วันศุกร์, มกราคม 10, 2025
หน้าแรกMobile คู่มือการเล่นเบื้องต้นสำหรับผู้เล่นใหม่

[LoL: Wild Rift] คู่มือการเล่นเบื้องต้นสำหรับผู้เล่นใหม่

ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก League of Legends: Wild Rift มีใครที่ยังไม่ได้เล่นบ้างคะ? ส่วนจูลเล่นจนเวลจะ 30 แล้วล่ะ ;P วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ หลังจากได้เล่นมาตั้งแต่ Close Beta สิ่งหนึ่งที่จูลสังเกตุได้คือบางคนยังไม่รู้จัก League of Legends ดี อาจจะยังงง ๆ กับแผนที่ ตำแหน่ง หรือเรื่องอื่น ๆ จูลเลยอยากจะมาบอกถึงเทคนิคการเล่นเบื้องต้นให้กับมือใหม่ได้รู้กันค่ะ ไปเริ่มกันเล้ยยยย

สารบัญ
รู้จัก LoL: Wild Rift รึยัง?
LoL: Wild Rift เล่นยังไง?
เริ่มเล่นจากโหมดไหนก่อนดี?
ต้องรู้จักอะไรก่อนเล่นบ้าง?
ตำแหน่งในเกมมีอะไรบ้าง?
หัดเล่นตัวไหนก่อนดี?
มือถือเราจะเล่นได้ไหมนะ?


รู้จัก LoL: Wild Rift รึยัง?

หลายคนคงจะพอทราบข้อมูลคร่าว ๆ มาแล้วว่ามันคือเกม LoL บนพีซีที่เราเคยเล่นกับเพียงแต่มาอยู่ในรูปแบบของสมาร์ทโฟน จะว่าอย่างงั้นก็ได้ค่ะ แต่แพลตฟอร์มที่เปลี่ยนย่อมมีอะไรที่แตกต่างกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น แผนที่ การเดินเกมต่าง ๆ ซึ่งเราจะพูดในข้อต่อไปค่ะ ตอนนี้เรามาทำความรู้จักกับมันกันก่อน League of Legends: Wild Rift เป็นเกมแนว MOBA บนมือถือ เมื่อปี 2558 Tencent ขอความร่วมมือกับไรออตเกมส์ Riot Games ให้พวกเขาเปลี่ยน League of Legends เกมยอดนิยมบนพีซีให้กลายเป็นรูปแบบมือถือ อย่างไรก็ตาม Riot Games ปฏิเสธ และอ้างว่ารูปแบบการเล่นของ League of Legends นั้นไม่สามารถเข้ากับมือถือได้ ต่อมาเทนเซ็นต์ก็สร้างเกมโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่มีชื่อว่า Wangzhe Rongyao หรือที่เรารู้จักกันในนาม ROV ค่ะ

ตั้งแต่ปี 2559 Tencent มีผู้ใช้รายวันมากกว่า 50 ล้านคนและผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 200 ล้านคนใน Honor of Kings และ ROV ในปี 2562 ทั้ง Honor of Kings และ ROV ถือเป็นเกมมือถือที่ใหญ่ที่สุดในเวที E-Sports และ Riot Games ก็ได้ตระหนักถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ในตลาดมือถือ จึงทำให้เกิดเป็นเกม League of Legends: Wild Rift เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2019 ในช่วงครบรอบปีที่ 10 ของ League of Legends นั่นเองค่ะ (ข้อมูลจาก Wikipedia)


LoL: Wild Rift เล่นยังไง?

มาถึงช่วงที่สำคัญกันแล้วค่ะ สำหรับเกมเพลย์ของ Wild Rift ก็เหมือนกับเกม MOBA บนมือถือทั่วไปค่ะ มี 3 เลน เลนบน เรียกว่า Baron Lane เลนกลาง เรียกว่า Mid Lane เลนล่าง เรียกว่า Dragon Lane และที่ต่างจากเกม MOBA บนมือถือตัวอื่นก็คือแผนที่สลับข้าง ผู้เล่นใหม่หลายคนอาจจะงงค่ะ Riot เคยให้เหตุผลว่าอยากให้มุมมองการเล่นเป็นมุมแบบเดียวกัน ไม่ว่าเราจะอยู่ฝั่งแดง หรือ น้ำเงิน มุมมองในการเล่นจะเป็นทางเดียวกันหมด พูดไปคงไม่เห็นภาพเพราะฉะนั้นไปดูภาพกันค่ะ

(วงสีเหลืองคือมังกร)

ถ้ายังงงอยู่ให้ดูที่ Dragon และ Baron แทน เลนที่มี Dragon = เลนล่าง ให้ ADC และ Support ไป เลนที่มี Baron = เลนบน ให้ตัว Tank หรือ Fighter ไปค่ะ การยืนเลนจะไม่ค่อยต่างกับบน PC สักเท่าไร มีต่างกันแค่เรื่องแมพสั้นกว่าและเร็วกว่ามาก ช่วงเวลาต่าง ๆ ในเกมอาจจะต้องจำกันใหม่สักนิดค่ะ อีกเรื่องหนึ่งคือการเก็บมินเนี่ยน พยายามฆ่ามินเนี่ยมให้ได้นะคะนอกจากมันจะให้เงินเอาไปซื้อไอเทมแล้วเรายังได้เลเวลมาเพื่ออัปสกิลอีกด้วย เวลไวเท่าไรยิ่งได้เปรียบอีกฝ่ายมากขึ้นนะ Wild Rift ไม่มีนกขนของ ไม่มีการซื้อของนอกบ้านนะคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมวาร์ปกลับบ้านไปซื้อของด้วยล่ะ


เริ่มเล่นจากโหมดไหนก่อนดี?

ใน LoL: Wild Rift มีโหมดให้เลือกเล่นทั้งหมด 4 โหมด ประกอบไปด้วย

      1. โหมดจัดอันดับ – โหมดสำหรับผู้เล่นที่ต้องการไขว่ขว้าความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นกรอบทอง กรอบไดม่อน หรือชาเลนเจอร์ ก็ล้วนเรียกหาผู้เล่นที่มีฝีมือเหมาะกับมัน เป็นโหมดที่ค่อนข้างซีเรียสค่ะ ไม่แนะนำสำหรับผู้เล่นมือใหม่
      2. ปกติ – มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ PVP เป็นโหมดสำหรับผู้เล่นทั่วไปทั้งมือใหม่และเก่า ทั้งระดับมือโปรหรือมือสมัครเล่น ก็สามารถเล่นได้ทั้งนั้น ความซีเรียสของโหมดนี้อยู่ในระดับปานกลางค่ะ พร้อมทั้งเป็นโหมดที่เกรียนเยอะทำใจให้ดีก่อนเล่นนะคะ โหมดที่ 2 คือ Bot เราจะจับคู่กับผู้เล่นคนอื่น 5 คนไปชนกับบอท เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่และผู้เล่นที่อยากจะลองสกิลของแชมป์เปี้ยน
      3. ฝึกฝน – โหมดฝึกหัดที่ผู้เล่นใหม่ควรจะเล่นมาก ๆ ค่ะ เพราะโหมดนี้สอนตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ เล่นจนจบโหมดนี้ออกมาแล้วเซียนชัวร์ แถมยังได้แชมป์เปี้ยนฟรีด้วยนะ
      4. กำหนดเอง – เป็นโหมดสำหรับจัดแข่งหรือจะเอาไว้จัดทีมเล่นกันเองก็ได้ค่ะ เหมาะกับผู้เล่นทุกคน ใครอยากจะเอาไว้ท้าแข่ง 1vs1 กับคนอื่นก็ได้นะ อิอิ


ต้องรู้จักอะไรก่อนเล่นบ้าง?

  1. แชมป์เปี้ยน คือ ตัวละครในเกมแต่ละตัวมีความสามารถหรือสกิลที่ต่างกันออกไป ยิ่งเรารู้จักสกิลของแชมป์เปี้ยนมากเท่าไรยิ่งจะได้เปรียบมากเท่านั้น สนใจตัวไหนลองฝึกเล่นดูก่อนได้ค่ะ ไม่ถูกใจก็ไม่เป็นไร อ่านไกด์แชมป์เปี้ยนแต่ละตัวได้ที่ –> คลิก
  2. การออกของ แน่นอนว่าเกมแนว MOBA ก็ต้องมาคู่กับการออกของ แต่ละตำแหน่งออกของไม่เหมือนกันนะคะจำข้อนี้ไว้ดี ๆ สำหรับไอเทมในเกมมีอะไรบ้างอ่านได้ที่นี่ –> คลิก
  3. การปักวอร์ด จำเป็นอย่างมากกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) เพราะบน Wild Rift ซัพพอร์ตไม่สามารถออกของวอร์ดได้ ฉะนั้นทุกคนในทีมต้องช่วยกันวอร์ดค่ะ ได้คนละ 2 ต้นอยู่แล้วช่วย ๆ กันคงไม่มีปัญหา
  4. Rune และ Spells เรียกว่าเป็นซิกเนเจอร์ของเกมนี้เลยก็ว่าได้ Rune และ Spells คือสิ่งที่ทำให้เราได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามค่ะ ควรเลือกที่เหมาะสมกับตัวแชมป์เปี้ยนที่เล่น อ่านเรื่อง Rune และ Spells ได้ที่ –> คลิก และ คลิก
  5. ทีมไฟต์ เป็นเกมที่ต้องพึ่งการเล่นแบบทีมสูงค่ะ เกิดคนเดียวอาจจะไม่ทำให้ทีมชนะได้ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราได้เปรียบอีกทีมมาก ๆ ควรรีบ All ค่ะ เพื่อบังคับอีกฝ่ายให้สู้และจบเกมนี้ซะ ศึกษาเรื่องทีมไฟต์ได้ที่ –> คลิก


ตำแหน่งในเกมมีอะไรบ้าง?

การเลือกแชมป์เปี้ยนมาให้ครบทุกตำแหน่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากบน Wild Rift เพราะมันการันตีได้เลยว่าเราจะชนะในเกมนั้นหรือไม่ (ต้องไปลุ้นฝีมือในเกมอีกที) จูลจะขออธิบายสั้น ๆ พอสังเขปเกี่ยวกับตำแหน่งในเกมให้ทุกคนได้ทราบกันนะคะ

      • Top laner – ตำแหน่งที่เน้นไปทางตัว Tank หรือตัว Fighter มักจะเลือกตัวที่ถึกบึกบึนหรือตัวที่มีสกิลเปิด เป็นเลนที่ต้องชิงไหวชิงพริบกันพอสมควร เพื่อมาทำประโยชน์ในทีมไฟต์ ตัวที่นิยมเล่นกัน ได้แก่ Nasus, Camille หรือ Fiora
      • Jungler – หรือจะเรียกว่าตัวป่าก็ได้ เป็นตำแหน่งที่เอาไว้คอยช่วยเหลือแต่ละเลน หน้าที่ของป่าคือการแก๊งค์ในเลนที่เสียเปรียบหรือไปช่วยให้เลนของเราได้เปรียบมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่คอยคุมมอนสเตอร์ในป่าไม่ว่าจะเป็น Dragon, Baron และ Buff ต่าง ๆ ตัวป่าคือตัวแก้เกมสำหรับ Wild Rift เลยค่ะ ตัวที่นิยมเล่นกัน ได้แก่ Xin Zhoa, Lee Sin หรือ Master Yi
      • Mid laner – ตำแหน่งแบกเกมอันดับ 2 มักจะเป็นตัวที่ใช้เวท แต่ก็มีแชมป์เปี้ยนที่เป็น Fighter เช่นเดียวกัน เป็นตำแหน่งที่สำคัญกับเกมเป็นอย่างมาก เพราะเลนกลางคือตัวตัดสินว่าทีมจะควรจะไปต่อหรือควรหยุด นิยมเลือกแชมป์เปี้ยนที่เอาไว้แก้ทางฝั่งตรงข้าม ตัวที่นิยมเล่นกัน ได้แก่ Ahri, Orianna หรือ Yasuo
      • ADC – ตำแหน่งแบกเกมอันดับ 1 ที่จะต้องคอยมี Support มาตามเลี้ยงดู ซ้ำตำแหน่งอื่น ๆ ยังต้องคอยมาช่วยแก๊งค์ เพื่อให้ ADC เกิดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่ง ADC เกิดเท่าไรยิ่งการันตีได้ว่าเกมนั้นเราจะชนะ ตัวที่นิยมเล่นกัน ได้แก่ Ezreal, Jixn หรือ Ashe
      • Support – ตำแหน่งที่ดูเหมือนจะเป็นตำแหน่งเหลือ แต่จริง ๆ มันสำคัญกับทีมมากเลยค่ะ หากขาดตำแหน่งนี้ไปอาจทำให้ทีมไฟต์เป๋ได้เลย หน้าที่หลักของ Support คือการช่วยเหลือ ADC ทุกด้านไม่ว่าจะปักวอร์ด ฮีล หรือเปิดไฟต์ และยังต้องคอยช่วยเหลือทุกคนเวลาทีมไฟต์ให้ด้านต่าง ๆ อีกด้วย ตัวที่นิยมเล่นกัน ได้แก่ Seraphine, Braum หรือ Sona

อ่านหน้าที่ของแต่ละตำแหน่งแบบเต็ม ๆ ได้ที่ –> คลิก


หัดเล่นตัวไหนก่อนดี?

หลังจากได้ทำความรู้จักกับหน้าที่ของแต่ละตำแหน่งไปแล้ว คราวนี้เราก็มาเลือกแชมป์เปี้ยนในแต่ละเลนที่เราควรหัดเล่นกันค่ะ จูลจะขอยกตัวอย่างเป็นตำแหน่งไปนะคะ เพื่อน ๆ สนใจตำแหน่งไหนก็ลองไปหัดเล่นได้เลย

Top laner

ควรเริ่มฝึกจากตัวง่าย ๆ อย่าง Garen ค่ะ เขาเป็นนักรบที่ถึกและสกิลที่มีไม่ต้องคิดอะไรมาก เดินเข้าไปใช้สกิล 1 เพื่อใบ้ และกดสกิล 3 เพื่อไล่ตามศัตรู จบท้ายด้วย Ultimate ก็สามารถลากคนหนึ่งไปลงนรกกับเราได้แล้วค่ะ

ตัวที่ 2 ที่จะแนะนำก็คือ Nasus เขาจะเก่งมาก ๆ ในช่วงท้ายเกม ช่วงต้นเกมให้เราคอยใช้สกิล 1 ฆ่ามินเนี่ยนเพื่อสะสม Stack Damage ยิ่งเราลาสมินเนี่ยนได้เยอะเท่าไรเวลาเรากดสกิล 1 ใส่อีกฝ่ายก็จะยิ่งแรงเท่านั้นค่ะ

Jungler

ควรหัดจาก Xin Zhao ค่ะ เพราะเป็นตัวที่เข้าช่วยแต่ละเลนง่าย มีสกิล 1 ที่สามารถยกแชมป์เปี้ยนอีกฝ่ายให้ลอยเป็นการหยุดจังหวะของอีกฝ่ายได้อย่างดี พร้อมทั้งการฟื้นฟูพลังชีวิตของเขา นอกจากเล่นง่ายแล้วยังโกงอีกค่ะ

ตัวที่ 2 Jarvan IV เป็นอีกตัวที่เล่นง่ายและสามารถเปิดจังหวะทีมไฟต์ได้ดี เพียงแค่กดสกิล 1 ปักธงและกดสกิล 3 ต่อก็สามารถหยุดอีกฝ่ายได้แล้วค่ะ ถ้าอีกฝ่ายคิดจะหนีก็แต่กด Ultimate ตามแค่นั้นเองกล้วย ๆ

Mid laner

เริ่มฝึกจากตัวฟรีอย่าง Ahri ก่อนเลยค่ะ ตัวอาริเป็นตัวที่เล่นไม่ยากอยู่ในระดับผู้เล่นใหม่ – ปานกลาง การสกิลคอมโบของอาริเพียงแต่กด 3 แล้วต่อด้วยสกิล 1 > 2 หากอีกฝ่ายจะหนีก็กด Ultimate ตามแค่นี้ก็เป็นอันจบ

ตัวที่ 2 ควรหัด Orianna ค่ะ ดูเหมือนจะเล่นยากแต่จริง ๆ แล้วตัวโอเรียนน่าไม่ได้เล่นยากขนาดนั้นค่ะ เพียงแต่มันต้องใช้สมาธิในการควบคุมบอลสักเล็กน้อย สกิลของเธอขึ้นอยู่กับตำแหน่งของลูกบอลค่ะ ถ้าลูกบอลอยู่ตรงไหนสกิลที่กดต่อไปจะอยู่ตรงนั้น สสามารถควบคุมลูกบอลได้ด้วยการกดสกิล 1 ค่ะ

ADC

เริ่มฝึกจาก Ashe จะดีที่สุดค่ะ เพราะตัวนี้มีสกิลที่ง่ายและไม่ต้องคิดอะไรเยอะ เหมาะกับการฝึกไคท์หรือยิงแล้ววิ่งแล้วยิงอีกด้วย เพียงแค่กด 2 เพื่อสสโลว์หลังจากนั้นยิงให้ครบ 5 ครั้งแล้วกดสกิล 1 เพื่อเพิ่มดาเมจ หากโดนอีกฝ่ายเปิดไฟต์หรืออีกฝ่ายกำลังจะหนีให้กด Ultimate เพื่อ Stun ค่ะ

ตัวที่ 2 เป็น Jinx ค่ะ แม้จะไม่มีสกิลในการหลบหลีกแต่ก็เป็นตัวที่เล่นง่ายพอสมควรค่ะ Jinx เหมาะมากสำหรับคนที่อยากฝึกไคท์เพราะ Passive ของเธอเมื่อเราจัดการศัตรูเสร็จจะทำให้เธอวิ่งเร็ว ง่ายต่อการวิ่งตามและวิ่งหนีค่ะ

Support

ถ้าจะบอกว่าใครคือเจ้าแม่ของวงการซัพก็คงต้องเป็น Sona ค่ะ เธอมีสกิลที่ครบครันมากทั้งฮีล บัฟ และ Stun เป็นตัวซัพพอร์ตที่เล่นโคตะระง่าย ในทีมไฟต์แค่กด Ultimate เพื่อ Stun หลังจากนั้นก็รัวสกิล 1-2-3 ได้เลย

เป็นตัวที่ยากขึ้นมานิดหน่อยจาก Sona ค่ะ สำหรับ Lux แต่ก่อนเธอเป็น Mid lane ที่แกร่งมาก ปัจจุบันเธอผันตัวมาเป็นซัพพอร์ตแล้ว ด้วยสกิล 1 ที่สามารถขังแชมป์เปี้ยนอีกฝ่ายให้หยุดอยู่กับที่จึงเหมาะในการเป็นซัพสายบวกมากกว่าซัพสายบัฟ การเล่น Lux นั้นไม่ยากค่ะ แค่ต้องพึ่งความแม่นของการใช้สกิลเล็กน้อย


มือถือเราจะเล่นได้ไหมนะ?

สเปคขั้นต่ำที่ Wild Rift ต้องการ

      • Android
        ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 หรือสูงกว่านี้
        RAM 1.5GB ขึ้นไป
        CPU Typhoon 1.4GHz, Snapdragon 410 ขึ้นไป
        GPU PowerVR GT7600, Adreno 306 หรือสูงกว่านั้น
      • iOS
        ระบบปฏิบัติการ iOS 11 ขึ้นไป
        iPhone 7 ขึ้นไป

พูดคุย หาเพื่อนเล่น LoL: Wild Rift ได้ที่

กลุ่ม League of Legends: Wild Rift Thailand

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments