สารบัญ
- เป้าหมายของเกม
- การหาเงินเลือกแบบไหนดี?
- วิธีการคราฟไอเทม
- เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเล่น
- การเล่นปีแรกในแต่ละฤดู
- การปลูกผักและผลผลิต
- บริจาคของให้เทพธิดา
- การดำน้ำวิธีการฟื้นฟูทะเล
- ดันเจี้ยนใต้ทะเล
- การจับแมลงและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
- ไอเทมที่มักจะหาไม่เจอช่วงแรก
- อธิบายเรื่องความสัมพันธ์กับ NPC และเทคนิคการเพิ่มความสัมพันธ์
- วิธีการหา NPC
- การแต่งงาน
- การลงเหมือง
- การเลี้ยงสัตว์แบบสรุป
- วิธีการทำอาหาร
- การตกปลาฉบับสรุป
- วิธีอัปเกรดอุปกรณ์
- การเปิดหีบสมบัติและขุดฟอสซิสรวมถึง Geode
- การอัปเกรดบ้าน
- การอัปเกรดผลผลิตและวิจัยอุปกรณ์ใหม่ ๆ
- การตกแต่งบ้าน
- ร้านค้าลับ
- การย้ายตำแหน่งสิ่งก่อสร้าง
- วิธี Enchanting อุปกรณ์
- อธิบายระบบเควส
- วิธีการเล่นกับเพื่อน
- วิธีการแต่งงานกับนาง/นาย เงือก
- บั๊คเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเจอในการเล่นและการแก้ปัญหา
เป้าหมายของเกม
ใน Coral Island เราจะเล่นแบบชิล ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็ได้ครับ แต่ตัวเกมก็ได้มีการแทรกเควสหลัก และภารกิจเอาไว้ให้เราทำซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายในการเล่นเกมนี้และทำให้ตัวเกมเล่นแล้วสนุกขึ้น โดยภารกิจใหญ่ที่ผู้เล่นจะได้รับเลยคือ การฟื้นฟูเมืองเพราะด้วยเหตุผลบางประการทำให้เมืองอันแสนสวยงามร้างและไม่มีนักท่องเที่ยว ซึ่งแต่เดิมแล้วเมืองอยู่ในแรงค์ที่ค่อนข้างสูง แต่ ณ วันที่เราย้ายเข้ามาเมืองของเราก็อยู่ในแรงค์ต่ำสุดหรือแรงค์ F ไปเรียบร้อยแล้ว เราสามารถที่จะทำการพัฒนาและฟื้นฟูเมืองให้กลับไปอยู่ในแรงค์ที่สูงขึ้นได้ โดยการทำภารกิจย่อยต่าง ๆ 3 หมวดดังนี้ครับ
1.บริจาคของให้พิพิธภัณฑ์: หลังจากที่เราเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์ครั้งแรก จะปลด Event และหลังจากนั้นเราจะสามารถนำของมาบริจาคได้ โดยของที่สามารถบริจาคได้จะเป็นพวก ปลา / แมลง / ของโบราณ / อัญมณี / ฟอสซิล ซึ่งจะบริจาคได้ชนิดละครั้ง ซึ่งเราจะได้ของรางวัลเป็นการตอบแทนด้วย โดยการบริจาคของ 1 ชิ้นจะได้แต้มฟื้นฟูเมือง 3 แต้ม
2.ฟื้นฟูทะเล: หลังจากที่เราปลด Event ลงไปใต้ทะเลได้แล้วจะช่วยฟื้นฟูทะเลได้โดยการใช้แท่นพลังงาน โดยการฟื้นฟูแต่ละจุดจะได้แต้มฟื้นฟูเมือง 10 แต้ม และจะปลดล็อกโซนใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยยิ่งลึกจะยิ่งมีสิ่งมีชีวิตหายากและ สาหร่ายที่ใช้ในการอัปเกรดการวิจัย
3.ส่งของให้เทพธิดา: อันนี้จะคล้าย ๆ กับบริจาค แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยตรงเราจะต้องส่งของที่เทพธิดาระบุเท่านั้น ซึ่งก็จะมีไล่ตั้งแต่ของที่หาได้ง่ายและของที่หาได้ยากมาก ๆ ซึ่งการจะได้คะแนนจากหมวดนี้เราจะต้องส่งให้ครบประเภทในหมวดนั้น ๆ จึงจะได้ ซึ่งแต้มที่ได้จะค่อนข้างเยอะเลยครับ
โดยส่วนของ Town Rank จะขึ้นเมื่อเราทำคะแนนในหมวดอื่น ๆ ทุกหมวด
การหาเงินเลือกแบบไหนดี?
ในช่วงปีแรกเงินจะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ ในการเล่นเพราะการอัปเกรดสิ่งต่าง ๆ การซื้อของมาใช้งาน การวิจัยสิ่งต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ใช้เงินทั้งสิ้น ซึ่งในช่วงเดือนแรกตัวเลือกเราอาจจะไม่เยอะมาก แต่พอเข้าสู่ช่วงเดือนที่ 2 ไปเราจะพอมีเงินไปทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ค่อยพออยู่ดี โดยผมจะอธิบายถึงข้อดี / ข้อเสีย ของสายต่าง ๆ ในช่วงปีแรกให้ฟังให้ ตัดสินใจในเบื้องต้นครับ
การปลูกผัก / พืชผล
ขอเรียกรวม ๆ ว่าปลูกผักนะครับ สายนี้เป็นสายที่หาเงินก้อนได้ง่ายที่สุด แต่ทั้งนี้การปลูกผักจำนวนมากในช่วงแรกจะใช้เวลาเยอะมากกกกกกก และต้องใช้พลังงานในการรดน้ำต้นไม้เยอะเช่นกัน ซึ่งการจะเล่นสายปลูกผักแนะนำว่าควรจะทำคู่ไปกับการดำน้ำ เพื่อเร่งหาวัตถุดิบในการสร้างสปริงเกอร์หรือเครื่องรดน้ำอัตโนมัติเพื่อลดเวลาในการปลูกผักให้มากที่สุด เพื่อจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ โดยหากอยากจะเน้นปลูกผักอย่างเดียวก็ปลูกที่โตแล้วเก็บขายเลยจะได้กำไรเยอะกว่า แต่ถ้าอยากได้เวลาไปทำอย่างอื่นไม่ต้องมานั่ง หว่านเมล็ดใหม่บ่อย ๆ ก็ปลูกพืชที่เก็บซ้ำได้หลาย ๆ ครั้ง ซึ่งพืชในกลุ่มที่เก็บซ้ำได้ ซึ่งในเดือนแรกเลยจะปลูกไม่ค่อยทัน อาจต้องปลูกที่โตแล้วเก็บขายไปก่อน
สายนี้จะหาเงินได้เร็วมากช่วงเดือนที่ 2 – 3 เป็นต้นไป ในช่วงเดือนแรก ให้เน้นไปที่การหาเงินมาซื้อเมล็ดพืชในเดือนที่ 2 จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นครับ และพอเดือนที่ 3 หากว่าเราเริ่มมีสปริงเกอร์หรือเครื่องรดน้ำอัตโนมัติแล้ว ก็เหลือแค่รอเก็บผลผลิตแล้วล่ะ ซึ่งพอเริ่มมีทรัพยากรเยอะ ๆ ให้เราทำการสร้างพวกถังเพื่อเอาไว้แปรรูป ผลผลิตจะทำให้ได้เงินเยอะขึ้นกว่าขายตรง ๆ
ในส่วนของราคาผลผลิตต่าง ๆ ทางผมเคยรวมไว้ให้แล้วโดยสามารถดูราคาของผลผลิตได้ที่บทความนี้ครับ Coral Island ราคาผลผลิต และการปลดล็อก (Spring / Summer / Fall / Winter ) ส่วนสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมแนวนี้การปลูกผัก เราจะต้องทำการพรวนดินโดยใช้ Hoe ก่อน จากนั้นจึงจะหว่านเมล็ดลงไปได้โดยให้ถือเมล็ดไว้แล้วกดคลิกที่ช่องที่ต้องการ หลังจากนั้น ก็รดน้ำ โดยจะต้องรดทุกวันจนกว่าจะโตเต็มที่แล้วจะเก็บเกี่ยวได้ จากนั้นสามารถเอาไปขายโดยการใส่ไว้ในกล่อง ข้าง ๆ บ้าน หรือเอาไปขายที่ร้านค้าตรง ๆ
ตกปลา
สายนี้เป็นสายที่ปั๊มตังได้ไวที่สุดในช่วงแรก (ย้ำว่าช่วงแรกนะ) เพราะตอนตกปลาในเกมนี้เวลาจะหยุด หมายความว่าเราสามารถปั๊มปลาได้แทบจะเรื่อย ๆ เลย โดยเวลาจะเดินแค่ตอนชาร์จกับเหวี่ยงเบ็ด ซึ่งสายนี้จะเหมาะมากในการปั๊มเงินช่วงเดือนแรก – เดือนที่สอง หรืออาจจะมาตกปลาฆ่าเวลาหลังจากทำกิจกรรมอื่น ๆ ในเกมเรียบร้อยแล้วเสริมรายได้อีกทีก็ได้ ข้อเสียอย่างเดียวของสายนี้คือมันกินเวลาเยอะมาก หากใครขยันก็จัดไปครับ ซึ่งสายปลูกผักจะเริ่มหาเงินได้มากกว่าหลังจากที่เราเริ่มมีแปลงผักเยอะ ๆ แล้ว แต่ในช่วงต้น มั่นใจได้เลยว่าการตกปลาหาเงินได้เยอะกว่า แต่หากอยากโฟกัสที่หาเงินจริง ๆ จัง ๆ ช่วงเดือนที่ 2 ไปเน้นไปที่ปลูกผัก / เลี้ยงสัตว์จะหาได้ไวกว่า
*Tip: คุณภาพของปลาจะสูงขึ้นตามระดับการฟื้นฟูทะเล หมายความว่าเรามีโอกาสได้ปลาในระดับดาวที่สูงกว่าปกติ หากว่าระดับของ Ocean เราสูงขึ้น
เก็บของป่าขาย
วิธีที่ดีมากในการปั๊มเงินช่วงต้นเกมแบบ Easy Money หากเราสามารถที่จะจำจุดของป่าเกิดบ่อย ๆ ได้เราสามารถวนไปเก็บได้เรื่อย ๆ ทั้งนี้ต้องแจ้งไว้ก่อนว่า แต่ละวันมันอาจจะสุ่มเกิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นอาจจะต้องคอยเช็คดูดี ๆ และจำจุดที่ของป่าเกิดบ่อย ๆ เอาไว้ครับ โดยในช่วงเดือนแรก หากวันไหนโชคดีเก็บของป่าได้เยอะสามารถหาเงินได้เกิน 1000 Coin เลยทีเดียว
จับแมลง + จับสัตว์ทะเล:
สายนี้ช่วงแรกหาเงินค่อนข้างยากครับ แต่ในทะเลดันมีของจำเป็นในการอัปเกรดวิจัย กับทำสปริงเกอร์ ซึ่งการจับสัตว์ทะเล กับการจับแมลงจะคล้ายกันคือต้องใช้สวิงจับ และเราจะเริ่มดำน้ำได้หลังจากเล่นไปสักพักนึง ให้ผ่านช่วงวันแรก ๆ ของเกม ซึ่งที่ผมบอกว่ามันหาเงินได้ยากเป็นเพราะว่า การจับแมลง + จับสัตว์ทะเล เวลาของเกมจะเดินตามปกติ ทำให้หากเราไม่โชคดีจริง ๆ การจะปั๊มเงินจากสายนี้เป็นอะไรที่ยากมาก แต่หลังจากที่เลเวลอัปไปเยอะระดับนึงแล้วเราจะหาเงินได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถเอาสัตว์ทะเลไปแปรรูปได้ ส่วนแมลงไม่ค่อยมีอะไรเพิ่มมูลค่าเท่าไหร่
หลังจากที่เราเล่นไปสักระยะแล้วและฟื้นฟูปะการังทั้งหมดได้แล้ว จะมีเควสให้เราสามารถกลายเป็นนาง/นายเงือกได้ สามารถอ่านรายละเอียดเต็ม ๆ ได้ที่ Coral Island วิธีการแปลงร่างเป็นเงือก
เลี้ยงสัตว์
สายนี้เนื่องจากในช่วงแรกการซื้อสัตว์มาเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก และต้องเลี้ยงให้มีค่าความรักระดับนึงถึงจะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง เลยต้องใช้เวลาสักระยะ แต่หากว่าเล่นไปสักระยะนึงแล้ว สายนี้หาเงินได้เป็นรองแค่ปลูกผักเท่านั้นครับ โดยการขายวัตถุดิบตรง ๆ อาจได้ราคาไม่สูงมาก แต่ผลผลิตจากสัตว์ทุกอย่างเราสามารถแปรรูปก่อนเอาไปขายได้ ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างคุ้ม
ขุดเหมือง
สายนี้เป็นอีกสายนึงที่หาเงินได้ค่อนข้างลำบาก แต่ข้อดีคือเราจะมีโอกาสเจอไอเทมเอาไปบริจาคให้ Museum ได้บ่อย และมีของจำเป็นในการเอาไปอัปเกรดอุปกรณ์ ซึ่งแนะนำว่าควรหาเวลามาขุดเหมืองบ้าง เพื่ออัปเกรดของ แต่ถ้าจะหาเงินจริงจังไปโฟกัสทำอย่างอื่นดีกว่าครับ เพราะของที่ได้จากเหมืองโดยรวมแล้วช่วงต้นเกมขายไม่ได้ราคาเท่าไหร่ และเรายังต้องเจอกับมอนสเตอร์มากวนใจด้วย
วิธีการคราฟไอเทม
ขอเขียนอธิบายหัวข้อนี้นิดนึงเผื่อเพื่อน ๆ บางคนที่พึ่งเล่น เราสามารถทำการสร้างไอเทมบางชนิดได้ โดยในช่วงแรกจะยังมีไม่เยอะ แต่หลังจากที่เลเวลของสกิลสายต่าง ๆ เพิ่มเราจะได้รับสูตรการสร้างเพิ่มมากขึ้น โดยวิธีการคราฟของทำได้ดังนี้ครับ โดยกดกดไปที่ตัว T เพื่อเรียกเมนูขึ้นมา จากนั้นกดเลือกไปที่แถบ Craft หมวดที่เราต้องการ ตัวเกมจะโชว์รายการของขึ้นมา และวัตถุดิบที่ต้องใช้ ซึ่งหากเรามีวัตถุดิบอยู่ในตัวหรือในกล่องไอเทมใด ๆ ก็ตามเพียงพอจะสามารถทำการสร้างได้เลย
เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเล่น
- เราสามารถขายของป่าได้ที่ร้านค้าของ Sam ทำให้ไม่ต้องเดินกลับไปที่บ้านในตอนแรกซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในช่วงต้นเกมได้เยอะมาก เพราะช่องเก็บของเราน้อย โดยข้อดีของการขายกับ Sam คือเราจะได้เงินทันทีไม่ต้องรอจบวันแบบเอาไปขายลงในกล่อง
- ในส่วนของแมลงปลาและสัตว์ทะเลเราสามารถขายได้ที่ร้านค้าตรงชายหาด เป็นอีกแนวทางนึงในการเซฟเวลากับช่องในกระเป๋ากรณีที่ไม่ได้คิดจะเก็บของนั้นเอาไว้ครับ
- พยายามกดแดชบ่อย ๆ จะช่วยเซฟเวลาในการเดินได้เยอะมาก และพยายามรีบปลดจุดวาร์ปภายในเกมให้เยอะที่สุดจะได้ประหยัดเวลาในการเดิน
- พยายามนอนให้ใกล้เคียงกับ 12.00 ให้มากที่สุด เพราะพลังงานจะได้ฟื้นฟูกลับมาเต็ม หากเรานอนหลัง 12.00 พลังงานจะฟื้นฟูไม่เต็มที่ (ยกเว้นว่าใช้ไปน้อย) หากเรานอนไม่ทันเวลา 02.00 ตัวเราจะสลบ และจะโดนบังคับกลับไปนอนทันที รวมถึงโดนหักเงิน 5% จากที่มี (แต่จะไม่เกิน 2000)
- ในแต่ละวันหลังจากจัดการเรื่องที่ฟาร์มจบแล้ว เช่นรดน้ำต้นไม้ / เลี้ยงสัตว์ / อื่น ๆ แนะนำว่าให้เก็บของที่ไม่ใช้ลงในคลังก่อน เพราะในช่วงต้นเกมช่องในกระเป๋าเราน้อยมาก บางทีเดินไประหว่างทางอาจจะเจอของน่าสนใจหรือมีราคาเก็บมาขายได้
- ในช่วงวันแรก ๆ หุ่นไล่การะดับสูงจะทำได้ยากเพราะเลเวลฟาร์มเรายังไม่ถึง สามารถไปซื้อที่ร้านของ Ben ที่จอดรถขายอยู่ตรงภูเขาแถวๆ เหมืองได้
- ในช่วงปีแรกควรเน้นไปที่สกิลที่ทำให้เราได้เงินเพิ่มขึ้นก่อน เพราะสุดท้ายแล้วเราจะสามารถอัปสกิลทั้งหมดได้อยู่ดี ซึ่งในช่วงระยะแรกเราจะค่อนข้างขาดแคลนเงิน ดังนั้นสกิลที่ทำให้ขายของได้ราคาสูงขึ้นจึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก ยกเว้นแต่สายดำน้ำ และ สายขุดแร่ ที่อาจจะเน้นไปที่การเก็บ Kelp ก่อน เพราะต้องใช้ในการอัปเกรด
- ในแต่ละฤดูควรปลูกพืชผลไว้อย่างละนิดหน่อยไม่ว่าจะเล่นสายไหนก็ตามเผื่อเอาไว้ส่งเควส
- ควรพกอาหารหรือยาฟื้นฟูพลังงานติดตัวไว้เสมอ โดยช่วงแรกอาจใช้เป็น Candies tree seed ที่ได้มาฟรีและทำง่าย และพอเริ่มมีเงินก็ไปซื้อยาฟื้นฟูพลังงานที่คลีนิก โดยช่วงหลังอาจจะใช้การทำอาหารแทน เพราะประหยัดกว่า
- ช่วงแรก หากไม่รู้จะให้ของขวัญอะไรกับ NPC หากถึงวันเกิด เราสามารถทำช่อดอกไม้ให้ก่อนได้ เพราะ NPC แทบทุกตัวจะชอบของชนิดนี้ ซึ่งของชอบแบบละเอียดสามารถดูได้ที่บทความที่ทางผู้เขียนเคยทำไว้ Coral Island ข้อมูลและของชอบของชาวเกาะ / Coral Island ข้อมูลและของชอบของสาว ๆ / Coral Island ข้อมูลและของชอบของหนุ่ม ๆ
- หากเจอ Wild Seed ที่ได้จากจุดต่าง ๆ ให้เก็บสะสมไว้ก่อน เราสามารถเอาไปใช้ในฤดูหนาวที่ปลูกพืชไม่ค่อยได้ เพราะในช่วงแรกการจะเล่นให้ถึงแรงค์ C เพื่อปลดเมล็ดทำได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นเพื่อความชัวร์แนะนำให้เก็บไว้ จะได้ไม่เหงาตอนฤดูหนาว
- พยายามดูวันเกิด NPC บ่อย ๆ โดยสามารถเช็คได้ที่ปฏิทินในเมือง ที่เดียวกับจุดรับเควส หรือซื้อปฏิทินมาวางไว้ในบ้านก็ได้เหมือนกัน เพราะวันเกิด NPC หากเราให้ของขวัญจะได้รับค่าความสนิทสนมเพิ่มเยอะมาก ซึ่ง หลายครั้งเราจะได้สูตรอาหารใหม่ ๆ
- หากเราเริ่มปลูกผักจำนวนมากและเก็บมือเสียเวลาเราสามารถใช้เคียวเก็บผลผลิตได้ จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะมาก
- หลังจากเราปลด Event ส่งของให้ Museum แล้วและ ส่งของให้เทพธิดาเรียบร้อย หากมีของชิ้นไหนที่จะต้องส่ง เมื่อเราเอาเมาส์ไปชี้ที่ไอเทมจะมีคำว่า Donate กับ Offering ขึ้นมาบอก
- เราสามารถกด Tab ที่กล่องไอเทมหรือในกระเป๋าไอเทมเพื่อจัดเรียงของอย่างเร็วได้
- ต้นไม้นอกฟาร์มจะงอกขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ สามารถตัดได้ไม่อั้น (พอวันใหม่ก็งอกใหม่)
- ต้นไม้ในฟาร์มหากอยากปลูกสามารถเก็บเมล็ดมันมาปลูกได้ ไม่ต้องพรวนดินกับรดน้ำ
- หากเจอใบโครเวอร์ขึ้นตามทางสามารถเอาพลั่วขุดได้ โดยจะสุ่มได้ของเล็ก ๆ น้อย ๆ
การเล่นปีแรกในแต่ละฤดู
ในส่วนนี้เป็นคำแนะนำในการเล่นและสิ่งที่ควรทำในแต่ละฤดูในช่วงแรกเท่านั้นครับ ซึ่งใช้เป็นแนวทาง เพื่อน ๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้ แต่ไม่จำเป็นว่าต้องฟิกทำแบบนี้ก็ได้ โดยในส่วนนี้จะเป็นไกด์ไลน์จากที่ผมเล่นแล้วคิดว่าดีในช่วงปีแรก
Spring
ช่วงเดือนแรกเราจะแทบไม่มีอะไรติดตัวเลย ต้องสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่ โดยสิ่งที่ควรทำในวันแรก ๆ เลยคือเร่งตระเวนเก็บของป่าขาย ซึ่งหลังจากวิ่งเก็บของป่าแล้วก็ไปซื้อเมล็ดพืชและถ้าพลังงานเหลือก็เคลียร์ฟาร์ม โดยในช่วงวันแรก เราจะต้องเร่งเก็บเงินเพื่อต่อเติมฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็น ซื้อเมล็ดพืช / อัปเกรดอุปกรณ์ / ทำโรงเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ เลยมีเรื่องที่ต้องทำเยอะมาก ซึ่ง
ตัวอย่างในการเล่นของทางผู้เขียนในช่วงวันแรก ๆ จะเป็นประมาณนี้ รดน้ำผัก > วิ่งเก็บของป่าโซนด้านบน > เอาของป่าไปขายที่ Store > เก็บของป่าที่ตกตรงทะเล > เอาไปขายที่ร้านตรงทะเล > ตกปลา ถ้าพลังงานหมดก็หาอะไรกิน โดยช่วงแรกเราจะได้อาหารมาฟรีนิดหน่อยเป็น Candies tree seed หรือหากของป่าบางอย่างขายได้ราคาไม่แพงเก็บไว้กินฟื้น Energy ก็ได้ แต่ทีนี้วันแรกเราจะยังไม่มีเบ็ดตกปลา ดังนั้นอาจจะเคลียร์ฟาร์มไปพลาง ๆ เพื่อเตรียมตัวปลูกผักก่อน โดยการวิ่งเก็บของป่า เพื่อน ๆ สามารถดูตัวอย่างได้ตามภาพ โดยปรับเปลี่ยนได้ตามเหมาะสม
และในช่วงที่แวะพักขายของวันแรก แนะนำว่าให้ซื้อเมล็ด Potato หรือเมล็ดอื่น ๆ มานิดหน่อยเพื่อปลูกไปก่อน เพื่อเร่งหาเงินให้มากที่สุด และรีบซื้อกระเป๋าเพื่อทำให้การเล่นง่ายขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนซื้อกระเป๋าวันที่สองครับ เพราะในการอัปกระเป๋าครั้งแรกใช้เงินแค่ 500 วันเดียวเราก็สามารถหาได้แล้ว และหากมีเวลา แนะนำว่าควรเร่งทำภารกิจต่อเติมบ้านรอบแรก ซึ่งจะฟรี โดยให้เราเอาของไปที่บ้านของช่างไม้ โดยเราสามารถทำให้จบได้ตั้งแต่วันแรกเลยครับ เพราะของที่ใช้ไม่เยอะเท่าไหร่ หรือจะค่อย ๆ ทำให้จบวันที่สองหรือสามก็ได้ โดยเราจะได้ทีวีมาฟรีด้วยเอาไว้ใช้ดูพยากรณ์อากาศ
สำคัญมากเลยคือควรจะปลูกผักเอาไว้ชนิดละนิดหน่อย เผื่อเจอเควสของชาวเมืองที่เราต้องส่ง โดยเราสามารถเช็คได้ที่ป้ายแถว ๆ ร้านค้า โดยช่วงวันแรกจะลำบากหน่อยเพราะเราจะยังคราฟหุ่นไล่กาไม่ได้ สามารถแก้ปัญหาได้โดยไปซื้อกับ Ben ช่วงวันหยุด จะมีหุ่นไล่กาขายแต่มันก็จะราคาแพงนิดนึงสำหรับวันแรก ๆ ดังนั้นวันแรก ๆ เลยอาจจะต้องทนโดนอีกามากินผลผลิตของเราไปก่อน อีกสิ่งที่ควรทราบคืออย่าปลูกผักเยอะเกินไปจนพลังงานไม่เหลือไปทำอย่างอื่น เพราะเราจะต้องเผื่อเวลาเอาไว้สำรวจสิ่งอื่น
รวมสิ่งที่ควรทราบในฤดู Spring
- พืชที่แนะนำให้ปลูกเป็นพิเศษเลยในช่วงแรกคือ Potato เพราะกำไรต่อผลค่อนข้างจะเยอะ และใช้เวลาแค่ 5 วันในการโต
- ฤดูนี้ของป่าที่ควรเก็บเป็นพิเศษ หลังจากที่คราฟกล่องได้แล้วจะเป็น Wasabi ที่หากว่าเจอควรเก็บเอาไว้ หรือจะแบ่งขายไปบ้างก็ได้ ที่ให้เก็บเพราะว่ามันสามารถเอาไปทำเมนูง่าย ๆ อย่างซาซึมิได้ในอนาคต
- หลังจากวันที่ฝนตกจะมีของป่าเยอะเป็นพิเศษอย่าลืมวนหาของป่าขายเพราะจะได้เงินเยอะมากในช่วงแรก
- รีบทำเควสของเทพธิดาให้ไวที่สุดจะมีแถวนึงที่ชื่อ Spring Sesajen ซึ่งเราจะสามารถเคลียร์ได้ประมาณช่วงวันที่ 8-9 หากวางแผนดี ๆ จะทำให้ได้เมล็ด Sugarcane มาปลูก 8 เมล็ด เป็นพืชที่โตซ้ำได้และเก็บเกี่ยวได้ไว ทำให้ช่วยเรื่องเงินเราได้ดีระดับนึง
- เราจะไปรับเบ็ดตกปลาและที่จับแมลงได้ฟรีในวันที่ 2 ที่ร้านค้าตรงชายทะเล
- เราจะเข้าไปสำรวจในเหมืองได้วันที่ 5 แนะนำว่าก่อนสำรวจควรอัปกระเป๋าสักขั้นสองเพราะไม่งั้นช่องจะไม่ค่อยพอ โดยเดินไปที่ Cavern จะเจอ Event และเราจะเข้าไปใช้เหมืองได้
- เราจะเริ่มดำน้ำได้วันที่ 8 โดยเราจะได้จดหมายให้ไปที่ท่าเรือ และได้รับชุดดำน้ำ
- อย่าลืมเก็บเงินไว้ซื้อเมล็ดพืชเดือนถัดไป ในช่วงท้าย ๆ เดือน และเตรียมของอย่างปุ๋ย หรือ สารเร่งโตไว้ จะได้เล่นง่ายในเดือนใหม่ โดยหากเราใช้กับพืชที่เก็บซ้ำ ได้มันจะอยู่ได้ทั้งเดือนเลย
- หากพอมีเงินเหลือให้ไปอัปเกรดคุณภาพของผลผลิต โดยที่ควรเน้นในตอนแรกจะเป็นพืชพันธ์กับผลไม้ เพื่อเอาไว้ส่งเควส Local Product จะได้ปลดล็อกเสาวาร์ปที่เมืองได้
- ช่วงกลาง ๆ ฤดูเราจะไปเขย่าต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าวได้
- ในงานเทศกาล Cherry Blossom มีเทคนิคการเล่นมินิเกมให้ชนะง่าย ๆ คือทำให้พลังงานของตัวเองเต็มก่อนเข้าเล่น และเพิ่ม Max Stamina โดยการกิน Jamu ก่อนเข้า (ควรซื้อเก็บไว้ก่อนวันงาน)
ในช่วง Summer ช่วงต้นเดือนจะมีกิจกรรมที่ต้องใช้สัตว์เลี้ยง ซึ่งหากมองว่าไม่ทันข้ามไปก็ได้ แต่ใครอยากร่วมสนุกก็ เร่งทำคอกสัตว์ไว้ก็ได้ครับ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ต้องรีบแล้วไปเล่นให้ชนะปีที่สองก็ได้ เพราะสัตว์ช่วงแรกถือว่าแพงเอาเรื่อง และการรีบมีสัตว์จะทำให้เราต้องแบ่งเวลาไปใช้เลี้ยงมันด้วย ทำให้เรื่องที่ต้องทำเยอะแล้วอาจสับสน
Summer
ฤดูนี้เราจะเริ่มหาเงินได้ง่ายขึ้น เพราะมีผลผลิตที่เก็บเกี่ยวซ้ำได้ ทำให้เราไม่ต้องปลูกใหม่บ่อย ๆ และน่าจะเริ่มหา Springer มาใช้งานกันได้แล้ว แม้ว่าอาจจะไม่เยอะมากแต่ก็ช่วยทุ่นแรงและประหยัดเวลาไปได้เยอะ ทำให้มีเวลาในการสำรวจสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น
สิ่งที่ควรทราบในฤดู Summer
- พืชที่ควรปลูกเป็นอย่างมากเลยคือ Hot Pepper เพราะมันจะอยู่ได้ถึงเดือน Fall และราคาขายก็ไม่ได้แย่ถือว่าใช้ได้เลย นอกจากนี้เราเอาไปแปรรูปเป็นซอสพริกได้ด้วย
- เหมือนเดิมอย่าลืมปลูกผักไว้ชนิดละนิดหน่อยเพื่อเอาไปส่งเควส
- โดยส่วนตัวแล้วแนะนำให้ปลูกผลผลิตที่เก็บซ้ำได้เป็นหลัก แล้วเอาเวลาที่เหลือไปลงทะเล หรือลงเหมืองเพื่อหาของมาอัปเกรด ก่อน แม้ว่าของพวกนี้จะได้เงินน้อยกว่าพวกปลูกครั้งเดียว แต่ก็ประหยัดเวลากว่าเยอะครับ (แต่อันนี้แล้วแต่พิจารณานะ)
- ในฤดูนี้จะมีเทศกาลที่ให้เราใช้สัตว์เข้าร่วม ซึ่งการชนะค่อนข้างลำบาก เพราะการปั๊มหัวใจให้ทันค่อนข้างยากแนะนำว่าไม่ต้องรีบรอปีหน้าดีกว่า เพราะยังไม่ได้มีผลอะไรมากนัก และคิดว่าเราไปทุ่มทรัพยากรทำอย่างอื่นก่อนดีกว่า แต่หากใครอยากเลี้ยงก็สามารถทำได้เช่นกัน
- อย่าลืมปลูกต้นไม้เอาไว้บ้างเพราะสามารถเก็บได้ยาว ๆ และเผื่อใช้ในการส่งเควส โดยเลือกต้นที่โตได้ในฤดู Summer / Fall
- พยายามเร่งอัปเกรดเมืองเป็น Rank E เป็นอย่างน้อยเพื่อปลดล็อกพืชผลต่าง ๆ
- อย่าลืมส่ง Offering ของฤดูร้อนให้นางฟ้าเพื่อสะสมให้ได้ Green House ในช่วงท้ายปี
- หากเลี้ยงสัตว์อย่าลืมวางเครื่อง Temperature machine ไว้ในเล้าสัตว์เพราะอากาศร้อนจะทำให้สัตว์อารมณ์ไม่ดีได้
- อย่าลืมลงเหมืองไปช่วยยักษ์ เพราะหลังจากช่วยยักษ์ได้แล้วเกมจะปลดระบบเอนช้านของทำให้เราเล่นง่ายขึ้น
- ช่วงกลาง ๆ ฤดูเราจะไปเขย่าต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าวได้ (จะเป็นคนละชนิดกับฤดู Spring)
- สำหรับในส่วนของการปลูกผักปีแรกแนะนำว่าให้ใช้สปริงเกอร์ระดับ 1-2 ก็พอแล้วค่อยเปลียนเป็นระดับ 3 ทีเดียวปีที่ 2 จะดีกว่าเพราะช่วงแรกต้องใช้วัตถุดิบค่อนข้างเยอะ
- ในงานเทศกาล Beach Cleanup Day จะมีแข่งว่ายน้ำ ซึ่งจะอิงตามค่า Stamina ของเราดังนั้นควรกิน Jamu และทำให้พลังงานเต็มและเยอะที่สุดก่อนเล่นจะเพิ่มโอกาสในการชนะ
- งานเทศกาล Animal Festival หากเราส่งสัตว์เข้าเล่นมินิเกมและชนะสัตว์ตัวนั้นจะให้ผลผลิตเป็นทอง โดยมีประเภทที่ส่งได้สองชนิดคือ ไก่ และ วัว
Fall
เดือนนี้เป็นเดือนที่หากเราวางแผนดี ๆ จะสามารถหาเงินจากการปลูกผักได้เยอะมาก ๆ เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่น่าจะพอมีเงินเก็บและอัปเกรดของไปบ้างแล้ว โดยแนะนำว่าให้ดองของเอาไว้บางส่วนเผื่อแปรรูปในช่วงฤดูหนาวที่ค่อนข้างว่าง และแนะนำว่าควรเริ่มเลี้ยงสัตว์ได้แล้วหากใครที่ยังไม่เริ่ม เพื่อให้ปั๊มหัวใจทันช่วงฤดูหนาวที่ค่อนข้างจะว่าง ช่วงฤดูหนาวเราจะได้มีรายได้เข้ามานอกจากการปลูกผัก
สิ่งที่ควรทราบในฤดู Fall
- หากเจอ Wild Seed พยายามเก็บเอาไว้เพราะหากเราอัปเกรดเมืองเป็นระดับ C ไม่ทันเราสามารถใช้ Wild Seed ปลูกแก้ขัดได้ แต่ถ้าอัปถึง C ทันก่อนหน้าหนาวแน่ๆ ก็ไม่ต้องเก็บไว้ก็ได้
- ในฤดูนี้จะมีเทศกาลเก็บเกี่ยวเราจะต้องเอาผลผลิตของเราไปประกวด ซึ่งหากเรามีผลผลิตหลายประเภทจะได้คะแนนความหลากหลายเพิ่มด้วย แต่ ทั้งนี้คะแนนที่ได้ จะอิงจากราคาขายของผลผลิตนั้น ๆ หากใส่ของไปหลากหลายแต่ราคาพื้นฐานของไอเทมที่เราใส่ไม่สูงก็ได้คะแนนน้อย ตัวอย่างของที่น่าสนใจที่มีโอกาสชนะสูงในปีแรกคือ 3 เมลอน / 3 ไวน์ (แต่ต้องระดับค่อนข้างสูงนะ) ซึ่งในปีแรกถ้าเอาแค่ชนะคู่แข่งเฉย ๆ ทำให้ได้เกิน 96 คะแนนก็ชนะแน่นอนแล้ว แต่ปีถัด ๆ ไปคู่แข่งจะใช้ของดีขึ้น
- หากอยากได้อาหารที่เพิ่มพลังเยอะ ๆ และทำง่ายอย่าลืมปลูกข้าวเอาไว้บ้างโดยข้าวสามารถเอาไปทำ Sushi ได้ซึ่งใช้แค่ข้าว + ปลา + Chef knife เท่านั้น
- อย่าลืมส่ง Offering ของฤดูร้อนให้นางฟ้าเพื่อสะสมให้ได้ Green House ในช่วงท้ายปี
- เก็บเมล็ดพันธ์พืชเอาไว้บางส่วนเผื่อเอาไว้ใช้ใน Green House ช่วงฤดูหนาว หากเราส่ง Offering ใน Crop Altar ครบจะสามารถใช้ปลูกอะไรก็ได้
- ฤดูนี้เป็นฤดูที่ดีมากในการเริ่มเลี้ยงสัตว์ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องอุณภูมิ และคิดว่าตัวฟาร์มน่าจะเริ่มอยู่ตัวกันแล้ว
- พืชป่าที่มีโอกาสเจออย่าง Titan arum สามารถเอาไปทำ Titan arum black honey ได้ซึ่งมีราคาสูงถึง 2520 หน่วยเลย (เอาไปใส่ ฺBee house)
- แนะนำว่าหากเริ่มมีเงินเยอะแล้วไม่ต้องขายผลผลิตทั้งหมด แล้วดองเอาไว้แปรรูปช่วงว่าง ๆ ในฤดูหนาวจะได้เงินเยอะกว่าการเอาไปขายตรง ๆ
Winter
ฤดูนี้หากไม่อัปแรงค์เมืองถึงระดับ C จะมีของให้ปลูกน้อยมาก ซึ่งการจะทำให้ถึงได้หากไม่เตรียมตัวให้ดีตั้งแต่ต้นถือว่ายากมาก แต่มีวิธีแก้ปัญหาอย่างนึงคือสะสม Wild Seed เอาไว้ สามารถเอามาใช้ปลูกเพื่อลุ้นรับเมล็ดแบบสุ่มได้ โดยฤดูนี้ อาจเน้นไปที่การขยายการเลี้่ยง และ เคลียร์พืชผลที่ดองไว้ โดยการเอามาแปรรูปก่อนขาย ซึ่งเดือนนี้เหมาะมากกับการเคลียร์เหมืองให้ครบ และ เคลียร์ ภารกิจที่ใต้บาดาล ยิ่งหากใครแรงค์เมืองยังไม่ถึง C เดือนนี้เป็นโอกาสดีมากครับ
สิ่งที่ควรทราบในฤดู Winter
- หากเราจะส่ง Tea leaf แต่ยังปลูกไม่ได้เพราะระดับแรงค์ไม่ถึง สามารถใช้ Wild Seed เอามาปลูกเพื่อสุ่มได้ Tea leaf ได้
- อย่าลืมวาง Temperature machine ไว้ในเล้าสัตว์เพราะอากาศหนาวอาจทำให้สัตว์อารมณ์ไม่ดีหรือป่วยได้
- ฤดูนี้มีปลาเฉพาะหลายตัวที่เราสามารถตกได้ หากไม่มีอะไรทำควรไปไล่ตกดู
จุดที่ควรทราบของแต่ละฤดูก็จะมีประมาณนี้ครับ ซึ่งก็หวังว่าจะช่วยเป็นไกด์ไลน์ให้เพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อย โดยในส่วนถัดไปจะเป็นไกด์ระบบสำคัญ ๆ และทิปน่ารู้ในบางจุด ภายในเกม โดยจะมีอะไรบ้างสามารถเลื่อนลงไปอ่านกันได้ครับ
การปลูกผักและผลผลิต
เกมนี้จะมีชนิดของพืชแยกตามประเภทการปลูก 3 ชนิด แบบรวม ๆ เลยคือ
- ใช้เมล็ดปลูก อันนี้จะต้องทำการพรวนดินด้วย Hoe แล้วค่อยหว่านเมล็ดและรดน้ำต้นไม้
- เป็นต้นอ่อน อันนี้จะต้องพรวนดินเช่นกัน แล้วค่อยวาง แต่จะแตกต่างกับเมล็ดตรงจะต้องใช้ช่องขนาด 2*2 ในการวาง และส่วนมากพวกนี้จะเป็นผลไม้ที่สามารถอยู่ได้ 2 ฤดูแต่โตค่อนข้างช้ามาก
- เป็นต้น สำหรับที่เป็นต้นจะต่างกับแบบอื่นตรงไม่ต้องพรวนดินแต่เอาไปวางได้เลย เพียงแต่ต้นไม้ประเภทนี้จะโตช้ามาก แต่ก็มีข้อดีคือ ถ้าพ้นฤดูกาลไปแล้วมันจะไม่ตาย แค่จะไม่ออกผล
สิ่งสำคัญเลยในการปลูกพืชผลที่เป็นเมล็ดคือเราจะต้องวางหุ่นไล่กาเอาไว้ด้วยไม่อย่างนั้นจะโดนสัตว์มากินเมล็ดทำให้พืชของเราไม่โต ซึ่งในวันแรก ๆ จะยังไม่สามารถสร้างได้เพราะเลเวลการฟาร์มยังไม่ถึง แต่หลังจากเล่นได้ระยะนึงจะสามารถสร้างมาใช้งานได้ ทั้งนี้เราสามารถไปซื้อมาใช้ได้ที่ร้านของ Ben ที่เปิดในช่วงวันหยุดเช่นกัน แม้ราคาจะแพงไปบ้างในช่วงแรก แต่ก็เป็นหุ่นไล่การะดับสูง โดยร้านค้าจะรีสัปดาห์ละครั้ง
ใครที่เริ่มเมื่อยกับการรดน้ำด้วยมือ ตัวเกมเราจะสามารถสร้างสปริงเกอร์หรือเครื่องรดน้ำอัตโนมัติมาใช้ได้หลังจากที่เลเวลการทำฟาร์มเราเริ่มเยอะขึ้น โดยเจ้าสปริงเกอร์นี้จะทำการรดน้ำบริเวณรอบ ๆ โดยในช่วงแรกจะคราฟได้แต่ระดับต่ำ แต่หลังจากที่เล่นไปจนเลเวลทำฟาร์มเยอะ ๆ แล้วจะสามารถคราฟสปริงเกอร์ที่รดน้ำได้ถึง 9*9 ช่องเลย
การติดตั้งอุปกรณ์เสริม
เราสามารถติดอุปกรณ์เสริมให้สปริงเกอร์ได้ โดยจะมีตั้งแต่ใส่ปุ๋ยอัตโนมัติ /หว่านเมล็ดอัตโนมัติ / เก็บเกี่ยวอัตโนมัติ โดยจะติดได้ทีละอัน ซึ่งสามารถไปวิจัยวิธีผลิตได้ที่ Lab โดยการวิจัยระดับสูงสุดจะได้ส่วนเสริมที่เก็บเกี่ยวและหว่านเมล็ดใหม่ได้พร้อมกัน ซึ่งดีมาก แต่ในปีแรกก็ทำได้ยากมากเช่นกัน แนะนำว่าค่อยมาทำช่วงปีที่สองจะดีที่สุด เพราะของที่ต้องใช้ค่อนข้างเยอะ ส่วนวิธีการติดเพียงเราถือไว้แล้วเดินไปติดที่สปริงเกอร์ก็เป็นอันเรียบร้อย โดยเครื่องที่เก็บเกี่ยวผลผลิต ตัวผลผลิตจะอยู่ที่สปริงเกอร์เราต้องเดินไปเก็บอีกที ส่วนที่หว่านเมล็ดและปุ๋ย เราจะต้องเติมเมล็ดกับปุ๋ยเอาไว้ด้วย
สิ่งที่ควรทราบในการปลูกผัก
- หากพ้นฤดูไปแล้วพืชผลนั้น ๆ จะตายยกเว้นพืชผลบางชนิดที่อยู่ได้หลายฤดูและพวกที่เป็นต้นไม้
- เมล็ดพันธ์ใหม่ ๆ จะปลดเมื่อระดับของเมืองเพิ่มขึ้น
- ปุ๋ยปกติจะใช้แล้วหมดไป แต่หากใช้กับพืชที่เก็บเกี่ยวซ้ำได้จะอยู่ได้เรื่อย ๆ
- วันที่โตจะนับหลังจากวันหว่านเมล็ดเช่น ผักที่บอกว่าใช้เวลา 4 วันให้เริ่มนับ 1 หลังจากวันหว่านเมล็ด ส่วนการเก็บซ้ำสำหรับชนิดที่เก็บได้ จะนับ 1 ตั้งแต่วันที่เก็บ
- พืชบางชนิดสามารถกลายเป็นผลผลิตขนาดใหญ่ได้ (อ่านด้านล่างหัวข้อถัดไป)
- พืชผลโดยส่วนใหญ่จะสามารถนำไปแปรรูปต่อเพื่อเพิ่มมูลค่าได้ ช่วงแรกอาจไม่ต้องสนใจมาก แต่หลังจากเล่นไปสักพักเพื่อเพิ่มมูลค่าควรแปรรูปก่อนขาย
เกี่ยวกับผลผลิตยักษ์
อันนี้เหมือนเป็นสิ่งเสริมเล็ก ๆ ภายในเกมไม่จำเป็นต้องโฟกัสมากก็ได้ในช่วงแรก โดยหากเราปลูกผลผลิตบางชนิดติดกัน แบบ 3*3 ช่อง จะมีโอกาส 5% ที่มันจะกลายเป็นผลผลิตยักษ์ ซึ่งจะมีพืชผลบางชนิดเท่านั้นที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยจะมี Bell pepper, Red cabbage, Cotton, Starfruit, Potato, Strawberry, Pumpkin, Watermelon ซึ่งหากเกิดขึ้นผลผลิตในระยะ 3*3 จะรวมเป็นผลใหญ่และเมื่อเก็บเกี่ยวเราจะต้องใช้ขวาน โดยจะมีโอกาสได้ผลผลิตจำนวน 17/21 ชิ้น ทั้งนี้ข้อควรทราบคือพืชผลที่ปกติจะเก็บได้หลายครั้งหากรวมเป็นผลผลิตยักษ์แล้วเมื่อเก็บมันจะหายไป
บริจาคของให้เทพธิดา
ภายในเกมจะเรียกส่วนนี้ว่า Offering โดยหากเราสามารถส่งของได้ครบทั้งแถวตามจำนวนที่กำหนดตัวเกมจะปลดล็อกสิ่งต่าง ๆ ให้เราเพิ่มเติม เช่นอาจจะได้ของฟรี หรือเปิดพื้นที่ใหม่ ๆ หรือสามารถวาร์ปไปยังจุดใหม่ ๆ ได้ โดยเพื่อน ๆ สามารถอ่านรายละเอียดของที่ต้องใช้และวิธีหาได้ที่ Coral Island รวมของบริจาคให้เทพธิดาและวิธีหา
การดำน้ำวิธีการฟื้นฟูทะเล
เราจะลงทะเลได้หลังจากวันที่ 8 โดน Lin จะให้เราไปพบที่ทะเลและจะมอบชุดดำน้ำให้ โดยหลังจกานั้นเราจะสามารถลงไปดำน้ำได้ ซึ่งของที่เราต้องใช้ในการดำน้ำหลัก ๆ จะเป็นเคียว โดยเอาไปใช้ในการกำจัดขยะและเก็บเกี่ยว Kelp ที่เอาไว้ใช้อัปเกรด เบ็ด และ สวิงจับแมลง และอีกชิ้นคือสวิงจับแมลงจะใช้จับสัตว์ทะเลได้ครับ
หลังจากที่เราสามารถลงมาใต้ทะเลได้แล้วเราจะพบกับทะเลที่เต็มไปด้วยขยะจำนวนมาก ซึ่งการเคลียร์ขยะเราจะต้องใช้เคียวในการจัดการ โดยในแต่ละโซนจะมี หินสีส้ม ๆ ซ่อนอยู่ หากเจอแล้วกดที่มัน มันจะกลับไปยังแท่น
พอแท่นทำงานแล้ว จะมีแสงเคลื่อนไปยังจุดที่กำหนดไว้ โดยมันจะชำระล้างทะเลในบริเวณนั้น ซึ่งเราจะต้องทำลายขยะที่ขวางแสงนั้น เพื่อให้แสงเดินทางไปถึงที่หมาย โดยหากเราทำการแก้ Puzzle ในโซนนั้น ๆ แล้วพื้นที่ต่อไปจะเปิดให้เราไปต่อได้ครับ
ทั้งนี้หากโซนไหนที่เราทำการชำระล้างไปแล้ว ในโซนนั้นจะมีพวกสิ่งมีชีวิตและสาหร่ายเกิดเยอะขึ้น เราสามารถแวะมาเก็บได้
ดันเจี้ยนใต้ทะเล
เราจะสามารถเข้าไปยังดันเจี้ยนใต้ทะเลได้หลังจากที่เจอ Event ได้รับสิทธิ์การเข้าแล้ว ซึ่งสามารถทำได้หลังจากที่เดินทางมาถึงวังเงือกเรียบร้อย หลังจากนั้นให้เดินไปที่บ้านของ Cho Oyu จะเกิด Event และเราจะได้สิทธิ์ในการเข้าดันเจี้ยนใต้ทะเลมา โดยภายในดันเจี้ยนจะเป็นดันวนฟาร์มไม่ได้มีผลอะไรกับเนื้อเรื่อง ใช้สำหรับคนที่จะหากล่องสมบัติและฟอสซิล เพื่อนำไปเปิดส่งให้ Museum โดยดันเจี้ยนแต่ละระดับจำเจอของคล้ายกับข้างนอกที่อยู่ในดันเจี้ยนนั้น ๆ สำหรับการฟาร์มหากเราเคลียร์ขยะไปเรื่อย ๆ ประตูจะสุ่มเปิด เราจะสามารถไปฟาร์มห้องใหม่ได้ วนไปไม่มีจบ
การจับแมลงและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
การจับแมลงกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลจะเหมือนกันคือใช้สวิงในการจับ โดยหากเราเข้าไปใกล้ ๆ นานเกินไปมันจะหนี ดังนั้นต้องรีบจับ ซึ่งหากเรากดปุ่มคลิกคว้างไว้จะเป็นการย่องเข้าไปหา ซึ่งจะทำให้พวกมันไหวตัวช้าลง มีเทคนิคเล็กน้อยในการจับคือ ให้เดินไปดักทางที่มันจะผ่านจะง่ายที่สุดครับ และอีกจุดที่ควรทราบคือแมลงและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล บางชนิดจะเกิดตามฤดูกาล รวมถึงปรากฏในช่วงเวลาและสภาพอากาศต่างกัน สามารถเช็คแบบละเอียดได้ใน Wiki ของเกม โดยดูได้จากลิงค์นี้ สัตว์ทะเล , แมลง
ไอเทมที่มักจะหาไม่เจอช่วงแรก
ส่วนนี้ผมขอรวมไอเทมที่คนเล่นใหม่น่าจะหาไม่เจอหรือทำไม่เป็นกันในช่วงแรกนะครับ โดยผมคิดว่าน่าจะมีเบื้องต้นประมาณนี้
Glass : ปกติแล้วจะมีโอกาสดร็อปจากการจัดการกับขยะ แต่เราสามารถผลิตมาใช้ได้โดยการเอาหิน หรือ Scrap โยนเข้าเครื่อง Klin
Resin: ให้คราฟ Tap ไปติดที่ต้นไม้
แร่เหล็ก(แท่ง): เอาแร่+coal ไปใส่ใน Furnace
Essence: เอา Kelp + Glass ไปใส่ใน Extractor
Scrap: เอา Trash ไปใส่ใน Recycle Machine
Compost: เอา Trash ไปใส่ใน Compost Bin
Hardwood: ได้ช่วงหลัง ๆ นิดคือตัดตอไม้ใหญ่ (ต้องใช้ขวานเงินสำหรับนอกฟาร์ม และขวานทองในฟาร์ม) โดยจะสุ่มเจอได้อย่างน้อยวันละตอ ที่โซน Mid Forest หรือ Deep Wood (ต้องส่งของให้เทพธิดาครบจำนวนที่กำหนดจึงปลด) ดูรายละเอียดได้ที่ https://playpost.gg/coral-island-offering/
Coal: ทุบหินแล้วจะมีโอกาสสุ่มได้ อีกวิธีคือเอาไม้ไปเผาใน Klin
อธิบายเรื่องความสัมพันธ์กับ NPC และเทคนิคการเพิ่มความสัมพันธ์
ภายในเกมนี้หากเป็น NPC ที่ไม่สามารถแต่งงานได้จะมีหัวใจเต็มที่ 10 ดวง ส่วนตัวละครที่แต่งงานได้ จะเต็มที่ 8 จนกว่าจะทำเงื่อนไขขอเป็นแฟนและแต่งงาน และจะปลดล็อกเพิ่มได้หลังแต่งงานแล้วเป็น 15 ดวง ซึ่งการเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับ NPC สามารถทำได้โดยการให้ไอเทมกับ NPC เล่านั้น โดยสามารถดูได้ที่ Coral Island ข้อมูลและของชอบของชาวเกาะ / Coral Island ข้อมูลและของชอบของสาว ๆ / Coral Island ข้อมูลและของชอบของหนุ่ม ๆ โดยข้อควรทราบคือในวันเกิดหากเราให้ของขวัญ NPC จะได้รับค่าความชอบเพิ่มขึ้น 5 เท่า!
สิ่งที่ควรทราบอีกอย่างนึงคือ ยิ่งของที่เราให้มีระดับดาวสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้ตัว * คะแนนค่ามิตรภาพมากขึ้นเท่านั้นครับ โดยตัวคูณจะคิดเพิ่มจากคะแนนระดับความชอบเพิ่มเข้าไป
ระดับไอเทม | ตัว * |
---|---|
Bronze | 1.15 |
Silver | 1.3 |
Gold | 1.5 |
Osmium | 2 |
หากยกตัวอย่างง่าย ๆ เราให้ไอเทมกับ NPC เป็นไอเทมที่ชอบมาก จะได้คะแนน 140 หน่วย และหากให้ในวันเกิดจะได้ 700 หน่วยเลย และที่มากกว่านั้นหากเราให้ไอเทมระดับ Osmium ก็จะได้คะแนน *2 ไปอีกเป็น 1400 หน่วยครับ
นอกเหนือจากการให้ของขวัญแล้ว การพูดคุยกับ NPC ก็จะได้ค่าความสัมพันธ์ด้วยเช่นกันครับ โดยจะค่าความสัมพันธ์ 35 หน่วย (ครั้งเดียวต่อวัน) และในช่วงงานเทศกาลจะได้เยอะเป็นพิเศษ โดยอาจจะได้ 0/35/50/85 แล้วแต่เทศกาลนั้น ๆ และตัวละครนั้น ๆ ครับ
นอกจากนี้การที่เราช่วยฟื้นฟูเมืองก็จะทำให้ค่าความสัมพันธ์โดยรวมของ NPC ในเมืองเพิ่มด้วยเช่นกัน
คะแนนที่ได้จากการมอบไอเทม
ระดับ | คะแนน |
---|---|
ชอบมาก | 140 |
ชอบ | 70 |
เฉย ๆ | 35 |
ไม่ชอบ | -35 |
เกลียด | -70 |
คะแนนมิตรภาพที่ใช้ในการเลื่อนระดับ
คะแนนมิตรภาพของสามี/ภรรยา หลังแต่งงาน
วิธีการหา NPC
ภายในเกมนี้แม้ว่าเราจะสามารถเปิดแผนที่มาดูได้ว่า NPC หรือตัวละครไหนกำลังอยู่ที่ไหน แต่ที่บางคนอาจจะไม่ทราบคือเราสามารถเลือกดูจากตัวละครที่เราต้องการหาได้เลยว่าอยู่ตำแหน่งไหน โดยการกด H หรือไปที่หน้า Relationship แล้วเลือก NPC ที่ต้องการ จากนั้นกด Tap หรือปุ่ม Find NPC ซึ่งหากว่ากดแล้วไม่ไปไหนคือ ณ ตอนนั้นตัวละครนั้นไม่อยู่ในเมือง
การแต่งงาน
หลังจากหัวใจ 8 ดวงแล้ว จะมีไอเทมชื่อ locket necklace มาขายที่ร้าน Blacksmith หลังจากนั้นจะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อได้จากหัวใจเต็ม 8 ดวงเป็น 10 ดวง โดยราคาจะอยู่ที่ 1500 Coin โดยจะให้ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
หลังจากที่ให้ Locket of necklace ไปแล้ว พอหัวใจ 10 ดวงจะมีไอเทมใหม่มาขายคือ Diamond ring ที่ร้านเดิมในราคา 5000 เอาไปมอบให้คนที่ต้องการแต่งงานด้วยก็เป็นอันเรียบร้อย ทั้งนี้เราจะต้องอัปเกรดบ้านเป็นระดับ 3 ก่อนนะ
สำหรับการมีลูกเราจะต้องต่อเติมบ้านถึงระดับ 4 ก่อน และภรรยา / สามี มีหัวใจถึง 14 ดวง + (อันนี้ไม่ชัวร์แต่น่าจะ 14) จะมีเหตุการณ์ที่เราจะได้รับลูกมา
การลงเหมือง
ภายในเกมจะมีภารกิจที่เราจะต้องลงเหมืองด้วย โดยแร่แต่ละชนิดจะหาได้จากแต่ละห้อง ซึ่งจะไล่ไปตามลำดับที่เราเคลียร์ครับโดยเราอาจเจอแร่ระดับต่ำกว่าได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเจอแร่ชนิด นั้น ๆ ในแต่ละห้อง เช่นในห้องดิน จะเจอเฉพาะแร่ Copper และในห้องลำดับต่อไปจะเจอ Silver > Gold > Osmium ตามลำดับ ซึ่งการจะปลดล็อกห้องใหม่ได้จะต้องผ่านห้องเก่าก่อน โดยแต่ละห้องจะมี 40 ชั้น จะเจอกับยักษ์ที่โดนปิดผนึกอยู่ซึ่งหลังจากช่วยแล้วจะไปยังห้องถัดไปได้ ในทุก ๆ 5 ชั้นจะมีจุดเซฟอยู่เราจะสามารถมายังชั้นที่เรามาถึงได้ แต่ในบางห้อง บนชั้นสูง ๆ อาจจะไม่มี และทุก ๆ 10 ชั้นจะมีไอเทมให้เราเก็บ
เทคนิคการลงเหมืองอย่างรวดเร็ว
- หากขุดแล้วไม่เจอสามารถใช้ไอเทมที่ชื่อ Rope ที่คราฟจากหิน เพื่อวางบนพื้นแล้วไปชั้นถัดไปได้ทันทีแต่มันใช้หินค่อนข้างเยอะจึงควรเก็บไว้ใช้ท้าย ๆ หรือชั้นที่กว้างมาก ๆ
- เราสามารถคราฟระเบิดมาช่วยได้ โดยการวางระเบิดจะทำให้หินบริเวณรอบ ๆ แตกทันที ทำให้เจอบันได้ไว แต่จะใช้แต่ค่อนข้างเปลือง
- อีกวิธีนึงคือการใช้ระเบิด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ได้ทั้งไอเทม และเพิ่มโอกาสในการเจอบันได
- ภายในเหมืองจะมีมอนสเตอร์และเราสามารถใช้่อาวุธจัดการมันได้ ข้อควรทราบคืออาวุธแต่ละชนิดจะมีสกิลพิเศษไม่เหมือนกัน
Note: ในเหมืองระดับที่สูงขึ้น หินที่เจอจะมีค่า HP ที่เยอะขึ้น หากรู้สึกว่าการพังมันยากแนะนำว่าให้อัปเกรดอุปกรณ์เพิ่มก่อนลงต่อ
การเลี้ยงสัตว์แบบสรุป
ในการเลี้ยงสัตว์เราสามารถที่จะปล่อยสัตว์ออกมาข้างนอกได้โดยการสั่นกระดิ่งที่หน้าเล้า โดยพวกมันจะออกมากินหญ้าด้านนอกโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราควรจะปลูกหญ้าเอาไว้ให้เพียงพอ โดยสามารถไปซื้อหญ้าได้ที่ร้านค้า ชื่อว่า Grass Starter ซึ่งหากพวกมันเดินเล่นและกินอิ่มแล้วพวกมันจะกลับเข้าคอกเอง โดยข้อความทราบคือไม่ควรปล่อยพวกมันออกมาในวันที่ฝนตก หรือหิมะตก
เราสามารถเก็บอาหารสัตว์หรือ Hay เอาไว้ใน Silo ได้โดยสามารถสร้างได้ที่ร้านช่างไม้ ซึ่งข้อดีของมันคือเราไม่จำเป็นจะต้องเก็บไว้ในกล่องหรือพกไว้กับตัว เพียงแค่เดินไปหยิบมาก็ใช้งานได้แล้ว หากเล่นไปจนถึงช่วงท้าย ๆ เกมหรือมีทรัพยากรมาก ๆ แล้วเราสามารถสร้างเครื่องให้อาหารและลูบสัตว์แบบออโต้ได้ แต่มันราคาค่อนข้างแพง ทำให้กว่าจะใช้งานได้จริงก็น่าจะปีที่ 2 หรือ 3 เลย
หากเราพาสัตว์ออกมาเดินเล่นและเล่นกับมันอย่างสม่ำเสมอ จะใช้เวลาประมาณ 50 – 60 วันในการทำให้หัวใจของพวกมันเต็ม (อาจจะบวกลบนิดหน่อย เพราะขนาดเล้ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย) ซึ่งการที่หัวใจของพวกมันเต็มจะทำให้เรามีโอกาสได้ของระดับสูงมากขึ้น โดยเราสามารถเช็คสุขภาพและอารมณ์ได้ที่ป้ายในเล้า
อุปกรณ์รีดนมและตัดขนสามารถซื้อได้ที่ร้านขายสัตว์ ซึ่งหากเผลอทำหายก็สามารถมาซื้อใหม่ได้ราคาไม่แพงมากครับ และอย่าลืมซื้อ Temperature machine จากร้านขายสัตว์มาติดตั้งด้วย โดยเราจะจำเป็นต้องใช้มันใน ฤดู Summer และ Winter เพราะอากาศจะร้อน และ หนาวเกินไป อาจทำให้สัตว์ป่วยหรืออารมณ์ไม่ดีได้ ซึ่งมันก็ราคาไม่แพงเท่าไหร่ โดยเราจะต้องติดตั้งไว้คอกละ 1 เครื่อง
หากสัตว์ของเราชนะงานประกวดจะสามารถผลิตผลผลิตทองคำได้ ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก ๆ เช่นไข่จากปกติแล้วจะขายได้ราคาฟองละ 45 แต่หากเป็นไข่ทองจะขายได้ 135 เพียงแต่มันจะเอาไปแปรรูปต่อไม่ได้ หากแปรรูปจะมีคุณสมบัติเหมือนไข่ธรรมดา โดยสัตว์ที่ประกวดได้จะมีแค่ วัว กับ ไก่ เท่านั้น (ณ ปัจจุบัน) สัตว์บางชนิดจะไม่ผลิตผลผลิตโดยตรง แต่จำเป็นต้องปล่อยออกมาข้างนอก อาทิเช่น หมู จะผลิต Truffle ได้โดยมันจะขุดหาหากออกมาข้างนอก เป็นต้น
จุดที่ควรทราบอีกอย่างคือในฤดูร้อนและฤดูหนาวเราจะต้องวางเครื่องปรับอากาศไว้ให้สัตว์ด้วย โดยไปซื้อได้ที่ร้านขายสัตว์ หรือคราฟเอา แต่ซื้อเอาช่วงแรกสะดวกกว่าครับ
ระยะเวลาการคืนทุน (อย่างช้าที่สุด) ของสัตว์แต่ละชนิด
ภาพ | ชื่อ | ระดับเมืองที่ปลด | ราคาซื้อ | ระยะเวลา ผลิตผลผลิต | ราคาขาย(ต่ำสุด) | คืนทุนช้าสุด (วัน) |
---|---|---|---|---|---|---|
Chicken | F | 600 | 1 วัน | 50 | 12 | |
Duck | F | 1,000 | 2 วัน | 100 | 20 | |
Quail | D | 5,000 | 4 วัน | 245 | 81 | |
Peafowl | B | 20,000 | 4 วัน | 1,085 | 74 | |
Luwak | A | 30,000 | 2 วัน | 430 | 140 | |
Cow | F | 2,500 | 1 วัน | 80 | 31 | |
Sheep | F | 2,000 | 2 วัน | 170 | 24 | |
Goat | D | 8,000 | 2 วัน | 210 | 78 | |
Pig | C | 12,000 | 3 วัน | 620 | 61 | |
Liama | B | 15,000 | 4 วัน | 530 | 116 |
*คิดในเคสที่ได้ของระดับคุณภาพต่ำสุด ซึ่งความจริงจะไวกว่านี้ และยังไม่นับการเอาผลผลิตไปแปรรูป
สำหรับการอัปเกรดเล้าสัตว์หลายคนอาจจะหาไม่เจอ เราจะต้องเลือกคำสั่ง Edit Farm Building จากนั้นกด Q หรือ R เลื่อนหาเล้าที่ต้องการ จากนั้นกดที่ Upgrade
วิธีการทำอาหาร
หลังจากที่เราอัปเกรดบ้านในระดับที่ 2 แล้วจะสามารถไปซื้ออุปกรณ์ทำครัวได้ที่ร้านค้าภายในเมือง ซึ่งอุปกรณ์แต่ละชนิดจะสามารถทำอาหารได้แตกต่างกัน โดยตอนทำอาหารของเกมนี้ค่อนข้างสะดวกเลย เราแค่ใส่อาหารไว้ในกล่องไหนก็ได้ และจะสามารถเลือกหยิบมาได้ทั้งหมดเลยเพราะกล่องทั้งหมดเชื่อมถึงกัน
สำหรับการทำอาหารจะมีสองแบบคือทำแบบ Manual คือใส่อาหารไปเอง หรืออีกแบบคือทำตามสูตร ซึ่งถ้าหากว่าเราเคยทำแบบ Manual แล้วอาหารที่เคยทำสูตรจะมาปรากฏอยู่ตรงนี้ หรือหากได้สูตรมาจาก NPC ก็จะมาปรากฏอยู่ในหน้าสูตรเช่นกัน
การตกปลาฉบับสรุป
หลังจากที่เราไปรับเบ็ดมาเรียบร้อยแล้ว เราจะสามารถตกปลาได้ที่แหล่งน้ำต่าง ๆ ของเกม โดยวิธีการตกปลาก็ไม่ยากครับ เพียงแค่กดชาร์จและเหวี่ยงเบ็ดออกไป หลังจากนั้นก็รอปลามาติดเบ็ด โดยเมื่อปลามาติดเบ็ดแล้วสิ่งที่เราต้องทำคือการกดคลิปและ ปล่อย ให้ตรงกับจังหวะ ซึ่งในช่วงที่ปลาสั่นให้เราปล่อยเมาส์ หรือแค่กดเบา ๆ เพื่อเลี้ยงปลาไว้ ไม่ให้สายตึงจนขาด หลังจากปลาอยู่นิ่ง ๆ ก็กดคลิกค้าง เพื่อดึงปลาเข้ามา โดยเมื่อเกจเต็มแล้วเราก็จะจับปลาได้
สิ่งที่ควรทราบในการตกปลา
- คุณภาพของปลาที่เราพบจะขึ้นอยู่กับระดับการฟื้นฟูทะเล ยิ่งฟื้นฟูมากยิ่งมีโอกาสได้ปลาระดับคุณภาพดีขึ้น
- นอกจากการฟื้นฟูทะเลแล้วอีกอย่างที่ส่งผลกับการได้ปลาคุณภาพสูงขึ้นคือเลเวลการตกปลา
- หลังจากที่เราเหวี่ยงเบ็ดแล้วเวลาในเกมจะหยุดจนกว่าเราจะตกปลาตัวนั้น ๆ เสร็จเรียบร้อย
- ยิ่งเราชาร์จเบ็ดนานเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสพบกับปลาขนาดใหญ่มากเท่านั้น โดยสูงสุดคือระดับ 6 หากอัปเกรดเต็ม
- แต่ละฤดูและช่วงเวลารวมถึงสภาพอากาศจะมีปลาพิเศษอยู่ สามารถเช็คได้ในเว็บ wiki
วิธีอัปเกรดอุปกรณ์
สำหรับอุปกรณ์ทุกชนิดยกเว้นสวิงจับแมลงและเบ็ดตกปลา สามารถอัปเกรดได้ที่ร้าน Blacksmith โดยเตรียมแร่และของที่กำหนดไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแม่งเหล็กต่างๆ ไม้ และเงินจำนวนนึงขึ้นอยู่กับระดับ โดยการกดที่ Upgrade Tool ส่วน เบ็ดตกปลาและสวิงจับแมลงสามารถอัปเกรดได้ที่ร้าน Sunny’s Beach Shack ที่ทะเล โดยจะใช้เป็น Essence ระดับต่าง ๆ แทนแร่
การเปิดหีบสมบัติและขุดฟอสซิสรวมถึง Geode
สำหรับสมบัติต่าง ๆ เราสามารถไปทำการเปิดได้ที่ร้าน Blacksmith โดยจะรวมถึง Geode ด้วย แต่สำหรับ Fossil จะต่างกันนิดหน่อย ตรงแทนที่จะเปิดที่ Blacksmith เราจะต้องไปเปิดที่ Lab กับ Lin แทน โดยของที่ได้มาจากกล่องและฟอสซิสอย่างอาติแฟกต์สามารถเอาไปบริจาค Museum ได้หากไม่ซ้ำ หรือหากว่าซ้ำก็เก็บเอาไว้ขายหรือเอนช้านอุปกรณ์ได้ครับ
การอัปเกรดบ้าน
หลังจากเล่นไประยะนึงแล้วเราจะสามารถอัปเกรดบ้านเพิ่มได้ โดยการอัปเกรดบ้านสามารถทำได้ที่ร้านช่างไม้ และเลือก Upgrade House โดยการอัปเกรดบ้านครั้งแรกจะได้ทีวีมา ส่วนการอัปเกรดบ้านครั้งที่ 2 จะทำให้เราทำอาหารได้กับบ้านกว้างขึ้นมาก ส่วนครั้งที่ 3 จะทำให้เราแต่งงานได้และจะได้บ้านชั้นสอง สุดท้ายครั้งที่ 4 จะมีห้องสำหรับลูกทำให้เราสามารถมีลูกภายในเกมได้
การอัปเกรดผลผลิตและวิจัยอุปกรณ์ใหม่ ๆ
การอัปเกรดผลผลิตจะทำให้เรามีโอกาสที่จะได้รับผลลผิตประเภทนั้น ๆ ในระดับที่สูงขึ้น โดยภายในเกมจะแบ่งออกเป็น 4 หมวดคือ
1.เมล็ดพืช – ผลผลิตทุกอย่างที่ใช้เมล็ดปลูก
2.ผลไม้ – ผลผลิตทุกชนิดที่เป็นผลไม้ (ยกเว้นที่ต้องปลูกเป็นต้น)
3.ต้นไม้ – ผลผลิตทุกชนิดที่เป็นต้น (อันนี้จะปลดล็อกช่วงหลังหน่อย)
4.สัตว์ – ผลผลิตจากสัตว์ทุกชนิด
หลังจากอัปเกรดจะทำให้เรามีโอกาสได้ผลผลิตประเภทนั้น ๆ ในระดับดาวสูงขึ้นครับ ทำให้สามารถหาเงินได้เยอะขึ้นมาก ๆ ทั้งนี้การอัปเกรดจะต้องใช้เงินจำนวนนึงและ kelp essence
ในส่วนของการวิจัยอุปกรณ์ใหม่ ๆ ก็สามารถทำได้ในที่เดียวกัน โดยยิ่งเราฟื้นฟูเมืองไปไกลเท่าไหร่ก็จะยิ่งอัปเกรดและวิจัยได้มากเท่านั้น ซึ่งหากเราต้องการจะวิจัยของที่อยู่ทางด้านขวา เราจะต้องวิจัยของที่อยู่ทางด้านซ้ายก่อนไล่ไปตามลำดับครับ โดยของที่มีประโยชน์มาก ๆ เช่น เครื่องเก็บผลผลิตอัตโนมัติที่เราสามารถเอาไปติดให้กับ Sprinkler ได้จะช่วยเราประหยัดเวลามาก ๆ
การตกแต่งบ้าน
เราสามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ข้าง ๆ ร้านขายอุปกรณ์ทำครัว หรือซื้อได้จากงานเทศกาลต่าง ๆ โดยหลังจากทีซื้อแล้วพอเราอยู่บริเวณบ้านให้ทำการกดตัว P เราจะสามารถวางของหรือย้ายของในบ้านได้อย่างอิสระ
ร้านค้าลับ
ในทุกวันอังคาร / พฤหัส / ศุกร์ โดยจะมีตลาดน้ำช่วงเช้า ตรงข้ามร้านกาแฟ และตลาดมืดจะเปิดอยู่บริเวณ แถว Lighthouse โดยสามารถดูรายละเอียดแบบเต็ม ๆ ได้ที่ https://playpost.gg/coral-island-black-market-float-market/ ซึ่งข้อดีคือจะมีของแปลก ๆ มาขาย โดยเฉพาะ Black Market จะมีพวกฟอสซิลต่าง ๆ เผื่อเรายังหาบางชิ้นไม่เจอ ก็อาจจะมีสุ่มมาขายได้ครับ
การย้ายตำแหน่งสิ่งก่อสร้าง
หลังจากที่เราสร้างสิ่งปลูกสร้างไปแล้วอย่างเช่นโรงเลี้ยงสัตว์หรือ Silo แล้วเราอยากจะย้ายสามารถทำได้โดยการเข้าไปที่ร้านช่างไม้ แล้วกดที่ Edit Farm Building จากนั้น คลิกที่สิ่งก่อสร้างที่ต้องการแล้วกด Move โดยจะมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย ซึ่งอีกวิธีในการย้ายคือสร้างไอเทมที่ชื่อว่า Architect desk ซึ่งจะได้สูตรมาหลังจากช่วยพวกยักษ์ครบ 4 ตนแล้ว
วิธี Enchanting อุปกรณ์
ระบบนี้จะปลดหลังจากที่ช่วยพวกยักษ์ออกมาจากภายในเหมืองแล้ว โดยยิ่งช่วยยักษ์ออกมามากยิ่งมีโอกาสได้รับบัฟระดับสูงขึ้น โดยเราจะอัปเกรดอุปกรณ์ทำฟาร์มได้แทบจะทั้งหมด แต่ที่จับแมลงกับเบ็ดตกปลาอัปไม่ได้นะ หลังจากที่เราช่วยยักษ์มาแล้วเค้าจะส่งจดหมายมาให้เราไปหา และเค้าจะสอนการเอนช้านให้ โดยยิ่งอุปกรณ์มีระดับสูงก็จะยิ่งมีรูเยอะ โดยเราจะสามารถสุ่มออฟ พิเศษได้เช่น มีโอกาสเจอไอเทมมากขึ้น หรือ ไม่เสียพลังงานหลังจากใช้(มีโอกาสเล็กน้อย) ฯลฯ ที่ดีมากเลยคือเพิ่มโอกาสดร็อปของนี่แหละครับ ซึ่งการจะเอนช้านเราจะต้องใส่วัตถุดิบคือ Artifact / Fossil หรือ Gem เพื่อเป็นพลังงานในการสุ่ม
อธิบายระบบเควส
เควสเป็นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเกมที่มีมาเสริมเพิ่มความสนุกของเกม โดยในเกมนี้จะแบ่งเควสออกเป็น Quest หลัก และ เควสย่อย ซึ่งเควสหลักส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องของเกมและชะตากรรมของเมือง โดยเราสามารถดูเมนูเควสได้โดยการกดปุ่ม J และสำหรับเควสที่เรารับจากป้ายที่เมืองจะนับเป็นเควสย่อยครับ และเควสที่รับมาที่ป้ายจะมีระยะเวลาจำกัดไว้ หากว่าเราทำไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ หรือ ยกเลิกไปก็ได้ โดยอีกประมาณสองวันเกมจะสุ่มเควสใหม่มาให้ทำ
วิธีการเล่นกับเพื่อน
ณ แพทช์ปัจจุบันที่ Version 1.0 ยังไม่สามารถทำได้ โดยคาดว่าตัวเกมจะสามารถเล่นกับเพื่อนผ่านระบบ Multiplayer ได้ในช่วงปี 2024 ครับ ซึ่งหากสามารถเล่นด้วยกันได้แล้วทาง ผมจะนำมาอัปเดตให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้ง
วิธีการแต่งงานกับนาง/นาย เงือก
ณ แพทช์ 1.0 ยังไม่สามารถแต่งงานกับคนในเมืองเงือกได้ โดยคาดว่าจะสามารถทำได้ในช่วงปี 2024 ในการอัปเดต ใหญ่ครั้งถัดไปครับ
บั๊คเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเจอในการเล่นและการแก้ปัญหา
บัํคพวกนี้อาจจะมีการแก้ไขในอนาคตนะครับ แต่อันนี้สำหรับใครที่เจอ ผมรวมวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นไว้ โดยเป็นบัคที่ตัวผมเองเจอบ่อย โดยมีดังนี้ครับ
1.ถังหมักไม่ทำงานค้าง – เปิดปิดเกม
2.Interface ของเกมหาย – วาร์ปไปที่อื่นแล้วหน้า Interface จะกลับมา
3.NPC ในบ้านหาย – รอให้ไปที่อื่น ไม่ก็ต้องรีเซฟเพื่อรีวันใหม่