วันศุกร์, มกราคม 10, 2025
หน้าแรกPC Guide การวางแผนทำเควสใน Community Center (Pelican Town)

[Stardew Valley] การวางแผนทำเควสใน Community Center (Pelican Town)

Community Center เป็นอีกหนึ่งในเป้าหมายหลักในการเล่น Stardew Valley ที่เพื่อนๆ จะได้เจอกันระหว่างที่กำลังเล่นเกมในช่วงแรกๆ ในบทความนี้เราก็จะมาพูดถึงการวางแผนในการทำเป้าหมายนี้ให้สำเร็จกันจ้า

วิธีการเปิดเควส Community Center

ในช่วงแรกๆ ของเกมนั้น เมื่อเราเดินเข้าไปในเมืองตอนเวลาประมาณสายๆ หรือกลางวัน จะมีการตัดเข้า Cut Scene โดยนายก Lewis จะชวนให้เรามาดูอาคารเก่าๆ ที่เคยเป็นศูนย์ร่วมกันทำกิจกรรมของคนในเมือง แต่ปัจจุบันมันรกร้างและทรุดโทรมจนแม้แต่นายกเองก็ยังออกปากว่าเห็นแล้วมันปวดใจไม่น้อย และก็อยากทำอะไรซักอย่างกับมัน ไม่งั้นทางฝั่ง Joja เองก็มีข้อเสนอว่าจะขอทุบทิ้งสร้างเป็นโกดังเก็บของดีกว่าปล่อยไว้รกพื้นที่เช่นนี้

ซึ่งหากว่าเราไปคุยกับทาง Joja ก็จะมีการบอกว่าถ้ามีคนสมัครเป็นสมาชิกเพิ่มอีกคน นายกจะยกพื้นที่นี้ให้สร้างโกดังได้ เปิดให้เพื่อนๆ ได้เลือกเส้นทางว่าจะไปทางสาย Community Center หรือสาย Joja (สามารถอ่านข้อแตกต่างของ 2 อย่างนี้ได้ที่นี่)

ในบทความนี้ก็จะพูดถึงส่วนของ Community Center กัน โดยหลังจากที่นายกชวนเราเข้ามาในอาคารแล้ว เราจะได้เห็นภูติตัวเล็กๆ และพบกับแผ่นป้ายที่พื้นที่เราอ่านไม่ออก หลังจากที่เราสำรวจแผ่นป้ายแล้ว ให้ไปหาพ่อมด เขาจะให้เรากินยาเพื่อให้ได้รับพลังแห่งป่า จะได้อ่านภาษาออก หลังจากได้พลังแห่งป่ามา ตัวเราจะอ่านป้ายได้และพอว่าแผ่นป้ายเหล่านี้จะถามหาของต่างๆ ที่เราสามารถหาได้ในเกม โดยเมื่อเอาของมาติดได้ซักสองชิ้น ก็จะปลดล๊อคแผ่นป้ายของห้องอื่นๆ ออกมา

use1

ก่อนอื่นผมขอชี้แจงเพื่อนๆ ก่อนนะครับว่าไกด์นี้จะเป็นแนวทางในการวางแผนหาของ ส่วนรายละเอียดของต่างๆเนี่ยดูได้จาก http://stardewvalleywiki.com/Bundles เอาได้เลย โดยในปีแรกห้องที่เราสามารถเคลียร์ได้เลยแบบสบายๆ จะมี  Crafts Room และ Boiler Room ซึ่งสามารถจบได้ในหน้าหนาวปีแรกเลย ส่วนห้องอื่นๆ หากมีเวลาควรทยอยมาส่งของเรื่อยๆ โดยเราสามารถตรวจได้เสมอว่าห้องไหนมีอะไรบ้างในหน้าเมนู

comu

Crafts Room
รางวัลที่ได้ – Bride Repair ทำให้เราเข้าไปยังเหมืองหินได้
แนวทางในการหาของ : สำหรับป้ายนี้เราสามารรถทำให้ครบได้เลยในปีแรกโดยควรจะเริ่มทำตั้งแต่ตอนเดือนแรกเลย โดยของในป้ายทุกอย่างเราสามารถเก็บเอาได้ทั้งสิ้นขอเพียงให้เดินหาดีๆ ซึ่งในแต่ละกล่องจะเป็นของในแต่ละฤดูส่วนของที่หายากและมีปัญหากันจะเป็นหน้าหนาว คือ Winter Root กับ Snow Yam อันนี้เราจะต้องขุดดินที่นอกฟาร์มโดยโอกาสได้จะเป็นแบบสุ่มแต่ก็หาไม่ยาเท่าไหร่นะ แค่ส่วนมากจะไม่รู้ว่าต้องขุดดินถึงจะเจอ และกล่อง Construction จะมี Hardwood เราจะหาได้จากการสับไม้อันใหญ่ซึ่งต้องอัพขวานก่อนถึงจะสับได้

 

Pantry
รางวัลที่ได้  :Green House ทำให้ปลูกผักในเรือนกระจกได้ทุกฤดู
แนวทางการหาของ : ป้ายนี้การจะเก็บให้ครบต้องใช้เวลาหน่อยโดยจะทำให้ครบในปีแรกเลยก็ได้ แต่ส่วนตัวผมว่าไม่ต้องรีบใช้เวลาปีนิดๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่แล้วเป็นของที่หาได้ในฤดูต่างๆ ซึ่งใช้วิธีการปลูกเอา แต่จะมีที่ยากคือ Quality Crops Bundle ที่เราต้องปลูกพืชที่กำหนดให้ได้ระดับดาวครับ ซึ่งเราอาจจะต้องใช้ปุ๋ยเข้าช่วยเพื่อให้ได้ระดับดาวที่ต้องการ ซึ่งปีแรกยังไม่ต้องเร่งทำก็ได้เพราะต้นไม้ต่างๆ มันแพงไปทำเอาทีเดียวปีที่ 2 เลยจะสบายกว่า

จุดยากอีกอย่างคือ Artisan Bundle ที่ต้องหาของแปรรูปมาใส่ และพวกผลไม้ยืนต้นที่การใช้เวลาปลูกค่อนข้างนานซึ่งผมแนะนำว่าควรเริ่มปลูกตั้งแต่ช่วงหน้าหนาวของปีแรก และปีที่สองก็จะได้เก็บพอดี แต่ Pomegranate กับ Apple อาจจะปลูกตั้งแต่ปีแรกเลยก็ได้ เพราะเราน่าจะมีเงินพอซื้อต้นมันแล้ว อย่างไรก็ดี เพื่อนๆ สามารถลุ้นดวงได้ด้วยการเลือกเลี้ยงค้างคาวแทนการเพาะเห็นจากเควสการทดลองของ Demetrius ครับ

 

Fish Tank
รางวัลที่ได้ : Glittering Boulder Removed
แนวทางการหาของ : สำหรับป้ายนี้ไม่ยากครับแต่ต้องวางแผนดีๆ หน่อยซักนิด เพราะถ้าอยากได้ไวเราต้องเก็บเลเวลการตกปลาไว้และรีบเปลี่ยนเบ็ดเพื่อที่จะตกให้ครบ โดยเราจะโชคดีที่ใน Spring นั้นไม่มีปลาพิเศษเฉพาะเจาะจงที่ตกได้ในหน้านี้อย่างเดียว (ส่วนมากตกในหน้าอื่นได้ด้วย) ทำให้เราเตรียมตัวโดยการเก็บเลเวลและเงินไปซื้ออุปกรณ์ตกปลาก่อนได้ แต่จริงๆ ไม่ต้องรีบมากก็ได้ครับเพราะในกล่องสุดท้ายมีปลาที่เราต้องไปที่ทะเลทรายเพื่อตกขึ้นมาอีกด้วย ดังนั้นยังไงไวสุดก็ราวๆ ปลายปีแหล่ะครับ หรืออาจจะปีที่สองช่วงแรกๆ ถ้าไวหน่อย

 

Boiler Room
รางวัลที่ได้ : สามารถใช้รถรางเพื่อไปในบางที่ได้ทันที โดยที่ๆ สามารถไปได้คือ ป้ายรถเมล์, เหมือง, เหมืองหิน (ด้านนอก แต่ต้องซ่อมสะพานก่อน) และในเมืองติดกับบ้านช่างตีเหล็ก
นวทางการหาของ : อันนี้เป็นกล่องที่ผมว่าทำได้ค่อนข้างง่ายซึ่งคนที่เข้าเหมืองบ่อยๆ จะทำได้ค่อนข้างเร็ว เพราะทุกอย่างดร็อบและหาได้จากเหมืองตรงๆ ได้เลยของบางอย่างอาจอยู่ชั้นลึกหน่อยแต่ไม่ต้องรีบไปครับ ถ้าทำสำเร็จจะลดเวลากลับบ้านเราได้พอควรเลยครับ เพราะนั่งรถไปลงป้ายรถเมล์แล้วเดินกลับบ้านหรือกดที่ป้ายไปเหมืองเลยก็ได้

 

Bulletin Board
รางวัลที่ได้ : ค่ามิตรภาพ
แนวทางการหาของ : โดยส่วนตัวแล้วผมว่าอันนี้ทำยากที่สุด เพราะของค่อนข้างกระจัดกระจายในการหา โดยพวกอาหารต่างๆ บางอันเราต้องดูรายการทีวีเอาจึงจะจำได้แต่ไม่ต้องกลัวไปว่าจะข้าม เพราะมันฉายซ้ำบ่อยมาก ส่วนพืชผลบางอย่างเราต้องรอให้ถึงปีที่สองอย่าง Red Cabbage ที่ปีที่ 2 จะมีขายในร้านค้า แต่ถ้าโชคดีของบางอย่างอาจจะหาได้จากร้านหมูรถเข็นในป่า Cindersap Forest ที่จะมาทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์ โดยไม่ต้องรอถึงปีที่ 2 ก่อน

 

Vault
รางวัลที่ได้รับ :ซ่อมรถบัส (ไปทะเลทราย, Casino และเหมืองกระโหลก)
แนวทางการหาของ : อันนี้ไม่มีอะไรครับเงินอย่างเดียว เพราะงั้นใช้เวลาช่วงหน้าร้อนที่ทำเงินได้มากๆ หาจังหวะหมุนเงินดีๆ จะสามารถเคลียร์บางส่วนได้ครับ แต่ด้วยความที่ใช้เงินเยอะ ถ้าเราทุ่มลงไปหมดจะไม่คุ้ม เพราะตัวเหมืองกระโหลกที่ได้จากการเปิดรถบัสนั้นโหดมาก และจะเข้าได้ก็ต้องรอผ่านเหมืองชั้นล่างสุดเสียก่อน เอาเงินไปลงกับอย่างอื่นก่อน และค่อยเปิดตอนช่วงปลายๆ ปีก็ได้ครับ


 

ยังมีอีกวิธีนึงหากเพื่อนๆขี้เกียจไล่มาหาของ เราสามารถทำการสมัครสมาชิกกับ Joja Mart ได้โดยอาคารกลางเมืองของเราจะกลายเป็นที่เก็บสินค้าแทนและเราสามารถจ่ายเงินเพื่ออัพเกรดแทนการหาของได้ ซึ่งไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องแต่อย่างใดครับ โดยข้อมูลอย่างละเอียดสามารถอ่านได้ >>ที่นี่<<

 


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments