วันเสาร์, เมษายน 19, 2025
หน้าแรกMobile Guide โหมดตะลุยเมทริกซ์

[ Honkai Impact 3 ] โหมดตะลุยเมทริกซ์

ในวันที่ 18 / 5 / 2561 ที่ผ่านมาได้มีการอัพเดทนำ Raid – 003 โฮมุแฟนตาซีออกและเพิ่เรทใหม่เข้ามาแทนนั้นก็คือ Raid – 001 ตะลุยเมทริกซ์ นั้นเอง แต่ละด่านมีเอนไขอย่างไรวิธีไหนถึงจะผ่านไปได้และมีอะไรบ้างมาดูกัน

Raid – 001 ตะลุยเมทริกซ์ ในรอบนี้จะเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเจ้าหุ่นทรงกลมสีฟ้าที่จะพาเราผ่านในด่านต่างๆ เป็นโหมดที่ต้องเล่นแบบ Co-op เท่านั้นและจะเล่นได้จะต้องรวมทีมให้ครบ 3 คน แนะนำให้หาเพื่อนมาร่วมทีมจะดีที่สุดเพราะสามารถคุยกันได้ดีกว่าคนนอกเพราะบางครั้งเราก็ไม่อาจสื่อสารกันได้เข้าใจ

ในระดับปกติทั้งหมดมี 6 ด่านด้วยกัน ( อีกสองระดับต้องรอเวลาจึงจะเปิดให้เล่นได้จะนำมาอัพเดทเพิ่มอีกครั้ง )

ด่านที่ 1 พื้นที่ฮงไก

ด่านแรกนี้ไม่มีอะไรมากศัตรูส่วนใหญ่ในด่านมักจะเป็นมอนสเตอร์ประเภทฮงไก ไม่ยากมากหยิบวาลคิเรียคนใดไปก็ได้

เพียงแค่จะต้องคอยช่วยเหลือเจ้าหุ่นทรงกลมตัวจิ๋ว Eins ให้ไปยังสุดทางแต่ในระหว่างทางจะมีศัตรูโผล่มาโจมตีเรื่อยๆ ( น้องเคลื่อนไหวค่อนข้างช้าต้องค่อยๆเดินตามและฟังที่น้องพูดอย่างใจเย็น ) เพื่อเปิดทางกั้นเพื่อไปฉากต่อไป

ในฉากที่สองการมองจะล็อคเป็นทิศทางแนวด้านข้างทางเดียวเท่านั้นจะพบกับบอสปีศาจฮงไกสีขาวเมื่อกำจัดได้ด่านก็จะจบลงทันที

ด่านที่ 2 อีเล็คตรอนคลาวด์

ด่านนี้ศัตรูส่วนใหญ่จะเป็นประเภทหุ่นยนต์และมีการจำกัดเวลาที่จำกัดแนะนำให้ 1 คนในทีมเลือก Bronya Zaychik : Yamabuki Armor ไปเพื่อกันดาเมจและการถูกพวกหุ่นโจมตีให้ล้ม

มุมมองจะถูกปรับเป็นทางยาวด่านข้างไม่สามารถปรับได้เมื่อมาถึงจุดเขตกั้นจะเจอหุ่น 3 ตัวลงมาต้อนรับและหุ่นยนสีทองอีก 1 ตัว จะมีช่องให้ยืนทั้งหมด 3 ช่องเพื่อไปยังพื้นที่ต่อไป

ในฉากที่ 2 มุมกล้องจะถูกปรับให้กลายเป็นการมองจากมุมสูงแทน

ศัตรูทั้งหมดภายในฉากจะมีเกราะป้องกันอยู่ทั้งหมดจะต้องเหยียบวงพื้นแสง ( ตามในกรอบสีแดง ) ครบตามจำนวนเกราะของศัตรูจะหายไปสามารถเข้าไปโจมตีได้ เมื่อเกราะป้องกันของศัตรูกลับมาจะต้องคอยมาเหยียบวงเพื่อปิดเกราะของศัตรูอีกครั้งจึงจะตีได้จากนั้นทางจึงจะเปิดต่อให้ไปสู่ฉากต่อไป

ฉากที่ 3 จะกลับสู่มุมมองด่านข้างดังเดิมอีกครั้งและมีเวลาเพียงนาทีกว่าเท่านั้นในการเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดและต้องรีบไปให้สุดทางเร็วที่สุด จะมีศัตรูระหว่างทาง และวงแสงที่จะต้องเหยียบให้ครบจึงจะเปิดทางต่อไปทั้งหมด 2 จุด และจุดสุดท้ายจะเจอกับหุ่นยนต์ 3 ตัวด้วยกัน ( แนะนำให้เก็บอันติไว้ใช้เพื่อความรวดเร็ว ) เมื่อกำจัดครบจะต้องวิ่งแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่เพื่อเข้าไปยังวงแสงจุดสุดท้ายเพื่อจบด่านลง ในจุดนี้หากไม่สามารถร่วมมือกันดีๆ หากหมดเวลาจะตายทันที ( สามารถกดชุบได้ )

ด่านที่ 3 กระสวยอวกาศ

ด่านนี้เราจะอยู่กับเจ้าหุ่นจิ๋ว Eins เป็นด่านที่จะมีศัตรูประเภทฮงไกที่เป็นพลังจิตทั้งหมดแนะนำวาลคิเรียที่สามารถชง QTE รัวๆได้ศัตรูจะตายอย่างรวดเร็ว

เริ่มมาจะอยู่บนลิฟท์กับ Eins ที่มีเวลาจำกัดที่ค่อนข้างนาง ศัตรูจะโผล่มาเป็นเวฟๆ ทีละ 3 ตัวไม่มีอะไรมากสามารถกำจัดได้สบายๆ

เมื่อผ่านมาระยะหนึ่งศัตรูที่โผล่มาจะมีเกราะป้องกันตัวจะต้องรอให้ Eins ชาร์ตพลังเพื่อปล่อยคลื่นทำลายเกราะของศัตรูในบริเวณจึงจะสามารถตีได้

หลังจากกำจัดครบลิฟท์ก็จะขึ้นไปถึงชั้นสูงสุดเพื่อไปยังฉากต่อไป

บอสจะมาทั้งหมดสองตัวเป็นบอสช้าง Ganesha ทั้งแบบธรรมดาและแบบน้ำแข็งกำจัดได้ก็จบด่านทันที

ด่านที่ 4 ควอนตัมเรโซแนนซ์

ภายในด่านนี้จะแบ่งเส้นทางเป็น 3 สายแต่ละสายจะเป็นศัตรูทีต้องเจอคนละประเภทกันแนะนำให้หยิบวาลคิเรียให้คละแบบกันไปจะดีที่สุดเพราะเราจะต้องอยู่ในเส้นทางนั้นตลอดไม่สามารถเปลี่ยนได้และควรมีวาลคิเรียที่สามารถฟันได้กว้างและระยะไกลไว้ช่วยเพื่อนฝั่งข้างๆ ในขณะที่เราตีศัตรูตายแล้ว

ทางทั้งหมดจะแยกเป็น 3 ทาง ซ้าย พลังจิต กลาง จักรกล และ ขวา ชีวภาพ จะเป็นแบ่งทางแบบนี้เหมือนเดิมตลอดไม่มีเปลี่ยนฝั่งใดๆ

ฉากการต่อสู้จะเป็นแบบหันด่านข้างและไม่สามารถไปยังพื้นที่ฝั่งอื่นได้นอกจากของตนเองศัตรูที่โผล่มา 3 ตัวในแต่ละช่องจะมีเส้นสีแดงเชื่อมถึงกันจะต้องฆ่าให้ตายในเวลาที่ใกล้ๆ กันหากไม่ทันศัตรูที่ตายแล้วจะฟื้นขึ้นมาใหม่ ( แต่เลือดไม่เต็มหลอด ) แบบนี้ตลอดทางเพื่อไปยังพื้นที่ฉากต่อไป

ในฉากที่สองจะเจอบอสสองตัวเป็นจิ้งจอกและยาเอะมิโกะทีมีเส้นสีแดงเชื่อมหากันให้ตีให้ตายพร้อมๆกันจะดีที่สุดเพราะไม่งั้นก็จะฟื้นขึ้นมาโจมตีใส่เราอีกแถมบอสเป็นประเภทชีวภาพอีกตังหากให้เพื่อนในทีมเลือกวาลคิเรียที่เป็นชีวภาพตีหนักๆ หน่อยก็ผ่านได้สบาย

ด่านที่ 5 สมการดิแรก

ด่านนี้ศัตรูจะเป็นประเภทชีวภาพทั้งหมดให้หยิบวาลคิเรียประเภทจักรกลดาเมจหนักๆ มาตีหัวเรียงตัวได้เลย

มีการแบ่งโซนให้ป้องกันทั้งหมด 2 จุดด้วยกันคือ  A และ B เพื่อไม่ให้หุ่นจิ่วถูกโจมตีสามารถวาร์ปข้ามไปมาได้อย่างอิสระหากเห็นว่าอีกฝั่งจัดการเรียบร้อยแล้ว และมีเวลาจำกัด หากเวลาหรือเลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่งหมดลงจะแพ้ทันที

ศัตรูจะคอยโผล่มาเป็นเวฟแถมมีตัวล่องหนด้วยเมื่อจัดการจนหมดจะเปิดทางให้ไปยังพื้นที่ต่อไป

บอสของด่านนี้คือ ดาร์คซวยหยวน สุดปวดหัวนั้นเองรอบนี้ไม่ได้มาแค่ขี่ม้าวิ่งไปวิ่งมาฟาดดาบสวยๆ ธรรมดายังมีการแยกร่างทั้งคนทั้งดาบแถมวาร์ปพุ่งไปพุ่งมาได้อีก! ต้องคอยกำจัดพวกดาบที่แจกออกมาให้หมดเพื่อจะได้โจมตีใส่ดาร์คซวยหยวนโดยที่จะไม่วิ่งไปวิ่งมาอีก ( แค่ระดับปกติยังปวดหัวขนาดนี้แล้วระดับอื่นจะปวดหัวขนาดไหน!!! )

ด่านที่ 6 RPC – 6626

เป็นด่านบอสไฟท์สุดท้ายที่จะต้องเจอกับเจ้าเครื่องบินรบที่อาวุธครบเครื่องสุดๆ แนะนำให้หยิบวาลคิเรียประเภทพลังจิตไปจะดีที่สุดเพราะชนะทางเจ้าเครื่องบินลำนี้หรือวาลคิเรียที่ดาเมจหนักๆ ไปโจมตีใส่ก็เป็นความคิดที่ดีและควรหา Kiana Kaslana : Divine Prayer ติดทีมไปด้วยใช้หยุดเวลาได้ถูกจังหวะจะทำให้เรามีเวลาโจมตีได้นานขึ้น

เมื่อเริ่มเหยียบลงบนวงแสงครบ 3 คน บอส RPC – 6626 จะปรากฏตัวออกมาทันทีมีทั้งระเบิดคลื่นพลังรอบตัวทำให้กระเด็น จรวดนำวิถีเมื่อลงสู่พื้นจะกลายเป็นวงไฟฟ้าทำให้ติดช็อตอยู่ระยะหนึ่ง ยิงบีมก็ได้ ปล่อยปืนกลก็มีครบเครื่องสุดๆ ที่จะกระหน่ำทุกอย่างมาหาเรา

เมื่อเลือดบอสหายไปประมาณหลอดครึ่งจะสร้างบาเรียกันตัวเองแล้วปรับมุมกล้องให้กลายเป็นมุมสูงและเข้าสู่ความเป็นนิวไทป์ในตัวคุณ!! เราจะต้องคอยหลบกระสุดที่พุ่งมาไม่หยุดแถมยังมีท่าอื่นๆแทรกมาเป็นระยะให้เราปวดหัวเล่น หลังจากนั้นบอสจะทำการโจมตีใส่เราทั้งทีมให้เลือดเหลือ 1 และถูกหยุดอยู่กับที่ไม่ต้องตกใจ เพียงรอเวลาและบทสนทนาจบลงเลือดก็จะกลับมาเต็มหลอดอีกครั้งให้สามารถต่อสู้ได้

บอสจะสร้างเกราะป้องกันตัวเองเอาไว้ทำให้ไม่สามารถโจมตีเข้าได้

มองหาเส้นสีแดงที่เชื่อมต่อกับบอสให้เจอแล้วจะพบแท่นตราสีแดงที่เป็นจุดกำเนิดเกราะให้ทำลายมันแล้วเกราะของบอสจะหายไปสามารถโจมตีต่อได้อีกครั้งและทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ

เมื่อเลือดเหลือหลอดกว่าๆ หุ่นจิ๋ว Eins จะโผล่มาช่วยเราโจมตีในระยะสุดท้ายเมื่อกำจัดบอสสำเร็จก็เป็นอันจบเกม


จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH [-กลุ่มคนไทย-]

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments