เมื่อผ่านศึกใหญ่ใน Monster Hunter World กันมาได้แล้วนั้น เหล่าชาวคณะนักล่าก็ยังคงตั้งป้อมกันอยู่ที่โลกใหม่กันต่อไป ก่อนจะเจอกับปรากฎการณ์ใหม่ที่เหล่า Legiana จำนวนมากบินอพยพไปจากโลกใหม่แห่งนี้ ทำให้แต่ละคนถึงกับต้องตั้งคำถามว่า พวกมันไปไหนกันและเกิดอะไรขึ้น จนเป็นที่มาของ Monster Hunter World: Iceborne ตัวเกมภาคเสริมของมอนฮันโลกใหม่นั่นเองจ้า
มุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งใหม่
เพื่อนๆ จะสามารถไปยังเนื้อเรื่องใหม่ของภาค Iceborne ได้เมื่อทำการจบเนื้อเรื่องหลักของภาค World แล้ว (สู้กับ Xeno’jiiva เสร็จ) ซึ่งจะมี NPC Feisty Fever ยืนรออยู่ที่ทางออกของฐาน Astera พร้อมกับบอกเล่าถึงคู่หูของเราที่สังเกตุได้ถึงความผิดปกติในป่า Ancient Forest ก่อนจะแนะนำให้เราออกไปสำรวจ
เมื่อพร้อมแล้วก็สามารถไปสำรวจได้เลยจ้า ในป่าก็จะเงียบสลัดไม่มีกระทั่งปลาซักตัว และมีร่องรอยของ Legiana เป็นระยะๆ ให้เราได้ตามเก็บกัน ก็สามารถวิ่งตามเก็บพร้อมคู่หูของเราได้เลย จนเมื่อสุดทางก็จะเจอกับ Cut Scene แสดงถึงความผิดปกติของเหล่า Legiana จำนวนมากที่บินออกไปจากโลกใหม่แห่งนี้ พร้อมกับการปรากฎตัวของมังกรปริศนาอีกตัวหนึ่ง
ที่ฐานนั้นก็จะมีการประชุมกัน เพราะเจ้า Legiana เป็นมังกรที่อยู่ติดถิ่นตัวเองและหวงถิ่นมาก การอพยพออกไปกันเป็นฝูงขนาดนี้จึงมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน ก่อนจะเริ่มภารกิจใหม่ในการสำรวจหาสาเหตุและต้นตอของเรื่องราวนี้ พร้อมกับคู่หูที่เสนอให้เราตามพวกมันไป
แผนการตามพวกมันจึงเป็นการตะลุยกันไปด้วยเรือเหาะของกองเรือที่ 3 นั่นเอง เมื่อเพื่อนๆ พร้อมก็สามารถคุยกับ Commander เพื่อออกไปรบกันได้เลย โดยจะมี Cut Scene เปิดโชว์ดินแดนแห่งใหม่ให้กับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่หนาวเย็นจัดและเต็มไปด้วยหิมะ
ภารกิจแรกกับการเคลียร์พื้นที่
เช่นเคยหลังจากเพื่อนๆ มายังพื้นที่ใหม่นั้นจะต้องเตรียมพื้นที่ตั้งแคมป์กันก่อน โดยทางเรือเหาะนั้นไม่สามารถหาจุดลงจอดดีๆ ได้ เพื่อนๆ จึงรับบทมากรุยทางให้ก่อน ข้อควรระวังของฉากนี้นั้นจะอยู่ที่จะเป็นเขตที่หนาวเย็นทุกส่วนเลยยกเว้นแคมป์ ทำให้ต้องใช้ไอเทมชื่อว่า Hot Drink มาดื่มเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ไม่งั้นจะทำให้ค่า Stamina ลดลงเร็วกว่าปกติหลายเท่าตัวเลยทีเดียว (ปกติเมื่อเวลาผ่านไปในเควสซักพักใหญ่ๆ ค่า Stamina สูงสุดของเราจะลดลง ผลของความเย็นจะเร่งอัตราตรงนี้หลายเท่าตัวเลยทีเดียว) ซึ่งเจ้า Hot Drink นี้ก็สามารถหาได้จากต้นไม้ Hot Pepper ที่มีอยู่ทั่วพื้นที่นี้นั่นเอง
ในการสำรวจ เพื่อนๆ ก็จะเจอทักทายโดยมอนสเตอร์ตัวใหม่ตัวแรกสุดของภาคนี้ เจ้าปลาน้อย Beotodus โดยรวมก็ไม่ได้ยากอะไรกว่าเจ้า Jyuratodus มากนัก แต่มีการโจมตีที่เล่นกับสถานะ Iceblight (ค่า stamina จะลดลงสองเท่าเมื่อทำอะไรที่ใช้ค่า stamina) แทน แต่สิ่งที่เพื่อนๆ จะสังเกตุได้คือความอึดของพวกมัน อันเป็นจุดขาย(?) ของระดับ Master Rank ทำให้มอนอึดขึ้นและตีแรงขึ้นนั่นเอง ถ้าใครใช้อาวุธธาตุเป็นหลัก เจ้าปลาน้อยตัวนี้ก็จะแพ้ไฟอย่างที่เดากันได้นั่นเองจ้า
เจ้า Beotodus ก็เป็นมอนสเตอร์ตัวแรกดังนั้นก็ไม่มีลูกเล่นอะไรน่าอันตรายมากนัก ที่ต้องระวังก็จะมีแค่ท่าโดดกลับหลังและพุ่งหลาวใส่ที่ดูออกง่ายเท่านั้น เมื่อกำจัดมันได้แล้ว ตัวเกมก็จะให้เรากลับจากการสำรวจ เพื่อนๆ สามารดกดเปิดหน้าเมนูและเลือก Return from Expedition ได้เลยจ้า ภารกิจแรกก็จะเสร็จสิ้นไป พร้อม Cut Scene การตั้งฐานทัพและการรายงานว่ามีการพบร่องรอยของเจ้าพวก Legiana ที่อพยพกันมาที่นี่จริงๆ
ตัวฐานใหม่ก็จะมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Selina รวมถึงชื่อเรียกดินแดนน้ำแข็งว่า Hoarfrost Reach ซึ่ง NPC หน้าเก่าหน้าใหม่ตามมาช่วยพวกเราในฐานทัพแห่งใหม่กันเต็มที่ไปเลย และโดยรวมนั้นก็ต้องบอกว่า มีอะไรที่ครบเครื่องมากๆ เลยล่ะ ทุกอย่างอยู่ใกล้มือและสะดวกไปหมดจนหลายคนหลงรักฐานแห่งนี้กันเลย ตรงนี้ก็จะแนะนำให้เพื่อนๆ สำรวจพื้นที่ต่างๆ ในฐานให้เต็มที่ไปเลย
TIP : เมื่อคุยกับลุงโรงตีเหล็ก จะได้รับเควสใหม่ที่สอนการใช้ Clutch Claw ก็ขอแนะนำให้เข้าไปลองใช้งานให้คล่องมือให้สุดๆ กันไปเลย เพราะนี่คือของเล่นและของจำเป็นที่เพื่อนๆ ต้องหัดใช้มันเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาของภาคนี้ได้เต็มที่นั่นเอง
เคลียร์เส้นทางขนส่ง
หลังสำรวจอะไรจนฉ่ำปอดแล้ว ภารกิจต่อมาของเพื่อนๆ คือการป้องกันเส้นทางขนส่งจากมอนสเตอร์ในดินแดนนี้ เนื่องจากจุดลงจอดกับพื้นที่ตั้งฐานนั้นค่อนข้างอยู่ไกลกัน การขนส่งของต่างๆ จากเรือเหาะมาที่นี่จึงค่อนข้างเสี่ยงอันตรายอยู่ หรือแปลง่ายๆ ว่า ไปตื๊บมอนสเตอร์ที่กำหนดไว้ก็พอนั่นเอง ก็ให้เตรียมตัวรับมือมอนสเตอร์ตัวใหม่กันได้เลย และออกไปสำรวจกันต่อ
ในครั้งนี้ เป้าหมายของเราก็จะเป็นเจ้า Banbaro วัวใหญ่ที่เพื่อนๆ อาจจะได้เห็นตั้งแต่ตอนสู้กับเจ้าปลาน้อยกันมาแล้ว เจ้านี่นั้นค่อนข้างช้า แต่มีลูกเล่นที่เขาของมันสามารถที่จะงัดก้อนหินหรือต้นไม้แล้ววิ่งลากไล่ชนเราต่อเนื่อง บินท้ายด้วยการเหวี่ยงหรือทุ่มใส่เราได้ด้วย ทำให้เพื่อนๆ พลาดท่ากันได้ง่ายมาก เจ้าก้อนหินนั้นจะยังหลบไม่ยากนัก แต่ถ้ามันขุดเอาต้นไม้มาไล่ชนแล้ว การกดเก็บอาวุธและรีบวิ่งให้พ้นจะเป็นตัวเลือกที่ง่ายกว่า
เจ้าบันบาโร่นี้แพ้มังกรและไฟเป็นหลัก ส่วนหัวกับขาก็เป็นจุดอ่อนที่ตีเข้าได้ง่าย โดยรวมนั้นนอกจากการท่างัดหิน/ต้นไม้แล้ว เป็นมอนสเตอร์ที่ไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับเพื่อนๆ เท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับพวกมังกรแสบๆ ที่เคยผ่านมือกันมาแล้ว
เมื่อจัดการกับเจ้า Banbaro ได้แล้ว ให้เพื่อนๆ กดกลับฐานได้เลยจ้า เมื่อการเคลียร์ทางเสร็จสิ้น ตัวฐาน Selina ของเราก็จะอยู่ในสภาพค่อนข้างพร้อมเต็มที่ ให้เพื่อนๆ ลองดูความแตกต่างเล่น ทางด้านผู้การเองที่พอมีฐานทัพเพิ่มขึ้น ก็จะมีการแบ่งงาน โดยให้คุณหลานหัวหน้าทีมรับหน้าที่บัญชาการใน Selina แทน และตัวเองกลับไปคุมในส่วนของ Astera
ตามร่องรอยของ Legiana
ก่อนออกสำรวจในครั้งนี้ หมาขอแนะนำให้เพื่อนๆ พก Antidote (ยาแก้พิษ) หรือทำเป็นแบบเม็ดไว้ด้วย(กินไวกว่ามาก) ภารกิจต่อไปของเราก็ยังคงเป็นการออกตามล่าสาเหตุกันต่อไป ในครั้งนี้เราจะได้เจอกับคุณป้านักแกะรอยใจดีคนเดิมมาร่วมทางกับเราด้วย และแยกกันไปหาร่องรอยคนละทาง
เมื่อเส้นทางมาชนกัน ก็จะถูกทักทายโดยเจ้ามอนเก่าหน้าใหม่ Viper Tobi-Kadachi ที่รอบนี้มาพร้อมกับอาวุธใหม่ นั่นคือพิษที่รุนแรงเป็นอย่างมาก การโจมตีต่างๆ ของมันจะมีพิษแถมมาด้วย แต่ไม่ฉกไปฉกมา หรือโดดเกาะต้นไม้/ผนัง ถี่แบบตัวปกติ ในขณะเดียวกันมันก็มีลูกเล่นอย่างการบินร่อนเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งตัวเองหรือหามุมโจมตีทำให้รับมือได้ยากขึ้น
จุดอ่อนของเจ้าโทบิพิษนี้จะเปลี่ยนจากหางมาเป็นส่วนหัวและขาหน้ารวมถึงเปลี่ยนมาแพ้ธาตุสายฟ้าแทน ถ้ามีจังหวะที่มันชะงักแล้วน้ำลายยืด ก็จะเป็นโอกาสให้เพื่อนๆ ได้ใช้ Clutch Claw สร้างจุดอ่อนหรือยิงอัดเข้าผนังได้เช่นกันจ้า
การจัดการเจ้าโทบิได้จะเปิดทางแคมป์ใหม่ที่ซากเรือให้กับเพื่อนๆ พร้อมกับดำเนินเนื้อเรื่องต่อที่ซากเรือเก่า แสดงถึงกลุ่มคนที่มาเจอดินแดนแห่งนี้ก่อนที่กองเรือที่ 1 จะถูกก่อตั้งขึ้นมาเสียอีกด้วยซ้ำ และในจุดนี้ ทางฝั่งของ Astera ก็เริ่มมีปัญหา ทำให้เราจะต้องแยกทางกับคู่หูของเราเสียก่อน (แต่จะได้คู่หูอีกคนมาแทน เจ๊ Serious Handler นั่นเอง)
เรื่องวุ่นๆ ใน New World
ทางด้านโลกใหม่นั้น ก็มีรายงานการพบเจอมอนสเตอร์สปีชี่ย์ย่อยในพื้นที่ต่างๆ ขึ้นมา ก่อนที่จะได้รับเควสมาทั้งสิ้นสองเควส โดยเควสหนึ่งจะเป็นเจ้า Paolumu และอีกเควสจะเป็น Pukei-Pukei ให้เพื่อนๆ เตรียมตัวเตรียมใจกันให้พร้อมจ้า
Nightshade Paolumu : เจ้าเปาตัวนี้มีลูกเล่นเด่นคือการใช้ควันยานอนหลับเล่นงานเรา โดยจะทิ้งควันไว้ที่พื้นหรือเป่าออกมา แนะนำให้เพื่อนๆ ใช้ชุดที่มีสกิล Sleep Resistance หรือใช้เพชรช่วยจะทำให้สู้ได้ง่ายขึ้นมาก หาไม่มีหรือไม่สะดวกจะใช้ไอเทม Energy Drink ก็ได้ (สามารถกดใช้ได้ระหว่างที่ตัวละครทำท่างัวเงียอยู่) ถ้ารำคาญที่มันบินไปบินมา สามารถใช้ Flash Pod ยิงให้ชะงักหรือร่วงลงมาได้ แต่ต้องไม่ยิงบ่อย เพราะมอนสเตอร์ในระดับ Master Rank นั้นจะมีการต้านทาน Flash ที่เร็วมาก การยิงบ่อยๆ จะทำให้ไม่มีเก็บไว้ใช้ยามคับขันได้
เจ้าเปาตัวนี้จะแพ้น้ำ และยังมีจุดอ่อนที่เดิมๆ คือส่วนหัว หรือหากอยากเพิ่มจุดอ่อนง่ายๆ การทำบาดแผลที่ปีกไว้ จะทำให้เพื่อนๆ มีจุดที่ใช้โจมตีได้เยอะขึ้นและเล็งได้ง่ายขึ้นมาก พยายามดูตำแหน่งควันยานอนหลับที่พื้นไว้ เพราะบางครั้งเจ้าเปาจะสูดลมหรือใช้ท่าอื่นที่ทำให้ควันเปลี่ยนตำแหน่งหรือกระจายออกมาชั่วคราวได้ด้วย ไอ้การตีๆ อยู่เผลอเดินไปดมควันก็เป็นอะไรที่ทำให้หลายคนเงิบกันมาแล้ว
Coral Pukei-Pukei : สุดยอดตัวอันตรายสำหรับสายระยะไกล แม้ปูเก้ตัวนี้จะไม่มีพิษแล้ว แต่มันมาพร้อมกับการพ่นน้ำอันทรงพลังและรุนแรงมาก (Waterblight จะทำให้ค่า Stamina ฟื้นตัวช้าลงมหาศาล) แนะนำให้เพื่อนๆ ต่อสู้กับมันในระยะประชิดจะดีที่สุดแม้ว่าจะใช้อาวุธระยะไกลก็ตาม การอยู่ด้านข้างของตัวมันจะค่อนข้างปลอดภัยพอสมควร เนื่องจากทั้งหัวและหางสามารถใช้โจมตีออกมาได้ทั้งหมด
ท่าที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็จะเป็นท่ายิงกราดหมู่ตีลังกาและฉีดน้ำเป็นวงก้นหอยทั่วฉาก ให้เพื่อนๆ เก็บ Flash ไว้ใช้ในยามคับขัน หรือถ้ามี Pod ชนิดที่ทำให้ชะงักได้ (เช่น Piercing Pod, Thorn Pod) จะทำให้ขัดจังหวะมันได้
สำหรับเจ้าปูเก้รถดับเพลิงจะแพ้น้ำแข็งและมีส่วนอื่นนอกจากหัวที่แข็งพอตัว ต้องอาศัยการสร้างบาดแผลด้วย Clutch Claw เพื่อทำให้ทำความเสียหายได้เต็มที่ ด้วยนิสัยการฉีดน้ำไปทั่วจากระยะไกลทำให้เพื่อนๆ ลำบากในการล่อมันไปใกล้ๆ กำแพงเพื่อใช้ Flinch Shot โขกมัน ให้สู้ไปพลางขยับเข้าใกล้กำแพงไปพลางจะทำให้ล่อมันได้ง่ายกว่ามาก
นามนั้นคือ?
เมื่อเสร็จสิ้นปัญหาที่โลกใหม่แล้ว เพื่อนๆ จะได้กลับมาช่วยคู่หูของเราที่กำลังเจอปัญหารบกวนจากเจ้าเสือน้อย Barioth กันที่ Hoarfrost Reach ต่อ งานนี้ต้องเตรียมตัวกันให้ดีซักหน่อย เพราะเจ้าตัวนี้จะเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ตัวใหญ่ตัวแรก(ถ้าไม่นับน้องบันบาโร)ที่จะได้เจอ และมันปราดเปรียวไม่น้อย การย้อนกลับไปตีมอนสเตอร์เก่าๆ ในระดับ Master Rank (เช่น Great Jagras, Kulu-Yaku) จะช่วยให้เพื่อนๆ มีตัวเลือกในการทำเกราะที่มีพลังป้องกันสูงๆ รับมือกับมอนได้ง่ายขึ้น
เจ้าเสือตัวนี้จะแพ้ไฟและมีลูกเล่นเฉพาะทางที่เน้นการโดนตะบบ ถลาใส่ เอาเขี้ยวแทะเราอย่างเมามัน ในช่วงแรกของการต่อสู้จะขอแนะนำให้เพื่อนๆ โฟกัสไปที่การตีขาหน้าข้างใดข้างหนึ่งให้แตกให้ไวที่สุด จะทำให้การโผและกระโดดของมันเกาะพื้นไม่อยู่และไถลเสียจังหวะ การทำขาแตกทั้งสองข้างจะช่วยเพิ่มเวลาอีกเล็กน้อย รวมถึงการทำเขี้ยวหักจะทำให้ท่าของมันพิกลพิการกว่าเดิม และทำให้เราสู้ได้ง่ายขึ้นมากจ้า
พยายามอยู่ใกล้ตัวของเจ้าเสือไว้จะช่วยหลีกเลี่ยงการเจอโผใส่ที่หลบยากกว่าได้ แต่จะเปิดโอกาสให้โดนท่าหางกวาด ซึ่งตัวท่านี้เพื่อนๆ ต้องหลบไปอีกทางหนึ่งของหาง เพราะตัวหางกวาดช้าและมีขนาดใหญ่ รวมถึงมีระเบิดน้ำแข็งที่พื้น ทำให้การกลิ้งสวนทิศแบบตัวอื่นๆ นั้นต้องเป๊ะมากๆ ถึงจะทำได้
หลังจากนั้นจะได้พบกับ Cut Scene พร้อมกับการปรากฎตัวอีกครั้งของเจ้ามังกรโบราณลึกลับที่คุณป้าได้เอ่ยชื่อของมันว่า Velkhana ก่อนที่คู่หูของเราจะสังเกตุว่ามันกำลังมุ่งหน้าไปทางโลกใหม่… งานเข้าทางฝั่ง Astera กันอีกแล้วนั่นไงล่ะ
ตามล่าเวลคาน่า
เพื่อนๆ จะกลับมาที่โลกใหม่เพื่อรายงานผลการสำรวจและเตือนภัยเรื่องของเจ้าเวลคาน่า และได้รับภารกิจในการค้นหาสิ่งผิดปกติใน Ancient Forest ก็เตรียมตัวแล้วไปกันได้เลย
ในป่านั้นเพื่อนๆ เมื่อเพื่อนๆ เดินสำรวจตามร่องรอยไปเรื่อยๆ จะได้พบกับการเปิดตัวอย่างเท่ของมอนสเตอร์เก่าเล่าใหม่ เจ้าเหมียว Nargacuga ที่มาป่วนแตกป่าแห่งนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากที่ดินแดนนี้ยังมีหลายส่วนยังไม่ถูกสำรวจ และการมาของเวลคาน่าได้ทำให้พวกมอนสเตอร์หลายตัวเริ่มออกมากันมาขึ้น
ผู้การจะมอบหมายให้เราสำรวจเก็บร่องรอยของเจ้าเวลคาน่า พร้อมกับงานกำจัดมอนสเตอร์ใหม่สองตัวกับเรา สามารถเลือกทำก่อนหลังได้ตามสะดวกเลยจ้า โดยการตามร่องรอยของเวลคาน่านั้นก็จะเหมือนกับภาคก่อนๆ ที่ต้องเดินสำรวจพื้นที่ไปเรื่อยๆ เพื่อหารอยของมันนั่นเอง แต่ไม่ต้องกังวลไป เนื่องจากระหว่างที่ทำเควสล่ามอนสเตอร์ที่ได้มา จะมีร่องรอยของเจ้าเวลคาน่าปะปนอยู่ด้วยค่อนข้างมากเลยทีเดียว
Nargacuga : แมวใหญ่สีดำตัวนี้มีจุดเด่นที่ความปราดเปรียว โจมตีด้วยการโฉบตะบบคล้ายกับ Barioth แต่จะเน้นใช้หางที่ยืดได้ของมันตวัดโจมตีรอบตัวเป็นวงกว้างบ่อยกว่ามาก รวมถึงการตีลังกาฟาดหางใส่อย่างรุนแรง แถมยังชะงักยากอีก ทำให้เป็นศัตรูที่ตึงมือไม่น้อยเลยทีเดียว
น้องเหมียวนั้นไม่ชอบสายฟ้า และมีจุดอ่อนอยู่ที่หัว(สำหรับสายประชิด)หรือหาง(สำหรับสายปืน) เพื่อนๆ จะมีช่องว่างในการโจมตีหลังจากที่น้องเหมียวออกท่าต่างๆ โดยเฉพาะการเอาหางฟาดพื้น (ตอนโกรธจะฟาดสองครั้งติดกัน) รวมถึงการตวัดหางใส่ที่หากกลิ้งหลบได้จะมีช่องให้โจมตีเช่นกัน
ท่าที่เพื่อนๆ อาจจะไม่ทันระวังก็จะเป็นการสะบัดหนามใส่ ซึ่งหนามจะติดอยู่ที่พื้นพักหนึ่ง และหากโดนเข้าจะติดสถานะ Bleeding ด้วย (แก้ได้ด้วยการกิน Astera Jerky, Sushifish Scale หรือกดย่อตัวและอยู่เฉยๆ ซักพัก)
Glavenus : เจ้าหางดาบตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในศิษย์เก่าเช่นกัน จุดเด่นก็ไม่พ้นหางที่เหมือนกับใบดาบ และลีลาการใช้หางที่ไม่ว่ามอนตัวไหนก็ต้องยอมรับว่ามันคือที่หนึ่งจริงๆ นอกจากนี้หางของมันยังลับให้ร้อนแรงมีเปลวไฟติด เพิ่มความโหดร้ายเมื่อฟาดฟันอีกด้วย ถึงกระนั้นเห็นหางมันแบบนี้… ก็ถูกทำลายและตัดออกมาได้เช่นเคย
เมื่อใช้ไฟ ทำให้น้ำเป็นของสแลงสำหรับมัน มันจะใช้การโจมตีด้วยการฟาดหางดาบลงมาตรงๆ เป็นหลัก ทำให้เพื่อนๆ หลบออกด้านข้างได้และฉวยโอกาสซัดหางมันพลางๆ ได้ (ตอนโกรธจะฟันสองครั้งติด) อย่างไรก็ดี บางครั้งมันจะโจมตีด้วยการฟัดปาดเป็นวงต่อจากการใช้หางสับให้สังเกตุการขยับร่างกายของมันให้ดีก่อนลงมือโจมตีกลับ ท่าที่ต้องเป็นพิเศษระวังจะเป็นการง้างดาบหรือคาบดาบไว้ ที่จะฟันอย่างแรงมากเป็นวงกว้างรอบตัว รวมถึงการฟันวงกว้างที่สะบัดเปลวไฟไปข้างหน้าด้วย
เมื่อจัดการมอนสเตอร์ทั้งสองตัวนี้ได้แล้ว เพื่อนๆ จะกลับมาที่ฐานอีกครั้งก่อนจะพบกับข่าวไม่ดี ที่การมาเยือนของเจ้าเวลคาน่านั้นส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์อย่างมาก โดยเหยื่อในครั้งนี้ก็ไม่พ้น Anjanath ที่กลายเป็นไอติมนะไปเรียบร้อย ในขณะที่แต่ละคนกำลังสิ้นหวังนั้น ผู้การหน้าใหม่ของเราก็จะให้กำลังใจว่าพวกเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ ถ้ามีใครมาทำลายระบบเดิม ก็ต้องจัดการให้เข้าที่เข้าทาง
พวกเราก็คือส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์
เมื่อผู้การของเราได้สติ จึงมอบภารกิจใหม่ต่อระหว่างที่กำลังหาร่องรอยเจ้าเวลคาน่าเพิ่มเติม (ต่อให้เกจเต็มแล้วก็ยังต้องล่ามอนอยู่ดีนะ) ก็ยิ้มแห้งๆ แล้วบวกพวกมันกันต่อได้เลย
Tigrex : หนึ่งในเรือธงที่กลับมาอย่างดุดัน พี่เสือหิวถนัดในการโผใส่และวิ่งไล่กัดอย่างบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก ถ้าใครคิดว่า Nargacuga แย่แล้ว อาจจะต้องเปลี่ยนใจเพราะพี่เสือกันเลยทีเดียว การรับมือ Tigrex นั้นเป็นเรื่องที่แม้แต่คนที่ชำนาญในการล่าแล้วยังรู้สึกว่าน่ารำคาญเลยล่ะ การอยู่ใกล้กับเจ้า Tigrex จะทำให้มันหันมาใช้ท่าระยะใกล้บ่อยขึ้น (เช่นการกัด, หมุนตัว, ไถหิน) ซึ่งแม้จะต้องอาศัยการหลบที่แม่นยำกว่า แต่จะมีโอกาสได้โจมตีมากกว่าการอยู่ไกลๆ แล้วพี่แกโดดไปมาหรือวิ่งไถไม่หยุด
จุดอ่อนของพี่เสือก็จะเป็นธาตุสายฟ้า และส่วนหัว อย่างไรก็ดี การทำรอยแผลที่ขาหน้าและฟาดเอาแทนหัวก็ไม่ได้ผิดกติกาแต่อย่างใด พยายามใช้ช่วงเวลาที่ Tigrex ไม่โกรธร่วมกับผ้าคลุมเพื่อใช้ Flinch Shot อัดเข้ากำแพงจะทำให้ย่นเวลาการล่าได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว อย่าลืมว่าแม้ว่าใน Master Rank มอนจะเริ่มป้องกัน Flash แต่เรายังสามารถใช้เป็นระยะๆ ร่วมกับกับดักเพื่อซื้อเวลาและจังหวะในการโจมตีได้ และพี่เสือเวลาเหนื่อยจะเป็นอะไรที่เรียกว่าได้เวลาล้างแค้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะการวิ่งจะล้มไถลให้เราตีฟรีได้มาก
ถ้าเพื่อนๆ หลบไม่ค่อยได้ การใช้สกิลเสริมอย่าง Stun Resistance หรือ Divine Protection รวมถึง Evade Distance/Window จะช่วยให้เอาตัวรอดได้มากขึ้น เพราะการสู้กับเจ้า Tigrex สำหรับมือใหม่น่าจะโหดร้ายสุดแล้วในช่วงต้นเกมสำหรับหลายๆ คนแล้ว อย่าลืมว่าเรายังมีสกิลมากมายในการช่วยป้องกันตัวได้ …. รวมถึงการกินยาไว
Brachydios : ฉายานักมวยรุ่นเดอะพร้อมกับฉากเปิดตัวอย่างหลอนไม่แพ้ Tigrex เลยทีเดียว ลูกเล่นของมันนอกจากจะโดดไปมาและไล่ต่อยเพื่อนๆ แล้ว ยังมาพร้อมกับเมือกที่ติดตามพื้น(และตัวของเรา) ที่เมื่อผ่านไปซักพักจะระเบิดออกอย่างรุนแรง เพื่อนๆ สามารถแกะเมือกออกจากตัวได้ด้วยการกดกลิ้งไปมา 5 ครั้ง ก่อนที่มันจะระเบิดใส่เรานั่นเอง หากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงเมือกที่ติดตามพื้น ยกเว้นเป็นจังหวะให้เราโจมตี เพราะเราสามารถสลัดเมือกออกจากตัวได้ แต่เมือกกองใหญ่ที่เจ้าตัวใช้โดยการเอาหัวทิ่มพื้นจะเป็นเมือกชนิดหนามาก เมื่อโดนจะทำให้ขยับตัวไม่ได้ให้รีบโผออกเหมือนเจอโคลนของเจ้า Jyuratodus
เมือกของเจ้าบราคินี้จะใช้เวลาซักพักก่อนจะระเบิด โดยแสดงให้เห็นจากเมือกสีเขียว ค่อยๆ กลายเป็นสีเหลืองและสีแดงก่อนจะระเบิดออก เมื่อเจ้าบราคิโกรธ เมือกจะกลายเป็นสีเหลืองและระเบิดอย่างรวดเร็ว ให้ระวังให้ดี
บราคินั้นอ่อนแอต่อธาตุน้ำแข็ง รวมถึงส่วนหัวและหางนั้นก็เป็นจุดอ่อนของมัน เพียงแต่การที่ตัวมันใหญ่และทั้งสองส่วนอยู่สูง ทำให้โอกาสจะตีโดนค่อนข้างลำบากอยู่ การหาจังหวะใช้ Clutch Claw ข่วนขาให้เป็นแผลและทุบแข้งให้ล้มแล้วค่อยตีหัว ตีหางจึงเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างดีกว่า หากใครที่ใช้อาวุธที่ขยับตัวช้า การเลือกใช้ชุดเกราะที่มีสกิลป้องกันอย่าง Blast Resistance จะช่วยตัดปัญหาสถานะสไลม์ติดตัวได้ (แต่ไม่กันระเบิดที่พื้นนะจ๊ะ)
ปะทะเวลคาน่า
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจจัดการมอนสเตอร์ต่างๆ ในแต่ละพื้นที่เสร็จแล้วนั้น ก็ได้เวลาจัดการกับเจ้าตัว Velkhana กันเสียที ให้เพื่อนๆ รับเควสและเตรียมตัวให้พร้อม น้ำแข็งเต็มตัวแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแพ้ไฟอย่างแน่นอนเลยทีเดียว
เพื่อนๆ จะได้เจอกับเจ้าเวลคาน่าใน Elder Recess โซนถ้ำคริสตัล ทำให้สามารถใช้คริสตัลที่เพดานมาช่วยในการโจมตีมันได้เป็นอย่างดี (ถ้ามันล้มจะเปิดโอกาสให้ตีฟรีนานมากเลยทีเดียว) ซึ่งเจ้าเวลคาน่าจะโจมตีด้วยการพ่นน้ำแข็งเป็นเส้นตรง รวมถึงใช้หางแทงเราด้วยระยะที่น่าตกใจ แต่ถึงกระนั้นในตอนนี้มันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่น่ากลัวเลยในเวลานี้ที่เราเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว
อย่างไรก็ตามนั้น เมื่อสู้ได้ซักพักก็จะเข้าสู่ Cut Scene แสดงให้เห็นว่ามันยังไม่ได้เอาจริงด้วยซ้ำ! เมื่อจัดการเราได้แล้ว มันก็จะบินจากไปเป็นอันว่าโลกใหม่นั้นได้ปลอดภัยจากการมาเยือนของเจ้าเวลคาน่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงกระนั้นเรื่องราวของมันก็ยังไม่ได้จบลง มันแค่แวะมาที่โลกใหม่เหมือนมาปรับสภาพร่างกายให้เหมาะสมเท่านั้น
การไล่เจ้าเวลคาน่าออกไปจากโลกใหม่ได้ก็เป็นเหมือนกับการจบครึ่งแรกของเนื้อเรื่องกลายๆ ก็ว่าได้ เนื่องจากหลังจากนี้ มอนสเตอร์แต่ละตัวจะเริ่มเล่นของแรงกันแล้ว ดังนั้นขอให้เพื่อนๆ เตรียมตัวกันให้ดีๆ จ้า