ในเกม Dragon Nest 2: Evolution มีดันเจี้ยน (Dungeons) มากมายที่รอให้ผู้เล่นไปสำรวจตะลุยผ่านด่านจัดการกับมอนสเตอร์และบอส เพื่อล่าของรางวัลและไอเทมต่างๆ โดยตัวดันเจี้ยนก็มีหลากหลายรูปแบบทั้งแบบลงคนเดียวและปาร์ตี้ ในบทความนี้ได้รวบรวมดันเจี้ยนทั้งหมดที่สามารถเข้าไปเล่นได้ในช่วงแรกที่เกมเปิดมาให้แล้ว อ่านจบรู้เลยว่าแต่ละดันเจี้ยนมีความสำคัญยังไง พร้อมลุยในเกมแน่นอน!
Table of contents
ดันเจี้ยน (Dungeons) Forbidden Land
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
เป็นดันเจี้ยนแรกๆ ที่ผู้เล่นจะต้องเจอ เนื่องจากเควสหลักจะพาให้ผู้เล่นลงไปสำรวจดันเจี้ยนประเภทนี้ตั้งแต่ช่วงเลเวลแรกๆ โดยลักษณะของดันเจี้ยนประเภทนี้คือการลงไปตะลุยดันเจี้ยนเพื่อจัดการบอสประจำด่านให้ทันภายในเวลาที่กำหนด
การผ่านแต่ละด่านจะเป็นการสะสมดาว เมื่อเก็บสะสมดาวจนครบ สามารถเปิดกล่องเพื่อรับไอเทมได้ โดยไอเทมที่น่าสนใจก็จะมี ตั๋วอัญเชิญสัตว์เลี้ยง, Glazed Amber เป็นของรางวัล
สำหรับ Forbidden Land เป็นดันเจี้ยนที่สำคัญและควรต้องลงเป็นอันดับต้นๆ พูดง่ายๆ คือ เมื่อเลเวลถึงในด่านนั้นๆ ควรที่จะมาเคลียร์ทันทีเพราะนอกจากการผ่านด่านนอกจากจะได้ค่า EXP และไอเทมต่างๆ แล้ว ยังช่วยเพิ่มขีดจำกัด Stamina ให้ผู้เล่นด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่จะทำให้เราสามารถเก็บเลเวลเพิ่มขึ้นได้ในแต่ละวัน
ดันเจี้ยน (Dungeons) Protection Hero
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
เป็นดันเจี้ยนที่จะปลดล็อคให้เล่นได้ตอนเลเวล 22 สามารถเข้าร่วมได้วันละ 1 ครั้ง สำหรับดันเจี้ยนนี้จะให้เราคอยปกป้อง Crystal จากการโจมตีของมอนสเตอร์ ตัวรางวัลจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือรางวัลรอบที่วัดจากรอบที่เราสามารถผ่านได้และรางวัลอันดับที่ต้องแข่งเพื่อชิงอันดับกับผู้เล่นอื่น
รางวัลรอบ
ก่อนเข้าเล่นสามารถเลือกระดับความยาก/ง่ายได้ โดยหากเลือกเล่นที่ระดับยากจะมีรางวัลเป็น Pet Treasure Map ด้วย
รางวัลอันดับ
ได้รับเป็น Glazed Amber ตามอันดับที่สามารถทำได้ โดยอันดับและรางวัลจะถูกรีเซ็ตทุกวันจันทร์เวลา 4:00 น.
ดันเจี้ยน (Dungeons) Gold Bandit
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
เป็นดันเจี้ยนที่ให้เราเข้าไปจัดการกับมอนสเตอร์ ยิ่งกำจัดได้มาก ก็จะยิ่งได้รางวัลมากขึ้น โดยรางวัลสำหรับดันเจี้ยนนี้จะได้เป็น Gold
แค่เข้าไปจัดการมอนสเตอร์ให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนดก็รับ Gold ไปเลย เป็นดันเจี้ยนที่มีเอาไว้เพื่อฟาร์มเงิน Gold โดยเฉพาะ ไม่ได้เป็นดันเจี้ยนที่มีความสำคัญมากที่จะต้องโฟกัสการลงเป็นลำดับแรกๆ กรณีที่ไม่มีเวลาเล่นในวันนั้นๆ
ดันเจี้ยน Sky Haven
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
ปลดล็อคให้เข้าได้ตอนเลเวล 14 สำหรับดันเจี้ยนนี้เราต้องเข้าไปจัดการกับมอนสเตอร์ให้ทันภายในเวลาที่กำหนด โดยมีรางวัลเป็นขนนกที่เพิ่มค่า Status ให้กับตัวละครของเราได้
ตัวดันเจี้ยนจะมีให้เลือกลงได้ 2 ฝั่งคือ Tower of Night และ Tower of Day แต่ละฝั่งจะสามารถลงได้ทั้งหมด 5 ชั้นระดับความยากจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนชั้น ระดับชั้นจะถูกรีเซ็ตในทุกๆ วัน โดยเราสามารถกด Raid เพื่อผ่านด่านแบบรวดเร็วในชั้นที่เคยเล่นผ่านไปแล้วได้ ดังนั้นแล้วยิ่งจำนวนชั้นที่เราเคลียร์สูงเท่าไหร่ จำนวนขนนกที่ได้รับต่อวันก็จะมากขึ้นตามไปด้วย เป็นดันเจี้ยนที่ต้องเข้ามาลงทุกๆ วัน เพื่อเก็บสะสมขนนกไปอัปเกรดตัวละคร เพราะขนนกนั้นเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มค่าพลังให้กับตัวละคร
ดันเจี้ยน Seal Breaker
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
ปลดล็อคให้เล่นได้ตอนเลเวล 11 เป็นดันเจี้ยนที่ให้เราไปจัดการกับเหล่ามอนสเตอร์ โดยมีรางวัลเป็น Dragon Rune
สามารถลงได้ถึง 43 ชั้น โดยในแต่ละชั้นจะมีความยากที่เพิ่มขึ้นและรางวัลก็จะมากขึ้นเช่นกัน ความคืบหน้าประจำวันจะถูกรีเซ็ตทุกวัน และเราสามารถกด Raid เพื่อผ่านด่านอย่างรวดเร็วในชั้นที่เคยเล่นผ่านมาแล้วได้ ซึ่งของรางวัลที่ได้รับก็คือเจ้า Dragon Rune นี่แหละ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาตัวละคร เพราะมันส่งผลถึงความสามารถของสกิลที่จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละธาตุที่เรามีบน Dragon Rune เป็นดันเจี้ยนที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด
ดันเจี้ยน Treasure
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
เป็นดันเจี้ยนแบบลงคนเดียว สามารถเข้าเล่นได้จากการใช้แผนที่ Pet Treasure Map โดยลักษณะของดันเจี้ยนนี้คือการเข้าจัดการกับมอนสเตอร์ภายในด่านให้ทันภายในเวลาที่กำหนด ซึ่ง Pet Treasuer Map สามารถหาได้จากดันเจี้ยน Protection Hero
เมื่อจัดการสำเร็จก็จะได้รางวัลเป็นสกิลสัตว์เลี้ยงและมีโอกาสได้รับเป็นไข่สัตว์เลี้ยงอีกด้วย
ดันเจี้ยน Abyss
จำนวนผู้เล่น: 1-4 คน
สำหรับดันเจี้ยนนี้สามารถลงได้ทั้งแบบคนเดียวหรือจะลงเป็นปาร์ตี้ก็ได้ ลักษณะของดันเจี้ยนคือการเข้าไปตะลุยมอนสเตอร์ภายในดันเจี้ยนจนถึงบอส เมื่อผ่านได้ก็จะได้รับรางวัลทั้งค่า EXP และไอเทมอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ
ดันเจี้ยน Abyss จะมีสิ่งที่เรียกว่ารางวัลเพิ่มเติมที่จำกัดจำนวนการรับรางวัลอยู่ที่ 2 ครั้งต่อวัน โดยมีรางวัลเป็น Elite Adventurer Medallion เป็นเหรียญที่สามารถนำไปแลกรับกล่องอุปกรณ์สวมใส่ได้ และอีกชิ้นนึงคือ Guild Quest Materials ที่จะสุ่มดรอปวัตถุดิบเควสกิลด์ พยายามเลือกลงดันเจี้ยน Abyss ที่มีระดับสูงที่สุดในวันนั้นๆ เพื่อรับของรางวัลเพิ่มเติมก่อน เมื่อเราลงครบ 2 รอบแล้ว เรายังสามารถลงดันเจี้ยนได้อีกเรื่อยๆ แต่จะไม่ได้รับในส่วน Elite Adventurer Medallion และ Guild Quest Materials แต่ยังคงได้รับอุปกรณ์สวมใส่ และ EXP (กรณีที่ Stamina ยังไม่หมด) อยู่เช่นเดิม กรณีที่เราไม่สามารถผ่านดันเจี้ยน Lair เพราะของสวมใส่ยังดีไม่พอ การมาฟาร์ม Abyss นี้จึงเห
ดันเจี้ยน Lair
จำนวนผู้เล่น: 1-4 คน
เปิดให้เล่นที่เลเวล 35 สามารถลงได้ทั้งแบบคนเดียวและปาร์ตี้ โดยรวมแล้วเป็นดันเจี้ยนที่มีลักษณะคล้ายกับ Abyss แต่ในดันเจี้ยนประเภทนี้จะมีความอยากที่สูงกว่ามาก
เช่นเดียวกันกับดันเจี้ยน Abyss ดันเจี้ยน Lair ก็ดรอปเหรียญ Elite Adventurer Medallion ที่อยู่ในส่วนของรางวัลเพิ่มเติม 2 ครั้งต่อ 1 วันเช่นกัน แต่อุปกรณ์สวมใส่ที่มีโอกาสดรอปใน Lair นั้นจะมีระดับที่สูงกว่า Abyss ดังนั้นพยายามเคลียร์ Lair ให้ได้ภายในวันแรกๆ เพื่อได้ของสวมใส่ดีๆ มาใช้งาน
Tips: สำหรับใครที่ฟาร์มแล้วอุปกรณ์สวมใส่ยังดรอปไม่ครบ สามารถนำ Elite Adventurer Medallion มาแลกรับกล่องอุปกรณ์สวมใส่ได้ในร้านค้าแลก ซึ่งจะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการฟาร์มไปได้เยอะ โดยแนะนำให้เริ่มแลกในช่วงเลเวล 35 ขึ้นไปเพื่อไว้ต่อสู้กับดันเจี้ยน Lair
ดันเจี้ยน Red Moon Fissure
จำนวนผู้เล่น: 1-4 คน
ปลดล็อคให้เล่นเมื่อเลเวล 35 เป็นดันเจี้ยนที่ให้เราออกไปปกป้องเมืองจากการรุกรานของเหล่ามอนสเตอร์
การเข้าเล่นดันเจี้ยนนี้จะต้องใช้ Lunar Protection ในการเข้าเล่น และ Lunar Protection จะรีเซ็ตให้เต็มในทุกๆ วัน ซึ่งเมื่อผ่านระดับที่ 1 (วันที่ 1) ก็สามารถเล่นในระดับถัดไปได้ทันที พยายามเล่นให้ถึงวันที่สูงสุดเท่าที่จะทำได้ แล้วค่อยใช้งาน Lunar Protection ที่มีอยู่ฟาร์มด่านนั้นๆ จนหมด
รางวัลในดันเจี้ยนนี้จะเป็นส่วนของเครื่องประดับต่างๆ รวมถึงหิน Drakonite ที่สามารถนำไปตี+ ส่วนเครื่องประดับได้ ซึ่งนี่เป็นดันเจี้ยนที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะการตีบวกภายใน Dragon Nest 2: Evolution นั้นเราสามารถตีบวกได้เพียงแค่เครื่องประดับเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีรางวัลเป็นเหรียญ Legacy of the Red Moon ที่สามารถนำไปแลก Drakonite ที่ร้านค้า Red Moon ได้
และนี้ก็คือรูปแบบดันเจี้ยนทั้งหมดที่เราจะได้พบเจอกันในช่วงแรกของเกม จะเห็นได้ว่าในดันเจี้ยนแต่ละแบบจะเน้นการให้รางวัลเป็นไอเทมที่ช่วยพัฒนาตัวละครของเรา ถ้าหากต้องการจะพัฒนาตัวละครให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วแล้วล่ะก็ การลงดันเจี้ยนพวกนี้ถือเป็นสิ่งที่ห้ามพลาด และควรต้องเข้ามาเคลียร์เป็นอันดับต้นๆ เลยล่ะ
สรุปความสำคัญในการลงในแต่ละดันเจี้ยน
| ชื่อดันเจี้ยน | ระดับความสำคัญ |
|---|---|
| ดันเจี้ยน Forbidden Land | มาก (ลงเคลียร์ 1 ครั้งเพื่อปลดล็อค Stamina Cap) |
| ดันเจี้ยน Protection Hero | ปานกลาง |
| ดันเจี้ยน Gold Bandit | น้อย |
| ดันเจี้ยน Sky Haven | มาก |
| ดันเจี้ยน Seal Breaker | มาก |
| ดันเจี้ยน Treasure | ปานกลาง |
| ดันเจี้ยน Abyss | มาก |
| ดันเจี้ยน Lair | มาก |
| ดันเจี้ยน Red Moon Fissure | มาก |
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ!
สามารถเข้าร่วมกลุ่มผู้เล่นได้ที่: Dragon Nest 2 Evolution Thailand
 ต่างๆ ของ Dragon Nest 2: Evolution กันก่อนว่ามีดันเจี้ยนอะไนบ้าง และลงแล้วได้อะไรเป็นของตอบแทน){kind=link}