Core Keeper วิธีการทำอาหาร Cooking 101

ใน Core Keeper นั้นมีอะไรมากมายหลายอย่างให้เราทำ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นส่วนหลักของเกมเลยก็คือเรื่องของการปรุงอาหาร ที่ตัวละครของเรานั้นจะมีแถบความหิวที่จะลดลงเรื่อยๆ เป็นระยะๆ การทำอาหารกินจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในเกมนี้ แม้ว่าตัวเราจะสามารถกินพวกวัตถุดิบต่างๆ ได้ แต่การทำเป็นอาหารขึ้นมาจะส่งผลดีขึ้นอย่างชัดเจน รวมไปถึงอาจจะบัพเพิ่มเติมจากที่ไม่มีในตัววัตถุดิบก็ยังได้ เรามาดูกันดีกว่าว่า Cooking หรือการทำอาหารใน Core Keeper เป็นอย่างไรกันจ้า

Core Keeper Cooking 101

อันที่จริงการทำอาหารใน Core Keeper ณ เวลาที่เขียนก็ไม่มีอะไรยุ่งยากไปกว่าการจับวัตถุดิบสองอย่างมาโยนลงหม้อแล้วดูว่ามันจะออกมาเป็นอะไรเท่านั้นเอง เชื้อเพลิงในการปรุง เครื่องปรุงไม่ต้อง ต่างจากหลายๆ เกมที่มีขั้นตอนหรือสูตรที่ยุ่งยากกว่า แต่ก็สะดวกสำหรับเกมแนวนี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เมื่อหม้อปรุงอาหารเสร็จ ก็จะได้อาหารออกมาพร้อมกินในทันทีเลยทีเดียว (สามารถใส่ของชนิดเดียวกันเป็นกองได้นะ ตัวเกมจะทำอาหารไปเรื่อยๆ ให้ สะดวกมากเลยล่ะ)

อย่างที่กล่าวไปว่า ตัวอาหารที่ออกมาจะมีคุณภาพที่ดีกว่าวัตถุดิบ ทำให้การปรุงอาหารในเกมนี้ไม่ใช่แค่การนำค่าสเตตัสของวัตถุดิบสองอย่างมารวมกันแล้วเพิ่มนิดๆ หน่อยๆ แต่จะได้ผลที่เหนือกว่าเดิมเยอะเลย เช่น

• ฮาร์ทเบอร์รี่ : อาหาร +9, พลังชีวิต +2.8 นาน 20 วินาที
• พริกไทยระเบิด : อาหาร +6, พลังชีวิต -11
• ถ้าเอามารวมกันก็จะได้ : อาหาร +17, พลังชีวิต +2.8 นาน 20 วินาที, พลังชีวิต -11
• แต่พอทำเป็นอาหาร จะกลายเป็น แรปพริกไทยอิ่มใจ : อาหาร +20, พลังชีวิต +2.8 นาน 20 วินาที, พลังชีวิต +25 นาน 5 นาที, ความเร็วเคลื่อนที่ +21.0% นาน 1 นาที

มีบัพงอกขึ้นมาแถมผลเสียลดเลือดนี่หายไปเฉยเลยจ้า ทำให้สำหรับเกมนี้ใครที่ชอบลองผิดลองถูก ทำอาหารหลายอย่าง หรือชอบรับผิดชอบหน้าที่การครัวทำอาหารให้เพื่อนๆ คนอื่นที่เล่นด้วยกัน จะถูกใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว บัพบางอย่างยังมีหน้าที่เฉพาะที่ทำให้การไปยังพื้นที่บางส่วนหรือการตีบอสนั้นจะง่ายขึ้นอย่างมากอีกด้วย

*บัฟอาหารเมื่อกินซ้ำจะเป็นการรีเซ็ทระยะเวลาใหม่ ไม่เพิ่มจากของเดิม เพราะงั้นกดกินรัวๆ ไม่ช่วยนะเอ้อ*

วัตถุดิบหาได้จากไหน?

ตัววัตถุดิบใน Core Keeper นั้นจะมีด้วยกัน 4 อย่างคือ Crops (พืชผัก), Fish (ปลา), Loot (ได้จากการเก็บหรือเจอในหีบ) และ Monster drop (ได้จากมอนสเตอร์) สำหรับผักนั้นก็แน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องได้จากการทำฟาร์มเป็นหลัก ส่วนปลานั้นก็จะได้จากการตกปลาในเขตพื้นที่ต่างๆ

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอาหารพื้นฐานในเกมอีกด้วย ซึ่งจะมีขนมปังมนุษย์ถ้ำที่หาซื้อได้จาก Backpack Merchant และเสบียงอาหารที่ได้มาตอนเริ่มเกม ตัวอาหารพื้นฐานนี้จะไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ รวมถึงไม่สามารถเอาไปทำเป็นวัตถุดิบได้ด้วย ก็ตัดออกจากสารระบบ มีไว้กินให้เน้นเอาอิ่มเฉยๆ ได้เลย (ฮา)

ด้วยความที่ตัวเกมมีบัพของอาหาร ทำให้ตัวละครของเพื่อนๆ สามารถกินอาหารได้เรื่อยๆ “แม้จะมีหลอดความอิ่มเต็มก็ตาม” และถ้าหลอดความอิ่มถึงในจุดที่กำหนดก็จะมีบัพเพิ่มเติมให้อีกด้วย เรียกว่าบัพการกินอิ่ม บัพเหล่านี้จะแสดงผลเมื่อมีความอิ่มถึงที่กำหนด และหายไปในทันทีถ้าความอิ่มลดลงจากจุดที่กำหนด

• 75 หน่วย : ดาเมจ +5%
• 85 หน่วย : พลังชีวิต +5%
• 90 หน่วย : ความเร็วเคลื่อนที่ +5%

วัตถุดิบไหนทำอะไรได้?

ในตัวเกมนั้นจะมีเมนูอาหารมากมายที่เกิดขึ้นมาจากการจับคู่วัตถุดิบชนิดหนึ่งกับอีกชนิดหนึ่งเสมอ (แม้จะผสมอย่างเดียวกันก็ตาม) โดยอาหารที่ได้นั้น จะมีคุณสมบัติเบื้องต้น บวกเข้ากับคุณสมบัติตอนทำอาหาร โดยผลเสียเช่นการลดพลังชีวิตจะถูกตัดออกไป ในขณะที่คุณสมบัติชนิดเดียวกันจะนับผลที่มากที่สุดเท่านั้น (เช่น ผลการเพิ่มความเร็วของพริกไทยระเบิดรวมกันจะไม่เพิ่มเป็นสองเท่า จะนับแค่อันเดียว)

ด้วยวิธีการผสมวัตถุดิบแบบนี้ ก็จะทำให้เพื่อนๆ สามารถจับคู่ Mix & Match ให้เข้ากับแนวการเล่นหรือการนำไปใช้งานได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว เพราะงั้นเราไปดูกันดีกว่า ว่าไอเทมวัตถุดิบทั้งหมดในเกมตอนนี้สามารถทำอะไรได้บ้างกัน

*ยังขาดข้อมูลของวัตถุดิบระบบตำนานที่หายากมากๆ เช่น หนอนแมลงอำพัน ซึ่งถ้าทีมงานสามารถตะลุยหามาได้จะมาอัปเดตกันให้จ้า*

หมายเหตุ

• แคร์ร๊อค เมื่อนำไปทำอาหาร จะเสียคุณสมบัติฟื้นฟูพลังชีวิต +4.1 ไป ทำให้อาหารที่ออกมาจะไม่มีการฟื้นฟูพลังชีวิตถ้าวัตถุดิบอีกชนิดไม่มีผลฟื้นฟูพลังชีวิตด้วย ต่างจากปูอัญมณีที่เพิ่มเกราะน้อยกว่า
• หอยเม่นแบล็คสตีล เมื่อนำไปทำอาหาร จะเสียคุณสมบัติฟื้นฟูพลังชีวิต +5.3 ไป (ยกเว้นถ้าใจป๋าพอใช้หอยเม่นสองตัว จะได้ +3.6 แทน…)
• จำนวนอาหารที่ได้จากการผสมวัตถุดิบเข้าด้วยกัน จะเพิ่มขึ้นประมาณ 5-6 หน่วย
• ทนทาน หมายถึงเราจะไม่ได้รับผลจากสิ่งนั้นๆ เลยจ้า

จะเห็นได้ว่า เกมนี้เราสามารถจับคู่อาหารกันได้หลากหลายมาก ถ้าเกิดไม่รู้ว่าของอันไหนเพิ่มอะไรได้ ก็แค่ลองจับคู่กับของที่เรารู้คุณสมบัติอยู่แล้ว ก็จะเข้าใจทันทีว่าของอีกชิ้นทำอะไรได้ และตัวเกมก็ยังมีสูตรอาหารที่เคยทำแล้วให้ เรียงตามชนิดของวัตถุดิบให้เราด้วยถ้าเกิดเราเคยทำไปแล้ว ทำให้ไม่ต้องมานั่งจดเองอีกต่างหาก เป็นอะไรที่เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ กันไปเลย

นี่ขนาดว่าตัวเกมยังเป็น Early Access นะ คาดว่าในอนาคตตัวเกมน่าจะมีอะไรให้ทำเยอะกว่านี้ อาหารน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้ ถ้าถึงเวลาแล้วคงต้องมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ลองทำของกินลองผิดลองถูกกันไปพลางๆ ก่อนน้า ขอให้สนุกกับการทำอาหารแบบยัดมั่วหรือ Cooking With Style ใน Core Keeper จ้า

สนใจตัวเกม Core Keeper สามารถซื้อได้ใน Steam ราคาเพียง [ 219 บาท ] เท่านั้น! เล่นกันยาวๆ ไปเลย!

หาข้อมูลตัวเกม Core Keeper ได้ [ ที่นี่ ]