วันศุกร์, มกราคม 10, 2025
หน้าแรกConsole GuideStardew Valley เริ่มเล่นยังไงดี มือใหม่ ต้องอ่าน!

Stardew Valley เริ่มเล่นยังไงดี มือใหม่ ต้องอ่าน!

เนื่องจากตัวเกมมีการอัปเดตมาจนถึงเวอร์ชั่น 1.6 แล้วทางผมเลยตัดสินใจที่จะ Rewrite ตัวบทความใหม่ ให้ตัวเกมใกล้เคียงกับแพทช์ปัจจุบันมกาขึ้น ซึ่งหากมีข้อมูลส่วนไหนที่ขาดหรือพลาดไปสามารถแจ้งได้นะครับ และในไกด์นี้เป็นเพียงแนวทางและไกด์ไลน์ในการเล่นเท่านั้น เพื่อน ๆ ไม่จำเป็นจะต้องทำตามทั้งหมดก็ได้และสามารถปรับเปลี่ยนวิธีเล่นได้ตามใจชอบ หรือตามที่อยากจะเล่นเลย โดยในไกด์นี้จะอ้างอิงแนวทางการเล่นสาย Bundle เป็นหลัก และจะเน้นการเล่นในช่วงปีแรกเพื่อเตรียมตัวไปยังปีถัด ๆ ไปครับ

*แก้ไขล่าสุด 5/10/2024 กำลังอยู่ในระหว่างการแก้ไข

มีคำถามเกี่ยวกับเกมหรืออ่านแล้วไม่เข้าใจสามารถตามมาถามได้ทื่เพจนะครับ >> Click <<  


เกริ่นนำการเล่นในช่วงปีแรก

การเล่นช่วงปีแรกเป็นเหมือนช่วงตั้งตัวครับ ซึ่งเราจะต้องทำการปลดล็อกสิ่งต่าง ๆ ของเกมเพื่อปูทางไปยังปีต่อ ๆ ไป รวมถึงอัปเกรดอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถหารายได้และพัฒนาฟาร์มได้ง่ายขึ้น โดยหากว่าเราสามารถจัดการงานต่าง ๆ ภายในฟาร์มได้ไวพอก็จะสามารถปลด Bundle ของ Junimo ได้ทั้งหมดในปีแรกเลย ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะท้าทายมากครับ แต่หากใครไม่รีบเล่นชิล ๆ ค่อยทำทั้งหมดในปีต่อ ๆ ไปก็ได้เหมือนกัน

เรื่องเบื้องต้นที่ควรทราบในการเล่น

  • เราสามารถเก็บเลเวลทักษะสายต่าง ๆ ภายในเกมได้เช่นหากว่าเราปลูกผักบ่อย ๆ ก็จะได้เลเวลของ Farming ถ้าขุดแร่ก็จะได้ Mining เป็นต้น

Spring

เดือนแรกในเกมเราจะเริ่มมาแบบแทบจะไม่มีอะไรเลย โดยงานหลัก ๆ ที่เราจะต้องโฟกัสเลยจะเป็นการเคลียร์ฟาร์มและการเตรียมความพร้อม รวมถึงหาเงินเพื่อเตรียมตัวไปยังฤดูถัดไปครับ เนื่องจากในเดือนแรกเราจะยังทำอะไรไม่ได้มากนัก สำหรับรายได้หลักของเราในช่วงเดือนแรกส่วนใหญ่จะมาจากการตกปลา ซึ่งสามารถทำเงินในช่วงแรกได้มากที่สุด และรองลงมาจะเป็นการปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ (หากเราหาของทัน)

การทำฟาร์ม: สำหรับเดือนนี้ในช่วงแรกเราจะได้ Parsnip มาฟรี สามารถนำมาปลูกได้เลยเพื่อทำเควส และค่อย ๆ ทยอยซื้อผักอย่างอื่นมาปลูกอย่างละนิดละหน่อย โดยวันแรก ๆ เลยผมแนะนำว่าให้ซื้อต้นถั่วมาปลูก เพราะสามารถเก็บซ้ำได้เรื่อย ๆ และนอกจากนั้นให้เน้นปั๊ม Parsnip เพื่อเร่งเลเวลปลูกผักก่อน หลังจากนั้นในช่วงประมาณกลางเดือนจะมีงานเทศกาลที่เราสามารถซื้อต้นสตอเบอรี่มาปลูกได้ ให้ปลูกเอาไว้นิดหน่อยและเก็บผลไว้ทำเมล็ดในช่วงท้าย ๆ ปี จะได้มีผักไว้ปลูกในช่วงปีที่ 2

ส่วนผักที่สามารถทำเงินต่อวันได้ดีที่สุดในฤดูนี้จะเป็น Potato อันนี้จะใช้เวลาปลูกประมาณ 5 วันแต่ Return ที่ได้ค่อนข้างคุ้มค่าครับ แนะนำว่าหากพลังเหลือควรปลูกเอาไว้ใช้ถือว่าเป็นอะไรที่ดีเลย ส่วน Cabbage แม้ว่าราคาขายจะสูงที่สุด แต่หากยังไม่ได้แปรรูปแล้วโดยรวมถือว่ายังด้อยกว่า Potato ซึ่งในปีแรกเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่เราจะทำการแปรรูปได้ครับ

การทำฟาร์ม : ในช่วงแรกเราควรจะเริ่มต้นจากการปลูก Parsnip ที่ได้มาฟรีก่อนเพราะใช้ส่งเควสได้และในวันแรกๆ ควรเก็บเงินซื้อเมล็ด Green Bean มาปลูกไว้นิดหน่อย เพื่อทำเควส และเราสามารถเก็บขายได้เรื่อยๆ สำหรับช่วงกลางๆ ของเดือนและท้ายๆ ผมแนะนำให้ปลูก Potato แทน parsnip เพราะจะได้กำไรที่มากกว่าและมีโอกาสที่จะเก็บทีเดียวได้ผลผลิต 2 ชิ้นด้วย

  • การปลูกพืชในเกมนี้เราจะต้องทำการพรวนดินโดยใช้ Hoe ก่อนจากนั้นก็ค่อยโรยเมล็ดลงไป และใช้บัวรดน้ำซึ่งเติมน้ำได้จากบ่อน้ำข้างๆ โดยมีข้อยกเว้นคือพวกไม้ยืนต้นที่เราไม่ต้องรดน้ำเพียงแค่วางลงดินและรอมันโต(ควรไปปลูกไว้ไกลๆ เพราะไม่ต้องรดน้ำ)
  • พืชส่วนใหญ่ในเกมจะอยู่ข้ามฤดูไม่ได้หากเปลี่ยนฤดูแล้วส่วนมากจะเฉาตาย ยกเว้นบางชนิดที่ปลูกได้หลายฤดู
  • อย่าลืมคราฟหุ่นไล่กามาวางไว้มันจะช่วยป้องกันผลผลิตหายเพราะอีกามากินได้
  • พยายามใส่ปุ๋ยให้กับพืชผลของเราเพราะมันจะช่วยให้มีโอกาสได้ผลผลิตคุณภาพดีขึ้น โดยใส่ไปในดินก่อนหรือหลังหว่านเมล็ดก็ได้ แต่ต้องยังไม่มีต้นอ่อนขึ้น (ปุ๋ยจะอยู่ได้ทั้งฤดู)
  • เทคนิคในการปลูกพืช >>Click<<
Stardew Valley How to Play 1
ระยะปกป้องผักของหุ่นไล่กา

การหาของป่า  : วิธีนี้เป็นการหาเงินในช่วงเริ่มต้นที่ดีมาก ให้เราพยายามเดินสำรวจให้ทั่วๆ ทั้งบนภูเขาและที่อื่น ถ้ามีเวลาว่างหลังทำกิจกรรมต่างๆ เสร็จ เพราะการเก็บของขายไม่ใช้พลังงานแต่ใช้เวลาในการเดินหาครับ ในแต่ละที่จะมีของให้เราได้อาทิเช่นพวกดอกไม้หรือพืชป่า โดยเฉพาะ Spring Onion ที่ถึงแม้จะขายไม่ค่อยได้ราคาแต่ก็เป็นแหล่งพลังงานที่ดีมากในช่วงแรก เพราะมันจะขึ้นเป็นจำนวนมาก (เก็บได้ที่แผนที่ด้านล่างของฟาร์ม แถวๆล่างขวา บางวันอาจจะขึ้นน้อย หรือไม่มี แต่บางวันก็จะขึ้นเยอะมาก)

Stardew Valley How to Play 2

การเก็บปะการังที่ทะเลขาย :  การเก็บปะการังไปขายเป็นรายได้อีกทางหนึ่งที่ค่อนข้างดีเลยครับ ถึงแม้ว่าบางวันจะมีบ้าง ไม่มีบ้าง โดยเฉพาะ ปะการังที่อยู่อีกฝากนึงของชายหาด โดยในตอนแรกเราจะข้ามไปไม่ได้ต้องซ่อมให้เรียบร้อยโดยการนำไม้ 300 ชิ้นไปซ่อมก่อน

ปะการัง stardew

การลงเหมือง : ในวันแรกๆ ผมไม่แนะนำให้รีบลงไปเท่าไหร่ เราควรจะใช้เวลาเครียร์อะไรในสวนให้เรียบร้อยก่อนพอเรียบร้อยแล้วค่อยไปลง เพราะการลงเหมืองเราต้องใช้พลังงานในการขุดและทุบหินด้วย ดังนั้นผมแนะนำให้เอาพลังงานไปใช้กับการรดน้ำปลูกผักก่อน แล้ววันที่ฝนตกหรือจัดการสิ่งต่างๆ ในฟาร์มเรียบร้อยแล้วค่อยลงไปหาของ ส่วนพวกของที่ดรอปจากมอนสเตอร์ส่วนมากจะราคาไม่ค่อยดีแต่จะนำไปคราฟต่อในอนาคตได้ ควรจะเก็บเอาไว้ก่อน (แนะนำให้ยัดใส่กล่องไว้ต่างหาก)

*เทคนิคการลงเหมืองอย่างละเอียด เพื่อนๆสามารถอ่านได้ที่นี่ >>คลิก<<

03

ของที่แนะนำให้ Craft ในช่วงแรก : ภายในเกมเราสามารถสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาใช้เองได้ โดยของที่จะสร้างได้นั้นจะค่อยๆ ปลดล็อกมาตามเลเวล หรือได้รับสูตรมาจากชาวบ้านครับ ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้นสิ่งที่จะช่วยเราได้มากๆ เลยคือกล่องเก็บของนั่นเอง และถ้าหากว่าเราคิดว่าฟาร์มเริ่มอยู่ตัวแล้วควรลงเหมืองไปชั้นลึกๆ และเริ่มหาแร่มาทำการ Craft สปริงเกอร์ จะทำให้เราทำฟาร์มได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในหน้าร้อน หากไม่มีสปริงเกอร์ล่ะก็ งานของคุณจะหนักพอสมควรเลย

กล่อง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในเกมนี้ เราสามารถวางไว้ที่ไหนก็ได้ อาทิเช่น วางไว้หน้าบันไดเหมืองเพื่อเก็ฐเครือ่งมิือที่ไม่ใช้ หรือวางไว้ตรงจุดที่เราตกปลาบ่อยๆ ก็ได้
กล่อง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในเกมนี้ นอกจากใช้เก็บสิ่งต่างๆแล้ว เราสามารถวางไว้ที่ไหนก็ได้ อาทิเช่น หน้าบันไดเหมืองเพื่อเก็บเครื่องมือที่ไม่ใช้ หรือวางไว้ตรงจุดที่เราตกปลาบ่อยๆ เพื่อเก็บปลา ก็ได้

Note:

Stardew Valley How to Play 3

Community Center หากอยากทราบว่าคืออะไ่รในเชิงลึกอ่านได้ [ ที่นี่ ] ตัว Community Center นั้นเป็นเควสใหญ่ของเกมที่เราจะได้หาของมาใส่ตามที่เกมกำหนดเพื่อรับรางวัลต่างๆ โดยเมื่อเราทำเควสครบแต่ละหมวด สิ่งก่อสร้างในเมืองที่เสียจะถูกซ่อมหรือพัฒนาทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์ได้

การตกปลา : ในช่วงแรกประมาณวันที่ 2 จะมีจดหมายจากลุงนักตกปลาให้เราไปหาอย่าลืมไปเอาเบ็ดตกปลาฟรีที่ทะเลโดยเราจะได้เบ็ดตกปลาเก่าๆมาอันนึง โดยจะซื้ออันใหม่ที่ดีกว่าเก่าได้เมื่อเลเวลการตกปลามากขึ้น สำหรับวิธีการตกปลาก็ไม่ยากไม่ง่าย หลังจากโยนเบ็ดไปแล้วปลากินเหยื่อให้เราคลิกเม้าค้างและปล่อยให้เกจสีเขียวๆ มันอยู่ตรงปลาพอดีจนกว่าจะจับได้ ในบางครั้งเราอาจจะได้สมบัติเป็นของแถมด้วย

Stardew Valley How to Play 4

Note : เพื่อนๆสามารถดูเทคนิคการตกปลาแบบง่ายๆ ได้ที่นี่ >>คลิก<<

เรื่องน่ารู้อื่นๆ อย่าลืมดูทีวีบ่อยๆ เพื่อจำสูตรอาหาร ในบางวันจะมีช่องแนะนำการใช้ชีวิตหรือไม่ก็ช่องรายการทำอาหารให้เราเปิดดูผ่านๆ ไว้ตัวเราจะจำสูตรอาหารได้(เอาไว้ทำในอนาคต) ส่วนรายการแนะนำการใช้ชีวิตจะเป็นทริคการเล่นทั่วไปซึ่งมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่พึ่งเคยเล่นเช่นกัน ที่สำคัญคือพยายามอย่าให้วันจบลงไปโดยเปล่าประโยชน์อาจจะหาของป่าขายหรือเคลียร์ฟาร์มถ้าหากพลังงานเหลือ

การทดลองของ Demetrius : เมื่อเรามีเงินสะสม(ไม่ต้องพกติดตัว ขอแค่ขายของได้ถึงที่กำหนด)ถึงระดับนึง Demetrius จะมาขอใช้ถ้ำของเราในการทดลอง โดยให้เราเลือกระหว่างเห็ดกับผลไม้ ซึ่งอันนี้แล้วแต่เราโดยของที่เราเลือกจะขึ้นอยู่ในถ้ำให้เราเก็บเรื่อยๆ (แนะนำเห็ดเพราะว่าระยะยาวทำยาได้ครับ ส่วนถ้าเลือกผลไม้จะทำให้เรามีโอกาสเคลียร์เควส community ได้ไวขึ้นเพราะไม่ต้องปลูกต้นไม้ผลเอง)

Stardew Valley How to Play 5

Note

  • สำหรับคนที่หาขวานของโรบินไม่เจอ มันจะอยู่ในแมพทะเลสาบเดินลงมาจากฟาร์มของเราเยื้องขวาเกือบสุดของด้านล่าง (พอดีผมก็เรียกไม่ค่อยถูกลองหากันในแมพดูนะ)
  • เกมนี้จะไม่ถูกเซฟจนกว่าเราจะนอนหมายความว่า ถ้าเราเจออะไรไม่ถูกใจสามารถที่จะปิดเกมแล้วเปิดใหม่เพื่อเล่นวันเดิมใหม่ได้
  • ดวงมีผลกับการเล่นเกมในระดับนึงเลยอาทิเช่น การหาของในเหมืองซึงหากดวงดีจะมีโอกาสได้ของดีมากขึ้นนั่นเอง เราสามารถเช็คดวงได้ที่ทีวีในรายการ Fortune Teller แต่ส่วนตัวแล้วผมว่าไม่ต้องซีเรียสกับมันมากหรอก
    ๐เพื่อนๆสามารถอ่านเรื่องเกี่ยวกับดวงได้ที่ >>คลิก<<

การเตรียมตัวไปฤดูถัดไป : ในหน้าร้อนเป็นช่วงที่เหมาะกับการเพาะปลูกมากดังนั้นอย่าลืมเก็บเงินไว้ซื้อเมล็ดพืชเอาไว้ด้วย และถ้าหากมีเวลาพอให้อัพเกรดบัวรดน้ำเอาไว้ในช่วงปลายๆ เดือนเพื่อเตรียมรับมือกับเดือนถัดไปเพราะต้องใช้เยอะมากและจะช่วยทุ่นแรงให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ หากไม่อัพเกรดเอาไว้เลยล่ะก็ผมรับรองว่ามีหมดแรงแน่ๆ หรือไม่เราอาจจะเตรียมสร้างสปริงเกอร์จำนวนมากๆเอาไว้ (ขั้นแรกก็พอ) รับรองว่าช่วยเพื่อนๆ ได้มากแน่นอนครับ

สรุป ในช่วง Spring หากต้องการเงินเยอะๆ อาจเน้นไปที่การปลูกผักมากๆ เข้าไว้ แต่ต้องแลกมาด้วยการที่เราจะไม่ค่อยว่างไปทำอย่างอื่นเท่าไหร่ ส่วนตัวแล้วผมเชียร์ให้ไปทำอย่างอื่นบ้างเช่นตกปลาหรือหาของป่า เพื่อทำความคุ้นเคยกับเกม อีกอย่างคือควรปลูกผักแต่พอดี เพราะปลูกมากไปก็แรงเราก็ไม่พออยู่ดี(ถ้าจะพอต้องกินอาหารช่วย) ส่วนการตกปลาหากเรามีเลเวลตกปลาที่เยอะพอในเดือนที่ 2 จะมีปลาหายากที่ตกได้เฉพาะในฤดูนี้เยอะทีเดียว นอกจากขายได้ราคาดีแล้วยังนำไปทำเควส Community Center ได้ด้วย

*ข้อควรทราบของเกมเล็กๆน้อยๆโดยคุณ Poorin Pitakratananukool
1. Clay จะหาได้ง่ายที่สุดจากการใช้จอบขุดดินในเหมือง จะหาง่ายกว่าการขุดบนดินครับ
2. โดยปกติเเล้ว พืชเเทบทุกชนิดจะไม่อยู่ข้ามฤดู ควรวางเเผนให้ดีก่อนที่จะปลูกอะไร (มีข้อยกเว้นบางพันธุ์ เช่น ข้าวโพด ที่ปลูก Summer อยู่ถึงสิ้น Fall)
3. ถ้าไม่ชอบลงดัน หรือทำฟาร์มในช่วงเเรกๆ สามารถไปหาของป่ามากิน เเละไปตกปลา หวังเจอหีบสมบัติได้ เเต่โอกาสค่อนข้างต่ำ (เสี่ยงดวงเอา)
4. เเนะนำอย่างยิ่งให้ซ่อมสะพานใกล้ๆ ทะเล ที่ใช้ 300 ไม้ เพราะเราจะข้ามไปเก็บของทะเลที่สุ่มอยู่ตรงพื้นทรายได้ทุกวัน เเละพวกนี้ขายได้ราคาดีพอสมควร (Coral อย่างต่ำชิ้นละ 100)


Summer ฤดูร้อนแห่งความคึกคัก

โดยส่วนตัวแล้วผมว่าฤดูนี้เป็นฤดูที่งานยุ่งที่สุด และการหาเงินในหน้านี้ค่อนข้างง่ายมากทั้งของป่าและพืชผลที่ปลูกได้ ยิ่งพืชที่เก็บเกี่ยวได้หลายครั้งเรียกได้นี่เรียกว่าบรรเทิงเลยทีเดียว เป็นหน้าที่เราจะได้พบกับความสนุกของเกมอย่างแท้จริงเลยล่ะครับสำหรับแนวทางต่างๆในฤดูนี้มีดังนี้

การทำฟาร์ม : ในฤดูนี้ส่วนใหญ่แล้วพืชผลจะสามารถเก็บผลผลิตได้หลายครั้ง โดยผมขอแนะนำให้เน้นไปที่การปลูกข้าวโพดเป็นพิเศษเพราะมันสามารถอยู่ได้ถึง 2 ฤดูถึงแม้ว่าราคาขายจะไม่ดีนักแต่เก็บขายได้เรื่อยๆ โดยพืชผลอื่นๆเราอาจจะปลูกไว้ประปรายเพื่อทำเควส สิ่งที่แนะนำให้ปลูกอีกอย่างคือ Hop ที่เมื่อโตแล้วจะขึ้นไวมากๆ โดยเราสามารถเอาไปทำ Pale Ale ขายได้ในอนาคต หรือ Blueberry ที่มีราคาขายค่อนข้างดีแต่ต้องใช้เวลาปลูกนานสักหน่อย โดยในช่วงแรกที่เรายังไม่มีถังหมัก(Keg) เราอาจจะเก็บมันเอาไว้ในคลังก่อนไม่ต้องรีบแล้วพอมีถังแล้วค่อยเอาไปหมักทีหลัง ซึ่งสุดท้ายแล้วแต่เราจะเลือกว่าจะทำอย่างไรครับเพราะตัวเลือกในหน้าร้อนนี้เยอะมากจริงๆ

Stardew Valley How to Play 6
ถึงแม้ว่าสปริงเก้อระดับต่ำจะมีระยะไม่กว้าง แต่เราก็สามารถสร้างจำนวนมากๆได้

Note:

  • เราสามารถทำการแปรรูปสิ่งของได้โดยการถือไว้และกดโยนลงเครื่องรายละเอียดการแปรรูปสิ่งต่างๆอ่านได้ [ ที่นี่ ]
  • Hop สามารถใช้ทำเควส และนำไปหมักทำเป็นเบียร์ได้ (ขายได้ราคาดีมาก) ควรเก็บเอาไว้หมักในอนาคต
Stardew Valley How to Play 7

การทำความสนิทสนมกับชาวเมือง:  ในฤดูนี้การทำความรู้จักและเพิ่มความสนิทสนมกับคนอื่นทำได้ง่ายมาก เพราะพืชผลเราจะเยอะจนเรียกได้ว่าล้นเลย เราสามารถที่จะเอาไปเดินแจกคนในเมืองได้ โดยเฉพาะช่วงดึกๆ จะมีพวกลุงๆ มารวมตัวกันอยู่ที่บาร์ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะโอเคกับพืชผลที่เราปลูก

Stardew Valley How to Play 8

Note :

  • ในช่วงนี้จะมีเควสที่ท่านนายกทำกางเกงหายเราสามารถอ่านรายละเอียดได้ [ อ่านที่นี่ ]
  • หากมีเวลาควรรับเควสของชาวเมืองที่หน้าร้านค้าของปิแอร์จะช่วยเพิ่มความนิทสนมกับคนที่มาขอร้องได้
  • เกี่ยวกับความสนิทสนมของชาวเมือง สามารถอ่านอย่างละเอียดได้ที่นี่ >>คลิก<<

การตกปลา : ในฤดูนี้มีปลาหายากเยอะมากถ้ามีเวลาควรรีบไปจับครับ โดยเฉพาะปลาที่เราสามารถส่งเควส Community Center ได้มีหลายตัวเลย ให้เราหาเงินไปซื้อเบ็ดใหม่จะช่วยให้เราตกปลาได้ง่ายขึ้นมาก ส่วนเหยื่อถ้าขี้เกียจคราฟซื้อเอาก็ได้ไม่แพงหรอกครับ สำหรับสายตกปลาในหน้านี้ก็ทำเงินได้เยอะมากเช่นกัน เนื่องจากมีปลาพิเศษที่ขายได้ราคาดีเยอะ โดยเฉพาะในทะเลมีปลาที่ได้ราคาดีหลายตัวเลยล่ะ

การเข้าเหมือง : อันนี้ผมแนะนำให้เข้าไปตอนว่างๆ ไม่ต้องรีบมากไต่ไปทีละ 5 ชั้น 10 ชั้นมันจะมีลิฟท์แล้ววันต่อๆมาค่อยต่อ แต่ถ้าหากคิดว่าจะลงยาวๆ ควรพกของกินมาเพิ่ม Energy ด้วยเดี๋ยวไม่งั้นแรงจะหมด โดยของที่ง่ายๆ ก็อาจจะเป็นพวกพืชผักที่เราปลูกเอาไว้นั่นแหละ โดยส่วนตัวแล้วผมว่าเน้นไปที่หาแร่หาของดีกว่ายังไม่ต้องรีบไปชั้นลึกมากครับ

Note :

  • หากเราตายของจะหายและจำนวนชั้นที่ลงโดยใช้ลิฟท์ได้จะลดลงต้องลงใหม่บางส่วน
  • เพื่อนๆสามารถดูได้ว่าชั้นต่างๆ มีอะไรบ้าง [ ที่นี่ ]
Stardew Valley How to Play 9

เกี่ยวกับ Artifacts : ไอเทมบางชิ้นในเหมืองที่เราได้มาจะแจ้งว่าต้องนำไปบริจาคก่อนถึงจะทราบว่าทำอะไรได้ พยายามเอามันไปส่งให้ห้องสมุดแล้วเราจะทราบว่ามันทำอะไรได้ในชิ้นต่อๆ ไป โดยเราจะได้รับรางวัลเป็นการตอบแทนด้วย

ของป่า :ในฤดูนี้เองก็มีของป่าที่เยอะมากเช่นกัน โดยจะมีพวก องุ่น หรือ เห็ด ด้วย

การเลี้ยงสัตว์ : ถ้าเราคิดว่าเริ่มว่างแล้วจะทำการต่อเติมและสร้างโรงเลี้ยงสัตว์เลยก็ได้แต่ว่า โดยส่วนตัวแล้วผมว่าไม่ต้องรีบดีกว่า(วิธีการเลี้ยงสัตว์ คลิก) และรอไปเลี้ยงสัตว์ในฤดูถัดไปเพราะในหน้านี้ผมมองว่าแค่การปลูกผักและหาแร่ก็เหนื่อยมากแล้ว

สิ่งของที่ควรคราฟ : เชื่อว่าในหน้านี้ส่วนใหญ่เพื่อนๆน่าจะคราฟสปริงเกอร์ กันได้แล้วโดยเจ้านี่มันจะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการรดน้ำไปได้เยอะเลยทีเดีย โดยสปริงเกอร์ในขั้นแรกอาจจะรดน้ำได้ไม่กว้างเท่าไหร่ เราอาจจะแก้ปัญหาได้โดยการสร้างจำนวนมากๆ เอาแทน ระยะที่รดน้ำได้ก็จะมีดังนี้ครับ ซึ่งอันที่เหมาะจะใช้งานช่วงแรกจะเป็นอันตรงกลางเสียมากกว่า เนื่องจากแบบแรกสุดมันก็รดน้ำได้น้อยเกินไปซักนิด แต่วางดีๆ ก็ได้อยู่ครับ

springle

ของที่แนะนำให้ คราฟ (ต่อ) :  เมื่อเล่นไปสักพักแล้วผมแนะนำให้รีบคราฟ Bee house ไว้เก็บน้ำผึ้งและ Tapper  เอาไว้เก็บผลผลิตจากต้นไม้ต่างๆโดย Bee house หากเรานำไปวางไว้ใกล้ๆ ดอกไม้ที่ปลูก น้ำผึ้งที่ผลิตจะขายได้ราคาดีขึ้น ส่วน Tapper เราสามารถเอาไปติดต้นไม้ได้โดยต้นไม้ในเกมจะมี 3 ประเภทให้ลองสังเกตุดูจะได้ของต่างกัน แนะนำให้ติดเอาไว้สักชนิดละ 1-2 อัน โดยผลผลิตที่ได้มาจะขายหรือเก็บเอาไว้ก็ได้ ใช้คราฟได้หลายอย่างโดยเฉพาะ Beehouse แนะนำให้สร้างเอาไว้เยอะๆจะช่วยเรื่องเงินเราในเดือนต่อๆไปได้เยอะมาก

ภาพระยะของ Bee House จาก Stardew wiki
ภาพระยะของการทำงานของ Bee House จาก Stardew wiki

การเตรียมตัวสำหรับฤดูถัดไป :

1.หากมีเงินเหลือในฤดูนี้ผมแนะนำให้ซื้อพวกต้นไม้ยืนต้นที่โตในฤดูใบไม้ร่วง มาปลูกโดยต้นไม้พวกนี้จะใช้เวลาโตค่อนข้างนานโดยในฤดูใบไม้ร่วงจะมีต้นที่ให้ผลคือ Pomegranate Sapling และ Apple Sapling โดยเจ้าพวกนี้ต้องใช้เวลาโตถึง 28 วัน

2.หากเราอยากที่จะปลีกตัวไปทำอย่างอื่นนอกจากการปลูกผักบ้าง แนะนำให้สร้างพวกสปริงเกอร์เอาไว้จะช่วยในการดูแลฟาร์มของเราได้เป็นอย่างดีและมีเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่มีอะไรให้ปลูกเยอะมากเช่นกัน

เรื่องทั่วๆ ไป
ในช่วงต้นเดือนหินที่บนภูเขาจะพังแล้วเราจะสามารถเข้าไปยังบ่อน้ำร้อนได้ โดยการเข้าไปจะช่วยฟิ้นฟูพลังงาน (แต่ผมไม่แนะนำเท่าไหร่เพราะมันนาน เสียเวลา หาของกินง่ายกว่า แต่เป็นวิธีที่ประหยัดดีแล้วแต่คนครับ)

สรุป Summer เป็นฤดูที่การหาเงินง่ายมากเพราะมีกิจกรรมที่ทำได้เยอะ ซึ่งหลายๆคนอาจจะโฟกัสไปที่การเพาะปลูกมากไปจนลืมทำอย่างอื่นภายในเกม โดยส่วนตัวแล้วผมแนะนำให้ทำอย่างอื่นด้วยอย่างการจีบสาว/หนุ่ม หรือทำเควสในเมืองเป็นต้น และหามีเวลาว่างควรทีจะทำเควสปลดล็อก Community Center ด้วยสำหรับคนขี้เกียจอาจจะสมัครสมาชิกของ jojamart ก็ได้ (คลิกอ่านรายละเอียด)


Fall ฤดูใบไม้ร่วงแห่งการโปรยปราย

การทำฟาร์ม : ผลผลิตที่ผมแนะนำให้ปลูกในหน้านี้จะเป็น Cranberry เพราะขายได้ราคาดีมากๆ และเอาไปหมักทำไวน์ได้ด้วย(แต่ขายไปเลยคุ้มกว่านะ) แต่พวกฟักทองและอย่างอื่นก็ควรปลูกเอาไว้บ้างตามแต่กำลังเราจะไหวครับ โดยเฉพาะฟักทองสามารถนำมาทำเควสได้ด้วย (จะมีเควสช่วงกลางๆ เดือน)

การเก็บของป่า : ของป่าในฤดูนี้จะมีหลายอย่างโดยเฉพาะ Blackberry ผมแนะนำให้เก็บให้คนในเมืองหรือกินเอง เพราะหาง่ายมากแต่ขายได้ราคาถูกสุดๆ ส่วนอย่างอื่นจำพวก Hazelnut, Wild Plum และเห็ดอื่นๆ แนะนำว่าขายได้เลยราคาค่อนข้างดีอยู่แล้ว

การตกปลา : เช่นเดียวกับฤดูร้อนในหน้านี้มีปลาเฉพาะที่หาได้เฉพาะฤดูนี้อยู่ด้วย หากมีเวลาว่างควรหาเวลาไปตกปลาเพื่อส่งเควส Community Center และหากมีเวลาอาจจะสร้าง Crab Pot เอาไว้ดักปลาอีกแรงก็เป็นรายได้เสริมที่ไม่เลวเลย

การเลี้ยงสัตว์ :ในฤดูนี้ผมมองว่าเหมาะแก่การเริ่มเลี้ยงสัตว์เป็นอย่างมาก (แต่เราควรมีกระเป๋าใหญ่ก่อนนะเพราะของที่ต้องเก็บจะเยอะขึ้น) เราควรสร้างเครื่องแปรรูปต่างๆ เตรียมไว้อาทิเช่นเครื่องทำมายองเนสหรือเครื่องทำชีส เพื่อเตรียมตัวกับหน้าหนาวเพราะเราจะปลูกพืชแทบไม่ได้เลย และจะให้ดีควรล้อมรั้วเอาไว้ด้านนอกให้สัตว์ออกมาเดินเล่นและปลูกหญ้าไว้ให้มัน จะช่วยประหยัดค่าอาหาร และทำให้หัวใจของสัตว์เพิ่มเร็วกว่าอยู่ในคอกเฉยๆ ด้วยครับ

Note

  • หัวใจที่มากจะมีโอกาสให้ได้รับผลผลิตที่ดีขึ้น
  • เวลาเราเปิดประตูคอกไว้สัตว์จะออกมาเดินเล่น เราสามารถปลูกหญ้าให้มันกินได้โดยใช้ Glass Starter
  • รั้วสามารถพังได้คอยตรวจดูเสมอๆ ถ้าพังเราต้องสร้างใหม่
  • อย่าลืมสร้างประตูเข้าไปในรั้วด้วยล่ะ (Gate)
  • เวลาฝนตกสัตว์จะกลับเข้าไปในคอกเอง
  • ไม่ควรลืมปิดเล้าไก่ เพราะไก่เป็นสัตว์ที่ขี้กลัวมากๆ บางวันอาจจะมีอะไรมาทำให้พวกมันกลัวและไม่ออกไข่จากการที่เราลืมปิดคอก

สรุป ฤดูนี้ไม่มีอะไรมากให้เราเก็บเลเวลและเตรียมตัวสำหรับหน้าหนาว โดยการเข้าเหมืองไปหาของจะจำเป็นมากเพราะหน้าหนาวจะปลูกผักไม่ได้เว้นแต่เราจะปลดล็อก Green House เรียบร้อยแล้ว ดังนันควรเตรียมรับมือเอาไว้ก่อน อย่าลืมเอาเวลาไปเข้าเหมือง, จีบสาว, จีบหนุ่ม และเลี้ยงสัตว์ ซึ่งหากเพื่อนๆ ทำตามคำแนะนำทั้งหมดที่กล่าวมาเชื่อว่าจะมีเวลาพอไปทำอย่างอื่นแน่นอนครับ เพราะการอัพเกรดอุปกรณ์จะทำให้เวลาในการรดน้ำและดูแลพืชของเราไวขึ้นมากๆ

Note : ในเดือนนี้ Linus จะมาขอให้เราช่วยหาตะกร้าซึ่งเราสามารถหาให้เขาได้ในแมพทางซ้ายของป้ายรถเมล์ซึ่งมันจะเดินทะลุออกมาได้


หน้าหนาว ฤดูแห่งการนิทรา

ในหน้าหนาวนี้สิ่งที่เราทำได้จะลดลงไปหน่อยคือเราจะปลูกผักธรรมดาไม่ได้นั่นเอง แต่ก็ใช่ว่าเราจะว่างเพราะยังมีงานต้องทำอีก โดยสิ่งที่ผมแนะนำในหน้านี้คือการตกปลาและเข้าเหมือง ซึ่งรายละเอียดของแต่ละอย่างลองอ่านไล่ดูเป็นข้อๆนะครับ

การหาของป่า : ของบางอย่างมันจะแอบอยู่ใต้ดิน อาทิเช่น Snow Yam หรือ Winter Root เราสามารถได้มาจากการขุดดินตามที่ต่างๆ นอกฟาร์มซึ่งมันขายได้ราคาดีมากเลยล่ะครับ

การตกปลา : ในฤดูนี้เป็นฤดูที่หลายๆคนเริ่มที่จะตกปลากันอย่างจริงจังเพราะว่าไม่รู้จะทำอะไร หรืออย่างไรก็ตามแต่ ซึ่งนอกจากการตกปลาแบบปกติแล้ว การใช้ Crab pot มาวางดักปลาอีกแรงก็เป็นวิธีที่ไม่เลวเลยล่ะครับ สำหรับเคล็ดลับเล็กๆ ในการเหยื่อและเก็บให้ไวคือเอาอาหารปลาไว้บนมือก่อนแล้วกดที่ Crab Pot ตัวเราจะเก็บของที่ดักได้และวางอาหารปลาลงไปเลยทันที

การลงเหมือง : ในฤดูนี้เราควรจะไปให้ถึงเหมืองชั้น 100 เพื่อเอา Stardrop โดยมันจะทำให้พลังงานเรามากขึ้นและเป็นโอกาสดีที่เราจะหาแร่มาผลิตของใช้ต่างๆ โดยวิธีการหา Stardrop ทั้งหมดสามารถดูได้ที่นี่ >>คลิก<<

starr

หาเงินจากของแปรรูป : การแปรรูปของในช่วงหน้าหนาวเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยครับ เราอาจจะเอาพวกผักผลไม้ที่เก็บไว้ในช่วงฤดูอื่นมาทำการหมักในหน้านี้ รับรองว่าเป็นอีกทางนึงที่จะได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลย

การปลูกพืช : จริงอยู่ครับว่าผมบอกไปว่า ในฤดูนี้ปลูกพืชไม่ได้ แต่มันก็มีกรณียกเว้นอยู่นั่นก็คือการปลูกโดยใช้ Winter Seed ซึ่งเราจะสุ่มได้พวกของป่าในฤดูหนาวนั่นเองครับ โดยวิธีการได้รับหลักๆแล้วจะมีอยู่ 3 อย่างคือ 1. ได้รับมาจากการเครียร์บัลเดิล 2. นำเอา Winter Root ไปใส่ในเครื่อง Seed Maker ครับ 3. ใช้ของป่า 4 ชิ้นจากฤดูนี้มาคราฟเป็นห่อเมล็ด ทีนี้เราก็จะสามารถปลูกพืชในฤดูหนาวได้แล้ว! อ้อ แล้วก็ข้อดีการปลูกพืชโดยใช้ เมล็ดตามฤดูกาลคือ เมื่อเก็บผลผลิตแล้ว เราจะได้เลเวลของการเดินป่าด้วย

เตรียมตัวรับปีถัดไป 
หากมีเงินเหลือล่ะก็เราสามารถที่จะเอาไม้ยืนต้นของฤดูต่างๆ มาปลูกรอไว้ได้เลยเพราะพวกมันโตได้แม้ว่าอากาศจะหนาว โดยในช่วงนี้เพื่อนๆ ควรจะคิดถึงเรื่องเตรียมตัวแต่งงานไว้ได้แล้วหากใครยังไม่ได้เริ่มจีบสาว/หนุ่ม สามารถดูข้อมูลสาวๆได้ว่าชอบอะไรได้ ที่นี่  ส่วนการแต่งงานสามารถอ่านที่ผมเขียนเอาไว้ได้ ตรงนี้ นอกจากนี้ยังมี >>เทคนิคในการจีบสาว<< และ >>เทคนิคในการจีบหนุ่ม<< ด้วย

สรุป หน้าหนาวส่วนใหญ่กิจกรรมของเราเน้นไปทางการตกปลากับเข้าเหมือง และเวลาอื่นๆ นอกจากนั้นจะเตรียมตัวเพื่อไปยังเดือนถัดไป ครับ


สิ่งที่ควรทำในปีที่ 2

ในส่วนนี้ผมจะขอพูดแบบรวบๆ ไปเลยเนื่องมาจากว่าส่วนใหญ่นั้นไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากนัก โดยส่วนมากจะเป็นการปรับปรุงฟาร์มและเก็บสิ่งที่ขาดไปในเกม

1.การหาเงิน : เราสามารถหาเงินได้หลากหลายวิธี โดยวิธีการหมักผักและผลไม้โดยใช้ Keg ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เจ๋งมากๆ โดยเฉพาะผล Star Fruit ที่เราสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าในทะเลทราย นั้นให้ราคาดีสุดๆ ไปเลย ยิ่งเอาไปหมักด้วยแล้ว รวยเละแน่นอนครับ นอกเหนือจากการปลูกผักแล้ว พวกสัตว์เองเมื่อเลี้ยงไปนานขึ้น ก็จะให้ผลผลิตที่คุณภาพดีขึ้นตามไปด้วย นั่นหมายความว่าเราจะได้กำไรจากพวกมันมากขึ้นนั่นเอง

2.ความสัมพันธ์กับชาวเมือง : อันนี้ผมแนะนำว่าเราควรเริ่มตีสนิทกับชาวเมืองได้แล้ว เพราะเราจะได้รับของพิเศษต่างๆ อย่างเช่น สูตรอาหาร หรือไอเทมแปลกๆ ที่หาจากไหนไม่ได้ ส่วนการแต่งงานนั้นแล้วแต่ว่าเราจะรีบไหม เพราะเกมนี้ไม่มีการโดนคนอื่นคาบไปกินแน่นอนครับ ค่อยๆตัดสินใจกันได้เลย

3.การซ่อมแซมบันเดิ้ล : ในปีที่ 2 นี้หากเราวางแผนดีๆ ล่ะก็ รับรองว่าสามารถเก็บ Bundle ได้ครบแน่นอนครับ หากยังเก็บไม่ครบล่ะก็ผมแนะนำให้ค่อยๆ ลองไล่ดูว่าเราขาดอะไรไปบ้างและวางแผนต่อได้เลยครับ เพราะตอนนี้เรามีรายได้และของพอเข้าถึงเนื้อหาทั้งหมดของเกมได้ง่ายๆ แล้วไม่เหมือนปีแรก

4.การลงเหมือง : เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนคงผ่านเหมืองแรกกันเรียบร้อยแล้ว หากต้องการไปยังเหมืองที่ 2 ล่ะก็ต้องทำบันเดิ้ลในห้องที่มีตู้เซฟให้เรียบร้อยก่อนโดยการจ่ายเงินให้ครบครับ โดยการไปนั้นควรเตรียมตัวให้ดีๆ เพราะมอนสเตอร์ในเหมืองโหดมากๆ แต่ก็ให้ของตอบแทนที่คุ้มค่า อย่างแร่ Iridium Ore ครับ (เหมืองที่ 2 จะไม่มีสิ้นสุดสามารถลงได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีลิฟท์ให้เราใช้เช่นกัน)

5.การเตรียมตัวรับการประเมินจากคุณปู่ : ในปีที่ 3 เราจะต้องเจอกับการประเมินของคุณปู่ โดยคะแนนจะคิดจากการกระทำต่างๆ ของเรานั่นเอง ซึ่งมีวิธีการคิดอย่างไรสามารถอ่านได้จาก >>ที่นี่<<

สำหรับในบทความ how to play นี้จะเป็นการเล่นตัวเกมในเบื้องต้นนะครับ ซึ่งในระดับที่สูงขึ้นไปจะเอาไว้อยู่ในส่วนถัดๆไปเพื่อไม่ให้ผู้เล่นใหม่งง ซึ่งรายละเอียดในลิงค์ต่างๆ ด้านล่างครับ สุดท้ายแล้วต้องขอขอบคุณเพื่อนๆในกลุ่ม  Stardew Valley Thailand และ Stardew Valley ทุกคนที่มาช่วยกันแนะนำและแก้ไขข้อผิดพลาด

ช่วง End-Game มีอะไรให้ทำบ้าง

หลังจากเราเล่นจบปีแรกและปีที่สองแล้วอาจจะสงสัยว่ามีอะไรที่น่าทำภายในเกมนี้บ้าง ซึ่งจริง ๆ ตัวเกมมีอะไรให้เราทำค่อนข้างจะเยอะเลยครับ แต่ผมขอสรุปเป็น Check List ตามนี้

  • ไปยังเกาะขิงและทำเควสฉี
  • ซื้อของต่าง ๆ ในร้านของฉีให้หมด
  • ทำหัวใจชาวเมืองให้ครบ 10 ดวงทุกคน
  • ซื้อนาฬิกาทรายทองคำ

สารบัญ ไกด์เกม Stardew Valley

สุดท้ายจริงๆแล้ว หากเพื่อนๆคิดว่าไกด์นี้มีประโยชน์รบกวนช่วยกด Like แฟนเพจเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ หรือหากมีคำถามอะไรล่ะก็ แวะเข้ามาสอบถามได้เลย https://www.facebook.com/Myplaypost-308395139287451/?fref=ts


RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Most Popular

Recent Comments