[Tree of Savior] แนะนำ 3 Build เด็ดที่ควรเล่นของสาย Wizard

สวัสดีครับ Rhyme ครับ

กลับมาพบกับบทความแนะนำสายอาชีพเด็ดกันอีกเช่นเคยนะครับ โดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึง 3 อาชีพเด็ดของสาย Wizard หรือ “นักเวทย์” นั่นเอง

หลายๆคนอาจจะคิดว่า Wizard เนี่ยจะเป็นสายที่มีแต่ class ทำ damage แต่อย่างเดียว ขอบอกว่าคิดผิดครับ! ในสาย Wizard นั้นมีหลาย class มากที่สามารถหยิบมา support ให้กับตัวเองและ party ได้อย่างดีเยี่ยม

หลายๆคนนำมาสร้าง build ไว้ใช้หา item material แบบคนเดียวก็มี หรือจะ support party แบบสุดกู่ซึ่งเป็นที่รักของทุก party ก็มีเช่นกัน ถ้าเลือกที่จะเป็นสาย damage ก็เป็น main dps อย่างไม่ต้องสงสัย นี่ถ้ามี Heal ในสายนี้พระคงตกงาน…

ทำความเข้าใจกันก่อน

บทความนี้เป็นแค่การแนะนำสายอาชีพน่าเล่นให้กับเพื่อนๆ ไม่ใช่การฟันธงว่ามันคือ Build ที่ดีที่สุดทางผู้เขียนได้แบ่งความสามารถของ Build ที่จะนำเสนอออกเป็น 3 หัวข้อ โดยอ้างอิงจาก content ของเกมอันได้แก่ PvE Support (Earth Tower), PvE (หาของ) และ PvP ครับ ส่วน PvE Damage ถ้ามี request มาก็คงจะเขียนเพิ่มเติมให้นะ

PvE Support (Earth Tower)

Wizard C1 – Cryomancer C3 – Chronomancer C3 – Sage

ตัวอย่าง Build

http://www.tosbase.com/tools/skill-simulator/build/7x1d8jnrok/
by : Valkoria

คำอธิบายเพิ่มเติม

“นักชงในตำนาน…ชงให้เพื่อนคืองานของเรา!”

เป็นสายที่ขาดไม่ได้ในการลง earth tower ชั้นสูงๆ เนื่องจาก skill ที่อำนวยต่อการรวมกลุ่ม monster ให้เพื่อนๆ ทำให้มีความรวดเร็วในการฆ่าในกรณีที่อยู่ในชั้นจับเวลาฆ่าตามที่กำหนด อีกทั้งยังมี skill ที่ช่วย skill cooldown ของเราและคนใน party อีกต่างหาก ทำให้ skill ออกมาอย่างไม่ขาดสาย

อักทั้งยังมี buff ที่คอยป้องกันให้กับการโจมตีระยะไกลซึ่งช่วยรักษาชีวิตให้เพือนได้อีกด้วย จริงๆแล้ว Build นี้สามารถไปได้ทุก content ที่เป็น party ของเกมเลยครับ เพราะว่าเป็น support ที่ทุก party ต้องมีอย่างน้อย 1 คนนั่นเอง

ทำไมต้อง Cryomancer C3, Chronomancer C3 และ Sage?

skill รวมกลุ่ม monster ที่สำคัญที่สุดและใช้บ่อยที่สุดของ Cryomancer อยู่ที่ Circle ที่ 3 นั่นคือ skill Frost Pillar นั่นเองครับ เราแทบจะใช้ skill นี้ตลอดเวลาที่อยู่ใน earth tower เลย เพราะว่าเมื่อ skill นี้ทำงานปุ้บ จะทำการลาก monster เข้าสู่จุดศูนย์กลางของวงเวทย์รวมทั้งทำให้ monster ติดสถานะ freeze อีกด้วย

เมื่อ monster ติด freeze จะทำให้เราสามารถใช้ Ice Blast หรือพูดง่ายๆ ดีด freeze นั่นแหละ ทำ damage ใส่ monster โดยแลกกับสถานะ freeze หายไป เป็น skill เดียวที่พอทำ damage ให้เราได้ครับ ส่วน Snow Rolling นั้นหลักการทำงานเดียวกับ Frost Pillar ครับ แต่เราจะต้องกดค้างเพื่อร่ายก่อนที่จะสามารถทำให้เป็น level 5 ได้ และกลิ้งเข้าไปหา monster เพื่ือรวบครับ

หาก party ไม่สามารถฆ่าให้หมดตอน monster อยู่ในลูกบอลหิมะ เมื่อหมดรยะเวลาของ skill monster ที่เหลืออยู่จะกระจัดกระจาย ทำให้เสียเวลาเล็กน้อย ตอนใช้ก็ดูๆกันด้วยนะ

Ice Wall เป็น skill ที่มีความสามารถหลากหลาย ซึ่งสามารถพลิกแพลงได้ตามตัวเราเอง หลายๆคนเลือกที่จะสร้างซ้อนกันหลายๆชั้นเพื่อให้เพื่อนๆใน party โจมตีและทำให้สะเก็ดน้ำแข็งออกมา โดย damage และทิศทางจากสะเก็ดน้ำแข็งจะขึ้นอยู่กับ magic attack และทิศทางที่ Cryomancer หันหน้าครับ การสร้างแบบนี้จะเอาไปใช้ในกรณีที่ต้องการทำลาย object ที่มี Max HP ที่สูง และเราตีเข้าแค่ 1 อีกแบบที่นิยมสร้างคือ แบบสี่เหลี่ยมไว้ล้อม monster ไม่ให้ออกมาครับ แต่ต้องสถานการณ์เฉพาะจริงๆ

อาวุธที่ Cryomancer ทุกคนต้องถือคือ Audra ครับ ไปหามาใช้ไว้เลย ความสามารถของมันคือเพิ่ม level skill ของอาชีพ Cryomancer ทุก skill 2 level ซึ่งจะผลดีกับ Ice Wall, Frost Pillar และ Snow Rolling อย่างมากครับ

Quicken และ Haste เป็น buff สำคัญสำหรับ party มากครับ โดย Quicken จะมี attribute ที่ชื่อว่า Quicken: Critical Rate ซึ่งจะเพิ่ม Critical Rate ให้ด้วย สำหรับ Haste นั้นช่วยเพิ่ม movement speed ทำให้เดินได้ไว ส่งผลให้เดินหลบ skill ต่างๆได้ง่ายยิ่งครับครับ ส่วน Pass นั้นเป็น skill สุดเด็ดของ Chronomancer ที่จะช่วยลดเวลา cooldown ของ skill สูงถึง 25 วินาที ทำให้เราและ party ใช้ skill ได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้นครับ

กรณีพระใน party ตายหรือไม่สามารถชุบได้ในขณะนั้น เรายังมี skill Backmasking ย้อนเวลาให้เพื่อนเรากลับไปอยู่ในสถานะก่อนตายได้ แต่ Cooldown นานมากถึง 300 วินาที และใช้ item ที่หาซื้อได้จาก NPC Chronomancer นั่นแหละ แต่ราคามันแพง จึงไม่สามารถนำมาใช้เป็น skill ชุบหลักได้ครับ

Reincarnate คือ skill ที่สามารถชุบ monster และ boss ได้ (ใน dungeon เท่านั้น ตาม field ไม่ได้) ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสสำเร็จในระดับต่ำ แต่ก็คุ้มค่าที่จะลองครับ ชุบติด ละฆ่าได้ก็เหมือนได้ของ และ exp 2 รอบนั่นแหละ

Stop และ Slow เราต้องเลือก และคิดเอาเองว่าจะอัพเท่าไหร่ดี โดยส่วนตัวแล้วจะอัพ Stop ไว้ที่ level 4 ครับ บางคนก็ level 8 แล้วที่เหลือลง Slow ก็แล้วแต่ความชอบครับ Stop เอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน monster เยอะ เคลียร์ไม่ทัน skill cooldown อะไรแบบนี้ ก็กดไว้ถ่วงเวลาครับ

Missile Hole คือ skill buff สำคัญของ sage ซึ่งจะทำการป้องการโจมตีระยะไกล รวมไปถึงเวทย์มนต์เป็นจำนวน 16 ครั้งครับ ทำให้เราและสมาชิกใน party สบายขึ้นเยอะ

Mirco Dimension นั้นเราจะใช้จากผลของ attribute เสียมากกว่า Mirco Dimension: Duplicate ความสามารถของ attribute นี้คือสามารถ copy object ต่างๆได้ สำหรับตัวเองเราสามารถ copy Frost Pillar ของ Cryomancer ได้

ข้อเสียล่ะ?

1. ไม่มี damage ใดๆในการฆ่า monster เลย
2. จากข้อแรก ทำให้การเก็บ level หรือ quest เป็นไปได้อย่างลำบากมาก
3. เมื่อหมดรอบ daily dungeon ก็ไม่มีอะไรให้ทำนอกจากเล่นตัวใหม่

PvE (หาของ)

Wizard C2 – Linker C2 – Thaumaturge C2 – Featherfoot C2

ตัวอย่าง Build

http://www.tosbase.com/tools/skill-simulator/build/15oie5zsdr/
by : Nyuha

http://www.tosbase.com/tools/skill-simulator/build/zday8fpotz/
by : Valkoria

คำอธิบายเพิ่มเติม

“ลิ้งค์…รวบ…ขยาย…จิ้ม…รับของ!”

Build นี้สำหรับคนเหงาไม่มีคู่และต้องการ farm เพื่อหา material ไปขายของครับ ตัว build ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวสำหรับคนคนเดียวอยู่แล้ว รับก็รับคนเดียว สบายๆชิวๆ อีกทั้งยังไม่ต้องใช้งบเยอะเพื่อทำให้ damage แรงอีกด้วย

ทำไมต้อง Wizard C2, Linker C2, Thaumature C2 และ Featherfoot C2

เนื่องจาก linker อยู่ที่ Circle 3 และเราก็ไม่รู้จะลง class อะไรก็ขอแนะนำ wizard Circle 2 เพื่อเอา skill อย่าง Sure spell ไว้ใช้งานครับ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรโดดเด่นแล้วล่ะ

Joint Penalty และ Hangman’s Knot เป็น 2 skill สำคัญที่ใช้หากินสำหรับ linker ทุกคนครับ เป็นที่มาของคำว่า ลิ้งค์…รวบ นั่นแหละ ที่ circle 2 เราจะสามารถ Joint Penalty ได้ทั้งหมด 8 เป้าหมาย นั่นก็เพียงพอสำหรับการ farm หา item แล้วครับ

Swell Left Arm และ Swell Right Arm เป็น skill buff ที่เพิ่มความแรงในการโจมตีให้กับตัวเราครับ (Right Arm ต้องใส่มีดนะครับห้ามถือโล่ถึงจะเพิ่ม damage) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับค่า INT ของผู้ร่าย ซึ่งสายนี้เน้น INT อยู่แล้วด้วย ทำให้เรามีพลังโจมตีที่สูงมากครับ

ส่วน Transpose เป็น skill ที่ไว้สลับ INT เป็น CON ซึ่งจะมี combo ของมันอยู่ครับคือ Transpose  > Blood Sucking > Joint Penalty > Blood Sucking เพื่อฟื้น HP จาก Transpose > Levitation > Join Penalty อีกรอบ CD น่าจะมาแล้ว > Blood Curse คอมโบนี้จะเอาไว้ใช้กับ monster ที่มีค่า HP สูง

Swell Body เป็น skill ที่ดีมากๆของ Thaumaturge ครับ โดยจะทำการขยาย monster ซึ่งทำให้ Max HP ของ monster สูงขึ้น 2 เท่า แต่ item ก็จะ drop 2 เท่าเช่นกันถ้าฆ่าทันในเวลาที่ debuff ยังอยู่ นี่เป็นเหตุผลหลักที่นำ Thaumaturge มาจับคู่กับ Linker นั่นเองครับ เราจะทำการ ลิ้ง…รวบ…ขยาย เพื่อให้ monster ทั้งหมดที่อยู่ในระยะ drop 2 เท่า นั่นเองครับ

Ngadhundi และ Kundela Slash เป็น 2 skill หลักในการโจมตีหลังจากทำการขยาย monster ครับ การันตีได้เลยว่า monster ตายแน่นอน

แต่ก่อนที่จะทำการโจมตี แนะนำว่าให้ใช้ Kurdaitcha เพื่อให้ monster ติด debuff ก่อน Kundela Slash นะครับ เพราะว่าจะทำให้ได้ damage ที่รุนแรงมากขึ้นครับ โดย combo ก็จะเป็นดังนี้
Kurdaitcha -> Joint Penalty -> Hangman -> Swell -> Kundela Slash

ข้อเสียล่ะ?

1. นอกจากล่า material แล้วทำ content อื่นแทบไม่ได้เลย (ล่าบอส, Pvp)
2. ก่อนจะเป็น Featherfoot เราคือ Wizard สาย support ดีๆนี่แหละ ไม่มี skill ไว้ใช้โจมตีเลยนอกจาก Energy Bolt level 10 ของ Wizard

PvP

ตัวอย่าง Build

http://www.tosbase.com/tools/skill-simulator/build/zzg3f4gklo/
by : flashpoint

คำอธิบายเพิ่มเติม

“ไปลอยเล่นๆซัก 10 วินาทีนะ!”

โดดเด่นในเรื่องของ CC เพื่อชงให้เพื่อนฆ่าหรือถ่วงเวลาให้เพื่อนหนี อีกทั้งยังมีความสามารถที่เพียงพอที่จะทำ damage ได้เช่นกัน

ทำไมต้อง Cryomancer C3, Psychokino C3 และ Rune Caster?

Earthquake และ Sleep เป็น 2 skill ที่เอาไว้ใช่ป่วนศัตรูได้ดีมากครับ ในกรณีที่ศัตรูเข้าใกล้เรามากเกินไปสามารถใช้ Earthquake เพื่อทำให้ศัตรู knockdown ได้ หรือจะใช้เพื่อชงให้เพื่อนก็ได้เช่นกัน แต่ทว่าต้องอาศัยความเข้าใจกันซักหน่อยนึง ส่วน Sleep เป็นท่าที่เล็งได้ยากครับ และยังสามารถป้องกันได้อีกด้วยจาก scroll Dispeller และ skill ป้องกันสถานะผิดปกติต่างๆของสาย cleric ซึ่งมีอยู่หลาย skill ดังนั้น ต้องดูเป้าหมายดีๆว่าสมควรใช้หรือไม่ใช้

Frost Pillar, Snow Rolling, Ice Wall และ Ice Blast ยังทำหน้าที่เดิมๆตามสาย support ครับ ที่เพิ่มมาคือ Subzero Shield ที่มีความสามารถในการทำให้ศัตรูติด freeze และสะท้อน damage กลับไปนิดหน่อย (เฉพาะการโจมตีประเภท melee เท่านั้น) ดังนั้นกด buff นี้เผื่อไว้อาจจะทำให้สาย swordsman รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในกรณีจะเข้ามาโจมตีเราครับ

Psychic Pressure เป็น skill ที่สามารถพลิกแพลงได้ตามสถานการณ์ที่กำลังเจอครับ เราสามารถยืนร่ายไว้เพื่อกดศัตรูไม่ให้ขยับไปไหนจาก skill นี้เพียวๆเลยก็ได้ หรือจะคอมโบกับ Ice Wall เพื่อให้สะเก็ดน้ำแข็งกระจายไปโดนศัตรูก็ยังได้

Swap สลับคำแหน่งศัตรูกับเรา ค่อนข้างเสี่ยงสำหรับเราเล็กน้อย แต่เรามี Subzero Shield อยู่ก็พอที่จะรอดออกมาได้ไม่ยากครับ ส่วน Teleportation ทำให้เราหนีศัตรูได้อย่างง่ายดาย แต่มันจะสุ่มตำแหน่งนะ ระวังด้วย

2 skill ที่กล่าวไปด้านบนนี้เราสามารถคอมโบกับ skill CC สุดเทพอย่าง Raise ที่จะทำการยกศัตรูที่อยู่ในรัศมีวงเวทย์เป็นเวลา 10 วินาที ในระหว่างนั้น เราสามารถให้สาย Archer อย่าง Cannoneer หรือ Musketeer สอยให้ตายเลยก็ได้ครับ หรือจะเอาไว้ตั้งโซนของเราใหม่ก็ได้เช่นกัน

Rune of Ice เป็น skill ที่จะเพิ่ม damage ให้กับเวทย์สายน้ำแข็งของเรา ไว้ใช้ในจังหวะเริ่มเกมนั่นแหละครับ buff ให้เรียบร้อยเพราะว่าระยะเวลาในการร่าย skill ค่อนข้างนาน แต่ damage จากสะเก็ดน้ำแข็งของเราจะเอาเรื่องเลยทีเดียวแหละ

เราสามารถผันตัวมารับ skill แทนเพื่อนจาก Rune of Giant ได้ครับ เพราะ skill นี้จะทำการเพิ่ม Defense และ Maximum HP ของเราถึง 20% และ movement speed อีก 20 ทำให้เราป่วนและรบกวนสายตาฝั่งศัตรูได้มากเลยแหละครับ

แต่ตอนเราตัวโตเราจะไม่สามารถใช้ skill ใดๆได้เลยนะ…นี่คือข้อเสียเลยแหละ (ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าใช้ของ wizard กับ rune caster ได้มั้ย แต่ก็แทบจะใช้ skill ใดๆไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ)

ข้อเสียล่ะ?

1. เล่นยากมาก และต้องมีประสบการณ์พอสมควรสำหรับ pvp เนื่องจาก cooldown skill ที่ค่อนข้างนาน
2. หากโดนขัดตอนร่าย Psychic Pressure = เราจบเลย ทำ damage ต่อไม่ได้
3. กรณีที่ Raise ขึ้นไปแล้วไม่มี damage ตาม ก็จะทำได้แค่ถ่วงเวลา แค่นั้น

มุม Rhyme บ่น

Wizard มันจะมี build โรงงานอยู่ก็คือ Wizard C3 – Elementalist C3 – Warlock C2 เป็น build ยอดนิยมสำหรับการทำ damage PvP ก็พอได้ PVE ก็เด็ดเหมือนกัน ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่อยากเล่นแหวกแนวมาก ก็เล่นอันนี้ก็ได้ ที่ไม่เขียนอธิบาย Build นี้เพราะว่ามันค่อนข้าง basic และเล่นง่ายอยู่ในตัวน่ะ

ยังไงก็ขอขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านกันจนจบครับ สำหรับบทความครั้งหน้าจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องอะไร ก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะ 😀