Magic The Gathering Arena : Starter Deck

หากพูดถึงเกมการ์ดแล้วล่ะก็ สิ่งที่มาคู่กันแต่ผู้เล่นน้อยคนจะให้ความสำคัญก็คือ Starter Deck เพราะส่วนใหญ่แล้ว ทุกคนที่เล่นเกมแนวนี้ก็ต้องการที่จะสร้าง Deck ที่เข้ากับการเล่นของตัวเองขึ้นมาเองกันทั้งนั้น แต่หากคุณคือผู้เล่นใหม่ที่ต้องการจะหัดเล่นเกมการ์ดแล้วล่ะก็ Starter Deck จะช่วยตอบคุณได้ในระดับหนึ่งว่าคุณมีการเล่นไปในแนวทางใด โดยในเกม Magic The Gathering Arena จะมี Starter Deck แบบไหน มีดีอย่างไร เหมาะกับคุณหรือเปล่า มาร่วมค้นพบไปพร้อมๆกันดีกว่า

เขียนโดย Vakasol

1. Dragon’s Fire

Dragon’s Fire เป็น Starter Deck ธาตุไฟ โดยจุดเด่นของธาตุไฟนั้นก็คือ การเผาใหม้ทุกสรรพสิ่งให้วอดวายเหมือนกับไฟที่ลามทุ่งข้าวสาลี Starter Deck นี้จึงเหมาะกับผู้เล่นที่ชอบการรุกเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยความสามารถในการ Control Board สูงจาก Spell ต่างๆ ที่ถูกสร้างมาเพื่อเผาผลาญ Creature ฝ่ายตรงข้ามหรือเผาพลังชีวิตอีกฝ่าย

คุณสมบัติของ Creature ที่ธาตุอื่นไม่มีอย่าง Haste นั้น จะส่งผลให้ Summon Creature มาแล้วสามารถทำการโจมตีได้ในเทิร์นที่ทำการ Summon เลย ถือว่าเป็นคุณสมบัติเหมาะกับ Deck ที่ต้องการความรวดเร็วในการสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายตรงข้าม ทำให้ Dragon’s Fire เป็น Starter Deck ที่น่ากลัวมากหากตั้งตัวได้ก่อน และเป็น Deck ที่เล่นได้ดีแม้จะไม่คอมโบการ์ดกันก็ตามที ตัวเอกของ Deck นี้จะเป็นพวก Creature มังกรและไดโนเสาร์ ซึ่งมีความสามารถพิเศษ, ค่าพลังโจมตีและพลังชีวิตที่ดีในการปิดบัญชีฝ่ายตรงข้ามให้ลงไปคลานได้อย่างไม่ยากเย็น

แต่ในข้อดีนั้นก็มีข้อเสียเช่นกัน ด้วยพลังทำลายในช่วงต้นเกมที่สูงทำให้ Starter Deck นี้จำเป็นต้องตั้ง Board ให้ได้ก่อน และ Control Board ให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสามารถตั้งตัวได้ ไม่เช่นนั้นแล้วคุณอาจจะแพ้ได้โดยไม่รู้ตัว เพราะด้วยพลังทำลายที่สูงของ Creature ทำให้พลังชีวิตที่มีต่ำติดดิน ประกอบกับเมื่อปล่อยไปถึงกลางและท้ายเกม คุณจะไม่สามารถเติมการ์ดในมือเพื่อเล่นได้ เพราะธาตุไฟไม่เน้นจั่ว เน้นตีๆ ดันๆ จบกันต้นเกม ทำให้หากยื้อไว้นานไปคุณจะเกิดอาการมือว่างพร้อมกับความเสียหายมหาศาลที่ถาโถมเข้ามาหา

2. Arcane Inventions

Arcane Inventions เป็น Starter Deck ธาตุน้ำ โดยจุดเด่นของธาตุน้ำนั้นก็คือ ความพริ้วไหวประดุจดั่งสายน้ำที่ไหลริน และมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเจอกับสถานะการณ์แบบใดก็ตาม Starter Deck นี้จึงเหมาะกับผู้เน้นการเล่นที่ล้ำลึก และพลิกแพลงได้ตลอดในทุกสถานะการณ์เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ด้วยการเล่นแบบผสมผสานระหว่างการ์ดธาตุน้ำ การ์ดไร้ธาตุ (Artifact Card) หรือการ์ดไร้สี (Colorless Card) ทำให้การเล่นของตัว Deck เน้นไปในทางการเล่นเป็นคอมโบที่จำเป็นจะต้องมีอีกฝ่ายเพื่อเติมเต็มกันและกันเสมอ

จุดเด่นจริงๆ ของการ์ดธาตุน้ำก็ยังหนีไม่พ้นการเติมการ์ดในมือผู้เล่น หรือการเพิ่มการจั่วการ์ดที่จะทำให้คุณมีการ์ดในมือมากกว่าฝ่ายตรงข้ามเสมอ นั่นหมายความว่าคุณสามารถเลือกวิธีเล่นได้มากขึ้นด้วย โดยการ์ดที่เพิ่มการจั่วนั้นถือว่ามีบทบาทมากเลยทีเดียวสำหรับเกมการ์ด และสำหรับ Starter Deck นี้การ์ดเพิ่มการจั่วก็มีพอที่จะทำให้การ์ดในมือของคุณไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย นอกจากการ์ด Spell ทั้งสองแล้ว ยังมีการ์ด Creature ที่ช่วยในการเติมมือ, Spell ก่อกวน Creature ฝ่ายตรงข้ามก่อนทำประโยชน์ให้กับคุณด้วยเช่นกัน

โดยรวมแล้ว Arcane Inventions นั้น มีข้อดีที่ Starter Deck ธาตุอื่นไม่มีคือการจั่วการ์ดเพิ่มได้ ทำให้การ์ดไม่ขาดมือ สามารถเล่นได้เรื่อยๆ ตัวเอกใน Deck ก็จะผสมผสานกันระหว่างการ์ดธาตุน้ำ, การ์ดไร้ธาตุ (Artifact Card) หรือการ์ดไร้สี (Colorless Card) ทำให้ไม่ว่าจะรุกหรือรับก็สามารถทำได้ดีในทุกสถานะการณ์ พร้อมการ์ด Spell ที่ป่วน Board ฝ่ายตรงข้ามหรือ Creature ตัวแสบที่ไม่ว่าใครเจอก็ร้องกันเป็นแถบ

ในการผสมผสานกันนี้ก็เป็นดาบสองคมที่เชือดเฉือนตัวคุณเช่นกัน เนื่องจากความสัมพันธ์ของการ์ดแต่ละใบที่ต้องการลำดับการใช้แล้ว คุณยังต้องอ่านเกมเป็นในระดับหนึ่ง เพื่อตัดสินใจเล่นการ์ดให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดในแต่ละเทิร์น เพื่อการเอาชนะอีกฝ่ายหรือสร้างความได้เปรียบในเทิร์นต่อไปของตัวคุณเองเปลี่ยนจากรับไปเป็นรุกได้ ดังคำกล่าวว่า”รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” แต่หากคุณไม่รู้ฝ่ายตรงข้ามว่าเล่นอะไรอยู่หรืออ่านเกมไม่ขาดพอ ชัยชนะอาจจะไหลไปกับสายน้ำก็เป็นได้

3. Forest’s Might

Forest’s Might เป็น Starter Deck ธาตุไม้ โดยจุดเด่นของธาตุไม้นั้นก็คือ การเจริญเติบโตอย่างมั่นคงกลายเป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่ง จากคุณสมบัตินี้ทำให้การ์ดธาตุไม้จะเน้นไปทางการเพิ่มพูน Land เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้กับต้นกล้าที่อยู่ในมือคุณใช้ในการเจริญเติบโตกลายเป็นต้นไม้ต้นใหญ่ในต่อไป ซึ่ง Starter Deck นี้ก็ไม่ทิ้งจุดเด่นนี้ไป ด้วยการ์ด Creature ที่สามารถใช้แทน Land ได้บวกกับความสามารถของ Spell ที่ช่วยเสริมพลังให้กับ Creature ทำให้ Creature มีการเติบโตในด้านพลังโจมตีและพลังชีวิต Starter Deck นี้จึงเหมาะกับผู้เล่นที่ชื่นชอบการเล่นท้ายเกม แบบวัดกันเลยว่า Creature ใครจะใหญ่กว่ากัน

นอกจากการ์ดที่ช่วยในการสร้างข้อได้เปรียบในส่วนของ Land ที่เยอะกว่าชาวบ้านชาวเมืองเขาแล้ว Forest’s Might ยังมีตัวเอกประจำ Deck อีกหลายตัว พร้อมจุดเด่นของ Creature ธาตุไม้ที่ต้องมีคือ Trample นั่นเอง โดยความสามารถนี้คือการโจมตีทะลุ Creature ที่ทำการป้องกันเข้าสู่ตัวผู้เล่น โดยความเสียหายทั้งหมดจะถูกหักจากพลังชีวิตของ Creature ที่นำมาป้องกันก่อนจะเข้าสู้ตัวผู้เล่น

ซึ่ง Creature ที่มีความสามารถนี้จะได้เปรียบในช่วงท้ายเกมเป็นอย่างมาก ด้วยความที่สามารถโจมตีทะลุการป้องกันของอีกฝ่ายได้ หากว่าอีกฝ่ายนั้นมี Creature ที่รับความเสียหายได้ไม่พอต่อความเสียหายที่คุณทำได้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่างานนี้มีจุกแน่นอน นับว่าเป็นคุณสมบัติที่น่ากลัวมาก หากว่า Creature นั้นมีค่าพลังโจมตีที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหรือถูกเสริมพลังจาก Spell ประเภท Enchantment Aura และ Spell แบบร่ายฉับพลัน

ในส่วนของข้อเสียของ Starter Deck นี้นั้น น่าจะพอเดากันได้ใช่ไหมว่าคืออะไร ใช่แล้วครับด้วยการที่คุณจำเป็นต้องเพิ่ม Land ในช่วงต้นเกมให้ได้มากๆเพื่อไปใช้ในกลางเกมและท้ายเกม ทำให้ช่วงต้นเกมคุณจะกลายเป็นที่รองรับความเสียหายจำนวนไม่น้อยที่จะเข้าหาตัวคุณอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะจุดอ่อนของธาตุไม้ที่เด่นชัดคือการ Control Board นั้นทำได้แย่กว่าธาตุอื่น หากว่าคุณไม่ได้การ์ดที่ใช้ในการช่วยพยุงคุณให้รอดพ้นจากต้นเกมได้แล้วล่ะก็ คุณก็จะแพ้ก่อนที่จะได้เฉิดฉายแน่นอน

ถ้าคุณผ่านต้นเกมมาได้แบบไม่บอบช้ำมากแต่ว่า Land ที่คุณสั่งสมมาจากช่วงต้นเกมนั้นมีไม่พอที่จะ Summon Creature ตัวใหญ่ได้ คุณก็จะต้องทนโดนกระทืบต่อไปอีกอยู่ดี หรืออาจจะ Summon ได้จริง แต่ว่าใน Board ของคุณมีเพียง Creature ตัวนั้นเพียงตัวเดียว แน่นอนว่า Creature ตัวนั้นจะโดนเล็ง และไม่รอดแน่นอน ซึ่งนี่คือข้อเสียของการ์ดธาตุไม้ที่ว่า Creature เก่ง แต่มีค่าร่ายที่เยอะ ถ้าคุณรับข้อเสียในส่วนนี้ได้ และ Control Board ไปจนถึงกลางเกมได้แล้วล่ะก็ ชัยชนะจะเป็นของคุณแน่นอน

4. Graveyard Bash

Graveyard Bash เป็น Starter Deck ธาตุมืด โดยจุดเด่นของธาตุมืดนั้นก็คือ ชีวิตหลังความตาย ความอาฆาต และคำสาป ซึ่งจากจุดเด่นในส่วนนี้ได้ก่อเกิดเป็นการ์ดในรูปแบบต่างๆของการ์ดธาตุมืดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Debuff ให้กับฝ่ายตรงข้ามพร้อมกับ Buff ตัวคุณเอง การใช้มนตร์ดำเพื่อช่วงชิงชีวิตของ Creature อีกฝ่ายหรือแม้กระทั่งการเกิดใหม่ในร่างใหม่ของ Creature ของคุณ เมื่อตายไปแล้ว ซึ่งจุดเด่นต่างๆ ที่ดูจะมืดมนนี้เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบการเล่นแบบค่อยๆ ยื้อไปเรื่อยๆ แต่บั่นทอนพลังชีวิตของอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง (ว่าง่ายๆก็ซาดิสนั่นแหละครับ)

โดยใน Graveyard Bash นี้มีสิ่งที่คนที่ชอบความซาดิสมองหาอยู่อย่างครบถ้วนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการ์ด Spell ที่มีความสามารถในการลดพลังโจมตีและพลังชีวิตของ Creature อีกฝ่ายจนถึงแก่ชีวิตในเทิร์นเดียว หรือไม่ก็พิการกันไปข้างหนึ่งแล้วค่อยเพิ่มพลังโจมตีและพลังชีวิตให้กับ Creature ฝ่ายคุณ หรือถ้านั่นยังไม่สะใจคุณพอแล้วล่ะก็จะฆ่าทิ้งเสียดื้อๆ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยก็ยังได้ แบบว่า “ก็ไม่มีอะไรมากอะ แค่ความสะใจส่วนตัวโดยเฉพาะ”

นอกจากการ์ด Spell ที่น่ากลัวแล้ว Starter Deck นี้ยังมี Creature ที่สามารถโกงความตายได้ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องคิดหนักกันเลยทีเดียวว่าจะฆ่า Creature ตัวนี้ทิ้งดีหรือไม่ ถ้าฆ่าแล้วจะเอาอย่างไรต่อกับซากศพของมันที่ยังหลงเหลืออยู่ และเก่งกว่าตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่เสียอีก หรือถึงแม้จะไม่เก่งกว่าตอนยังมีชีวิตอยู่แต่ก็น่ารำคาญใช้ได้เลยทีเดียว

ตัว Starter Deck นี้ยังเปิดตัว Creature ใหม่ที่มีความสามารถพิเศษใหม่ประจำธาตุนี้ด้วย นั่นคือ Flash ความสามารถที่ทำให้คุณสามารถลง Creature ที่มีความสามารถนี้เมื่อไหร่ก็ได้เหมือนการ์ด Instant ด้วยความพิเศษนี้เอง ทำให้คุณสามารถพลิกสถานะการณ์จากเสียเปรียบมาเป็นเสมอตัวหรือได้เปรียบเลยก็ได้

Creature ธาตุมืดบางตัวก็จะมีความสามารถในการลดค่าพลังชีวิตของผู้เล่นได้โดยที่ไม่ต้องแตะตัว ซึ่งเป็นตัวเด่นใน Starter Deck นี้ และ Creature ที่สามารถชุบชีวิต Creature ตัวอื่นที่ตายแล้วให้กลับมาสู้ใหม่ได้ ทำให้ Deck นี้มีความน่ารำคาญมากถึงมากที่สุด หากว่าคุณมีความสามารถในการรีดพลังของ Deck นี้ออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้วล่ะก็ คุณอาจทำให้อีกฝ่ายหัวร้อนจนทำลายข้าวของในห้องพักเลยก็ได้

แต่ก็ใช่ว่า Graveyard Bash จะมีแต่ข้อดีไปเสียหมด โดยข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ การ์ดบางใบใน Starter Deck นี้ต้องการเงื่อนไขในการใช้งาน หากคุณต้องการที่จะเล่น Deck นี้ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วล่ะก็ คุณอาจจะต้องคิด และวางแผนการเล่นกันหน่อย ซึ่งการ์ด Creature ของธาตุมืดมักจะมาพร้อมค่าร่ายที่เยอะ แต่พลังโจมตีกับพลังชีวิตที่ต่ำ หรือหากมาพร้อมค่าพลังที่สูงก็มักจะมีเงื่อนไขที่เสียไปเพื่อให้ได้มาเช่นกัน ทำให้การ Control Board ในสถานะการณ์ที่ไม่มี Creature ให้ใช้ในตอนนั้น คุณต้องตัดสินใจให้ดี เพราะการจ่าย Spell ที่ดีไปให้กับ Creature ฝ่ายตรงข้ามแบบไม่คิด อาจจะทำให้คุณแพ้ได้เลยทีเดียว

5. Tactical Assault

Tactical Assault เป็น Starter Deck ธาตุแสง โดยจุดเด่นของธาตุแสงนั้นก็คือ การให้ชีวิต การประทานพรจากสรวงสวรรค์ และการลงทัณฑ์ ในจุดเด่นนี้ทำให้การ์ดธาตุแสงจะเน้นไปที่ Spell ประเภท Enchantment Aura เป็นส่วนใหญ่เปรียบเหมือนพรที่ถูกประทานมาให้ โดยรูปแบบการเล่นจะคล้ายกับ Starter Deck ธาตุไฟ แต่เน้นการ Trade Creature เป็นส่วนใหญ่ เหมาะกับผู้เล่นที่ชื่นชอบการเสริมพลังให้กับ Creature ที่ Summon มาตั้งแต่เริ่มเกมให้มีความสามารถสูงขึ้นทั้งด้านพลังโจมตีและด้านพลังชีวิต ให้สามารถต่อกรกับ Creature ที่มีค่าร่ายที่สูงกว่าได้ โดยการ์ด Enchantment Aura ที่สำคัญของ Starter Deck นี้ บอกได้เลยว่าเป็น Enchantment Aura ที่ดีมากเลยทีเดียว

นอกจาก Enchantment Aura ที่ช่วยในการเสริมพลังแล้ว การ์ด Spell ฉับพลันของ Deck นี้ยังมีความสามารถในการเสริมพลัง เพื่อช่วยให้การ Trade Creature ในแต่ละครั้งที่เกิดขึ้น Creature ที่คุณใช้ในการ Trade สามารถรอดตายจากการ Trade ในแต่ละครั้งได้ และยังช่วยในการสร้างความเสียหายอย่างฉับพลันแก่ฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณว่าคุณต้องการให้รูปเกมในแต่ละเทิร์นของคุณออกมาในรูปแบบไหน

นอกจากการ์ดเสริมพลังแล้ว ใน Tactical Assault ยังมีการเสริมพลังและการ์ด Spell แบบฉับพลันที่สามารถลงทัณฑ์ Creature อีกฝ่ายหากเป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้ระบุไว้ ทำให้การ Control Board ของคุณง่ายขึ้นและเป็นไปดั่งกลอุบายที่คุณได้วางไว้อีกด้วย

ในส่วนของ Creature ที่มีใน Deck นั้น ต้องบอกเลยว่าใส่ความเป็นธาตุแสงมาได้อย่างครบถ้วนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถ Lifelink, Vigilance และ Double Strike

• Lifelink คือการเพิ่มพลังชีวิตของผู้เล่นจากความเสียหายของ Creature ที่มี Lifelink ทำได้ ซึ่งถือว่าเป็นความสามารถที่ดีมาก หาก Creature นี้มีพลังโจมตีที่สูง
• Vigilance เป็นความสามารถที่ทำให้ Creature นั้นทำการโจมตีไปแล้วในเทิร์นของคุณ ยังสามารถป้องกันได้ในเทิร์นต่อไปของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งนั่นหมายความว่า Creature ของคุณจะไม่ถูก Tap เมื่อทำการโจมตีเสร็จแล้วนั่นเอง
• Double Strike ถ้าแปลตามชื่อก็ค่อนข้างตรงตัว แต่ความสามารถที่ถูกซ่อนอยู่ในความสามารถนี้ยังมีอีกอย่างหนึ่งนอกจากการโจมตีได้สองครั้ง นั่นคือการออก Action โดยปกติแล้วเมื่อเกิดการ Trade Creature ขึ้น Creature จะทำการตีพร้อมกัน ทำให้เกิดความเสียหายพร้อมกัน แต่หากคุณมีความสามารถที่เรียกว่า First Strike อยู่ Creature ของคุณแล้วล่ะก็ การออก Action จะไม่พร้อมกันอีกต่อไป โดย Creature ที่มีความสามารถ First Strike จะเริ่มตีก่อน และหากในการโจมตีนั้นสามารถทำให้ Creature ของอีกฝ่ายมีพลังชีวิตเหลือ 0 ได้ จะถือว่า Creature อีกฝ่ายตายทันที และ Creature ของอีกฝ่ายจะไม่สามารถทำ Action ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่ง Double Strike คืออีกขั้นของ First Strike ก็ว่าได้ โดยไม่เพียงแค่ Creature ของคุณจะได้โจมตีสองครั้งเท่านั้น Creature ของคุณยังจะได้ออก Action ก่อน Creature อีกฝ่ายที่ไม่มี First Strike หรือ Double Strike ก่อนหนึ่งครั้งอีกด้วย หลังจากนั้นจึงจะออก Action พร้อมกันเป็นอันจบครบ Action ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณสามารถสร้างความเสียหายให้อีกฝ่ายได้สองครั้ง และความเสียหายที่สร้างในครั้งแรก อีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์ในการตอบโต้เลยนั่นเอง

ซึ่ง Creature ตัวอื่นๆ ที่มีความสามารถนอกเหนือจากนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ดีหรือจืดไปเสียหมด โดย Creature เหล่านั้นจะมาพร้อมกับความสามารถเพิ่มพลังชีวิตให้กับคุณเมื่อถูก Summon หรือเพิ่มพลังโจมตีและพลังชีวิต หากมีการเพิ่มพลังชีวิตให้กับผู้เล่น ทำให้การเล่นในช่วงต้นเกมไปจนถึงท้ายเกม สามารถเล่นได้อย่างไม่ต้องกังวลมากนัก

และแล้วก็มาถึงข้อเสียของ Tactical Assault กันบ้าง โดยข้อเสียหลักๆ ก็มาจากการ์ด Spell ที่มีน้อย และเน้นไปในทางการเสริมพลังให้กับ Creature ของคุณ นั่นหมายความว่าหากคุณไม่มี Creature อยู่บน Board คุณก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากจั่วการ์ดแล้วรอลุ้นว่านั่นคือ Creature ที่สามารถ Summon ได้ นอกจากนี้แล้วการ Trade Creature หรือการ Enchantment Aura ให้กับ Creature คุณจำเป็นที่จะต้องคิดให้รอบคอบก่อน เพราะหากคุณ Trade พลาดหรือ Creature ที่ถูก Enchant ตายไป แทนที่คุณจะได้เปรียบจากการ Trade และการ Enchant จะกลายเป็นว่าคุณเสียเปรียบเสียเอง

โดยทั่วไปแล้ว Starter Deck ทุก Deck นั้นถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นที่สามารถเล่นได้ตั้งแต่ต้นเกมไปจนถึงท้ายเกม โดยแต่ละ Deck จะมีจุดเด่นเฉพาะเพื่อรองรับการเล่นของผู้เล่นแต่ละคน และมีจุดเด่นในช่วงเกมที่แตกต่างกันไปตามแต่ละ Deck ซึ่งการจะนำ Deck เหล่านี้ไปใช้ได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่นั้น ตัวคุณเองเท่านั้นที่รู้ดี ว่าคุณเหมาะกับการเล่นแบบไหน