Stardew Valley แตกต่างจากเกมทำฟาร์มอื่นๆ ทั่วไปตรงที่มีการแอบใส่เป้าหมายในการเล่นมาให้ด้วย นอกเหนือไปจากระยะเวลาที่จะหยุดเล่น 3-4 ปีเหมือนกับเกมอื่นๆ ซึ่งในที่นี้ก็ไม่พ้นเควสต่างๆ และการบูรณะ Community Center หรือเข้าร่วมกับทาง Joja Mart เพื่อซ่อมแซมตัวเมืองนั่นเอง
คุณจะไปทางไหนระหว่างสาย Community กับ Joja
ระหว่างเลือกเล่นทาง Community Center (หลังจากนี้จะเรียกย่อว่า CC นะจ๊ะ) กับเป็นสมาชิกของ Joja mart จะเอาอะไรดี? หมาเชื่อว่าหลายคนคงเคยคิดไม่ตก ปวดเศียรเวียนเกล้ากันมาแล้วกับตัวเลือกนี้
วันนี้ก็เลยจะมาอธิบายถึงข้อดีข้อเสียของทางเลือกทั้งสองแบบให้ฟัง ทั้งนี้จะไม่ขอกล่าวเจาะลึกในแง่ของรายละเอียดยิบๆ แบบที่เคย เพื่อให้เป็นอรรถรสในการเล่นของผู้เล่น โดยเฉพาะตอนที่ทำฝั่งใดฝั่งหนึ่งสำเร็จ ไม่ต้องถามหา ไม่มีสปอลย์ให้นะจ๊ะ แต่ถ้าชอบเก็บสะสม Achievement ก็ขอแนะนำให้เล่น 2 save และเล่นคนละสายจ๊ะ
*คำเตือน : เนื่องจากผู้พัฒนาเกมไม่ได้ป้องกันเอาไว้ ดังนั้นถ้าเลือกสาย Community Center แล้ว ไม่ควรไปเป็นสมาชิกของ Joja mart น่อเพื่อป้องกัน bug ที่อาจจะเกิดขึ้นได้*
ข้อดีของการมาทางสาย CC
– มีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่องมากกว่า เรียกว่าเป็นทางเลือกหลักของผู้เล่นที่ผู้พัฒนาเกมตั้งใจให้ผู้เล่นเลือกเลยทีเดียว
– ผู้เล่นจะได้เรียนรู้จักกับตัวเกมไปพร้อมกับการฟื้นฟูสภาพของ CC นี้
– ประหยัดเงินที่ต้องใช้ในการซ่อมแซมสิ่งต่างๆ มากกว่าสาย Joja
– มีของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ตอบแทนหลังจากที่ทำ bundle ต่างๆแล้ว
ข้อเสียของการมาทางสาย CC
– การแก้ไข bundle ต่างๆ ต้องใช้เวลามาก ของบางอย่างบังคับปีที่สองก็มี
– ต้องใช้ของหลากหลายชนิดมาก ผู้เล่นใหม่อาจจะมีปัญหาไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรหาที่ไหนได้ง่าย
– ตำแหน่งของชาวเมืองในแต่ละวันจะเปลี่ยนไปบ้างเมื่อ CC ทำการบูรณะเสร็จสิ้น
– Joja mart จะปิดตัวลงและร้านของปิแอร์จะขายทุกวันแทนในเวลาเดิม (Joja mart เปิดถึง 5 ทุ่มจ๊ะ ดังนั้นพอจะเรียกเป็นข้อเสียได้)
ข้อดีของการมาทางสาย Joja
– ใช้แค่เงินเท่านั้นในการซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ในเมือง มีอิสระมากกว่าในการทำเล่นโดยไม่ถูกบังคับจากของต่างๆ ที่ต้องใช้ทำ bundle
– ตำแหน่งของชาวเมืองจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลังซ่อมทุกอย่างเสร็จ
– ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อตัวเกมหลังซ่อมเสร็จ ผู้เล่นจะสามารถยึดกับข้อมูลเดิมได้เหมือนตอนที่ยังซ่อมไม่เสร็จ
ข้อเสียของการมาทางสาย Joja
– ตัวเกมไม่ได้ทำเนื้อเรื่องรองรับไว้ ทำให้อาจจะขาดอรรถรสไปอย่างมากได้เมื่อเทียบกับสาย CC
– ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อซ่อมสิ่งต่างๆ ไม่ได้แยกย่อยเป็นส่วนเล็กๆ ทำให้มีปัญหาการบริหารเงินได้
– ของหลายอย่างใน bundle สามารถทำได้ง่ายกว่าการสะสมเงินก้อนในช่วงต้นเกมมาก
– ไม่ได้รับของแถมเล็กๆ น้อยๆ จากการซ่อมสิ่งต่างๆสำเร็จเหมือน bundle ของ CC
การเล่นของคุณ เลือกได้ตามใจ
จะเห็นได้ว่าเนื่องจากตัวเกมไม่ได้ทำมาบังคับและทำเนื้อเรื่องรองรับต่างๆ ไว้มากเพียงพอ ทำให้ผู้เล่นมีอิสระเต็มที่ในการเลือกไปทางสายไหนก็ได้ ซึ่งหากสรุปแล้วจะต่างกันตรงที่
– สาย CC จะรู้สึกมีส่วนร่วมกับเกมมากกว่า แต่จะถูกจำกัดให้ต้องวางแผนล่วงหน้าในการเก็บสะสมของต่างๆ
– สาย Joja จะมีอิสระในการเล่นที่มากกว่า แต่จะรู้สึกเหวงๆ เหมือนขาดอะไรในเกมไปซักอย่าง
สาย CC จึงเหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่, ผู้เล่นที่ชื่นชอบเนื้อเรื่องเพิ่มเติมและคนที่ชอบเก็บสะสมของต่างๆ มากกว่า ในขณะที่สาย Joja ก็จะเหมาะกับผู้เล่นที่มีประสบการณ์ในเกมแล้ว หรือชอบเล่นเพลินๆ ไม่ถูกอะไรมาผูกมัดพิเศษเช่นของตามฤดูกาล เน้นทางเล่นชิลๆ
ซึ่งนอกจากใน event ที่มีแล้ว ความสัมพันธ์ต่างๆของชาวเมืองจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด และไม่มีผลกระทบอะไรพิเศษไม่ว่าจะเลือกฝั่งไหน ต่อให้ผู้เล่นเลือกสาย Joja ก็ไม่ได้ทำให้บ้านปิแอร์เกลียดขี้หน้าเราแต่อย่างใด รวมถึงข่าวลือที่ว่าถ้าเลือกทาง Joja แล้วจะโดนยึดบ้านหลังจากปีที่ 3 ก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดนะจ๊ะ (คาดว่าลือกันเพราะแปลผิดจากการที่ Joja ใช้ CC เป็นโกดังเก็บของมากกว่า)
ดังนั้นผู้เล่นเลือกสายการเล่นได้อย่างสบายใจได้เลยจ้า ไม่ต้องกลัวว่าเลือกสาย Joja แล้วจะเป็นคนไม่ดี หรือเล่นสาย CC แล้วจะยากเกินไปไหม
