หลังจาก Naruto: Slugfest ได้เปิดให้เล่นในช่วง Close Beta ไปในช่วงวันที่ 4 – 10 มกราคมที่ผ่านมา ทางเราก็ได้รวบรวมข้อมูลต่าง เอาไว้ให้เพื่อที่เพื่อนๆ ที่พึ่งมาเล่นจะสามารถเล่นได้อย่างง่ายขึ้นนะครับ โดยเราได้รวมสิ่งต่างๆ ที่เพื่อนๆ ควรทราบในเบื้องต้นไว้ดังนีั
1. ข้อมูลทั่วไปของเกม
ในหัวข้อนี้เราจะขอพูดถึงเรื่องทั่วๆ ไปของเกมกันนะครับว่ามีอะไรบ้างที่ควรจะทราบ โดยจะขอพูดถึงสเป็คในเบื้องต้น ข้อมูลเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ที่เราเล่น และเนื้อเรื่องของเกม โดยจะมีดังต่อไปนี้ครับ
สเป็คมือถือเบื้องต้น
Android(Samsung Galaxy S6) | iOS (iPhone 6s Plus) | |
OS | Android 5.0.2 | iOS 12 |
CPU | Exynos Octa (14 nm) | Apple A9(14 nm) |
GPU | Mali-T760 MP8 | PowerVR GT7600(six-core graphics) |
Ram | 3 GB | 2 GB |
Storage | ~2 GB | ~2 GB |
*อันนี้เป็นสเป็คขั้นต่ำที่ทางค่ายเกมได้แนะนำมาโดยอ้างอิงจากในงานเปิดตัวเกม
เกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์
เซิร์ฟเวอร์ที่เราเล่นจะเล่นรวมกันกับผู้เล่นต่างประเทศสังเกตุได้ง่ายๆ จากสัญลักษณ์ธงชาติที่ตัวละครโดยเราจะอยู่ในภูมิภาค SEA (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ซึ่งเปิดให้บริการโดย Cubinet ดังนั้นแน่นอนว่าภาษาที่เราเจออาจจะไม่ใช่แค่ภาษาไทยเพียงอย่างเดียวครับ แต่ตัวเกมก็รองรับภาษาไทยและการพิมพ์ข้อความภาษาไทยด้วย ดังนั้นคิดว่าไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่สำหรับประเด็นนี้ครับ
เนื้อเรื่องของเกม
ตัวเกมจะดำเนินเรื่องตามฉบับการ์ตูนครับ หากเปรียบเทียบกับในอนิเมจะเริ่มที่ภาค Shippuden โดยเป็นเนื้อเรื่องหลังจากที่จบช่วงวัยเด็กที่นารูโตะเดินทางไปฝึกฝนกับจิไรยะเป็นเวลาประมาณสองปีครึ่ง และได้กลับมายังหมู่บ้าน โดยเราจะได้รับบทเป็นหนึ่งในนินจาที่ถูกฝึกมาและได้เข้าไปเป็นส่วนนึงของทืมนารูโตะครับ
2. ตัวละคร
ใน Naruto: Slugfest แม้ว่าเราจะไม่ได้เล่นเป็นตัวนารูโตะตรงๆ แต่เราก็จะได้เป็นส่วนนึงของหมู่บ้านโคโนฮะและได้ไปทำภารกิจพร้อมๆ กับนารูโตะและเหล่าเพื่อนๆ โดยตัวละครที่เราจะได้เลือกเล่นนั้นเราจะเลือกได้ 1 ใน 4 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็จะแบ่งออกเป็นหลักๆ 2 สาย และในแต่ละสายก็จะมีสายย่อยๆ อีก 3 สายด้วยกันครับ เรียกว่าค่อนข้างมีตัวเลือกหลากหลายเลยทีเดียว
1.นินจาธาตุดิน : นินจาที่สามารถเล่นได้ทั้งรุกและรับ มีอาวุธคือดาบขนาดใหญ่ที่อยู่บนหลัง จะแบ่งออกเป็นสายใหญ่ๆ คือสายบุกที่เน้นการโจมตีอย่างดุดันและสายป้องกันที่มีสกิลในการปกป้องตัวเองและเพื่อน
2.นินจาธาตุไฟ : สำหรับตัวละครนี้จะมีสกิลที่ค่อนข้างอลังการเลยทีเดียวครับ โดยจะแบ่งออกเป็นสายที่ใช้ไฟโจมตี ซึ่งจะมีท่าหมู่เยอะมาก และอีกสายนึงคือสายรักษาที่จะมีท่าบัฟหรือรักษาให้กับตัวเองหรือเพื่อน
3.นินจาธาตุสายฟ้า : นินจาที่เน้นความรวดเร็วด้วยดาบสั้นเล่มคู่ใจ เน้นไปโจมตีด้วยไฟฟ้าเป็นหลัก โดยจะแบ่งออกเป็นสายเคลื่อนที่และซ่อนเร้น สายแรกจะเน้นไปที่ท่าเข้าหาศัตรูหรือเปลี่ยนตำแหน่งตัวเอง อีกสายนึงจะมีท่าที่เอาไว้ใช้หลบเลี่ยงสายตาของศัตรูและหาโอกาสโจมตีตอนศัตรูเผลอ
4.นินจาธาตุลม : เป็นนินจาสายตีระยะไกลด้วยดาวกระจายหลายขนาดเน้นโจมตีด้วยธาตุลม จะแบ่งออกเป็นสายสายด้วยกันสายแรกจะเน้นสกิลโจมตีในระยะไกลล้วนๆ และอีกสายเป็นสกิลเน้นในระยะประชิดสามารถต่อคอมโบหลายสกิลได้อย่างรวดเร็ว
สกิลของตัวละคร
สำหรับในเกมนี้นอกจากจะแบ่งสายของตัวละครออกเป็นสองสายแล้วสกิลของตัวละครสามารถอัพใช้ได้อย่างอิสระมีมีแบบแบ่งเป้นหมวดสกิลมาให้เป็นชุดหรือสามารถเลือกอัพได้เองตามใจชอบ ซึ่งจะแยกให้เราเลือกอัพได้ถึง 8 แบบ (สายที่สองจะปลดให้เราเลือกอัพสกิลได้นั้นจะปลดตอนเลเวล 30 นั้นเองครับ)
เหล่านินจาภายในเกม
ในการต่อสู้เราจะควบคุมตัวละครหลักที่เราเลือกและสามารถเรียกเพื่อนนินจาออกมาช่วยสู้ได้เรื่อยๆ โดยตัวละครที่เราเรียกออกมาช่วยสู้จะช่วยเราแปบนึงก่อนจะหายไป แล้วเราจะเรียกได้ใหม่อีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป ยกเว้นตัวละครระดับ S ขึ้นไปบางตัวจะสามารถบังคับใช้เป้นตัวละครนั้นๆ ได้ครับ
สำหรับวิธีในการหานินจาคนอื่นๆ มาช่วยเราสู้นั้นเราจะสามารถหาได้จากการเปิดกาชานั่นเองครับ ซึ่งเราจะต้องเข้าไปเปิดกาชาในร้านราเม็ง โดยของที่ได้ก็จะมีทั้งเศษชิ้นส่วนให้เราเก็บให้ครบจึงจะได้ตัวมาใช้ หรือถ้าโชคดีก็อาจจะได้มาเป็นตัวๆ เลยไม่ต้องไปหาชิ้นส่วนเพิ่ม หากเราได้ตัวซ้ำก็สามารถเอาชิ้นส่วนมาอัพเกรดตัวละครเดิมที่มีได้ครับ โดยเราจะได้สกิลเพิ่มเมื่ออัพเกรดดาวด้วย
Note : การอัพเกรดดาวสามารถทำได้โดยการหาชิ้นส่วนมาอัพตัวละครให้เต็ม จึงจะสามารถอัพเกรดดาวเพือปลดล็อคสกิลและความสามารถได้
3.การเก็บเลเวล
ในส่วนของการเก็บเลเวลในเกมนี้จะมีอยู่หลักๆ ด้วยกันสองส่วนครับ อย่างแรกคือการทำเควสหรือภารกิจต่างๆ ซึ่งเมื่อเราเล่นเนื้อเรื่องหลักไปสักพักนึงแล้วตัวเกมจะไล่เราไปเก็บเลเวลเพิ่มครับ ในส่วนนี้เราสามารถเก็บเลเวลต่อได้โดยการทำภารกิจประจำวัน หรือเควสย่อยต่างๆ นั่นเองครับ
อีกวิธีนึงในการทำเควสคือการไปตีมอนสเตอร์นั่นเองครับ ซึ่งเราสามารถรวมทีมกับเพื่อนแล้วไปฟาร์มได้ โดยแนะนำว่าหากทำอย่างอื่นหมดแล้วลองไปฟาร์มเลเวลที่ดันเจี้ยนฝึกฝนดูได้ครับแม้ว่าจะได้ EXP ไม่เยอะมากและมีข้อจำกัดในแต่ละวันแต่ก็ถือว่าเป็นแหล่งเก็บเลเวลอย่างดีเลย
4.การเล่นกับเพื่อน
หากใครที่เบื่อๆ การเล่นคนเดียว Naruto: Slugfest เราสามารถจับปาร์ตี้กับเพื่อนได้ด้วยครับ โดยหลักๆ แล้วจุดประสงค์ในการจับปาร์ตี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 อย่างคือเพื่อทำภารกิจที่ค่อนข้างยากไม่ก็ภารกิจพิเศษ หรืออีกอย่างนึงคือเพื่อเก็บเลเวลนั่นเองครับ เรียกว่าไม่เหงาแน่นอน แถมหากเราไม่มีเพื่อนก็สามารถใช้ระบบหาปาร์ตี้อัตโนมัติได้ด้วย
นอกจากเรื่องปาร์ตี้แล้วตัวเกมยังมีในส่วนของระบบกิลด์ที่ค่อนข้างจะน่าสนใจครับ โดยภายในเกมนี้จะมีในส่วนของภารกิจกิลด์ที่ให้เราได้ทำ และภายในฐานกิลด์ยังมีในเรื่องของการสร้างสิ่งของต่างๆ อีกด้วย ซึ่งมีระบบอีกค่อนข้างลึกเลยครับในส่วนของกิลด์ เอาไว้เราจะมาขยายให้ฟังอีกทีนึงนะครับ
5.เกมนี้ต้องทำอะไรบ้าง
โดยหลักๆ ของเกมนี้คือเราจะต้องพยายามพัฒนาตัวละครให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ผ่านภารกิจต่างๆ ตามเนื้อเรื่องของเกมครับ แน่นอนว่ายิ่งเล่นไปไกลเท่าไหร่ก็จะยิ่งเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งตัวเกมก็จะดำเนินเรื่องตามในการ์ตูนเลยใครที่เคยดูหรืออ่านการ์ตูนมาก่อนน่าจะชอบครับ
สำหรับการพัฒนาตัวละครภายในเกมนี้มีระบบที่เยอะมากๆ ที่จะทำให้ตัวละครของเกราเก่งขึ้น โดยในช่วงแรกก็จะเป็นเรื่องของอุปกรณ์สวมใส่ หรือการอัพเกรดสกิล พอเล่นไปไกลขึ้นมาหน่อยก็จะมีในเรื่องของมากาทามะ หรือเรื่องของคู่หูที่จะมีผลกับการเล่นมากขึ้น เรียกว่ายิ่งเล่นไปไกลยิ่งมีอะไรให้ทำเยอะครับ
ที่เป็นจุดเด่นหลักๆ ของเกมนี้อีกอย่างนึงเลยคือกิจกรรมครับ ภายในเกมจะมีตารางกิจกรรมให้เราได้ดูและสามารถไปเล่นกันได้ บอกเลยว่ามีทุกวันและมีกิจกรรมเยอะเอามากๆ โดยของตอบแทนของแต่ละกิจกรรมก็คุ้มค่ามากครับ แนะนำว่าหากมีเวลาอย่าลืมไปไล่ทำกิจกรรมให้หมดนะครับ แม้ว่าจะไม่ได้ที่ 1 ก็ไม่เป็นไรเพราะแค่ร่วมสนุกส่วนมากก็จะได้ของติดไม้ติดมือกันทุกคน