วันพุธ, มีนาคม 12, 2025
หน้าแรกConsole Guide หลักการจัดทีม จัดยังไงให้ได้ประสิทธิภาพ

[Genshin Impact] หลักการจัดทีม จัดยังไงให้ได้ประสิทธิภาพ

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยในส่วนของการจัดทีมของ Genshin Impact บทความนี้เราจะมาพูดถึงหลักวิธีในการจัดทีม เพื่อให้เพื่อนๆ มือใหม่สามารถนำไปต่อยอดกับตัวละครที่มีครับ ขอเน้นย้ำว่าบทความนี้เป็นบทความให้เพื่อนๆ เข้าใจวิธีการจัดทีมมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่การแนะนำว่าต้องจัดแบบนี้นะ

ทำความเข้าใจระบบของเกม

โดยหลักแล้วเกมมีระบบที่เราจะต้องความเข้าใจในการจัดทีมอยู่ 3 หัวข้อ ได้แก่ พลังป้องกันและความต้านทาน, ปฎิกิริยาธาตุ และพลังงานธาตุ 3 หัวข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นต้องรู้ครับ

พลังป้องกันและความต้านทาน

2 ค่านี้เป็นของศัตรูนะครับไม่ใช่ของเรา (จริงๆ เราก็มีแหละ) ศัตรูภายในเกมนี้จะมีวิธีการลดทอนดาเมจจากเราอยู่ 2 แบบ อย่างแรกคือจาก พลังป้องกัน(DEF) ซึ่งจะลดทอนดาเมจทุกประเภท และอย่างที่สองคือ ความต้านทาน(RES) ที่จะลดดาเมจจากการโจมตีเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่นศัตรูมีความต้านทานธาตุไฟ ก็จะลดแต่การโจมตีที่มาจากธาตุไฟเพียงอย่างเดียว ในส่วนของการลดพลังป้องกันของศัตรูนั้นจะมาจากกลุ่มดาวและพรสวรรค์ในบางตัวละครเท่านั้น กลับกันความต้านทานจะสามารถหาได้จากหลายแหล่งเลยครับ

วิธีหลักที่นิยมใช้ลดความต้านทานของศัตรูนั้นคือทำให้ติดการเกิดปฏิกิริยาธาตุ “นำไฟฟ้า (น้ำแข็ง+ไฟฟ้า)” ซึ่งจะลดต้านทานกายภาพลง 50% กับการใช้อาร์ติแฟกต์เซ็ต Viridescent Venerer 4 ชิ้น เอฟเฟคของเซ็ตคือจะทำงานเมื่อติดปฏิกิริยาธาตุกระจายจะทำการลดต้านทานธาตุที่ติดปฏิกิริยาอยู่ 40% แต่อย่างไรก็ตามหากเราลดความต้านทานนั้นๆ จนถึง 0% แล้ว เปอร์เซ็นต์ส่วนเกินมาจะแสดงผลเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น หากเราใช้นำไฟฟ้าใส่ศัตรูที่มีค่าความต้านทานกายภาพ 10% ศัตรูจะมีต้านทานกายภาพเหลือ 0% แน่นอน ส่วน 40% ที่เกินมานั้นจะแสดงผลเพียง 20% นั่นหมายความว่าจะลบไปได้ทั้งหมด -20% เท่านั้น ไม่ใช่ -40%

ด้วยเหตุผลข้างต้น โบนัสเซ็ตอาร์ติแฟกต์นี้จะทำให้เองตัวละครธาตุลมมีความสำคัญในการจัดทีม หากเราต้องการจะเค้นดาเมจออกมาให้สูงสุด แต่ด้านเชิงปฏิบัติจริงแล้วอาร์ติแฟกต์เซ็ตนี้ไม่ได้จำเป็นถึงขนาดนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจะต้องเจอกับศัตรูที่มีธาตุเป็นของตัวเอง หรือทีมของเรานั้นมีตัวครหลายธาตุ การบัฟเพิ่มพลังธาตุเพียงธาตุเดียวจะไม่มีความสำคัญเท่าไหร่นัก

ปฏิกิริยาธาตุ

ดาเมจจากปฏิกิริยาธาตุนั้นจะขึ้นอยู่กับเลเวลของตัวละคร, ความชำนาญธาตุ และความต้านทานธาตุของศัตรู (อาร์ติแฟกต์บางเซ็ตกับกลุ่มดาวบางตัวละครก็มีส่วนช่วย) นอกจากนี้ดาเมจจากปฏิกิริยาธาตุนั้นจะคิดจากตัวละครที่ทำให้เกิดปฏิกิริยา ไม่ใช่ตัวละครที่ทำดาเมจธาตุคนแรก

ปฏิกิริยาธาตุนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่

  1. ปฏิกิริยาที่จะทำให้ดาเมจของเราเพิ่มขึ้นไปตรงๆ ได้แก่ ละลาย และ ระเหย

  1. ปฏิกิริยาที่จะทำฮิตดาเมจเพิ่มเติมออกมาจากการโจมตีของเรา ได้แก่ นำไฟฟ้า, กระจาย, ตกผลึก, โอเวอร์โหลด และชาร์จไฟฟ้า

ปฏิกิริยาแบบที่ 2 นั้นจะทำฮิตดาเมจเพิ่มเติมจากการโจมตีจะไม่ขึ้นอยู่กับเลเวลของพรสวรรค์, พลังโจมตี, ค่าคริติคอล และค่าโบนัสความเสียหายธาตุแบบเปอร์เซ็นต์ แต่จะขึ้นกับค่าความชำนาญธาตุของตัวละครและเลเวลของตัวละครครับ นอกจากนี้ยังมีอัตราส่วนตายตัวอีกด้วย

นำไฟฟ้า 1
กระจาย 1.2
ตกผลึก 3
โอเวอร์โหลด 4
ชาร์จไฟฟ้า 4.8

พูดง่ายๆ คือชาร์จไฟฟ้ามีอัตราส่วนทำดาเม 4.8 นั้นแรงกว่า โอเวอร์โหลด 20% และอื่นๆ ก็ดูตามจากอัตราส่วนนี้ได้เลยครับ ทั้งนี้ก็ยังมีในส่วนของผลดีบัฟต่างๆ ของแต่ละปฏิกิริยาธาตุอีกทำให้อัตราส่วนออกมาแตกต่างกันนั่นเอง

พลังงานธาตุ

พลังงานธาตุคือพลังงานที่เราต้องเก็บเพื่อให้สามารถใช้ Elemental Burst หรืออัลติเมทนั่นแหละครับ เราสามารถเก็บพลังงานธาตุได้จากการใช้สกิล (E) ใส่ศัตรู เมื่อใช้ถูกศัตรูก็จะเกิดก้อนอณูธาตุขึ้นมาให้เราเก็บ แต่ละสกิลก็จะได้รับพลังงานธาตุในจำนวนแตกต่างกัน สกิล E ของตัวละครบางคนนั้นจะไม่ได้รับพลังงานธาตุเลยด้วย (Noelle และ Babara) โดยพลังงานธาตุจะบินเข้าตัวละครที่อยู่บนสนามนั้นจะได้รับเต็มจำนวนส่วนคนอยู่นอกสนามจะได้ประมาณ 90% นอกจากนี้เรายังได้รับพลังงานธาตุจากการโจมตีปกติ ซึ่งจะได้จากการโจมตีศัตรูบนแผนที่แต่ก็ไม่ได้ได้เยอะมากเท่าไหร่นักครับ

โดยสรุปแล้วคือเราสามารถได้รับพลังงานธาตุเพื่อให้ใช้อัลติเมทได้ไวขึ้นหากใช้ตัวละครที่เป็นธาตุเดียวกันเก็บ และแน่นอนมันก็จะแลกมากับการลดดาเมจจากปฏิกิริยาธาตุที่เราจะสามารถทำได้ลงไป ดังนั้นแล้วตัดสินใจให้ดีกับการเลือกใช้ปฏิกิริยาธาตุไหนเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่นหากอยู่ใน Spiral Abyss และเจอบัฟดาเมจธาตุอย่างเดียว ไม่ใช่บัฟดาเมจปฏิกิริยาธาตุ การเสียสละ 1 ช่องตัวละครเพื่อทำให้เก็บอัลติเมทได้ไวขึ้นเพื่อทำดาเมจธาตุเยอะๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

เริ่มจัดทีม

เมื่อทำความเข้าใจกับ 3 อย่างเบื้องต้น เรามาเข้าสู่วิธีการจัดทีมกันเลยครับ โดยปกติแล้วเราควรจะโฟกัสที่การใช้สกิล E มากกว่าการการโจมตีปกติ เพราะว่าเราสามารถทำดาเมจจากสกิลได้มากกว่าและยังสามารถทำพลังงานธาตุได้เยอะกว่านั่นเอง แต่ใช่ว่าการโจมตีปกตินั้นจะไม่ดีนะ การโจมตีปกตินั้นจะส่งผลดีมากหากมีบัฟต่างๆ ครับ

ตำแหน่งที่หนึ่ง Main DPS

 

ด้านทฤษฎีนั้น Main DPS ควรจะเป็นตัวละครที่มีความสามารถในการโจมตีปกติแรงๆ หรือสามารถใช้สกิล E ได้บ่อยและพึ่งพาได้ ตัวอย่างตัวละครประเภทนี้ Diluc, Fischl (กายภาพ), Xianling (กายภาพ), Chongyun, Razer(กายภาพ) ได้ช่วงต้นเกม หรือช่วงสำรวจแผนที่ทำเควสต่างๆ ทางเราแนะนำให้เลือกตัวละครที่เล่นแล้วสนุก หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่เลทเกมแล้วการตั้งทีมก็จะขึ้นอยู่กับคอนเท้นท์ต่างๆ ซึ่ง Main DPS ก็จะถูกเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะกับคอนเท้นท์นั้นๆ กล่าวคือ Main DPS ในไอดีนั้นจะไม่ได้มีแค่ตัวเดียวแน่นอนครับ

ตำแหน่งที่ 2-3 DPS รอง

   

หลังจากเลือก Main DPS มาได้แล้วเราจะเหลือช่องให้ใส่สมาชิกอยู่ ตรงจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับคอนเท้นท์ ยกตัวอย่างเช่นหากต้องการจะลง Spiral Abyss บางชั้นอาจจะต้องมีตัวไว้คอยรับมือกับศัตรูธาตุเดียวกับ Main DPS หลักของเราตีไม่เข้า ยกตัวอย่างเช่น Main DPS เป็นธาตุน้ำ เราก็ควรจะหาตัวละครที่มีธาตุสายฟ้าไว้จัดการกับศัตรู หรือเพื่อนๆ อาจจะหยิบธาตุซ้ำกับตัว Main DPS มาเพื่อเอาโบนัสสั่นพ้องของธาตุเพื่อเพิ่มความสามารถให้ทีมดีขึ้นไปอีกก็อยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคนครับ โดยทั่วไปตำแหน่งนี้จะเป็นตัวละครเสริม Main DPS ครับ ซึ่งจะขอแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

DPS ปฏิกิริยาธาตุ – ตำแหน่งนี้จะเป็นตัวละครที่สามารถสร้างปฏิกิริยาธาตุได้ไว ต่อเนื่อง และรวดเร็ว เพื่อรีดดาเมจปฏิกิริยาธาตุออกมาให้ได้มากที่สุด หรือเอาไว้ใช้ปลดโล่ธาตุต่างๆ ของศัตรูหาก Main DPS ของเราไม่สามารถปลดออกได้โดยง่าย

DPS บูสต์ดาเมจ – กรณีที่ Main DPS ต้องการใช้อัลติเมทเพื่อรีดประสิทธิภาพในการทำดาเมจให้สูงสุด (เช่น Razor) การเก็บอณูธาตุให้ไวจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนั้นการใช้ตัวละครที่มีธาตุเดียวกัน 2 คน จะได้รับโบนัสการสั่นพ้องของธาตุอีกด้วย

ตำแหน่งที่ 4 Support

 

ส่วนใหญ่ตำแหน่งนี้จะเป็นส่วนของฮีล หรือธาตุลมที่ใส่อาร์ติแฟ็กต์เซ็ต Viridescent Venerer เพื่อประโยชน์สูงสุด ตำแหน่งนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามคอนเท้นท์ของเกม สามารถนำ DPS เสริมมาใส่ตำแหน่งนี้ได้เช่นเดียวกันกรณีที่ไม่ต้องการฮีล

ตัวอย่างการจัดทีม

ทีมธาตุไฟ Diluc (Main) + Xiangling (DPS Boost) + Fischl (DPS Reaction) + ธาตุลม หรืออื่นๆ
ปฏิกิริยาธาตุ กระจาย/โอเวอร์โหลด
ทีมธาตุสายฟ้า Razor (Main) + Fischl (DPS Boost) + Xiangling (DPS Reaction) + ธาตุลม หรืออื่นๆ
ปฏิกิริยาธาตุ กระจาย/โอเวอร์โหลด
ทีมธาตุน้ำแข็ง Chongyun (Main) + Kaeya (DPS Boost) +Xiangling (DPS Reaction) + ธาตุลม หรืออื่นๆ
ปฏิกิริยาธาตุ กระจาย/ละลาย
ทีมธาตุน้ำ Mona (Main) + Xingqiu (DPS Boost) + Fischl (DPS Reaction) + ธาตุลมหรืออื่นๆ
ทีมธาตุดิน Ningguan (Main) + Traveler ธาตุดิน (DPS Boost) + Fischl (DPS Reaction) + Venti (Support)
ปฏิกิริยาธาตุ กระจาย/ตกผลึก

 


จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments