของ Blacksmith ภายในเมืองครับ

นอกจากชีวิตในฟาร์มแล้วเราจะมีภารกิจที่ต้องคอยช่วยเหลือชาวเมืองในด้านอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการฟูทะเล หรือ ช่วยเหลือในการหาของให้เทพธิดา และอีกหนึ่งภารกิจคือการกอบกู้พิพิธภัณฑ์เพื่อเป็น Landmark ให้เมือง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะมีผลคือทำให้สภาพในเมืองพัฒนาขึ้น หลังจากที่เราทำการช่วยเหลือในแต่ละด้าน เมืองก็จะพัฒนาไป เช่น หากเราฟื้นฟูทะเล ตัวทะเลจากที่เคยเต็มไปด้วยคราบน้ำมันก็จะสวยงามขึ้น หรือ หากเราทำภารกิจเทพธิดา เมืองก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมาเพิ่มและเปิดพื้นที่ใหม่ ๆ ได้ เป็นต้น

ในส่วนขององค์ประกอบของเกมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงเหมือง และการต่อสู้กับมอนสเตอร์ก็มีในเกมนี้เหมือนกัน เรียกว่าในช่วงหลังเกมทำฟาร์มส่วนใหญ่แทบจะใส่ระบบนี้มาเกือบทุกเกมเลย โดยเฉพาะการสู้กับมอนสเตอร์ โดยเราจะสามารถหาแร่มาอัปเกรดอุปกรณ์ และทำสิ่งของได้ แต่ทั้งนี้ภายในเหมืองก็จะมีมอนสเตอร์มาคอยเฝ้าทำให้เราต้องหยิบอาวุธเพื่อเตรียมบวกกับพวกมันด้วย ซึ่งอาวุธภายในเกมก็จะมีอยู่หลายอย่างแถมแต่ละอย่างก็จะมีสกิลเฉพาะด้วย

หากว่าใครเบื่อ ๆ จากการทำฟาร์มภายในเกมเราก็สามารถไปนั่งตกปลาหรือจับแมลงแบบชิล ๆ ได้ โดยเราสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ของเกาะและไปนั่งตกปลาได้เลย หรือสำหรับแมลงระหว่างทางก็จะเจอตามสถานที่ต่าง ๆ ก็สามารถใช้สวิงไปช้อนได้เลย! สำหรับใครที่ชอบสะสมหรือหาอะไรทำ การรวบรวมแมลงกับปลาให้ครบก็เป็นจุดนึงที่สนุกมากครับ

อีกจุดที่ตัวเกมทำออกมาได้น่าสนใจคืองานเทศกาลภายในเกม ซึ่งบางเกมก็อาจจะมีแค่การโชว์เล็ก ๆ น้อย ๆ และมินิเกมนิดหน่อย แต่ของเกมนี้ในทุกงานเทศกาลจะมีมินิเกมให้เราเล่น! รวมไปถึงของบรรยากาศของแต่ละงานเทศกาลที่ทำออกมาได้สวยมาก และที่สำคัญมินิเกมแต่ละอย่างไม่ซ้ำกันเลย

ในในส่วนของเรื่องเลเวลกันนิดนึง หลังจากที่เราทำสิ่งใด ๆ ก็ตามในเกม เราจะได้ค่าประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับในหมวดนั้น ๆ เช่นหากเก็บของป่าก็จะได้ค่าประสบการณ์ของการเดินป่าเป็นต้น โดยเมื่อเลเวลอัปถึงที่กำหนดเราก็จะได้แต้มสกิลเอามาอัปเกรดสกิลในสายนั้น ๆ ที่ต้องการได้

จุดนึงที่ผมค่อนข้างประทับใจแม้ว่าจะเป็นจุดเล็ก ๆ คือหลังจากที่เราเล่นไปสิ่งที่เราทำจะส่งผลกับสภาพแวดล้อมภายในเกม อาทิเช่น ในช่วงแรกหากเราตกปลาจะแทบไม่เจอปลาคุณภาพระดับดาวสูง ๆ เลย ซึ่งเกมนี้จะแบ่งคุณภาพของที่เก็บได้เป็น ปกติ> ดาวทองแดง > เงิน > ทอง > และออสมิกหรือสีม่วง ซึ่งช่วงแรกหากเรายังไม่เคยฟื้นฟูทะเลเลยเราจะได้แต่ปลาธรรมดาแทบจะ 100% แต่หลังจากที่ทะเลเริ่มกลับมาสวยงามแล้ว เราจะเริ่มได้ปลาระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ

การแต่งตัวภายในเกม เราก็สามารถแต่งตัวได้ค่อนข้างหลายแบบครับ ใครที่ชอบแต่งตัวหรือปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเราก็สามารถไปซื้อชุดจากร้านขายเสื้อผ้าภายในเมือง และเอามาแต่งตัวละครของเราได้ ซึ่งชุดพิเศษเราก็จะสามารถซื้อได้ตามงานเทศกาล หรือ ได้จากการปลดล็อกสิ่งต่าง ๆ เอาภายในเกม

เปรียบเทียบกับเกมอื่นในแนวใกล้เคียงกัน

หากเปรียบเทียบเกมนี้กับเกมอื่นที่ใกล้เคียงกัน ตัวเกมนี้เรียกว่าระบบต่าง ๆ หยิบมาจากเกมทำฟาร์มอื่น ๆ และนำมาต่อยอดได้น่าสนใจ รวมถึงมีระบบที่เกมอื่นไม่มีและที่น่าสนใจที่สุดเลยคือการปรับปรุงคุณภาพชีวิตในการเล่นเกมที่ทำได้ดีมาก เช่น ระบบการคราฟของที่ปกติแล้วเราจะต้องเก็บของไว้ในตัว แต่เกมนี้เราสามารถคราฟจากที่ไหนก็ได้ โดยไอเทมจะโดนดึงมาจากภายในกล่อง ซึ่งสะดวกมาก ๆ

ในส่วนของเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ถือว่าทำได้ดีเช่นเราสามารถกดมองหา NPC ได้ทำให้ไม่ต้องนั่งเดาว่าแต่ละคนอยู่ที่ไหน แถมมีบันทึกให้ด้วยว่าชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไรหลังจากที่ให้ไปแล้ว รวมถึงระบบคำใบ้ที่แค่เอาเมาส์ไปชี้ก็จะบอกว่าของชิ้นนี้เป็นของจำเป็นในการทำเควสไหม เช่นหากชิ้นไหนนำไปบริจาคให้พิพิธภัณฑ์ได้ก็จะขึ้นว่าเราส่งของชิ้นนี้ไปหรือยัง เป็นต้น

โดยรวมแล้วเกมนี้แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีอะไรใหม่ถอดด้ามเยอะแยะหากเทียบกับเกมทำฟาร์มอื่น ๆ แต่ก็เป็นเกมที่หยิบเอาส่วนดีของเกมอื่น ๆ มาและต่อยอดพัฒนาให้ดีขึ้น แม้ว่าตอนนี้อาจจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ตัวเกมก็มีการอัปเดตและพัฒนาการที่ค่อนข้างเร็วมาก ๆ และดูยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัฒนาในเร็ว ๆ นี้

ถ้าหากจะพูดถึงจุดด้อยน่าจะเป็นในส่วนของระบบ Combat ของเกมที่ทางผู้เขียนรู้สึกว่ายังทำออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แม้ว่าจะเป็นจุดที่ไม่ใช่จุดสำคัญ แต่การที่ต้องไปลงเหมืองเพื่อหาของก็แอบเป็นอะไรที่แอบน่าเบื่อเล็ก ๆ เพราะการต่อสู้ภายในเกมนี้ดูไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่นัก และการควบคุมในส่วนของการต่อสู้แอบรู้สึกว่ายากนิดหน่อย

ความคุ้มค่า

ด้วยราคาของตัวเกมเต็มที่ 464 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากหากเทียบกับ Content และเนื้อหาภายในเกม ซึ่งโดยประมาณแล้วหากเราจะเล่นเกมนี้ให้จบปีแรกแบบชิล ๆ หากไม่ได้ข้ามวันรัว ๆ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาต่ำ ๆ 30 – 50 ชั่วโมงเลยครับ ซึ่งถ้าเราต้องการเก็บภารกิจหลักของเกมให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูทะเล หาของส่งเทพธิดา หาของส่งพิพิธภัณฑ์ หากทำหมดรวมแล้วก็น่าจะ 100 ชม ++ ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็ใกล้เคียง 100 แล้ว ซึ่งถือว่าคุ้มมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบเกมแนวทำฟาร์ม แถมตัวเกมยังมีการอัปเดตสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งในอนาคตก็จะมีระบบ Co-Op และ เนื้อเรื่องใหม่ ๆ ของเมืองใต้ทะเลเข้ามาให้เล่นด้วย

สรุป

Coral Island ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมทำฟาร์มที่ดีที่สุดในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมาเลยครับ ซึ่งตัวเกมก็ยังมีการอัปเดตเรื่อย ๆ และมีอะไรให้เราทำเพิ่ม เป็นเกมที่เล่นแล้วรู้สึกถึงได้ความพยายามและใส่ใจของผู้พัฒนา รวมถึงบรรยากาศภายในเกมที่อบอุ่นและภาพของชาวเมืองที่พยายามหาทางฟื้นฟูเมืองในรูปแบบของตัวเอง ซึ่งเอาแค่เฉพาะตอนนี้สิ่งที่เราสามารถทำได้ภายในเกมก็เล่นแทบไม่หวาดไม่ไหวแล้ว เอาเป็นว่าใครที่เป็นคอเกมทำฟาร์มผมแนะนำเกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่ควรจะต้องหามาเล่นเลยครับ

RELATED ARTICLES

Most Popular

Recent Comments