วันศุกร์, มกราคม 10, 2025
หน้าแรกPC Guide ทำความรู้จักกับการต่อสู้และวิธีตะลุยเหมือง

[Stardew Valley] ทำความรู้จักกับการต่อสู้และวิธีตะลุยเหมือง

แม้ว่า Stardew Valley จะมีแรงบรรดาลใจมาจาก Harvest Moon แต่ก็ได้เพิ่มระบบต่างๆ ที่ไม่มีลงไปด้วย ในที่นี้หมาก็จะมาแนะนำถึงวิธีการต่อสู้และเอาตัวรอดในเหมือง ที่นอกจากเราจะต้องคอยขุดหาแร่จากก้อนหินต่างๆแล้ว ยังต้องมานั่งพะวงกับสัตว์ประหลาดที่จะส่งเราลงไปนอนกองให้คุณหมอเดือดร้อนได้อีก

arti004_monster_fight_sถล่มเหมือง 101

การต่อสู้ในเกมนี้ออกแนวที่เข้าใจง่าย หันหน้าหรือเล็งไปทางไหนเกมก็จะโจมตีด้วยอาวุธที่เลือกไว้อยู่เหมือนกับการใช้อุปกรณ์ทำไร่ทำสวนต่างๆ เรียกว่าปลูกผักพรวนดินมายังไง ตีมอนก็เปลี่ยนเป็นอาวุธแล้วโชะกันอย่างนั้นเลยทีเดียว

ตัวอาวุธเองก็ยังมีให้เลือกใช้หลักๆถึง 4 ชนิดด้วย แบ่งเป็น

  • ดาบ (Sword) – โจมตีด้วยการฟันกวาดเป็นวงกว้างด้านหน้า เมื่อคลิ๊กขวาจะทำการยกขึ้นมาป้องกันได้ชั่วขณะ
  • กระบอง/ค้อน (Mace) – โจมตีด้วยการฟาดเป็นวงกว้าง ช้ากว่าดาบแต่รุนแรงกว่า เมื่อคลิ๊กขวาจะทำการทุบโจมตีอย่างรุนแรง
  • มีด (Dagger) – โจมตีด้วยการแทงอย่างรวดเร็วมาก รัศมีแคบสุดๆ เมื่อคลิ๊กขวาจะทำการโจมตีเป็นชุดอย่างรวดเร็ว
  • หนังสติ๊ก (Slingshot) – อาวุธระยะไกล เมื่อทำการใช้ต้องบรรจุลูกกระสุนเช่นก้อนหิน เสียก่อน โจมตีด้วยใช้เคอร์เซอร์เม้าท์ลากไปด้านตรงข้ามกับทิศที่จะยิง อ๊ะแหม่จะสมจริงไปไหน

ผู้เล่นจะได้รับดาบผุๆมาจาก Marlon เจ้าของสมาคมนักผจญภัยในครั้งแรกที่เดินเข้าไปในเหมืองไว้หัดป้องกันตัวจ๊ะ อาวุธอื่นๆที่ดีกว่านั้นจะสามารถหาซื้อได้เมื่อผู้เล่นลงไปถึงชั้นที่กำหนดในเหมือง, ได้จากหีบสมบัติ หรืออาจจะได้จากศัตรูและลังไม้ตามทางก็ได้

เราจะต่อสู้กับศัตรูต่างๆได้ในเหมืองเป็นหลัก ซึ่งก็มีอยู่สองแห่งนั่นคือเหมืองแร่กับเหมืองกระโหลก (เหมืองทะเลทราย)

arti004_minemap_s
สำหรับเหมืองแร่นั้นจะอยู่บริเวณด้านบนขวาของเมือง ในตอนแรกจะมีดินถล่มกั้นทางอยู่ไม่สามารถเข้าได้ จนเมื่อเวลาในเกมผ่านไปถึงวันที่ 5 จะมีจดหมายส่งมาบอกว่า ทีมงานของ Joja ทำการซ่อมแซมให้เข้าได้แล้ว ก็เป็นอันว่าเราสามารถเข้าเหมืองแร่ได้แล้ว ซึ่งจะเป็นเหมืองหลักที่เราหากินในตอนแรกกันเต็มที่

แม้จะยังไม่เกี่ยวในบทความนี้ แต่โชว์ตัวป้า Pam กันหน่อย
แม้จะยังไม่เกี่ยวในบทความนี้ แต่โชว์ตัวป้า Pam กันหน่อย

ส่วนเหมืองกระโหลกนั้น ผู้เล่นจำเป็นจะต้องทำการซ่อมรสประจำทางเสียก่อน โดยอ้างอิงจาก Vault Bundle ของ Community Center (รวม 50000g) หรือถ้าใครมาทางสายสมาชิก Joja ก็จะเลือกซ่อมตรงๆได้เลยในราคารวดเดียว 45000g) จากนั้นในวันรุ่งขึ้นก็จะสามารถซื้อตั๋วให้ป้า Pam ขับไปส่งที่ทะเลทรายได้ ตัวเหมืองจะอยู่บริเวณด้านบนซ้ายติดกับบ่อน้ำ แต่การจะผ่านประตูเข้าไปได้นั้นจำเป็นจะต้องมีกุญแจหัวกระโหลกที่ได้จากการไปถึงชั้นที่ 120 ของเหมืองแร่เสียก่อนด้วย แอบลัดขั้นตอนไม่ได้นะจ๊ะ

 

arti004_mineentrace

เริ่มต้นขุดเหมือง

เมื่อเตรียม pickaxe (ที่ขุดหิน)และอาวุธพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาลงเหมือง ในเหมืองแร่นั้นจะมีทางลงสองทาง นั่นคือบันไดที่ลงได้ทีละชั้นกับลิฟท์ที่จะลงได้ทีละ 5 ชั้นตามที่เคยไปถึง แต่ทว่า เมื่อเราเข้ามาในเหมืองครั้งแรกจะยังใช้งานไม่ได้ จนกว่าเราจะลงไปถึงทุกๆ 5 ชั้นก่อน ลิฟท์ประจำชั้นนั้นๆถึงจะเปิดใช้งานให้เราขึ้น-ลงได้สะดวกๆ

ข้อควรระวัง! :  เมื่อผู้เล่นตัดสินใจจะปีนบันได้ย้อนกลับขึ้นไปด้านบนเมื่อไหร่ ชั้นที่เคยผ่านมาแล้วจะทำการสุ่มใหม่ทันทีและผู้เล่นจะต้องเริ่มลงมาทีละชั้นเช่นเดิม ลิฟท์จึงเป็นจุดสำคัญในการพิชิตเหมืองแร่แห่งนี้มาก

การขุดเหมืองนั้นจะต่างกับสมัย Harvest Moon ที่เราขุดดินไปเรื่อยๆ สำหรับ Stardew Valley นั้นเราจะทำการขุดก้อนหินตามทางแทน โดยเมื่อเราทำการเจาะหินแต่ละก้อนนั้น จะมีโอกาสที่จะไม่ได้อะไรเลย ได้หิน หรือได้เศษแร่ต่างๆรวมถึงแร่ดิบ (Geode) รวมถึงการเจอบันไดลงไปชั้นต่อไป นอกจากนี้ผู้เล่นอาจจะเจอสินแร่ต่างๆทั้งอัญมณี ทองแดง เหล็ก ทองคำ ปะปนอยู่ในกองหินหรือเกาะกลุ่มกันเป็นสายแร่ให้ผู้เล่นได้แสวงโชคกันได้อย่างเต็มที่ เรียกว่าเจอทีนึงก็ยิ้มร่ากันได้เลย

 

ลังไม้ตามทางก็ทำลายเพื่อเก็บของข้างในได้นะเอ้อ
ลังไม้ตามทางก็ทำลายเพื่อเก็บของข้างในได้นะเอ้อ

การจะเดินทางลึกลงไปในเหมืองนั้น จึงเป็นการบังคับกลายๆให้ผู้เล่นทำการขุดเจาะก้อนหินต่างๆจนกว่าจะเจอบันไดลงชั้นต่อไป แต่ ผู้เล่นอาจจะโชคดีเจอบันไดที่ให้เห็นได้โดยไม่ต้องเสียเวลาขุดหิน หรือแม้แต่การกำจัดศัตรู ก็จะมีโอกาสที่จะเจอบันไดไปชั้นต่อไปได้เช่นกัน~

ข้อควรระวัง! เมื่อผู้เล่นโดนโจมตีจนพลังชีวิตหมดในเหมือง จะทำให้โดนติดโทษ ของในตัวบางส่วนจะหายไปและจำนวนชั้นในเหมืองที่เคยลงไปได้สูงสุดจะลดลงแบบสุ่ม (5~11 ชั้นแล้วแต่บุญแต่กรรม) ซึ่งหากเคยมีลิฟท์ไปถึงชั้นเหล่านั้นแล้ว ลิฟท์จะใช้งานไม่ได้จนกว่าจะย้อนลงไปใหม่!!! (การที่สลบเพราะถึงเวลาตีสองก่อนจะไม่นับการติดโทษจ๊ะ)

 

ความแตกต่างของเหมืองแต่ละช่วง

ผู้พัฒนาเกมกลัวผู้เล่นจะเบื่อก็ได้ใส่ลูกเล่นเพิ่มเติม ด้วยการแบ่งระดับชั้นของเหมืองให้มีหลายรูปแบบเป็นจุดสังเกตุไปอีกด้วย นอกจากจะทำให้เกิดความแปลกใหม่แล้วยังทำให้ศัตรูที่เรามีโอกาสได้เจอในชั้นนั้นๆ แตกต่างไปรวมถึงสินแร่หลักๆของชั้นนั้นเปลี่ยนไป ซึ่งหมาจะขอแยกเป็นกลุ่มๆดังนี้

arti004_mine_layer_01_s
กลุ่มชั้นที่ 1-40 – เหมืองดิน (แร่หลักคือทองแดง)
ชั้นที่ 1-9 : เหมืองแร่ดิน ง่ายและเดินเล่นได้สะดวก
ชั้นที่ 10-29 : สวนใต้ดิน จะมีวัชพืชและรากไม้แทรกเต็มไปหมดในแต่ละจุด ชั้นนี้จะมีแมลงรบกวนค่อนข้างมาก
ชั้นที่ 30-39 : เหมืองหินมืด เป็นระยะชั้นของเหมืองระดับเดียวที่มีความมืดมาก ผู้เล่นใหม่จำเป็นจะต้องสร้างคบเพลิงมาช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆในเหมือง ผู้เล่นที่โชคดีอาจจะหาแหวน Grow Ring มาใส่เพื่อลดความลำบากในการวางคบไฟได้
*ในชั้นที่ 20 จะเป็นบ่อตกปลาใต้ดิน ปลาประจำชั้นนี้คือ Stonefish ที่พบเจอได้ค่อนข้างง่าย และมีราคาสูงถึง 300g หน้ำซ้ำยังจับได้ง่ายอีก เป็นจุดหาเงินที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว*

 

arti004_mine_layer_02_s
กลุ่มชั้นที่ 1-40 – เหมืองหิมะ (แร่หลักคือเหล็ก มีผลึกแก้วให้ทุบเล่น)
ชั้นที่ 41-69 : เหมืองหิมะ สีขาวสบายตา ในระดับเหมืองนี้ผู้เล่นจะเจอศัตรูที่เป็นฝุ่นสีดำกระโดดไปมา เป็นศัตรูที่สู้ง่ายและใช้เป็นแหล่งหาถ่านได้เป็นอย่างดี
ชั้นที่ 70-79 : ปราสาทหิมะ ลักษณะของตัวเหมืองจะเปลี่ยนไปเหมือนเดินภายในปราสาท ศัตรูที่เพิ่มมาจะเป็นโครงกระดูกที่โจมตีระยะไกลได้เป็นบางครั้งด้วยและถึกพอสมควร
*ในชั้นที่ 60 จะมีบ่อตกปลน้ำแข็ง ปลาประจำชั้นนี้คือ Ice pip ซึ่งหาตัวได้ยากพอควรและมีราคาถึง 600g แต่ความดื้อของมันเกินร้อย*

 

arti004_mine_raid_s
กลุ่มชั้นที่ 80-120 – เหมืองลาวา (แร่หลักคือทอง)
ชั้นที่ 81-89 : เหมืองลาวาใต้ดิน ศัตรูในระดับชั้นลาวานี้จะโจมตีรุนแรงและมีพลังชีวิตที่สูงมาก
ชั้นที่ 91-109 : เหมืองสวนลาวา แม้จะน่าแปลกแต่ก็จะมีวัชพืชสีม่วงที่ไม่ต่างอะไรจากสีเขียวขึ้นเกะกะทางเดินอยู่บ้าง
ชั้นที่ 110-119 : เหมืองหินลาวา แม้จะไม่ต่างกับชั้นก่อนๆแต่จะไม่มีวัชพืชมาเกะกะทางเดินแล้ว ผู้เล่นจะพบก้อนหินเยอะกว่ามาก
*ชั้นที่ 100 จะมีบ่อตกปลาลาวา ปลาประจำชั้นนี้คือ Lava Eel ที่หาตัวยากมาก ค่าตัวสูงลิ่วถึง 900g และแน่นอน เหวี่ยงยิ่งกว่าช้างตกมันอีก*

ระหว่างที่เดินเล่นในเหมืองนั้นผู้เล่นอาจจะเจอกระเป๋าหรือรถเข็นในเหมืองบ้างในบางชั้น เมื่อทำการสำรวจจะทำให้เราได้รับถ่านมาเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามกระเป๋าและรถเข็นที่ถูกสำรวจแล้วจะไม่สามารถสำรวจได้อีก เมื่อเราเดินทางมายังชั้นที่เคยเจอแล้วแต่อย่างใด ถ้าแวะมาที่ชั้นเดิมอีกก็ไม่ต้องเสียเวลาวิ่งไปสำรวจแต่อย่างใดจ๊ะ

 

ขอขอบคุณภาพจากทาง wiki เนื่องจากผู้เขียนวิ่งหาแล้วไม่เจอจนจะปิดงานแล้วก็ยังไม่เจอ อ๊ากกกก
ขอขอบคุณภาพจากทาง wiki เนื่องจากผู้เขียนวิ่งหาแล้วไม่เจอจนจะปิดงานแล้วก็ยังไม่เจอ อ๊ากกกก

ในบางครั้งผู้เล่นอาจจะโชคดี(หรือร้าย)เจอชั้นที่กลายเป็นสีเขียวหรือเรียกว่า Overrun โดยในชั้นนี้จะมีแต่ศัตรูและไม่มีก้อนหินให้ขุดแม้แต่ก้อนเดียว ผู้เล่นที่ต้องการผ่านชั้นนี้ไปนั้นจะต้องทำการกำจัดศัตรูทั้งหมดในชั้นนั้นเสียก่อน บันไดไปชั้นต่อไปถึงจะปรากฎออกมา ซึ่งอาจจะปรากฎที่ทางที่เราลงมาหรือตรงจุดที่เรากำจัดศํตรูตัวสุดท้ายก็ได้

นอกจากผู้เล่นจะปลดล๊อคลิฟท์ในทุกๆ 5 ชั้นเพื่อย่นระยะเวลาสำรวจภายหลังแล้ว เมื่อผู้เล่นเดินทางลงไปถึงทุกๆ 10 ชั้นในเหมืองแร่นี้จะได้รับรางวัลเป็นหีบสมบัติประจำชั้นนั้นๆ สำหรับช่วยเหลือการเดินทางลึกลงไปในชั้นต่อๆไปได้อีกด้วย

 

เทคนิคการพิชิตเหมืองแร่

การจะบุกตะลุยเหมืองในเวลาที่จำกัดจำเขี่ยต่อวันรวดเดียวให้จบนั้นเป็นไปไม่ได้แน่ๆ รวมถึงระดับความยากของศัตรูที่มากขึ้นเรื่อยๆและพลังงานที่ไม่เพียงพอ ทำให้ผู้เล่นต้องแบ่งเวลาและพลังงานให้เหมาะสมในการค่อยๆพิชิตเหมืองแร่ทีละนิดๆ ในที่นี้หมาก็จะขอแนะนำวิธีการง่ายๆโดยอาศัยหลักวันละ 5 ชั้นตั้งแต่บ่าย

ลิฟฟ์เป็นสิ่งสำคัญในการกลับมาพิชิตเหมืองแร่
ลิฟท์เป็นสิ่งสำคัญในการกลับมาพิชิตเหมืองแร่

นั่นคือพยายามจัดเวลาเคลียร์งานในสวนและงานจิปาถะให้เรียบร้อยเสียก่อนจะถึงเวลาบ่ายแก่ๆ เสร็จก่อนช่วงบ่าย 2 บ่าย 3 จะทำให้เรามีเวลาเพียงพอที่จะตะลุยเหมืองพอสมควร และการตะลุยนั้นจะมีความหมายค่อนข้างตรงตัวคือ เราจะขุดสินแร่เฉพาะที่เราเห็นพอดี แต่จะไม่ไล่ขุดให้หมดเกลี้ยง ทลายหินเจอบันไดปุ๊บให้ลงไปชั้นต่อไปเลย อาศัยการยึดเป้าหมายว่าเราจะต้องไปถึงลิฟท์ตัวต่อไปให้ได้ก่อนจะดึกเกินไป ไปไม่สำเร็จหรือไม่เหลือเวลากลับบ้านจนน๊อคกลางทางนั่นเอง

การเตรียมตัวลงเหมืองก็ไม่มีอะไรมากนัก กระเป๋าระดับ 2000g (สองแถว) ก็เพียงพอแล้ว มีอาหารฟื้นฟูพลังงานและเลือดติดไปซักหน่อย เช่น Salmon berry ซักกองหรือยอมซื้อ Salad มาซัก 1-2 จานเวลาจวนตัวก็ได้จ๊ะ ถ้าช่องเก็บของเต็มอาจจะต้องยอมทิ้งของซักหน่อย ก็ไล่จากของที่ไม่ค่อยได้ใช้อย่าง Fiber หรือ Monster Meat, Slime พวกนี้ไปก่อนก็ได้ ที่สำคัญคือควรมีหินติดตัวไว้ซัก 100 ก้อนเสมอ เมื่อเจอปัญหาฉุกเฉินจริงๆจะได้สร้างบันได(Staircase)เพื่อเผ่นลงไปชั้นต่อไป – หนีออกจากเหมืองได้ (ทำการวางบันได ลงไปชั้นต่อไปแล้วกลับขึ้นมาทันที)

arti004_mine_raid_s
เมื่อหมอกลง เพลงจะเปลี่ยนเป็นเสียงลมชวนหลอนทันที!

สิ่งที่เป็นอันตรายจริงๆในเหมืองคือช่วงที่มีหมอกสีต่างๆมาปกคลุมชั่วคราวต่างหาก โดยอาการนี้จะเกิดขึ้นแบบสุ่ม เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เกมจะทำการสร้างศัตรูชนิดบินได้ของระดับชั้นนั้นๆเข้ามาโจมตีผู้เล่นอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก เมื่อผู้เล่นกำจัดได้หมดหรือหนีไปชั้นอื่นก็จะหายไป แม้ว่าในชั้นแรกๆอาจจะไม่อันตรายนัก แต่หากเผลอก็อาจจะลงไปนอนโรงหมอได้เหมือนกัน การที่แนะนำให้พกหินติดตัวไปด้วยข้างต้นจึงมีไว้เผื่อสำหรับการนี้ส่วนหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะทำการไล่ขุดหาแร่ก่อนหรือจะพิชิตเหมืองก่อนก็ได้ โดยถ้าตั้งใจหาแร่ก่อน ก็จะทำให้เราหาแร่ที่ต้องการได้มากกว่า ในขณะที่การพิชิตเหมืองก่อนก็จะทำให้เรามีของช่วยรับมือศัตรูในเหมืองได้ดีขึ้น

 

ทักษะที่เกี่ยวข้องกับการขุดเหมืองและการต่อสู้

ทักษะทั้ง 5 อย่างที่ผู้เล่นมีติดตัวและสามารถ up level ได้นั้น ในส่วนของทักษะที่ผู้เล่นลงเหมืองแล้วจะได้รับมาก็จะมี Mining (การขุดเหมือง) และ Fighting (การต่อสู้) เป็นหลัก แต่ละทักษะก็จะมีให้เลือกสายแยกไปอีกสองสามย่อยที่เลเวล 5 และ 10 ตามลำดับกันไป เมื่อเลือกสายหนึ่งแล้วก็จะสลับไปอีกสายหนึ่งไม่ได้ ดังนั้นเลือกให้ตรงกับที่ตัวเองต้องการดีๆล่ะ

arti004_mine_skill_s
Mining – จะทำให้เราเสียพลังงานในการขุดหินน้อยลงเล็กน้อยต่อเลเวล จะได้ค่าประสบการณ์เมื่อเราขุดหินหรือสินแร่ต่างๆ (ระเบิดไม่นับจ๊ะ)
Miner (level 5) : ทำให้เวลาเราขุดสินแร่ทองแดง เหล็ก ทองหรืออิริเดี่ยม จะได้รับแร่นั้นๆเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน 1 ชิ้น
Blacksmith (level 10) : ทำให้เราสามารถขายแร่ที่หลอมเป็นแท่งแล้วได้แพงขึ้น 25%
Prospector (level 10) : ทำให้เรามีโอกาสสุ่มได้รับถ่านจากการขุดหินเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

Geologist (level 5) : ทำให้เรามีโอกาสได้รับแร่ดิบ Geode ทุกชนิดทีละ 2 ชิ้นบ่อยขึ้นมาก
Excavator (level 10) : เพิ่มโอกาสในการที่เราขุดหินแล้วจะได้รับ Geode ต่างๆเป็นเท่าตัว
Gemologist  (level 10) : ขายอัญมณี (Mineral) ต่างๆได้แพงขึ้น 30%

 

Fighting – ช่วยเพิ่มพลังชีวิตของเรา 5 หน่วยต่อเลเวล จะได้รับค่าประสบการณ์เมื่อเรากำจัดศัตรูได้
Fighter (level 5) : เพิ่มพลังชีวิตให้ 15 หน่วยและเพิ่มพลังโจมตีให้อีก 10%
Brute (level 10) : เพิ่มพลังโจมตีขึ้นไปอีก 15%
Defender (level 10) : เพิ่มพลังชีวิตขึ้นไปอีก 25 หน่วย

Scout (level 5) : มีโอกาสโจมตีติดคริติคอลมากขึ้น 50% (ไม่ใช่โจมตีไปมีโอกาส 50% ที่จะติดคริติคอลนะจ๊ะ อย่าเข้าใจผิดล่ะ))
Acrobat (level 10) : ทำให้ต้องรอเวลาที่จะใช้ท่าพิเศษจากการคลิ๊กขวาน้อยลงครึ่งหนึ่ง สามารถใช้ได้ต่อเนื่องมากขึ้น
Desperado (level 10) : เมื่อเราโจมตีติดคริติคอลจะมีความรุนแรงมากขึ้นเป็น 10 เท่า (จากเดิม 2 เท่า)

ถ้าว่ากันตรงๆแล้ว แนะนำค่อนข้างยากเพราะสายเหมืองกับสายต่อสู้นี้ผู้สร้างเกมได้แยกกลุ่มไว้เป็นแนวทางความชอบเลยจริงๆ เช่นสาย Miner จะเน้นทางความมั่นใจในการได้รับแร่ที่เยอะขึ้น ในขณะที่สาย Geologist จะเหมาะกับคนที่ชอบเสี่ยงโชค
ในทางเดียวกันสาย Fighter ก็เช่นกัน ผู้เล่นจะได้รับค่าพลังเป็นหน่วยชัดเจน ส่วนสาย Scout จะได้ความระทึกที่ได้เห็นตัวเละสวยๆเด้งมาทีเดียวศัตรูสลายเป็นวุ้นไป ดังนั้นหมาก็คงได้แต่แนะนำว่าให้เลือกตามที่ตัวเราชอบจริงๆจะดีกว่าจ๊ะ ต่อให้เทียบกับเพื่อนแล้วดูด้อยกว่าแต่การได้เล่นอะไรที่เราชอบจริงๆ เป็นสิ่งที่ทำให้เราสนุกกับเกมมากกว่าเยอะ

 

ภารกิจการล่าของนักผจญภัย

arti004_guild_s
หลังจากที่ Marlon มอบดาบให้กับเราแล้ว เราจะสามารถเข้ามาเยี่ยมลุงแกได้อีกในสมาคมนักผจญภัย (เปิด 2pm-10pm) โดยเขาจะขายอาวุธและเครื่องป้องกันต่างๆให้กับเรา ส่วนกระดาษที่แปะกับเสาข้างๆจะมีแจ้งประกาศภารกิจกำจัดศัตรูอยู่

arti004_monster_board_s
ในประกาศจะมีแจ้งศัตรูต่างๆที่เราต้องกำจัดให้ทราบ (ช่วยกันทำให้ที่นี่ปลอดภัยเถอะ) ซึ่งจะแสดงเป็น จำนวนที่เรากำจัดไปแล้ว / จำนวนที่ต้องการ หากเรากำจัดศัตรูที่กำหนดได้ตามในใบประกาศนี้แล้ว จะสามารถรับรางวัลได้กับ Gil ที่นั่งม้าโยกอยู่ข้างๆได้ และ Marlon เองก็จะขายของชนิดเดียวกันเผื่อกรณีผู้เล่นต้องการอีกชิ้นหรือทำหายได้

ของรางวัลที่เราจะได้เมื่อกำจัดศัตรูถึงที่กำหนด
ของรางวัลที่เราจะได้เมื่อกำจัดศัตรูถึงที่กำหนด

Slime Charmer Ring – ทำให้สไลม์โจมตีเราไม่ได้ และไม่ติดสถานะหนืดจากสไลม์
Savage Ring – เมื่อกำจัดศัตรูได้ เราจะวิ่งเร็วขึ้น 2 วินาที
Vampire Ring – เมื่อกำจัดศัตรูได้ เราจะได้รับพลังชีวิตกลับมาเล็กน้อย
Skeleton Mask – หมวกใส่เก๋ๆรูปหัวกระโหลกเต็มหัว
Insect Head – อาวุธชนิดดาบ พลังโจมตีต่ำเล็กน้อย แต่ถ้าได้มาตั้งแต่แรกจะช่วยได้เยอะ
Hard Hat – หมวกใส่เก๋ๆทรงหมวกนิรภัย
Bungler’s Ring – มีโอกาสได้รับไอเท็มเพิ่มเติมเมื่อกำจัดศัตรูได้ (ทำการสุ่มของที่จะได้อีกครั้ง)

อนึ่ง ศัตรูในรายการนี้จะเรียกเป็นชื่อรวม ดังนั้นจะเป็นสีต่างกัน อยู่ในเหมืองต่างที่หรือแม้แต่เพาะสไลม์เลี้ยงในฟาร์มก็จะนับเป็นศัตรูชนิดนั้นๆ หมดจ๊ะ

 

หากินกับของในเหมือง

ในเหมืองนั้นเราจะลงไปเพื่อหาแร่ต่างๆเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม เพชรพลอยและอัญมณีต่างๆก็มีราคาที่ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Ruby, Emerald หรือแม้แต่เห็ดที่มีมูลค่าสูงอย่าง Purple Mushroom ก็จะหาเจอได้จากเหมืองชั้นลึกๆเช่นเดียวกัน

ไม่เจอของหินเอาแร่ทองไปหลอมขายก็ด๊ะ
ไม่เจอของดีเอาแร่ทองไปหลอมขายก็ด๊ะ

อย่างไรก็ตาม เพื่อความสมดุลย์ของเกม ทำให้ในชั้นแรกๆของเหมืองนั้นผู้เล่นจะมีโอกาสเจออัญมณีราคาแพงได้น้อย แต่ก็ยังเอามาใช้สอยหาประโยชน์ช่วยเรื่องเงินๆทองๆได้อยู่ แม้กระทั่งแร่เหล็กต่างๆหากมีเกินความต้องการก็สามารถนำมาหลอมเป็นแท่งขายหากินได้ หมาเองก็ชอบเอาทองแท่งมาขายละ แท่งละ 250 เวลาขัดสนหรือต้องการเงินด่วนนี่แหละช่วยได้เยอะเลย

  • ชั้นแรกๆที่เป็นดินนั้น ผู้เล่นจะพบเจอ Quartz, Topaz, Amethyst เป็นส่วนใหญ่ มูลค่าไม่สูงนัก เหมาะแก่การเอาไปเป็นของขวัญให้ชาวเมืองมากกว่า (อ้าว)
  • เมื่อเริ่มลงมาชั้นหิมะ จะเจอกับ Frozen Tear, Aquamarine, Jade ที่มีมูลค่ามากขึ้น และเริ่มมีโอกาสเจอ Diamond บ้างแล้ว
  • จนเมื่อสุดที่ชั้นลาวา ผู้เล่นจะเจอ Fire Quartz, Emerald, Ruby ที่มีมูลค่าสูง ทำเงินได้ดี และมีโอกาสพบเจอชั้นที่เต็มไปด้วยเห็น Red Mushroom, Purple Mushroom บ่อยกว่าชั้นแรกๆมาก

ผู้เล่นควรจะบริหารช่องเก็บของให้ดี หากช่องเต็มควรจะทิ้งอะไรถึงจะเก็บของที่มีประโยชน์ให้ได้มากที่สุดหรือต้องการที่สุดในเวลานั้นน่อ

 

คนแคระ

บางคนอาจจะสังเกตุเห็นว่าหมามีชี้ทางไปจีบคนแคระ หรือมีหินกั้นทางเดินทางขวาอยู่ หินนี้จะสามารถเจาะทำลายได้ด้วย pickaxe ที่ผ่านการ upgrade มาแล้ว หรือใช้ระเบิดอะไรก็ได้ทำการระเบิดเปิดทางเข้าไป ข้างในนั้นผู้เล่นจะพบกับคนแคระนั่งรอผู้มาเยือนอยู่

arti004_mine_drawf

แต่ทว่า!!! การจะคุยกับคนแคระได้นั้น จำเป็นจะต้องค้นหา Artifact 4 ชิ้นเป็นม้วนกระดาษผูกด้วยริบบิ้น 4 สีไปบริจาคให้ทางพิพิธภัณฑ์เสียก่อน
สำหรับม้วนคัมภีร์เหล่านี้จะหาได้จากในเหมืองชั้นต่างๆ จาก monster บ้าง จากการตีลังไม้หรือแม้แต่การใช้จอบขุดดินหรือทรายในเหมืองก็มีโอกาสได้รับ เช่นกัน

arti004_mine_drawf_scroll
4 สีสี่สไตล์

เมื่อบริจาคครบแล้ว Gunther จะมอบ Dwarvish Translation Guide ให้เรามาใน Wallet ติดตัวละครเลย หลังจากที่ได้รับมาแล้ว ผู้เล่นก็จะสามารถคุยกับคนแคระได้ ซึ่งเขาจะขายระเบิดต่างๆและของเล็กๆน้อยๆรวมถึง Rarecrow หนึ่งใน 8 ตัวอีกด้วย

ในครั้งต่อไปหมาจะมาแนะนำเกี่ยวกับเหมืองกระโหลกที่โหดร้ายป่าเถื่อนกันอีกครั้ง ตอนนี้หยิบที่เจาะหินไปขุดกันให้สะใจก่อนโล้ด


RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments