เรียกได้ว่าห่างหายกันไปนานเลยครับกับการรีวิวเกมมิ่งเกียร์ ซึ่งในคราวนี้ทางกบได้มีโอกาสมารีวิวหูฟังสุดเทพจากทาง Razer อย่าง Nari Ultimate มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ ซึ่งต้องขอแจ้งไว้ก่อนว่าตัวกบไม่ได้รีวิวหูฟังบ่อยสักเท่าไหร่หากมีจุดผิดพลาดหรือขาดส่วนไหนไปสามารถแจ้งมาได้นะครับ
เกี่ยวกับหูฟัง Nari Ultimate
Razer Nari Ultimate เป็นหนึ่งในหูฟังซีรียร์ Nari ซึ่งเป็นตัวที่มีฟังก์ชั่นต่างๆ ครบเครื่องที่สุดครับ โดยได้เพิ่มคุณสมบัติมาจากหูฟังตัวอื่นๆ ในซีรีย์ โดยเฉพาะฟังก์ชั่นเด็ดที่มีเฉพาะในตัวนี้อย่าง Razer HyperSense ที่ตัวหูฟังจะสั่นได้ตามเสียงที่เข้ามาหาเรานั่นเองครับ
สิ่งที่น่าสนใจของ Nari Ultimate
การออกแบบของตัวหูฟัง : ตัวหูฟังจะมีลักษณะเป็นหูฟังแบบครอบหูครับ แถมทำได้ค่อนข้างดีมากด้วยคือมิดชิดมากๆ เวลาที่เราใส่ไปนี่เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเสียงรบกวนแทรกเข้ามาในหูฟังได้เลย ตัดเสียงรบกวนได้ซึ่งดีมากๆ กับคนที่ไม่ต้องการโดนรบกวน อีกทั้งตัวเนื้อหูฟังนุ่มมากครับ พร้อมกับมี Cooling Gel-Infused Cushions ด้วยทำให้ใส่ไปแล้วไม่รู้สึกร้อน
Razer HyperSense : อันนี้เป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ครับ คือตัวหูฟังเนี่ยมันจะสั่นได้ตามเสียงที่เราได้ยิน ซึ่งถ้าหากว่าใครไม่ชอบสามารถเปิดปิดได้นะครับ จัดว่าแจ่มมากๆ
การใช้งานแบบ Wireless : เรียกว่าเป็นเรื่องนึงที่หลายคนใส่ใจในการเลือกหูฟังช่วงนี้เลยก็ไม่ผิดครับ เพราะบางทีการมีสายเนี่ยมันก็เกะกะบางครั้งเผลอไปเตะสายทำข้าวของหล่นกระจัดกระจายก็มี จึงไม่แปลกใจที่พักหลังจะมีคนเริ่มมองหาหูฟังแบบ Wireless กันมากขึ้น เท่าที่ลองใช้งานดูจัดว่าใช้ได้นานอยู่ครับ ติดตรงรูปทรงที่ดูใหญ่เฉยๆ บางคนเลยไม่ค่อยอยากพกไปข้างนอก แต่ถ้าใส่ในบ้านนี่สบายๆ เลยนะ
ประสบการ์ณหลังจากการใช้จริง
ในส่วนของการใช้จริงจากการเอามาใช้ในการเล่นเกมหลายๆ แพลทฟอร์มคิดว่าค่อนข้างดีมากๆ ครับโดยเฉพาะในเรื่องของระบบสั่นจัดว่าเด็ดมากๆ โดยเจ้าตัวระบบนี้สามารถทำงานได้กับทุกเครื่องเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Nintendo Switch, PlayStation 4 หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ เพียงแต่เราต้องตั้งค่าก่อนนะ ไม่งั้นจะมีแค่เสียงเฉยๆ หากเอาไปใช้อย่างอื่นนอกจากคอม
ในส่วนขนองการปรับแต่งทำได้เยอะพอสมควรครับโดยเฉพาะสี เอาจริงๆ แล้วอย่างผมเองที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องสีเท่าไหร่ก็ไม่ได้ว้าวมากอะไร แต่ถ้าใครชอบเราสามารถปรับการแสดงสีได้หลายแบบ เช่นในช่วงแรกๆ แสดงสีนึง อีกสักพักแสดงสีนึงวนไปได้เรื่อยๆ ด้วย แต่ในส่วนการปรับแต่งอย่างอื่นเช่นระดับการสั่นหรือรูปแบบในการใช้งานด้านอื่นๆ ผมว่าน้อยไปนิดนึง
ในส่วนของการใช้งานนานๆ ค่อนข้างจะดีกว่าที่คิดเอาไว้มากครับ เพราะในเบื้องต้นกบกับทีมงานคิดว่าตัวหูฟังน่าจะหนัก แต่พอใช้จริงๆ แล้วกลับมีน้ำหนักเบามาก ใส่นานๆ ก็ไม่ปวดหู ติดอยู่แค่รูปร่างภายนอกที่ใหญ่เกินไปหน่อย ดังนั้นจึงอาจจะไม่ค่อยเหมาะเวลาที่เราเอาไปใส่ข้างนอกเท่าไหร่ครับ แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะ