หลังจากที่จองตั๋วมาเป็นเดือนในที่สุดตัวกบเองก็ได้มีโอกาสไปดู No Game No Life: Zero ในช่วงวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมาสักที โดยนานๆ ทีจะได้มีโอกาสมารีวิวอนิเมะจอเงินกับเค้าบ้างซึ่งถ้าหากว่าใครยังไม่ได้ดูหรือตัดสินใจอยู่ก็มาลองดูรีวิวกันก่อนได้เลยจ้า
ความเป็นมาของเรื่อง
No Game No Life: Zero เป็นอนิเมฉบับโรงภาพยนต์ที่ได้หยิบเอาเนื้อเรื่องในช่วงหนึ่งของนิยายมาทำเป็นฉบับภาพยนต์ โดยเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับเหตุการ์ณในอดีตอันไกลโพ้นก่อนที่จะดำเนินเรื่องราวในเล่ม 1 ซึ่งตัวอนิเมจะเล่าถึงการกำเนิดโลกที่พวกตัวเอกในภาคหลักอยู่ และความเป็นมาต่างๆ ดังนั้นใครที่ไม่เคยดูอนิเมเรื่องนี้มาก่อนก็สามารถดูรู้เรื่องครับ
สำหรับเนื้อเรื่องของภาคนี้จะพูดถึงตัวเอกของเรื่องที่เป็นเด็กหนุ่มหัวหน้าของกลุ่มมนุษย์ที่ต้องอยู่รอดในดินแดนอันแสนโหดร้าย ทีมีสงครามระหว่างเผ่าพันธ์ปะทุกันอยู่ตลอดเวลาทำให้ต้งใช้ทักษะและความสามารถต่างๆ ในการเอาตัวรดให้ผ่านวิกฤตไปให้ได้ จนชะตากรรมของเค้าก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับเด็กสาวเผ่าเอ็กส์มาคิน่า ที่ถูกแยกออกมาจากฝูงและได้ขอติดตามเค้าเพ่อเรียนรู้ในเรื่องของ “จิตใจ” นั่เนองเป็นเหตุชนวนของเรื่องที่ทำให้เด็กหนุ่มได้กลับมาคิดทบทวนและตัดสินใจที่จะจบสงครามแห่งนี้ลงให้ได้
ความรู้สึกหลังจากที่ได้ดู
สำหรับอนิเมเรื่องนี้ต้องบอกเอาไว้เลยว่าประทับใจมากๆ จริงอยู่ว่าบางจุดอาจจะถูกตัดทอนออกไปจากฉบับนิยาย แต่ในเนื้อหาหลายๆ ส่วนก็ถูกเล่าแทนที่ด้วยภาพที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะการชงเรื่องที่สามารถทำได้ดีมาก ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นไปกับตัวละครได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในบางฉากที่เวลาอ่านนิยายก็ไม่ได้คิดอะไรมากแต่พอถูกทำมาเป็นฉบับอนิเมชั่นแล้วกลับรู้สึกว่ามันมีพลังมากๆ
ตัวหนังแทนที่จะอธิบายถึงสาเหตุของการกระทำของตัวละครด้วยภาพ ที่แม้ว่าจะไม่ได้เล่าออกมาหมดแต่หากมาลองคิดดูก็จะพอเข้าใจได้ครับ ซึ่งถ้าคนที่อ่านนิยายมาก่อนอาจจะไม่ได้งงหรือติดขัดอะไร แต่จากที่ลองคุยกับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ดูก็จะมีสงสัยอยู่บ้างแต่ก็เรียกได้ว่าไม่ได้งงอะไรมากมายขนาดนั้น
ในเรื่องนี้อาจจะมีฉากต่อสู้อยู่ไม่เยอะแต่ทว่าแต่ละฉากที่ต้องมีการปะทะกันทำให้บับคั้นหัวใจของคนดูได้จริงๆ โดยเฉพาะในฉากที่นางเอกจะต้งเอาตัวรอดเพื่อปกป้องสิ่งสำคัญของตัวเองเอาไว้ให้ได้นั้น รับรองว่าคนดูจะต้องมีการเสียน้ำตากันบ้างไม่มากก็น้อยแน่นอนครับ ซึ่งโดยส่วนตัวคนเขียนเองน้ำตาไหลตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว TT
สรุป
งานภาพแจ่ม ฉากต่สู้เจ๋ง นางเอกน่ารัก ไปดูเถอะ 10/10 ยิ่งถ้าเป็นแฟนของเรื่องนี้อยู่แล้วรับรองเลยว่ามันแจ่มจริงๆ (ทั้งนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะ)
