วันเสาร์, มกราคม 11, 2025
หน้าแรกGuideCoral Island คู่มือการเล่น และเรื่องที่ต้องรู้แบบละเอียด!

Coral Island คู่มือการเล่น และเรื่องที่ต้องรู้แบบละเอียด!

สารบัญ

เป้าหมายของเกม

ใน Coral Island เราจะเล่นแบบชิล ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็ได้ครับ แต่ตัวเกมก็ได้มีการแทรกเควสหลัก และภารกิจเอาไว้ให้เราทำซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายในการเล่นเกมนี้และทำให้ตัวเกมเล่นแล้วสนุกขึ้น โดยภารกิจใหญ่ที่ผู้เล่นจะได้รับเลยคือ การฟื้นฟูเมืองเพราะด้วยเหตุผลบางประการทำให้เมืองอันแสนสวยงามร้างและไม่มีนักท่องเที่ยว ซึ่งแต่เดิมแล้วเมืองอยู่ในแรงค์ที่ค่อนข้างสูง แต่ ณ วันที่เราย้ายเข้ามาเมืองของเราก็อยู่ในแรงค์ต่ำสุดหรือแรงค์ F ไปเรียบร้อยแล้ว เราสามารถที่จะทำการพัฒนาและฟื้นฟูเมืองให้กลับไปอยู่ในแรงค์ที่สูงขึ้นได้ โดยการทำภารกิจย่อยต่าง ๆ 3 หมวดดังนี้ครับ

1.บริจาคของให้พิพิธภัณฑ์: หลังจากที่เราเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์ครั้งแรก จะปลด Event และหลังจากนั้นเราจะสามารถนำของมาบริจาคได้ โดยของที่สามารถบริจาคได้จะเป็นพวก ปลา / แมลง / ของโบราณ / อัญมณี / ฟอสซิล ซึ่งจะบริจาคได้ชนิดละครั้ง ซึ่งเราจะได้ของรางวัลเป็นการตอบแทนด้วย โดยการบริจาคของ 1 ชิ้นจะได้แต้มฟื้นฟูเมือง 3 แต้ม

2.ฟื้นฟูทะเล: หลังจากที่เราปลด Event ลงไปใต้ทะเลได้แล้วจะช่วยฟื้นฟูทะเลได้โดยการใช้แท่นพลังงาน โดยการฟื้นฟูแต่ละจุดจะได้แต้มฟื้นฟูเมือง 10 แต้ม และจะปลดล็อกโซนใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยยิ่งลึกจะยิ่งมีสิ่งมีชีวิตหายากและ สาหร่ายที่ใช้ในการอัปเกรดการวิจัย

3.ส่งของให้เทพธิดา: อันนี้จะคล้าย ๆ กับบริจาค แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยตรงเราจะต้องส่งของที่เทพธิดาระบุเท่านั้น ซึ่งก็จะมีไล่ตั้งแต่ของที่หาได้ง่ายและของที่หาได้ยากมาก ๆ ซึ่งการจะได้คะแนนจากหมวดนี้เราจะต้องส่งให้ครบประเภทในหมวดนั้น ๆ จึงจะได้ ซึ่งแต้มที่ได้จะค่อนข้างเยอะเลยครับ

โดยส่วนของ Town Rank จะขึ้นเมื่อเราทำคะแนนในหมวดอื่น ๆ ทุกหมวด

การหาเงินเลือกแบบไหนดี?

ในช่วงปีแรกเงินจะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ ในการเล่นเพราะการอัปเกรดสิ่งต่าง ๆ การซื้อของมาใช้งาน การวิจัยสิ่งต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ใช้เงินทั้งสิ้น ซึ่งในช่วงเดือนแรกตัวเลือกเราอาจจะไม่เยอะมาก แต่พอเข้าสู่ช่วงเดือนที่ 2 ไปเราจะพอมีเงินไปทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ค่อยพออยู่ดี โดยผมจะอธิบายถึงข้อดี / ข้อเสีย ของสายต่าง ๆ ในช่วงปีแรกให้ฟังให้ ตัดสินใจในเบื้องต้นครับ

การปลูกผัก / พืชผล

ขอเรียกรวม ๆ ว่าปลูกผักนะครับ สายนี้เป็นสายที่หาเงินก้อนได้ง่ายที่สุด แต่ทั้งนี้การปลูกผักจำนวนมากในช่วงแรกจะใช้เวลาเยอะมากกกกกกก และต้องใช้พลังงานในการรดน้ำต้นไม้เยอะเช่นกัน ซึ่งการจะเล่นสายปลูกผักแนะนำว่าควรจะทำคู่ไปกับการดำน้ำ เพื่อเร่งหาวัตถุดิบในการสร้างสปริงเกอร์หรือเครื่องรดน้ำอัตโนมัติเพื่อลดเวลาในการปลูกผักให้มากที่สุด เพื่อจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ โดยหากอยากจะเน้นปลูกผักอย่างเดียวก็ปลูกที่โตแล้วเก็บขายเลยจะได้กำไรเยอะกว่า แต่ถ้าอยากได้เวลาไปทำอย่างอื่นไม่ต้องมานั่ง หว่านเมล็ดใหม่บ่อย ๆ ก็ปลูกพืชที่เก็บซ้ำได้หลาย ๆ ครั้ง ซึ่งพืชในกลุ่มที่เก็บซ้ำได้ ซึ่งในเดือนแรกเลยจะปลูกไม่ค่อยทัน อาจต้องปลูกที่โตแล้วเก็บขายไปก่อน

สายนี้จะหาเงินได้เร็วมากช่วงเดือนที่ 2 – 3 เป็นต้นไป ในช่วงเดือนแรก ให้เน้นไปที่การหาเงินมาซื้อเมล็ดพืชในเดือนที่ 2 จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นครับ และพอเดือนที่ 3 หากว่าเราเริ่มมีสปริงเกอร์หรือเครื่องรดน้ำอัตโนมัติแล้ว ก็เหลือแค่รอเก็บผลผลิตแล้วล่ะ ซึ่งพอเริ่มมีทรัพยากรเยอะ ๆ ให้เราทำการสร้างพวกถังเพื่อเอาไว้แปรรูป ผลผลิตจะทำให้ได้เงินเยอะขึ้นกว่าขายตรง ๆ

ในส่วนของราคาผลผลิตต่าง ๆ ทางผมเคยรวมไว้ให้แล้วโดยสามารถดูราคาของผลผลิตได้ที่บทความนี้ครับ Coral Island ราคาผลผลิต และการปลดล็อก (Spring / Summer / Fall / Winter ) ส่วนสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมแนวนี้การปลูกผัก เราจะต้องทำการพรวนดินโดยใช้ Hoe ก่อน จากนั้นจึงจะหว่านเมล็ดลงไปได้โดยให้ถือเมล็ดไว้แล้วกดคลิกที่ช่องที่ต้องการ หลังจากนั้น ก็รดน้ำ โดยจะต้องรดทุกวันจนกว่าจะโตเต็มที่แล้วจะเก็บเกี่ยวได้ จากนั้นสามารถเอาไปขายโดยการใส่ไว้ในกล่อง ข้าง ๆ บ้าน หรือเอาไปขายที่ร้านค้าตรง ๆ

ตกปลา

สายนี้เป็นสายที่ปั๊มตังได้ไวที่สุดในช่วงแรก (ย้ำว่าช่วงแรกนะ) เพราะตอนตกปลาในเกมนี้เวลาจะหยุด หมายความว่าเราสามารถปั๊มปลาได้แทบจะเรื่อย ๆ เลย โดยเวลาจะเดินแค่ตอนชาร์จกับเหวี่ยงเบ็ด ซึ่งสายนี้จะเหมาะมากในการปั๊มเงินช่วงเดือนแรก – เดือนที่สอง หรืออาจจะมาตกปลาฆ่าเวลาหลังจากทำกิจกรรมอื่น ๆ ในเกมเรียบร้อยแล้วเสริมรายได้อีกทีก็ได้ ข้อเสียอย่างเดียวของสายนี้คือมันกินเวลาเยอะมาก หากใครขยันก็จัดไปครับ ซึ่งสายปลูกผักจะเริ่มหาเงินได้มากกว่าหลังจากที่เราเริ่มมีแปลงผักเยอะ ๆ แล้ว แต่ในช่วงต้น มั่นใจได้เลยว่าการตกปลาหาเงินได้เยอะกว่า แต่หากอยากโฟกัสที่หาเงินจริง ๆ จัง ๆ ช่วงเดือนที่ 2 ไปเน้นไปที่ปลูกผัก / เลี้ยงสัตว์จะหาได้ไวกว่า

*Tip: คุณภาพของปลาจะสูงขึ้นตามระดับการฟื้นฟูทะเล หมายความว่าเรามีโอกาสได้ปลาในระดับดาวที่สูงกว่าปกติ หากว่าระดับของ Ocean เราสูงขึ้น

เก็บของป่าขาย

วิธีที่ดีมากในการปั๊มเงินช่วงต้นเกมแบบ Easy Money หากเราสามารถที่จะจำจุดของป่าเกิดบ่อย ๆ ได้เราสามารถวนไปเก็บได้เรื่อย ๆ ทั้งนี้ต้องแจ้งไว้ก่อนว่า แต่ละวันมันอาจจะสุ่มเกิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นอาจจะต้องคอยเช็คดูดี ๆ และจำจุดที่ของป่าเกิดบ่อย ๆ เอาไว้ครับ โดยในช่วงเดือนแรก หากวันไหนโชคดีเก็บของป่าได้เยอะสามารถหาเงินได้เกิน 1000 Coin เลยทีเดียว

จับแมลง + จับสัตว์ทะเล:

สายนี้ช่วงแรกหาเงินค่อนข้างยากครับ แต่ในทะเลดันมีของจำเป็นในการอัปเกรดวิจัย กับทำสปริงเกอร์ ซึ่งการจับสัตว์ทะเล กับการจับแมลงจะคล้ายกันคือต้องใช้สวิงจับ และเราจะเริ่มดำน้ำได้หลังจากเล่นไปสักพักนึง ให้ผ่านช่วงวันแรก ๆ ของเกม ซึ่งที่ผมบอกว่ามันหาเงินได้ยากเป็นเพราะว่า การจับแมลง + จับสัตว์ทะเล เวลาของเกมจะเดินตามปกติ ทำให้หากเราไม่โชคดีจริง ๆ การจะปั๊มเงินจากสายนี้เป็นอะไรที่ยากมาก แต่หลังจากที่เลเวลอัปไปเยอะระดับนึงแล้วเราจะหาเงินได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถเอาสัตว์ทะเลไปแปรรูปได้ ส่วนแมลงไม่ค่อยมีอะไรเพิ่มมูลค่าเท่าไหร่

หลังจากที่เราเล่นไปสักระยะแล้วและฟื้นฟูปะการังทั้งหมดได้แล้ว จะมีเควสให้เราสามารถกลายเป็นนาง/นายเงือกได้ สามารถอ่านรายละเอียดเต็ม ๆ ได้ที่ Coral Island วิธีการแปลงร่างเป็นเงือก

เลี้ยงสัตว์

สายนี้เนื่องจากในช่วงแรกการซื้อสัตว์มาเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก และต้องเลี้ยงให้มีค่าความรักระดับนึงถึงจะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง เลยต้องใช้เวลาสักระยะ แต่หากว่าเล่นไปสักระยะนึงแล้ว สายนี้หาเงินได้เป็นรองแค่ปลูกผักเท่านั้นครับ โดยการขายวัตถุดิบตรง ๆ อาจได้ราคาไม่สูงมาก แต่ผลผลิตจากสัตว์ทุกอย่างเราสามารถแปรรูปก่อนเอาไปขายได้ ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างคุ้ม

ขุดเหมือง

สายนี้เป็นอีกสายนึงที่หาเงินได้ค่อนข้างลำบาก แต่ข้อดีคือเราจะมีโอกาสเจอไอเทมเอาไปบริจาคให้ Museum ได้บ่อย และมีของจำเป็นในการเอาไปอัปเกรดอุปกรณ์ ซึ่งแนะนำว่าควรหาเวลามาขุดเหมืองบ้าง เพื่ออัปเกรดของ แต่ถ้าจะหาเงินจริงจังไปโฟกัสทำอย่างอื่นดีกว่าครับ เพราะของที่ได้จากเหมืองโดยรวมแล้วช่วงต้นเกมขายไม่ได้ราคาเท่าไหร่ และเรายังต้องเจอกับมอนสเตอร์มากวนใจด้วย

วิธีการคราฟไอเทม

ขอเขียนอธิบายหัวข้อนี้นิดนึงเผื่อเพื่อน ๆ บางคนที่พึ่งเล่น เราสามารถทำการสร้างไอเทมบางชนิดได้ โดยในช่วงแรกจะยังมีไม่เยอะ แต่หลังจากที่เลเวลของสกิลสายต่าง ๆ เพิ่มเราจะได้รับสูตรการสร้างเพิ่มมากขึ้น โดยวิธีการคราฟของทำได้ดังนี้ครับ โดยกดกดไปที่ตัว T เพื่อเรียกเมนูขึ้นมา จากนั้นกดเลือกไปที่แถบ Craft หมวดที่เราต้องการ ตัวเกมจะโชว์รายการของขึ้นมา และวัตถุดิบที่ต้องใช้ ซึ่งหากเรามีวัตถุดิบอยู่ในตัวหรือในกล่องไอเทมใด ๆ ก็ตามเพียงพอจะสามารถทำการสร้างได้เลย

เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเล่น

  • เราสามารถขายของป่าได้ที่ร้านค้าของ Sam ทำให้ไม่ต้องเดินกลับไปที่บ้านในตอนแรกซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในช่วงต้นเกมได้เยอะมาก เพราะช่องเก็บของเราน้อย โดยข้อดีของการขายกับ Sam คือเราจะได้เงินทันทีไม่ต้องรอจบวันแบบเอาไปขายลงในกล่อง
  • ในส่วนของแมลงปลาและสัตว์ทะเลเราสามารถขายได้ที่ร้านค้าตรงชายหาด เป็นอีกแนวทางนึงในการเซฟเวลากับช่องในกระเป๋ากรณีที่ไม่ได้คิดจะเก็บของนั้นเอาไว้ครับ
  • พยายามกดแดชบ่อย ๆ จะช่วยเซฟเวลาในการเดินได้เยอะมาก และพยายามรีบปลดจุดวาร์ปภายในเกมให้เยอะที่สุดจะได้ประหยัดเวลาในการเดิน
  • พยายามนอนให้ใกล้เคียงกับ 12.00 ให้มากที่สุด เพราะพลังงานจะได้ฟื้นฟูกลับมาเต็ม หากเรานอนหลัง 12.00 พลังงานจะฟื้นฟูไม่เต็มที่ (ยกเว้นว่าใช้ไปน้อย) หากเรานอนไม่ทันเวลา 02.00 ตัวเราจะสลบ และจะโดนบังคับกลับไปนอนทันที รวมถึงโดนหักเงิน 5% จากที่มี (แต่จะไม่เกิน 2000)
  • ในแต่ละวันหลังจากจัดการเรื่องที่ฟาร์มจบแล้ว เช่นรดน้ำต้นไม้ / เลี้ยงสัตว์ / อื่น ๆ แนะนำว่าให้เก็บของที่ไม่ใช้ลงในคลังก่อน เพราะในช่วงต้นเกมช่องในกระเป๋าเราน้อยมาก บางทีเดินไประหว่างทางอาจจะเจอของน่าสนใจหรือมีราคาเก็บมาขายได้
  • ในช่วงวันแรก ๆ หุ่นไล่การะดับสูงจะทำได้ยากเพราะเลเวลฟาร์มเรายังไม่ถึง สามารถไปซื้อที่ร้านของ Ben ที่จอดรถขายอยู่ตรงภูเขาแถวๆ เหมืองได้
  • ในช่วงปีแรกควรเน้นไปที่สกิลที่ทำให้เราได้เงินเพิ่มขึ้นก่อน เพราะสุดท้ายแล้วเราจะสามารถอัปสกิลทั้งหมดได้อยู่ดี ซึ่งในช่วงระยะแรกเราจะค่อนข้างขาดแคลนเงิน ดังนั้นสกิลที่ทำให้ขายของได้ราคาสูงขึ้นจึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก ยกเว้นแต่สายดำน้ำ และ สายขุดแร่ ที่อาจจะเน้นไปที่การเก็บ Kelp ก่อน เพราะต้องใช้ในการอัปเกรด
  • ในแต่ละฤดูควรปลูกพืชผลไว้อย่างละนิดหน่อยไม่ว่าจะเล่นสายไหนก็ตามเผื่อเอาไว้ส่งเควส
  • ควรพกอาหารหรือยาฟื้นฟูพลังงานติดตัวไว้เสมอ โดยช่วงแรกอาจใช้เป็น Candies tree seed ที่ได้มาฟรีและทำง่าย และพอเริ่มมีเงินก็ไปซื้อยาฟื้นฟูพลังงานที่คลีนิก โดยช่วงหลังอาจจะใช้การทำอาหารแทน เพราะประหยัดกว่า
  • ช่วงแรก หากไม่รู้จะให้ของขวัญอะไรกับ NPC หากถึงวันเกิด เราสามารถทำช่อดอกไม้ให้ก่อนได้ เพราะ NPC แทบทุกตัวจะชอบของชนิดนี้ ซึ่งของชอบแบบละเอียดสามารถดูได้ที่บทความที่ทางผู้เขียนเคยทำไว้ Coral Island ข้อมูลและของชอบของชาวเกาะ / Coral Island ข้อมูลและของชอบของสาว ๆ / Coral Island ข้อมูลและของชอบของหนุ่ม ๆ
  • หากเจอ Wild Seed ที่ได้จากจุดต่าง ๆ ให้เก็บสะสมไว้ก่อน เราสามารถเอาไปใช้ในฤดูหนาวที่ปลูกพืชไม่ค่อยได้ เพราะในช่วงแรกการจะเล่นให้ถึงแรงค์ C เพื่อปลดเมล็ดทำได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นเพื่อความชัวร์แนะนำให้เก็บไว้ จะได้ไม่เหงาตอนฤดูหนาว
  • พยายามดูวันเกิด NPC บ่อย ๆ โดยสามารถเช็คได้ที่ปฏิทินในเมือง ที่เดียวกับจุดรับเควส หรือซื้อปฏิทินมาวางไว้ในบ้านก็ได้เหมือนกัน เพราะวันเกิด NPC หากเราให้ของขวัญจะได้รับค่าความสนิทสนมเพิ่มเยอะมาก ซึ่ง หลายครั้งเราจะได้สูตรอาหารใหม่ ๆ
  • หากเราเริ่มปลูกผักจำนวนมากและเก็บมือเสียเวลาเราสามารถใช้เคียวเก็บผลผลิตได้ จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะมาก
  • หลังจากเราปลด Event ส่งของให้ Museum แล้วและ ส่งของให้เทพธิดาเรียบร้อย หากมีของชิ้นไหนที่จะต้องส่ง เมื่อเราเอาเมาส์ไปชี้ที่ไอเทมจะมีคำว่า Donate กับ Offering ขึ้นมาบอก
  • เราสามารถกด Tab ที่กล่องไอเทมหรือในกระเป๋าไอเทมเพื่อจัดเรียงของอย่างเร็วได้
  • ต้นไม้นอกฟาร์มจะงอกขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ สามารถตัดได้ไม่อั้น (พอวันใหม่ก็งอกใหม่)
  • ต้นไม้ในฟาร์มหากอยากปลูกสามารถเก็บเมล็ดมันมาปลูกได้ ไม่ต้องพรวนดินกับรดน้ำ
  • หากเจอใบโครเวอร์ขึ้นตามทางสามารถเอาพลั่วขุดได้ โดยจะสุ่มได้ของเล็ก ๆ น้อย ๆ

การเล่นปีแรกในแต่ละฤดู

ในส่วนนี้เป็นคำแนะนำในการเล่นและสิ่งที่ควรทำในแต่ละฤดูในช่วงแรกเท่านั้นครับ ซึ่งใช้เป็นแนวทาง เพื่อน ๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้ แต่ไม่จำเป็นว่าต้องฟิกทำแบบนี้ก็ได้ โดยในส่วนนี้จะเป็นไกด์ไลน์จากที่ผมเล่นแล้วคิดว่าดีในช่วงปีแรก

Spring

ช่วงเดือนแรกเราจะแทบไม่มีอะไรติดตัวเลย ต้องสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่ โดยสิ่งที่ควรทำในวันแรก ๆ เลยคือเร่งตระเวนเก็บของป่าขาย ซึ่งหลังจากวิ่งเก็บของป่าแล้วก็ไปซื้อเมล็ดพืชและถ้าพลังงานเหลือก็เคลียร์ฟาร์ม โดยในช่วงวันแรก เราจะต้องเร่งเก็บเงินเพื่อต่อเติมฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็น ซื้อเมล็ดพืช / อัปเกรดอุปกรณ์ / ทำโรงเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ เลยมีเรื่องที่ต้องทำเยอะมาก ซึ่ง

ตัวอย่างในการเล่นของทางผู้เขียนในช่วงวันแรก ๆ จะเป็นประมาณนี้ รดน้ำผัก > วิ่งเก็บของป่าโซนด้านบน > เอาของป่าไปขายที่ Store > เก็บของป่าที่ตกตรงทะเล > เอาไปขายที่ร้านตรงทะเล > ตกปลา ถ้าพลังงานหมดก็หาอะไรกิน โดยช่วงแรกเราจะได้อาหารมาฟรีนิดหน่อยเป็น Candies tree seed หรือหากของป่าบางอย่างขายได้ราคาไม่แพงเก็บไว้กินฟื้น Energy ก็ได้ แต่ทีนี้วันแรกเราจะยังไม่มีเบ็ดตกปลา ดังนั้นอาจจะเคลียร์ฟาร์มไปพลาง ๆ เพื่อเตรียมตัวปลูกผักก่อน โดยการวิ่งเก็บของป่า เพื่อน ๆ สามารถดูตัวอย่างได้ตามภาพ โดยปรับเปลี่ยนได้ตามเหมาะสม

และในช่วงที่แวะพักขายของวันแรก แนะนำว่าให้ซื้อเมล็ด Potato หรือเมล็ดอื่น ๆ มานิดหน่อยเพื่อปลูกไปก่อน เพื่อเร่งหาเงินให้มากที่สุด และรีบซื้อกระเป๋าเพื่อทำให้การเล่นง่ายขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนซื้อกระเป๋าวันที่สองครับ เพราะในการอัปกระเป๋าครั้งแรกใช้เงินแค่ 500 วันเดียวเราก็สามารถหาได้แล้ว และหากมีเวลา แนะนำว่าควรเร่งทำภารกิจต่อเติมบ้านรอบแรก ซึ่งจะฟรี โดยให้เราเอาของไปที่บ้านของช่างไม้ โดยเราสามารถทำให้จบได้ตั้งแต่วันแรกเลยครับ เพราะของที่ใช้ไม่เยอะเท่าไหร่ หรือจะค่อย ๆ ทำให้จบวันที่สองหรือสามก็ได้ โดยเราจะได้ทีวีมาฟรีด้วยเอาไว้ใช้ดูพยากรณ์อากาศ

สำคัญมากเลยคือควรจะปลูกผักเอาไว้ชนิดละนิดหน่อย เผื่อเจอเควสของชาวเมืองที่เราต้องส่ง โดยเราสามารถเช็คได้ที่ป้ายแถว ๆ ร้านค้า โดยช่วงวันแรกจะลำบากหน่อยเพราะเราจะยังคราฟหุ่นไล่กาไม่ได้ สามารถแก้ปัญหาได้โดยไปซื้อกับ Ben ช่วงวันหยุด จะมีหุ่นไล่กาขายแต่มันก็จะราคาแพงนิดนึงสำหรับวันแรก ๆ ดังนั้นวันแรก ๆ เลยอาจจะต้องทนโดนอีกามากินผลผลิตของเราไปก่อน อีกสิ่งที่ควรทราบคืออย่าปลูกผักเยอะเกินไปจนพลังงานไม่เหลือไปทำอย่างอื่น เพราะเราจะต้องเผื่อเวลาเอาไว้สำรวจสิ่งอื่น

รวมสิ่งที่ควรทราบในฤดู Spring

  • พืชที่แนะนำให้ปลูกเป็นพิเศษเลยในช่วงแรกคือ Potato เพราะกำไรต่อผลค่อนข้างจะเยอะ และใช้เวลาแค่ 5 วันในการโต
  • ฤดูนี้ของป่าที่ควรเก็บเป็นพิเศษ หลังจากที่คราฟกล่องได้แล้วจะเป็น Wasabi ที่หากว่าเจอควรเก็บเอาไว้ หรือจะแบ่งขายไปบ้างก็ได้ ที่ให้เก็บเพราะว่ามันสามารถเอาไปทำเมนูง่าย ๆ อย่างซาซึมิได้ในอนาคต
  • หลังจากวันที่ฝนตกจะมีของป่าเยอะเป็นพิเศษอย่าลืมวนหาของป่าขายเพราะจะได้เงินเยอะมากในช่วงแรก
  • รีบทำเควสของเทพธิดาให้ไวที่สุดจะมีแถวนึงที่ชื่อ Spring Sesajen ซึ่งเราจะสามารถเคลียร์ได้ประมาณช่วงวันที่ 8-9 หากวางแผนดี ๆ จะทำให้ได้เมล็ด Sugarcane มาปลูก 8 เมล็ด เป็นพืชที่โตซ้ำได้และเก็บเกี่ยวได้ไว ทำให้ช่วยเรื่องเงินเราได้ดีระดับนึง
  • เราจะไปรับเบ็ดตกปลาและที่จับแมลงได้ฟรีในวันที่ 2 ที่ร้านค้าตรงชายทะเล
  • เราจะเข้าไปสำรวจในเหมืองได้วันที่ 5 แนะนำว่าก่อนสำรวจควรอัปกระเป๋าสักขั้นสองเพราะไม่งั้นช่องจะไม่ค่อยพอ โดยเดินไปที่ Cavern จะเจอ Event และเราจะเข้าไปใช้เหมืองได้
  • เราจะเริ่มดำน้ำได้วันที่ 8 โดยเราจะได้จดหมายให้ไปที่ท่าเรือ และได้รับชุดดำน้ำ
  • อย่าลืมเก็บเงินไว้ซื้อเมล็ดพืชเดือนถัดไป ในช่วงท้าย ๆ เดือน และเตรียมของอย่างปุ๋ย หรือ สารเร่งโตไว้ จะได้เล่นง่ายในเดือนใหม่ โดยหากเราใช้กับพืชที่เก็บซ้ำ ได้มันจะอยู่ได้ทั้งเดือนเลย
  • หากพอมีเงินเหลือให้ไปอัปเกรดคุณภาพของผลผลิต โดยที่ควรเน้นในตอนแรกจะเป็นพืชพันธ์กับผลไม้ เพื่อเอาไว้ส่งเควส Local Product จะได้ปลดล็อกเสาวาร์ปที่เมืองได้
  • ช่วงกลาง ๆ ฤดูเราจะไปเขย่าต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าวได้
  • ในงานเทศกาล Cherry Blossom มีเทคนิคการเล่นมินิเกมให้ชนะง่าย ๆ คือทำให้พลังงานของตัวเองเต็มก่อนเข้าเล่น และเพิ่ม Max Stamina โดยการกิน Jamu ก่อนเข้า (ควรซื้อเก็บไว้ก่อนวันงาน)

ในช่วง Summer ช่วงต้นเดือนจะมีกิจกรรมที่ต้องใช้สัตว์เลี้ยง ซึ่งหากมองว่าไม่ทันข้ามไปก็ได้ แต่ใครอยากร่วมสนุกก็ เร่งทำคอกสัตว์ไว้ก็ได้ครับ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ต้องรีบแล้วไปเล่นให้ชนะปีที่สองก็ได้ เพราะสัตว์ช่วงแรกถือว่าแพงเอาเรื่อง และการรีบมีสัตว์จะทำให้เราต้องแบ่งเวลาไปใช้เลี้ยงมันด้วย ทำให้เรื่องที่ต้องทำเยอะแล้วอาจสับสน

Summer

ฤดูนี้เราจะเริ่มหาเงินได้ง่ายขึ้น เพราะมีผลผลิตที่เก็บเกี่ยวซ้ำได้ ทำให้เราไม่ต้องปลูกใหม่บ่อย ๆ และน่าจะเริ่มหา Springer มาใช้งานกันได้แล้ว แม้ว่าอาจจะไม่เยอะมากแต่ก็ช่วยทุ่นแรงและประหยัดเวลาไปได้เยอะ ทำให้มีเวลาในการสำรวจสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น

สิ่งที่ควรทราบในฤดู Summer

  • พืชที่ควรปลูกเป็นอย่างมากเลยคือ Hot Pepper เพราะมันจะอยู่ได้ถึงเดือน Fall และราคาขายก็ไม่ได้แย่ถือว่าใช้ได้เลย นอกจากนี้เราเอาไปแปรรูปเป็นซอสพริกได้ด้วย
  • เหมือนเดิมอย่าลืมปลูกผักไว้ชนิดละนิดหน่อยเพื่อเอาไปส่งเควส
  • โดยส่วนตัวแล้วแนะนำให้ปลูกผลผลิตที่เก็บซ้ำได้เป็นหลัก แล้วเอาเวลาที่เหลือไปลงทะเล หรือลงเหมืองเพื่อหาของมาอัปเกรด ก่อน แม้ว่าของพวกนี้จะได้เงินน้อยกว่าพวกปลูกครั้งเดียว แต่ก็ประหยัดเวลากว่าเยอะครับ (แต่อันนี้แล้วแต่พิจารณานะ)
  • ในฤดูนี้จะมีเทศกาลที่ให้เราใช้สัตว์เข้าร่วม ซึ่งการชนะค่อนข้างลำบาก เพราะการปั๊มหัวใจให้ทันค่อนข้างยากแนะนำว่าไม่ต้องรีบรอปีหน้าดีกว่า เพราะยังไม่ได้มีผลอะไรมากนัก และคิดว่าเราไปทุ่มทรัพยากรทำอย่างอื่นก่อนดีกว่า แต่หากใครอยากเลี้ยงก็สามารถทำได้เช่นกัน
  • อย่าลืมปลูกต้นไม้เอาไว้บ้างเพราะสามารถเก็บได้ยาว ๆ และเผื่อใช้ในการส่งเควส โดยเลือกต้นที่โตได้ในฤดู Summer / Fall
  • พยายามเร่งอัปเกรดเมืองเป็น Rank E เป็นอย่างน้อยเพื่อปลดล็อกพืชผลต่าง ๆ
  • อย่าลืมส่ง Offering ของฤดูร้อนให้นางฟ้าเพื่อสะสมให้ได้ Green House ในช่วงท้ายปี
  • หากเลี้ยงสัตว์อย่าลืมวางเครื่อง Temperature machine ไว้ในเล้าสัตว์เพราะอากาศร้อนจะทำให้สัตว์อารมณ์ไม่ดีได้
  • อย่าลืมลงเหมืองไปช่วยยักษ์ เพราะหลังจากช่วยยักษ์ได้แล้วเกมจะปลดระบบเอนช้านของทำให้เราเล่นง่ายขึ้น
  • ช่วงกลาง ๆ ฤดูเราจะไปเขย่าต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าวได้ (จะเป็นคนละชนิดกับฤดู Spring)
  • สำหรับในส่วนของการปลูกผักปีแรกแนะนำว่าให้ใช้สปริงเกอร์ระดับ 1-2 ก็พอแล้วค่อยเปลียนเป็นระดับ 3 ทีเดียวปีที่ 2 จะดีกว่าเพราะช่วงแรกต้องใช้วัตถุดิบค่อนข้างเยอะ
  • ในงานเทศกาล Beach Cleanup Day จะมีแข่งว่ายน้ำ ซึ่งจะอิงตามค่า Stamina ของเราดังนั้นควรกิน Jamu และทำให้พลังงานเต็มและเยอะที่สุดก่อนเล่นจะเพิ่มโอกาสในการชนะ
  • งานเทศกาล Animal Festival หากเราส่งสัตว์เข้าเล่นมินิเกมและชนะสัตว์ตัวนั้นจะให้ผลผลิตเป็นทอง โดยมีประเภทที่ส่งได้สองชนิดคือ ไก่ และ วัว

Fall

เดือนนี้เป็นเดือนที่หากเราวางแผนดี ๆ จะสามารถหาเงินจากการปลูกผักได้เยอะมาก ๆ เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่น่าจะพอมีเงินเก็บและอัปเกรดของไปบ้างแล้ว โดยแนะนำว่าให้ดองของเอาไว้บางส่วนเผื่อแปรรูปในช่วงฤดูหนาวที่ค่อนข้างว่าง และแนะนำว่าควรเริ่มเลี้ยงสัตว์ได้แล้วหากใครที่ยังไม่เริ่ม เพื่อให้ปั๊มหัวใจทันช่วงฤดูหนาวที่ค่อนข้างจะว่าง ช่วงฤดูหนาวเราจะได้มีรายได้เข้ามานอกจากการปลูกผัก

สิ่งที่ควรทราบในฤดู Fall

  • หากเจอ Wild Seed พยายามเก็บเอาไว้เพราะหากเราอัปเกรดเมืองเป็นระดับ C ไม่ทันเราสามารถใช้ Wild Seed ปลูกแก้ขัดได้ แต่ถ้าอัปถึง C ทันก่อนหน้าหนาวแน่ๆ ก็ไม่ต้องเก็บไว้ก็ได้
  • ในฤดูนี้จะมีเทศกาลเก็บเกี่ยวเราจะต้องเอาผลผลิตของเราไปประกวด ซึ่งหากเรามีผลผลิตหลายประเภทจะได้คะแนนความหลากหลายเพิ่มด้วย แต่ ทั้งนี้คะแนนที่ได้ จะอิงจากราคาขายของผลผลิตนั้น ๆ หากใส่ของไปหลากหลายแต่ราคาพื้นฐานของไอเทมที่เราใส่ไม่สูงก็ได้คะแนนน้อย ตัวอย่างของที่น่าสนใจที่มีโอกาสชนะสูงในปีแรกคือ 3 เมลอน / 3 ไวน์ (แต่ต้องระดับค่อนข้างสูงนะ) ซึ่งในปีแรกถ้าเอาแค่ชนะคู่แข่งเฉย ๆ ทำให้ได้เกิน 96 คะแนนก็ชนะแน่นอนแล้ว แต่ปีถัด ๆ ไปคู่แข่งจะใช้ของดีขึ้น
  • หากอยากได้อาหารที่เพิ่มพลังเยอะ ๆ และทำง่ายอย่าลืมปลูกข้าวเอาไว้บ้างโดยข้าวสามารถเอาไปทำ Sushi ได้ซึ่งใช้แค่ข้าว + ปลา + Chef knife เท่านั้น
  • อย่าลืมส่ง Offering ของฤดูร้อนให้นางฟ้าเพื่อสะสมให้ได้ Green House ในช่วงท้ายปี
  • เก็บเมล็ดพันธ์พืชเอาไว้บางส่วนเผื่อเอาไว้ใช้ใน Green House ช่วงฤดูหนาว หากเราส่ง Offering ใน Crop Altar ครบจะสามารถใช้ปลูกอะไรก็ได้
  • ฤดูนี้เป็นฤดูที่ดีมากในการเริ่มเลี้ยงสัตว์ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องอุณภูมิ และคิดว่าตัวฟาร์มน่าจะเริ่มอยู่ตัวกันแล้ว
  • พืชป่าที่มีโอกาสเจออย่าง Titan arum สามารถเอาไปทำ Titan arum black honey ได้ซึ่งมีราคาสูงถึง 2520 หน่วยเลย (เอาไปใส่ ฺBee house)
  • แนะนำว่าหากเริ่มมีเงินเยอะแล้วไม่ต้องขายผลผลิตทั้งหมด แล้วดองเอาไว้แปรรูปช่วงว่าง ๆ ในฤดูหนาวจะได้เงินเยอะกว่าการเอาไปขายตรง ๆ

Winter

ฤดูนี้หากไม่อัปแรงค์เมืองถึงระดับ C จะมีของให้ปลูกน้อยมาก ซึ่งการจะทำให้ถึงได้หากไม่เตรียมตัวให้ดีตั้งแต่ต้นถือว่ายากมาก แต่มีวิธีแก้ปัญหาอย่างนึงคือสะสม Wild Seed เอาไว้ สามารถเอามาใช้ปลูกเพื่อลุ้นรับเมล็ดแบบสุ่มได้ โดยฤดูนี้ อาจเน้นไปที่การขยายการเลี้่ยง และ เคลียร์พืชผลที่ดองไว้ โดยการเอามาแปรรูปก่อนขาย ซึ่งเดือนนี้เหมาะมากกับการเคลียร์เหมืองให้ครบ และ เคลียร์ ภารกิจที่ใต้บาดาล ยิ่งหากใครแรงค์เมืองยังไม่ถึง C เดือนนี้เป็นโอกาสดีมากครับ

สิ่งที่ควรทราบในฤดู Winter

  • หากเราจะส่ง Tea leaf แต่ยังปลูกไม่ได้เพราะระดับแรงค์ไม่ถึง สามารถใช้ Wild Seed เอามาปลูกเพื่อสุ่มได้ Tea leaf ได้
  • อย่าลืมวาง Temperature machine ไว้ในเล้าสัตว์เพราะอากาศหนาวอาจทำให้สัตว์อารมณ์ไม่ดีหรือป่วยได้
  • ฤดูนี้มีปลาเฉพาะหลายตัวที่เราสามารถตกได้ หากไม่มีอะไรทำควรไปไล่ตกดู

จุดที่ควรทราบของแต่ละฤดูก็จะมีประมาณนี้ครับ ซึ่งก็หวังว่าจะช่วยเป็นไกด์ไลน์ให้เพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อย โดยในส่วนถัดไปจะเป็นไกด์ระบบสำคัญ ๆ และทิปน่ารู้ในบางจุด ภายในเกม โดยจะมีอะไรบ้างสามารถเลื่อนลงไปอ่านกันได้ครับ

การปลูกผักและผลผลิต

เกมนี้จะมีชนิดของพืชแยกตามประเภทการปลูก 3 ชนิด แบบรวม ๆ เลยคือ

  1. ใช้เมล็ดปลูก อันนี้จะต้องทำการพรวนดินด้วย Hoe แล้วค่อยหว่านเมล็ดและรดน้ำต้นไม้
  2. เป็นต้นอ่อน อันนี้จะต้องพรวนดินเช่นกัน แล้วค่อยวาง แต่จะแตกต่างกับเมล็ดตรงจะต้องใช้ช่องขนาด 2*2 ในการวาง และส่วนมากพวกนี้จะเป็นผลไม้ที่สามารถอยู่ได้ 2 ฤดูแต่โตค่อนข้างช้ามาก
  3. เป็นต้น สำหรับที่เป็นต้นจะต่างกับแบบอื่นตรงไม่ต้องพรวนดินแต่เอาไปวางได้เลย เพียงแต่ต้นไม้ประเภทนี้จะโตช้ามาก แต่ก็มีข้อดีคือ ถ้าพ้นฤดูกาลไปแล้วมันจะไม่ตาย แค่จะไม่ออกผล

สิ่งสำคัญเลยในการปลูกพืชผลที่เป็นเมล็ดคือเราจะต้องวางหุ่นไล่กาเอาไว้ด้วยไม่อย่างนั้นจะโดนสัตว์มากินเมล็ดทำให้พืชของเราไม่โต ซึ่งในวันแรก ๆ จะยังไม่สามารถสร้างได้เพราะเลเวลการฟาร์มยังไม่ถึง แต่หลังจากเล่นได้ระยะนึงจะสามารถสร้างมาใช้งานได้ ทั้งนี้เราสามารถไปซื้อมาใช้ได้ที่ร้านของ Ben ที่เปิดในช่วงวันหยุดเช่นกัน แม้ราคาจะแพงไปบ้างในช่วงแรก แต่ก็เป็นหุ่นไล่การะดับสูง โดยร้านค้าจะรีสัปดาห์ละครั้ง

ภาพระยะของหุ่นไล่กา

ใครที่เริ่มเมื่อยกับการรดน้ำด้วยมือ ตัวเกมเราจะสามารถสร้างสปริงเกอร์หรือเครื่องรดน้ำอัตโนมัติมาใช้ได้หลังจากที่เลเวลการทำฟาร์มเราเริ่มเยอะขึ้น โดยเจ้าสปริงเกอร์นี้จะทำการรดน้ำบริเวณรอบ ๆ โดยในช่วงแรกจะคราฟได้แต่ระดับต่ำ แต่หลังจากที่เล่นไปจนเลเวลทำฟาร์มเยอะ ๆ แล้วจะสามารถคราฟสปริงเกอร์ที่รดน้ำได้ถึง 9*9 ช่องเลย

ภาพเปรียบเทียบระยะของสปริงเกอร์ระดับต่ำสุดไปสูงสุดจากซ้ายไปขวา

การติดตั้งอุปกรณ์เสริม

เราสามารถติดอุปกรณ์เสริมให้สปริงเกอร์ได้ โดยจะมีตั้งแต่ใส่ปุ๋ยอัตโนมัติ /หว่านเมล็ดอัตโนมัติ / เก็บเกี่ยวอัตโนมัติ โดยจะติดได้ทีละอัน ซึ่งสามารถไปวิจัยวิธีผลิตได้ที่ Lab โดยการวิจัยระดับสูงสุดจะได้ส่วนเสริมที่เก็บเกี่ยวและหว่านเมล็ดใหม่ได้พร้อมกัน ซึ่งดีมาก แต่ในปีแรกก็ทำได้ยากมากเช่นกัน แนะนำว่าค่อยมาทำช่วงปีที่สองจะดีที่สุด เพราะของที่ต้องใช้ค่อนข้างเยอะ ส่วนวิธีการติดเพียงเราถือไว้แล้วเดินไปติดที่สปริงเกอร์ก็เป็นอันเรียบร้อย โดยเครื่องที่เก็บเกี่ยวผลผลิต ตัวผลผลิตจะอยู่ที่สปริงเกอร์เราต้องเดินไปเก็บอีกที ส่วนที่หว่านเมล็ดและปุ๋ย เราจะต้องเติมเมล็ดกับปุ๋ยเอาไว้ด้วย

สิ่งที่ควรทราบในการปลูกผัก

  • หากพ้นฤดูไปแล้วพืชผลนั้น ๆ จะตายยกเว้นพืชผลบางชนิดที่อยู่ได้หลายฤดูและพวกที่เป็นต้นไม้
  • เมล็ดพันธ์ใหม่ ๆ จะปลดเมื่อระดับของเมืองเพิ่มขึ้น
  • ปุ๋ยปกติจะใช้แล้วหมดไป แต่หากใช้กับพืชที่เก็บเกี่ยวซ้ำได้จะอยู่ได้เรื่อย ๆ
  • วันที่โตจะนับหลังจากวันหว่านเมล็ดเช่น ผักที่บอกว่าใช้เวลา 4 วันให้เริ่มนับ 1 หลังจากวันหว่านเมล็ด ส่วนการเก็บซ้ำสำหรับชนิดที่เก็บได้ จะนับ 1 ตั้งแต่วันที่เก็บ
  • พืชบางชนิดสามารถกลายเป็นผลผลิตขนาดใหญ่ได้ (อ่านด้านล่างหัวข้อถัดไป)
  • พืชผลโดยส่วนใหญ่จะสามารถนำไปแปรรูปต่อเพื่อเพิ่มมูลค่าได้ ช่วงแรกอาจไม่ต้องสนใจมาก แต่หลังจากเล่นไปสักพักเพื่อเพิ่มมูลค่าควรแปรรูปก่อนขาย

เกี่ยวกับผลผลิตยักษ์

อันนี้เหมือนเป็นสิ่งเสริมเล็ก ๆ ภายในเกมไม่จำเป็นต้องโฟกัสมากก็ได้ในช่วงแรก โดยหากเราปลูกผลผลิตบางชนิดติดกัน แบบ 3*3 ช่อง จะมีโอกาส 5% ที่มันจะกลายเป็นผลผลิตยักษ์ ซึ่งจะมีพืชผลบางชนิดเท่านั้นที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยจะมี Bell pepper, Red cabbage, Cotton, Starfruit, Potato, Strawberry, Pumpkin, Watermelon ซึ่งหากเกิดขึ้นผลผลิตในระยะ 3*3 จะรวมเป็นผลใหญ่และเมื่อเก็บเกี่ยวเราจะต้องใช้ขวาน โดยจะมีโอกาสได้ผลผลิตจำนวน 17/21 ชิ้น ทั้งนี้ข้อควรทราบคือพืชผลที่ปกติจะเก็บได้หลายครั้งหากรวมเป็นผลผลิตยักษ์แล้วเมื่อเก็บมันจะหายไป

บริจาคของให้เทพธิดา

ภายในเกมจะเรียกส่วนนี้ว่า Offering โดยหากเราสามารถส่งของได้ครบทั้งแถวตามจำนวนที่กำหนดตัวเกมจะปลดล็อกสิ่งต่าง ๆ ให้เราเพิ่มเติม เช่นอาจจะได้ของฟรี หรือเปิดพื้นที่ใหม่ ๆ หรือสามารถวาร์ปไปยังจุดใหม่ ๆ ได้ โดยเพื่อน ๆ สามารถอ่านรายละเอียดของที่ต้องใช้และวิธีหาได้ที่ Coral Island รวมของบริจาคให้เทพธิดาและวิธีหา

การดำน้ำวิธีการฟื้นฟูทะเล

เราจะลงทะเลได้หลังจากวันที่ 8 โดน Lin จะให้เราไปพบที่ทะเลและจะมอบชุดดำน้ำให้ โดยหลังจกานั้นเราจะสามารถลงไปดำน้ำได้ ซึ่งของที่เราต้องใช้ในการดำน้ำหลัก ๆ จะเป็นเคียว โดยเอาไปใช้ในการกำจัดขยะและเก็บเกี่ยว Kelp ที่เอาไว้ใช้อัปเกรด เบ็ด และ สวิงจับแมลง และอีกชิ้นคือสวิงจับแมลงจะใช้จับสัตว์ทะเลได้ครับ

หลังจากที่เราสามารถลงมาใต้ทะเลได้แล้วเราจะพบกับทะเลที่เต็มไปด้วยขยะจำนวนมาก ซึ่งการเคลียร์ขยะเราจะต้องใช้เคียวในการจัดการ โดยในแต่ละโซนจะมี หินสีส้ม ๆ ซ่อนอยู่ หากเจอแล้วกดที่มัน มันจะกลับไปยังแท่น

พอแท่นทำงานแล้ว จะมีแสงเคลื่อนไปยังจุดที่กำหนดไว้ โดยมันจะชำระล้างทะเลในบริเวณนั้น ซึ่งเราจะต้องทำลายขยะที่ขวางแสงนั้น เพื่อให้แสงเดินทางไปถึงที่หมาย โดยหากเราทำการแก้ Puzzle ในโซนนั้น ๆ แล้วพื้นที่ต่อไปจะเปิดให้เราไปต่อได้ครับ

ทั้งนี้หากโซนไหนที่เราทำการชำระล้างไปแล้ว ในโซนนั้นจะมีพวกสิ่งมีชีวิตและสาหร่ายเกิดเยอะขึ้น เราสามารถแวะมาเก็บได้

ดันเจี้ยนใต้ทะเล

เราจะสามารถเข้าไปยังดันเจี้ยนใต้ทะเลได้หลังจากที่เจอ Event ได้รับสิทธิ์การเข้าแล้ว ซึ่งสามารถทำได้หลังจากที่เดินทางมาถึงวังเงือกเรียบร้อย หลังจากนั้นให้เดินไปที่บ้านของ Cho Oyu จะเกิด Event และเราจะได้สิทธิ์ในการเข้าดันเจี้ยนใต้ทะเลมา โดยภายในดันเจี้ยนจะเป็นดันวนฟาร์มไม่ได้มีผลอะไรกับเนื้อเรื่อง ใช้สำหรับคนที่จะหากล่องสมบัติและฟอสซิล เพื่อนำไปเปิดส่งให้ Museum โดยดันเจี้ยนแต่ละระดับจำเจอของคล้ายกับข้างนอกที่อยู่ในดันเจี้ยนนั้น ๆ สำหรับการฟาร์มหากเราเคลียร์ขยะไปเรื่อย ๆ ประตูจะสุ่มเปิด เราจะสามารถไปฟาร์มห้องใหม่ได้ วนไปไม่มีจบ

การจับแมลงและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล

การจับแมลงกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลจะเหมือนกันคือใช้สวิงในการจับ โดยหากเราเข้าไปใกล้ ๆ นานเกินไปมันจะหนี ดังนั้นต้องรีบจับ ซึ่งหากเรากดปุ่มคลิกคว้างไว้จะเป็นการย่องเข้าไปหา ซึ่งจะทำให้พวกมันไหวตัวช้าลง มีเทคนิคเล็กน้อยในการจับคือ ให้เดินไปดักทางที่มันจะผ่านจะง่ายที่สุดครับ และอีกจุดที่ควรทราบคือแมลงและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล บางชนิดจะเกิดตามฤดูกาล รวมถึงปรากฏในช่วงเวลาและสภาพอากาศต่างกัน สามารถเช็คแบบละเอียดได้ใน Wiki ของเกม โดยดูได้จากลิงค์นี้ สัตว์ทะเล , แมลง

ไอเทมที่มักจะหาไม่เจอช่วงแรก

ส่วนนี้ผมขอรวมไอเทมที่คนเล่นใหม่น่าจะหาไม่เจอหรือทำไม่เป็นกันในช่วงแรกนะครับ โดยผมคิดว่าน่าจะมีเบื้องต้นประมาณนี้

Glass : ปกติแล้วจะมีโอกาสดร็อปจากการจัดการกับขยะ แต่เราสามารถผลิตมาใช้ได้โดยการเอาหิน หรือ Scrap โยนเข้าเครื่อง Klin

Resin: ให้คราฟ Tap ไปติดที่ต้นไม้

แร่เหล็ก(แท่ง): เอาแร่+coal ไปใส่ใน Furnace

Essence: เอา Kelp + Glass ไปใส่ใน Extractor

Scrap: เอา Trash ไปใส่ใน Recycle Machine

Compost: เอา Trash ไปใส่ใน Compost Bin

Hardwood: ได้ช่วงหลัง ๆ นิดคือตัดตอไม้ใหญ่ (ต้องใช้ขวานเงินสำหรับนอกฟาร์ม และขวานทองในฟาร์ม) โดยจะสุ่มเจอได้อย่างน้อยวันละตอ ที่โซน Mid Forest หรือ Deep Wood (ต้องส่งของให้เทพธิดาครบจำนวนที่กำหนดจึงปลด) ดูรายละเอียดได้ที่ https://playpost.gg/coral-island-offering/

Coal: ทุบหินแล้วจะมีโอกาสสุ่มได้ อีกวิธีคือเอาไม้ไปเผาใน Klin

อธิบายเรื่องความสัมพันธ์กับ NPC และเทคนิคการเพิ่มความสัมพันธ์

ภายในเกมนี้หากเป็น NPC ที่ไม่สามารถแต่งงานได้จะมีหัวใจเต็มที่ 10 ดวง ส่วนตัวละครที่แต่งงานได้ จะเต็มที่ 8 จนกว่าจะทำเงื่อนไขขอเป็นแฟนและแต่งงาน และจะปลดล็อกเพิ่มได้หลังแต่งงานแล้วเป็น 15 ดวง ซึ่งการเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับ NPC สามารถทำได้โดยการให้ไอเทมกับ NPC เล่านั้น โดยสามารถดูได้ที่ Coral Island ข้อมูลและของชอบของชาวเกาะ / Coral Island ข้อมูลและของชอบของสาว ๆ / Coral Island ข้อมูลและของชอบของหนุ่ม ๆ โดยข้อควรทราบคือในวันเกิดหากเราให้ของขวัญ NPC จะได้รับค่าความชอบเพิ่มขึ้น 5 เท่า!

สิ่งที่ควรทราบอีกอย่างนึงคือ ยิ่งของที่เราให้มีระดับดาวสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้ตัว * คะแนนค่ามิตรภาพมากขึ้นเท่านั้นครับ โดยตัวคูณจะคิดเพิ่มจากคะแนนระดับความชอบเพิ่มเข้าไป

ระดับไอเทมตัว *
Bronze1.15
Silver1.3
Gold1.5
Osmium2

หากยกตัวอย่างง่าย ๆ เราให้ไอเทมกับ NPC เป็นไอเทมที่ชอบมาก จะได้คะแนน 140 หน่วย และหากให้ในวันเกิดจะได้ 700 หน่วยเลย และที่มากกว่านั้นหากเราให้ไอเทมระดับ Osmium ก็จะได้คะแนน *2 ไปอีกเป็น 1400 หน่วยครับ

นอกเหนือจากการให้ของขวัญแล้ว การพูดคุยกับ NPC ก็จะได้ค่าความสัมพันธ์ด้วยเช่นกันครับ โดยจะค่าความสัมพันธ์ 35 หน่วย (ครั้งเดียวต่อวัน) และในช่วงงานเทศกาลจะได้เยอะเป็นพิเศษ โดยอาจจะได้ 0/35/50/85 แล้วแต่เทศกาลนั้น ๆ และตัวละครนั้น ๆ ครับ

นอกจากนี้การที่เราช่วยฟื้นฟูเมืองก็จะทำให้ค่าความสัมพันธ์โดยรวมของ NPC ในเมืองเพิ่มด้วยเช่นกัน

คะแนนที่ได้จากการมอบไอเทม

ระดับคะแนน
ชอบมาก140
ชอบ70
เฉย ๆ 35
ไม่ชอบ-35
เกลียด-70

คะแนนมิตรภาพที่ใช้ในการเลื่อนระดับ

ภาพตารางจาก Coral Island Wiki

คะแนนมิตรภาพของสามี/ภรรยา หลังแต่งงาน

ภาพตารางจาก Coral Island Wiki

วิธีการหา NPC

ภายในเกมนี้แม้ว่าเราจะสามารถเปิดแผนที่มาดูได้ว่า NPC หรือตัวละครไหนกำลังอยู่ที่ไหน แต่ที่บางคนอาจจะไม่ทราบคือเราสามารถเลือกดูจากตัวละครที่เราต้องการหาได้เลยว่าอยู่ตำแหน่งไหน โดยการกด H หรือไปที่หน้า Relationship แล้วเลือก NPC ที่ต้องการ จากนั้นกด Tap หรือปุ่ม Find NPC ซึ่งหากว่ากดแล้วไม่ไปไหนคือ ณ ตอนนั้นตัวละครนั้นไม่อยู่ในเมือง

การแต่งงาน

หลังจากหัวใจ 8 ดวงแล้ว จะมีไอเทมชื่อ  locket necklace มาขายที่ร้าน Blacksmith หลังจากนั้นจะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อได้จากหัวใจเต็ม 8 ดวงเป็น 10 ดวง โดยราคาจะอยู่ที่ 1500 Coin โดยจะให้ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น

หลังจากที่ให้ Locket of necklace ไปแล้ว พอหัวใจ 10 ดวงจะมีไอเทมใหม่มาขายคือ Diamond ring ที่ร้านเดิมในราคา 5000 เอาไปมอบให้คนที่ต้องการแต่งงานด้วยก็เป็นอันเรียบร้อย ทั้งนี้เราจะต้องอัปเกรดบ้านเป็นระดับ 3 ก่อนนะ

สำหรับการมีลูกเราจะต้องต่อเติมบ้านถึงระดับ 4 ก่อน และภรรยา / สามี มีหัวใจถึง 14 ดวง + (อันนี้ไม่ชัวร์แต่น่าจะ 14) จะมีเหตุการณ์ที่เราจะได้รับลูกมา

การลงเหมือง

ภายในเกมจะมีภารกิจที่เราจะต้องลงเหมืองด้วย โดยแร่แต่ละชนิดจะหาได้จากแต่ละห้อง ซึ่งจะไล่ไปตามลำดับที่เราเคลียร์ครับโดยเราอาจเจอแร่ระดับต่ำกว่าได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเจอแร่ชนิด นั้น ๆ ในแต่ละห้อง เช่นในห้องดิน จะเจอเฉพาะแร่ Copper และในห้องลำดับต่อไปจะเจอ Silver > Gold > Osmium ตามลำดับ ซึ่งการจะปลดล็อกห้องใหม่ได้จะต้องผ่านห้องเก่าก่อน โดยแต่ละห้องจะมี 40 ชั้น จะเจอกับยักษ์ที่โดนปิดผนึกอยู่ซึ่งหลังจากช่วยแล้วจะไปยังห้องถัดไปได้ ในทุก ๆ 5 ชั้นจะมีจุดเซฟอยู่เราจะสามารถมายังชั้นที่เรามาถึงได้ แต่ในบางห้อง บนชั้นสูง ๆ อาจจะไม่มี และทุก ๆ 10 ชั้นจะมีไอเทมให้เราเก็บ

เทคนิคการลงเหมืองอย่างรวดเร็ว

  • หากขุดแล้วไม่เจอสามารถใช้ไอเทมที่ชื่อ Rope ที่คราฟจากหิน เพื่อวางบนพื้นแล้วไปชั้นถัดไปได้ทันทีแต่มันใช้หินค่อนข้างเยอะจึงควรเก็บไว้ใช้ท้าย ๆ หรือชั้นที่กว้างมาก ๆ
  • เราสามารถคราฟระเบิดมาช่วยได้ โดยการวางระเบิดจะทำให้หินบริเวณรอบ ๆ แตกทันที ทำให้เจอบันได้ไว แต่จะใช้แต่ค่อนข้างเปลือง
  • อีกวิธีนึงคือการใช้ระเบิด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ได้ทั้งไอเทม และเพิ่มโอกาสในการเจอบันได
  • ภายในเหมืองจะมีมอนสเตอร์และเราสามารถใช้่อาวุธจัดการมันได้ ข้อควรทราบคืออาวุธแต่ละชนิดจะมีสกิลพิเศษไม่เหมือนกัน

Note: ในเหมืองระดับที่สูงขึ้น หินที่เจอจะมีค่า HP ที่เยอะขึ้น หากรู้สึกว่าการพังมันยากแนะนำว่าให้อัปเกรดอุปกรณ์เพิ่มก่อนลงต่อ

การเลี้ยงสัตว์แบบสรุป

ในการเลี้ยงสัตว์เราสามารถที่จะปล่อยสัตว์ออกมาข้างนอกได้โดยการสั่นกระดิ่งที่หน้าเล้า โดยพวกมันจะออกมากินหญ้าด้านนอกโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราควรจะปลูกหญ้าเอาไว้ให้เพียงพอ โดยสามารถไปซื้อหญ้าได้ที่ร้านค้า ชื่อว่า Grass Starter ซึ่งหากพวกมันเดินเล่นและกินอิ่มแล้วพวกมันจะกลับเข้าคอกเอง โดยข้อความทราบคือไม่ควรปล่อยพวกมันออกมาในวันที่ฝนตก หรือหิมะตก

Grass Starter หาได้จากร้านค้าของ Sam

เราสามารถเก็บอาหารสัตว์หรือ Hay เอาไว้ใน Silo ได้โดยสามารถสร้างได้ที่ร้านช่างไม้ ซึ่งข้อดีของมันคือเราไม่จำเป็นจะต้องเก็บไว้ในกล่องหรือพกไว้กับตัว เพียงแค่เดินไปหยิบมาก็ใช้งานได้แล้ว หากเล่นไปจนถึงช่วงท้าย ๆ เกมหรือมีทรัพยากรมาก ๆ แล้วเราสามารถสร้างเครื่องให้อาหารและลูบสัตว์แบบออโต้ได้ แต่มันราคาค่อนข้างแพง ทำให้กว่าจะใช้งานได้จริงก็น่าจะปีที่ 2 หรือ 3 เลย

หากเราพาสัตว์ออกมาเดินเล่นและเล่นกับมันอย่างสม่ำเสมอ จะใช้เวลาประมาณ 50 – 60 วันในการทำให้หัวใจของพวกมันเต็ม (อาจจะบวกลบนิดหน่อย เพราะขนาดเล้ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย) ซึ่งการที่หัวใจของพวกมันเต็มจะทำให้เรามีโอกาสได้ของระดับสูงมากขึ้น โดยเราสามารถเช็คสุขภาพและอารมณ์ได้ที่ป้ายในเล้า

อุปกรณ์รีดนมและตัดขนสามารถซื้อได้ที่ร้านขายสัตว์ ซึ่งหากเผลอทำหายก็สามารถมาซื้อใหม่ได้ราคาไม่แพงมากครับ และอย่าลืมซื้อ Temperature machine จากร้านขายสัตว์มาติดตั้งด้วย โดยเราจะจำเป็นต้องใช้มันใน ฤดู Summer และ Winter เพราะอากาศจะร้อน และ หนาวเกินไป อาจทำให้สัตว์ป่วยหรืออารมณ์ไม่ดีได้ ซึ่งมันก็ราคาไม่แพงเท่าไหร่ โดยเราจะต้องติดตั้งไว้คอกละ 1 เครื่อง

หากสัตว์ของเราชนะงานประกวดจะสามารถผลิตผลผลิตทองคำได้ ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก ๆ เช่นไข่จากปกติแล้วจะขายได้ราคาฟองละ 45 แต่หากเป็นไข่ทองจะขายได้ 135 เพียงแต่มันจะเอาไปแปรรูปต่อไม่ได้ หากแปรรูปจะมีคุณสมบัติเหมือนไข่ธรรมดา โดยสัตว์ที่ประกวดได้จะมีแค่ วัว กับ ไก่ เท่านั้น (ณ ปัจจุบัน) สัตว์บางชนิดจะไม่ผลิตผลผลิตโดยตรง แต่จำเป็นต้องปล่อยออกมาข้างนอก อาทิเช่น หมู จะผลิต Truffle ได้โดยมันจะขุดหาหากออกมาข้างนอก เป็นต้น

จุดที่ควรทราบอีกอย่างคือในฤดูร้อนและฤดูหนาวเราจะต้องวางเครื่องปรับอากาศไว้ให้สัตว์ด้วย โดยไปซื้อได้ที่ร้านขายสัตว์ หรือคราฟเอา แต่ซื้อเอาช่วงแรกสะดวกกว่าครับ

ระยะเวลาการคืนทุน (อย่างช้าที่สุด) ของสัตว์แต่ละชนิด

ภาพชื่อระดับเมืองที่ปลดราคาซื้อระยะเวลา
ผลิตผลผลิต
ราคาขาย(ต่ำสุด)คืนทุนช้าสุด (วัน)
ChickenF6001 วัน5012
DuckF1,0002 วัน10020
QuailD5,0004 วัน24581
PeafowlB20,0004 วัน1,08574
LuwakA30,0002 วัน430140
CowF2,5001 วัน8031
SheepF2,0002 วัน17024
GoatD8,0002 วัน21078
PigC12,0003 วัน62061
LiamaB15,0004 วัน530116

*คิดในเคสที่ได้ของระดับคุณภาพต่ำสุด ซึ่งความจริงจะไวกว่านี้ และยังไม่นับการเอาผลผลิตไปแปรรูป

สำหรับการอัปเกรดเล้าสัตว์หลายคนอาจจะหาไม่เจอ เราจะต้องเลือกคำสั่ง Edit Farm Building จากนั้นกด Q หรือ R เลื่อนหาเล้าที่ต้องการ จากนั้นกดที่ Upgrade

วิธีการทำอาหาร

หลังจากที่เราอัปเกรดบ้านในระดับที่ 2 แล้วจะสามารถไปซื้ออุปกรณ์ทำครัวได้ที่ร้านค้าภายในเมือง ซึ่งอุปกรณ์แต่ละชนิดจะสามารถทำอาหารได้แตกต่างกัน โดยตอนทำอาหารของเกมนี้ค่อนข้างสะดวกเลย เราแค่ใส่อาหารไว้ในกล่องไหนก็ได้ และจะสามารถเลือกหยิบมาได้ทั้งหมดเลยเพราะกล่องทั้งหมดเชื่อมถึงกัน

ร้านขายอุปกรณ์ทำครัว

สำหรับการทำอาหารจะมีสองแบบคือทำแบบ Manual คือใส่อาหารไปเอง หรืออีกแบบคือทำตามสูตร ซึ่งถ้าหากว่าเราเคยทำแบบ Manual แล้วอาหารที่เคยทำสูตรจะมาปรากฏอยู่ตรงนี้ หรือหากได้สูตรมาจาก NPC ก็จะมาปรากฏอยู่ในหน้าสูตรเช่นกัน

การตกปลาฉบับสรุป

หลังจากที่เราไปรับเบ็ดมาเรียบร้อยแล้ว เราจะสามารถตกปลาได้ที่แหล่งน้ำต่าง ๆ ของเกม โดยวิธีการตกปลาก็ไม่ยากครับ เพียงแค่กดชาร์จและเหวี่ยงเบ็ดออกไป หลังจากนั้นก็รอปลามาติดเบ็ด โดยเมื่อปลามาติดเบ็ดแล้วสิ่งที่เราต้องทำคือการกดคลิปและ ปล่อย ให้ตรงกับจังหวะ ซึ่งในช่วงที่ปลาสั่นให้เราปล่อยเมาส์ หรือแค่กดเบา ๆ เพื่อเลี้ยงปลาไว้ ไม่ให้สายตึงจนขาด หลังจากปลาอยู่นิ่ง ๆ ก็กดคลิกค้าง เพื่อดึงปลาเข้ามา โดยเมื่อเกจเต็มแล้วเราก็จะจับปลาได้

สิ่งที่ควรทราบในการตกปลา

  • คุณภาพของปลาที่เราพบจะขึ้นอยู่กับระดับการฟื้นฟูทะเล ยิ่งฟื้นฟูมากยิ่งมีโอกาสได้ปลาระดับคุณภาพดีขึ้น
  • นอกจากการฟื้นฟูทะเลแล้วอีกอย่างที่ส่งผลกับการได้ปลาคุณภาพสูงขึ้นคือเลเวลการตกปลา
  • หลังจากที่เราเหวี่ยงเบ็ดแล้วเวลาในเกมจะหยุดจนกว่าเราจะตกปลาตัวนั้น ๆ เสร็จเรียบร้อย
  • ยิ่งเราชาร์จเบ็ดนานเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสพบกับปลาขนาดใหญ่มากเท่านั้น โดยสูงสุดคือระดับ 6 หากอัปเกรดเต็ม
  • แต่ละฤดูและช่วงเวลารวมถึงสภาพอากาศจะมีปลาพิเศษอยู่ สามารถเช็คได้ในเว็บ wiki

วิธีอัปเกรดอุปกรณ์

สำหรับอุปกรณ์ทุกชนิดยกเว้นสวิงจับแมลงและเบ็ดตกปลา สามารถอัปเกรดได้ที่ร้าน Blacksmith โดยเตรียมแร่และของที่กำหนดไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแม่งเหล็กต่างๆ ไม้ และเงินจำนวนนึงขึ้นอยู่กับระดับ โดยการกดที่ Upgrade Tool ส่วน เบ็ดตกปลาและสวิงจับแมลงสามารถอัปเกรดได้ที่ร้าน Sunny’s Beach Shack ที่ทะเล โดยจะใช้เป็น Essence ระดับต่าง ๆ แทนแร่

การเปิดหีบสมบัติและขุดฟอสซิสรวมถึง Geode

สำหรับสมบัติต่าง ๆ เราสามารถไปทำการเปิดได้ที่ร้าน Blacksmith โดยจะรวมถึง Geode ด้วย แต่สำหรับ Fossil จะต่างกันนิดหน่อย ตรงแทนที่จะเปิดที่ Blacksmith เราจะต้องไปเปิดที่ Lab กับ Lin แทน โดยของที่ได้มาจากกล่องและฟอสซิสอย่างอาติแฟกต์สามารถเอาไปบริจาค Museum ได้หากไม่ซ้ำ หรือหากว่าซ้ำก็เก็บเอาไว้ขายหรือเอนช้านอุปกรณ์ได้ครับ

การอัปเกรดบ้าน

หลังจากเล่นไประยะนึงแล้วเราจะสามารถอัปเกรดบ้านเพิ่มได้ โดยการอัปเกรดบ้านสามารถทำได้ที่ร้านช่างไม้ และเลือก Upgrade House โดยการอัปเกรดบ้านครั้งแรกจะได้ทีวีมา ส่วนการอัปเกรดบ้านครั้งที่ 2 จะทำให้เราทำอาหารได้กับบ้านกว้างขึ้นมาก ส่วนครั้งที่ 3 จะทำให้เราแต่งงานได้และจะได้บ้านชั้นสอง สุดท้ายครั้งที่ 4 จะมีห้องสำหรับลูกทำให้เราสามารถมีลูกภายในเกมได้

ราคาวัตถุดิบที่ใช้อ้างอิงจาก Coral Island Wiki

การอัปเกรดผลผลิตและวิจัยอุปกรณ์ใหม่ ๆ

การอัปเกรดผลผลิตจะทำให้เรามีโอกาสที่จะได้รับผลลผิตประเภทนั้น ๆ ในระดับที่สูงขึ้น โดยภายในเกมจะแบ่งออกเป็น 4 หมวดคือ

1.เมล็ดพืช – ผลผลิตทุกอย่างที่ใช้เมล็ดปลูก
2.ผลไม้ – ผลผลิตทุกชนิดที่เป็นผลไม้ (ยกเว้นที่ต้องปลูกเป็นต้น)
3.ต้นไม้ – ผลผลิตทุกชนิดที่เป็นต้น (อันนี้จะปลดล็อกช่วงหลังหน่อย)
4.สัตว์ – ผลผลิตจากสัตว์ทุกชนิด

หลังจากอัปเกรดจะทำให้เรามีโอกาสได้ผลผลิตประเภทนั้น ๆ ในระดับดาวสูงขึ้นครับ ทำให้สามารถหาเงินได้เยอะขึ้นมาก ๆ ทั้งนี้การอัปเกรดจะต้องใช้เงินจำนวนนึงและ kelp essence

ในส่วนของการวิจัยอุปกรณ์ใหม่ ๆ ก็สามารถทำได้ในที่เดียวกัน โดยยิ่งเราฟื้นฟูเมืองไปไกลเท่าไหร่ก็จะยิ่งอัปเกรดและวิจัยได้มากเท่านั้น ซึ่งหากเราต้องการจะวิจัยของที่อยู่ทางด้านขวา เราจะต้องวิจัยของที่อยู่ทางด้านซ้ายก่อนไล่ไปตามลำดับครับ โดยของที่มีประโยชน์มาก ๆ เช่น เครื่องเก็บผลผลิตอัตโนมัติที่เราสามารถเอาไปติดให้กับ Sprinkler ได้จะช่วยเราประหยัดเวลามาก ๆ

การตกแต่งบ้าน

เราสามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ข้าง ๆ ร้านขายอุปกรณ์ทำครัว หรือซื้อได้จากงานเทศกาลต่าง ๆ โดยหลังจากทีซื้อแล้วพอเราอยู่บริเวณบ้านให้ทำการกดตัว P เราจะสามารถวางของหรือย้ายของในบ้านได้อย่างอิสระ

ร้านค้าลับ

ในทุกวันอังคาร / พฤหัส / ศุกร์ โดยจะมีตลาดน้ำช่วงเช้า ตรงข้ามร้านกาแฟ และตลาดมืดจะเปิดอยู่บริเวณ แถว Lighthouse โดยสามารถดูรายละเอียดแบบเต็ม ๆ ได้ที่ https://playpost.gg/coral-island-black-market-float-market/ ซึ่งข้อดีคือจะมีของแปลก ๆ มาขาย โดยเฉพาะ Black Market จะมีพวกฟอสซิลต่าง ๆ เผื่อเรายังหาบางชิ้นไม่เจอ ก็อาจจะมีสุ่มมาขายได้ครับ

การย้ายตำแหน่งสิ่งก่อสร้าง

หลังจากที่เราสร้างสิ่งปลูกสร้างไปแล้วอย่างเช่นโรงเลี้ยงสัตว์หรือ Silo แล้วเราอยากจะย้ายสามารถทำได้โดยการเข้าไปที่ร้านช่างไม้ แล้วกดที่ Edit Farm Building จากนั้น คลิกที่สิ่งก่อสร้างที่ต้องการแล้วกด Move โดยจะมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย ซึ่งอีกวิธีในการย้ายคือสร้างไอเทมที่ชื่อว่า Architect desk ซึ่งจะได้สูตรมาหลังจากช่วยพวกยักษ์ครบ 4 ตนแล้ว

วิธี Enchanting อุปกรณ์

ระบบนี้จะปลดหลังจากที่ช่วยพวกยักษ์ออกมาจากภายในเหมืองแล้ว โดยยิ่งช่วยยักษ์ออกมามากยิ่งมีโอกาสได้รับบัฟระดับสูงขึ้น โดยเราจะอัปเกรดอุปกรณ์ทำฟาร์มได้แทบจะทั้งหมด แต่ที่จับแมลงกับเบ็ดตกปลาอัปไม่ได้นะ หลังจากที่เราช่วยยักษ์มาแล้วเค้าจะส่งจดหมายมาให้เราไปหา และเค้าจะสอนการเอนช้านให้ โดยยิ่งอุปกรณ์มีระดับสูงก็จะยิ่งมีรูเยอะ โดยเราจะสามารถสุ่มออฟ พิเศษได้เช่น มีโอกาสเจอไอเทมมากขึ้น หรือ ไม่เสียพลังงานหลังจากใช้(มีโอกาสเล็กน้อย) ฯลฯ ที่ดีมากเลยคือเพิ่มโอกาสดร็อปของนี่แหละครับ ซึ่งการจะเอนช้านเราจะต้องใส่วัตถุดิบคือ Artifact / Fossil หรือ Gem เพื่อเป็นพลังงานในการสุ่ม

อธิบายระบบเควส

เควสเป็นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเกมที่มีมาเสริมเพิ่มความสนุกของเกม โดยในเกมนี้จะแบ่งเควสออกเป็น Quest หลัก และ เควสย่อย ซึ่งเควสหลักส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องของเกมและชะตากรรมของเมือง โดยเราสามารถดูเมนูเควสได้โดยการกดปุ่ม J และสำหรับเควสที่เรารับจากป้ายที่เมืองจะนับเป็นเควสย่อยครับ และเควสที่รับมาที่ป้ายจะมีระยะเวลาจำกัดไว้ หากว่าเราทำไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ หรือ ยกเลิกไปก็ได้ โดยอีกประมาณสองวันเกมจะสุ่มเควสใหม่มาให้ทำ

วิธีการเล่นกับเพื่อน

ณ แพทช์ปัจจุบันที่ Version 1.0 ยังไม่สามารถทำได้ โดยคาดว่าตัวเกมจะสามารถเล่นกับเพื่อนผ่านระบบ Multiplayer ได้ในช่วงปี 2024 ครับ ซึ่งหากสามารถเล่นด้วยกันได้แล้วทาง ผมจะนำมาอัปเดตให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้ง

วิธีการแต่งงานกับนาง/นาย เงือก

ณ แพทช์ 1.0 ยังไม่สามารถแต่งงานกับคนในเมืองเงือกได้ โดยคาดว่าจะสามารถทำได้ในช่วงปี 2024 ในการอัปเดต ใหญ่ครั้งถัดไปครับ

บั๊คเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเจอในการเล่นและการแก้ปัญหา

บัํคพวกนี้อาจจะมีการแก้ไขในอนาคตนะครับ แต่อันนี้สำหรับใครที่เจอ ผมรวมวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นไว้ โดยเป็นบัคที่ตัวผมเองเจอบ่อย โดยมีดังนี้ครับ

1.ถังหมักไม่ทำงานค้าง – เปิดปิดเกม
2.Interface ของเกมหาย – วาร์ปไปที่อื่นแล้วหน้า Interface จะกลับมา
3.NPC ในบ้านหาย – รอให้ไปที่อื่น ไม่ก็ต้องรีเซฟเพื่อรีวันใหม่

RELATED ARTICLES

Most Popular

Recent Comments