นี่เป็นคัมภีร์ที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อเหล่าทาสแมวผู้หลงไหลในอาชีพ Summoner หรืออยากลองรู้จัก Summoner แบบเจาะลึกมากขึ้น ไม่ก็อยากหาจุดอ่อนจุดแข็งของ Summoner ไว้รับมือ/จีบกันในเกมก็สามารถแวะมาอ่านใต้น้ำตกกันได้จ้า แน่นอนว่าเป็นคัมภีร์ที่เขียนขึ้นจากความรู้สึกหรือความเห็นส่วนตัว ดังนั้นก็อาจจะมีหลายส่วนที่ไม่ตรงกับความรู้สึกของจอมยุทธ์ท่านอื่นก็ต้องขอละไว้ในฐานที่เข้าใจตรงกันด้วยจ้า และถ้าหากว่าถูกใจกับบทความฝากกด Like ให้กำลังใจทีมงานที่เพจนี้ด้วยนะ >>Click<<
จุดเด่นและจุดด้อย
ถ้าว่ากันถึงข้อดีและข้อเสียของ Summoner นั้นก็จะเป็นลักษณะของ Support ทั่วไปในเกมอื่นๆ นั่นแหละจ้า แต่มีดีที่มีเจ้านายแมวมาช่วยดูแล
► จุดเด่น | ► จุดด้อย |
|
|
ผึ้งและทานตะวัน
ถ้าพูดถึงสายหลักๆ ของ Summoner แล้วนั้นก็จะมีอยู่สองสายคือธาตุลม(ตอนเริ่มเกม)ที่ใช้ผึ้งเป็นอาวุธ และธาตุดิน(เลือกได้หลังทำเควสเนื้อเรื่องไปถึงบทที่ 16)ที่ใช้ทานตะวันเป็นอาวุธ จุดที่น่าสนใจหรือควรระวังคือ Summoner จะไม่สามารถเปลี่ยนธาตุระหว่างการต่อสู้ได้ และทั้งผึ้งกับทานตะวันก็มีจุดอ่อนจุดแข็งแตกต่างกัน หากการต่อสู้เปลี่ยนรูปแบบที่เป็นรองทันทีอาจจะมีชะงักกันได้
► ผึ้งกับธาตุลม
สำหรับธาตุลมจะมีจุดเด่นที่การโจมตีเป็นแบบล๊อคเป้าและสามารถรัวได้อย่างต่อเนื่อง สามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่กลางอากาศได้และไม่จำกัดรัศมี แต่ข้อเสียอยู่ที่เบากว่าเล็กน้อยและโจมตีได้เพียงเป้าเดี่ยวเท่านั้น
Skill อื่นๆ นอกจากการยิงผึ้งแล้ว มักจะสนับสนุนท่ายิงผึ้งให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น (สำหรับสาย 1 เป็นหลัก) เช่นเมื่อใช้แดนดีไลอ้อนสวนกลับได้สำเร็จ เราจะสามารถยิงผึ้งสาย 1 ได้รัวๆ 3 วินาทีโดยไม่ต้องเสียเวลาร่าย
► ผืนดินกับดอกทานตะวัน
ในด้านของธาตุดินนั้นก็จะต่างกับธาตุลมโดยสิ้นเชิง ทานตะวันนั้นจะโจมตีเป็นเส้นตรงไล่ไปตามพื้น ไม่สามารถเล็งขึ้นฟ้าได้ แต่ก็จะมีพลังโจมตีที่สูงกว่าและทะลุทะลวงเป้าหมายทั้งหมดในระยะ อีกจุดหนึ่งคือการที่ไม่จำเป้นต้องมองเห็นเป้าหมายก็ใช้ได้ทำให้สามารถรับมือกับศัตรูที่ล่องหนได้ง่ายกว่าด้วย
Skill ต่างๆก็จะมีผลเสริมตัวทานตะวันด้วยการสร้างบัฟสังเคราะห์แสงให้ เจ้าบัฟตัวนี้จะเป็นบัฟแบบสะสมที่แสดงผลเมื่อมี 5 ขั้น เมื่อครบ 5 ขั้นแล้วจะทำให้ท่าทานตะวันของเราสามารถยิงได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วขึ้น (ในอณาคตจะสามารถทำให้ยิงทานตะวันได้โดยไม่ต้องเสียโซลจนกว่าบัฟขั้น 5 จะหมดเวลาอีกด้วย)
สำหรับในแพทช์ 45 นั้นสายทานตะวันก็สามารถเล่นได้ครับ แต่ช่วงก่อนที่เราจะเลเวล 45 นั้นจะเล่นได้ค่อนข้างลำบากมากๆ เพราะสกิลดอกทานตะวันทรงพลังที่เป็นคอมโบหลักกว่าจะได้มาก็ปาเข้าไปเลเวล 45 แล้ว นั่นหมายความว่าในช่วงแรกๆ การเล่นสายทานตะวันนั้นแอบลำบากพอสมควรเลยทีเดียว และงานหลักในการเล่นสายนี้ก็คือการเลี้ยงคอมโบ ให้ทานตะวันทรงพลังออกครับ แต่ข้อดีของสายนี้ก็คือดาเมจโดยรวมแล้วจะสูงกว่าอีกสายในระดับนึงเลยทีเดียว และด้วยความที่มันตีเป็นเส้นตรง ทำให้เราจัดการกับมอนสเตอร์ที่อยู่เป็นกลุ่มได้ดีมั้ก
รูปแบบการเล่นและคอมโบ
ตัวคัมภีร์ Summoner เล่มนี้อันที่จริงแล้วก็อยากจะบอกว่า การเล่น Summoner นั้นจะคล้ายกับการเล่นพวกนักเวทย์ในเกม RPG อื่นๆ พอสมควรเลย ที่ไม่ได้มีการกดท่าเป็นคอมโบยาวๆ เหมือนกับอาชีพอย่าง Kung Fu Master หรือ Blade Master นัก ส่วนมากในการโจมตีเราจะได้ใช้แค่การคลิ๊กซ้ายปล่อยกุหลาบพิษเก็บโซล และใช้คลิ๊กขวายิงผึ้งหรือทานตะวันเพื่อสร้างความเสียหาย ในขณะที่เราเก็บท่าอื่นๆ ไว้ใช้อำนวยความสะดวกเป็นหลัก
เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีท่าอื่นๆที่ทำความเสียหายได้ แต่ท่าเหล่านั้นเป็นตัวเลือกสำหรับการใช้ CC ศัตรูทั้งสิ้น ดังนั้นก็อยู่ที่ผู้เล่นว่าอยากได้ท่าที่ทำความเสียหายเพิ่มแบบแรงๆ หรืออยากได้ท่า CC ไว้ใช้อย่างต่อเนื่องแทนกันไป อย่างไรก็ดี ท่าที่เปลีย่นมาใช้ทำความเสียหายก็ไม่ได้มีการกดเป็นคอมโบแต่อย่างไร
ไอ้การอำนวยความสะดวกที่ว่ามันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการใช้แมวล่อเป้าศัตรูให้เรา หรือการใช้ท่าจับตรึงหรือ CC เพื่อหยุดมอนไม่ให้เข้ามาหาตัวเรา ไม่ก็ถ่วงเวลาระหว่างที่น้องเหมียวติด Cooldown ของท่าล่อเป้าเพื่อเอาตัวรอดระหว่างนั้น ทั้งนี้ก็จะรวมไปถึงการใช้ท่าฮีลฟื้นพลังหรือกดท่าป้องกันการโจมตีของศัตรูด้วย เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปตอนต้นนั้นว่า Summoner มีท่าหนีที่น้อยมากถึงมากที่สุด หากน้องแมวดึงความสนใจศัตรูไม่สำเร็จแล้วทาสแมวโดน CC เข้าหัวเป็นระยะๆ จะไม่มีท่าหนีไว้เวลาเจออะไรที่รู้สึกว่า “บรรลัยแล้ว” เอาง่ายๆ นั่นเอง
► การคอมโบ
ธาตุลมสายยิงผึ้ง : คอมโบที่ดูจะเข้าทีที่สุดในเวลานี้ก็คงไม่พ้นคอมโบพิษไม้เลื้อยคู่กับยิงผึ้ง(สายยิง) ที่สามารถยิงรัวได้หากเป้าหมายติดพิษไม้เลื้อยโดยไม่เสียโซลนั่นเอง ในตอนนี้พิษไม้เลื้อยจะทำได้ผ่านทางการใช้ท่าคำสาปบุปผา (F) หรือวัชพืชดูดเลือด (1) เท่านั้น เมื่อเราใช้ท่าใดท่าหนึ่งหรือศัตรูติด Debuff นี้อยู่ ก็สามารถที่จะกดคลิ๊กขวาค้างไว้จนกว่าบัฟจะหมดได้เลย แต่ปัญหาคือ ถ้าศัตรูต้านทานผึ้งของเราได้แม้จะมี Debuff นี้อยู่ จะทำให้เราไม่ได้รับโซลคืนกลับมาแต่อย่างใด
ธาตุดินหรือทานตะวัน : สายนี้จะเป็นการปั่นบัฟสังเคราะห์แสงด้วยทานตะวันซะมากกว่า เงื่อนไขการได้บัฟสังเคราะห์แสงนั้นจะมี 3 ทางในตอนนี้คือ การใช้แดนดีไลอ้อน(4)สวนกลับได้สำเร็จ, ใช้โปรยละออง(3)(เสริมแกร่งเดี่ยว) และอีกทางหนึ่งที่ไม่ต้องสละสกิลอันมีค่าคือการใช้ทานตะวันทรงพลังโจมตีใส่ศัตรูที่ติดคำสาปบุปผา(F), หนามเกาลัด(F) หรือโดนแมวกดเอาไว้อยู่ แต่ทั้งนี้เนื่องจาก Patch ที่ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง บัฟสังเคราะห์แสงที่ยังไม่สามารถแสดงผลได้เต็มที่ ทำให้สายทานตะวันยังเสียเปรียบด้านการทำความเสียหายเป้าเดี่ยวอยู่ แต่ถ้าเจอมอนสเตอร์มาเป็นหมู่แล้วล่ะก็ ทานตะวันชนะขาดลอยกันเลยทีเดียว
สกิลสำหรับการป้องกันตัวและ CC
► การ CC
ก้านไม้เลื้อย (1) : ท่าจับตรึง 1 ใน 3 ท่าที่เรามี โดยในสาย 1 จะทำการตรึงเป้าหมายทันทีที่โดน (หากใช้ระหว่างที่ศัตรูล้ม, สตัน หรือน๊อคดาวน์อยู่จะลด Cooldown ลงไปอีกครึ่งนึง) และสาย 2 จะทิ้งเถาวัลย์ไว้ตรึงศัตรูเป็นระยะๆ จนกว่าจะหมดเวลา แต่ก็จะมีคูลดาวน์ที่นานกว่ามาก
แทงราก (2) : สายที่ 2 จะทำให้ศัตรูล้ม ส่วนสายที่ 3 จะทำให้ศัตรูน๊อคดาวน์
พุ่งชน (Tab) : เป็นท่าสตันเพียงท่าเดียวของ Summoner โดยมีเวลา Cooldown นานถึง 45 วินาทีแต่เมื่อใช้งานจะสตันเป้าหมายสองครั้งซ้อน (หากไม่กดท่าที่ทำให้น้องแมวทำอย่างอื่นระหว่างนั้น) ซึ่งดั้นไปซ้ำกับท่าที่เราใช้ล๊อคเป้าศัตรูให้กับน้องเหมียว การเลี่ยงการใช้ท่านี้ก่อนเวลาที่ต้องการคือการให้เราโจมตีศัตรูโดยตรงด้วยท่าอื่นอย่างกุหลาบพิษ (LMB) แทนนั่นเอง
ตัดข้อเท้า/ของขวัญพิเศษ (C) : เป็นท่าน๊อคดาวน์ทั้งคู่ ท่าแรกจะฟันขาศัตรูทันที มีผลให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลงและใช้สกิลพุ่งต่างๆไม่ได้เพิ่มเติมอีก 4 วินาที ส่วนท่าที่สองนั้นจะวางระเบิดลงพื้นก่อน และกดใช้งานอีกครั้งเพื่อระเบิดให้ศัตรูน๊อคดาวน์ ซึ่งมีผลทะลุการป้องกันหรือปัดป้องแทน
โจมตี (V) : สาย 1 จะทำให้ศัตรูล้มลงได้
กด (Tab) : ทำการสั่งให้น้องเหมียวจับกดศัตรูเอาไว้และข่วนอย่างรุนแรง ศัตรูจะถูกจับไว้เป็นเวลา 4 วินาที ซึ่งจะใช้ได้ต่อเมื่อศัตรูติด CC ที่ไม่ใช่การตรึงอยู่ (หากบล๊อคหรือสวนกลับศัตรูได้จะสามารถใช้ได้เช่นกัน)
เรียก (E) : เรียกน้องเหมียวกลับมาและหยุดโจมตีศัตรูชั่วคราว หากน้องเหมียวกำลังต่อสู้กับศัตรูและไม่ได้ใช้สกิลอะไรอยู่ การเรียกจะทำให้ศัตรูถูกดึงมาเล็กน้อยและน๊อคดาวน์ด้วย(มี Cooldown การทำให้ดึงและน๊อคดาวน์ 30 วินาที)
อัปเปอร์คัท (V) : เสยให้ศัตรูลอยขึ้นไปในอากาศ (Knock Up) สามารถใช้คอมโบกับท่า มาเล่นกัน ได้เพื่อยื้อเวลากลางอากาศขึ้นไปอีกเล็กน้อย
เฮดบัทต์ (X) : เมื่อน้องเหมียวจับกดศัตรูได้ จะทำการโขกให้หมดสติเป็นเวลานานและน้องเหมียวจะหยุดโจมตีทันที
► ท่าป้องกัน
ฮัดช่าห์ (Z) : สาย 1 จะทำการเพิ่มสละพลังชีวิตตัวเองเพื่อเพิ่มพลังชีวิตและพลังป้องกันให้กับแมว ส่วนสาย 2 เมื่อกดใช้จะทำการฟื้นพลังชีวิตให้กับทุกคน 60% ทีละหน่อย ยกเว้นตัวเองจะฟื้นแค่ 10 %
ละอองดอกไม้ (3) : สาย 1 เมื่อใช้จะสร้างขอบเขตที่ป้องกันและฟื้นพลังชีวิตเมื่อถูกโจมตีด้วยท่ายิงหรือกระสุน (ที่ไม่ใช่ท่าที่ยิงลงพื้น) และพื้นพลังชีวิตทีละนิดให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ที่อยู่ในละออง ศัตรูที่อยู่ในละอองจะป้องกันหรือปัดป้องไม่ได้ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือสมาชิกที่กำลังชุบตัวเองอยู่จะเป็นอมตะถ้าอยู่ในรัศมีของละอองนี้
แดนดีไลอ้อน (4) : ทำการหลบการโจมตีของศัตรูเป็นเวลา 2 วินาที หากหลบสำเร็จจะล่องหนเป็นเวลา 6 วินาทีและอมตะ 1 วินาที สาย 1 เมื่อหลบได้จะทำให้ยิงผึ้งสาย 1 ได้โดยไม่ต้องร่ายและแรงขึ้น หรือได้บัฟสังเคราะห์แสง 2 ขั้น ส่วนสาย 2 นั้นจะฟื้นฟูพลังชีวิตและโซลแทน
พยัคฆ์หมอบ (Q) : สั่งให้แมวหมอบเพื่อป้องกันตัว แมวจะได้รับความเสียหายน้อยลง 90% และฟื้นพลังชีวิตตัวเอง 2% เมื่อถูกโจมตีระหว่างนี้ สาย 1 จะช่วยฟื้นโซล ส่วนสายที่ 2 ศัตรูจะพยายามโจมตีแมวแทนเมื่อเข้าไปอยู่ในระยะ
มิตรแท้ (X) : สาย 1 จะทำการสร้างเกราะป้องกันเป็นเวลา 5 วินาที เป็นอมตะต่อการโจมตี 5 ครั้งหรือหมดเวลาก่อน อย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนสายที่ 2 แมวจะสละพลังชีวิตตัวเองเพื่อเพิ่มให้กับซัมมอนเนอร์แทนพร้อมกับฟื้นโซลให้และจะมีโล่กันเลือด5% (ถ้าแรงกว่า5% ก็กันได้แต่แค่ครั้งเดียวเท่านั่น) แต่จะติดสถานะหรือล้มหรือสตันหรือนอน
คุ้มกัน (F) : เรียกน้องแมวมาคุ้มกันตัวเราในขณะที่กำลังชุบตัวเองอยู่ ระหว่างนี้ตัวเราจะเป็นอมตะ แต่น้องเหมียวจะรับเต็มๆ
ชุบ (LMB) : ใช้น้องแมวชุบคนที่ตายสนิทไปแล้ว(หรือตัวซัมมอนเนอร์เอง) ระหว่างชุบน้องเหมียวจะไม่ถูกยกเลิกการชุบถ้าโดนโจมตี แต่พลังป้องกันจะเป็น 0
ป้องกันโปรยปราย (F) : ใช้ระหว่างที่แดนดีไลอ้อนกำลังทำงาน จะเป็นการป้องกันการโจมตีให้กับทุกคนในปาร์ตี้ 1 วินาทีแทน ถ้าป้องกันสำเร็จจะหายตัวเป็นเวลา 6 วินาทีเช่นเดียวกับแดนดีไลอ้อน
ทดแทนบุญคุณ (F) : ใช้ได้ตอนที่ตายสนิทแต่เหลือแค่แมวละระหว่างที่แมวกำลังร่ายจะกันดาเมจทุกอย่างตอนที่แมวยังไม่บินเหนือพื้นถ้าบินเหนือพื้นแมวโดนสตันหรือทำให้ล้มละโดนดาเมจเต็มๆ จะใช้ต้องดูก่อนว่าเลือดแมวจะสู้ไหวหรือป่าว
► ท่าหนี
สลับตัว (1) : ใช้ได้เมื่อน๊อคดาวน์ ทำการสลับตัวกับน้องเหมียว (น้องเหมียวจะไม่ติดสถานะน๊อคดาวน์แทนแต่อย่างใด)
ล่าถอย (F) : ใช้ได้เมื่อล้ม น๊อคดาวน์ หรือหมดสติ จะทำการกระโดดถอยหลังไป
หลบหลีก (SS) : กระโดดถอยหลัง เป็นอมตะ 2 วินาทีและทิ้งก้านไม้เลื้อยไว้ที่จุดที่กระโดดออกมา ศัตรูที่โดนจะถูกตรึงไว้ 3 วินาที
หนี (2) : ใช้ได้ระหว่างที่กำลังจะถูกล๊อค จับ หรือโดนพลังดึงดูด จะทำการกระโดดถอยหลัง
การเล่นเป็นปาร์ตี้กับผู้เล่นอื่น
ในด้านการเล่นเป็นปาร์ตี้นั้น Summoner สามารถปรับเปลี่ยนสกิลมาเป็นสายสนันสนุนปาร์ตี้ได้ เช่นฮัดช่าห์สาย 2 หรือละอองดอกไม้สาย 1 รวมถึงการเน้นท่าไปทางด้าน CC เป็นหลักเพื่อช่วยกันใช้ท่าประสาน CC ให้สำเร็จง่ายขึ้น นอกจากนี้แล้ว หากปาร์ตี้ขาดตัวละครสาย Tank ตัว Summoner เองก็สามารถใช้แมวในการล่อเป้าศัตรูแทนได้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างที่จะช่วยทีมได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
*อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการใช้แมวดึงบอสมาหากมี Kung Fu Master อยู่ในปาร์ตี้และกำลังชนบอสให้อยู่ เนื่องจากจะทำให้จังหวะสกิลของเขารวนเป็นอย่างมาก*
Summoner เมื่ออยู่ในปาร์ตี้อาจจะรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ค่อยได้ แต่เชื่อเถอะว่าสกิลสนับสนุนของพวกเขาไม่ได้แย่เลยทีเดียว การเติมพลังให้คนในปาร์ตี้บ่อยๆ จะทำให้คนอื่นสามารถต่อสู้ได้ดีขึ้น รวมถึงหากใครพลาดโดนอัดจนตายหาจังหวะจะชุบตัวเอง เราก็สามารถให้เขาชุบแล้วรีบไปโปรยละอองดอกไม้ทิ้งไว้ได้ หรือถ้าม่องขึ้นมาก็สั่งแมวไปนวดชุบในขณะที่เราดึงความสนใจมอนสเตอร์ไปที่อื่นก็ได้เช่นกัน
จุดที่ควรระวังเป็นอย่างมากอย่าหนึ่งในการเล่นเป็นปาร์ตี้คือการใช้แมวกดศัตรูหรือใช้ท่าอัปเปอร์คัท ท่ากดนั้น หากในปาร์ตี้มี Destroyer หรือ Blade Dancer ที่สามารถจับศัตรูยกขึ้นได้นั้นจะทำให้พวกเขาเสียโอกาสยกและสมาชิกในทีมจะทำความเสียหายได้ช้าลงเป็นอย่างมาก จึงควรดูจังหวะให้ดีว่าท่ายกของพวกเขาติด Cooldown หรือยัง (ปกติหากมีคนยกได้ 2 คนนั้นแมวจะแทบไม่มีโอกาสได้กดศัตรู)
ในด้านของท่าอัปเปอร์คัทนั้นจะเป็นการเสยให้ศัตรูลอย ทำให้สมาชิกที่ไม่มีท่าโจมตีกลางอากาศหรือท่าระยะไกลไม่สามารถโจมตีศัตรูได้เลย จึงควรหลีกเลี่ยงการนำมาใช้จะดีกว่า
การ PvP
ในช่วงการเล่นแรกๆ นั้น Summonner อาจจะสามารถไต่ขึ้นแรงค์ได้ไม่ค่อยยากนัก แต่ก็ต้องทำใจยอมรับอย่างหนึ่งว่า การ PvP หลังจากผ่านไประดับนึงแล้ว Summoner นั้นเป็นเรื่องที่ลำบากพอสมควร เนื่องจากว่าแม้เราจะมีแมวคอยช่วยอยู่ก็ตามที แต่ระหว่างที่ตัวเราติดสถานะผิดปกติบางอย่างนั้น จะสั่งการแมวไม่ได้ และถ้าแมวติดสถานะบางท่าก็จะไม่สามารถสั่งการหรือเรียกกลับได้เช่นกันทำให้คู่ต่อสู้ที่เจนสนามนั้น มักจะฉวยโอกาสเวลาที่เราลนลานในการเลือกโจมตีให้จบๆ ไปเป็นตัวๆ แน่นอนว่าแมวมักจะเป็นตัวเลือกแรกเสมอ เพราะ Summoner ที่ขาดแมวนั้น ความสามารถจะลดลงไปกว่าครึ่ง
Summoner ต้องพึงจำให้แม่นว่า ท่าป้องกันและท่าสำหรับหลบหนีของเราน้อยมาก การโดนล่อซื้อให้ต้องเสียท่า (2) หรือ (SS) ไปนั้นสามารถทำให้โดน Kill Combo กันได้ง่ายๆ หรืออาจจะปางตายจึงควรเลือกใช้สกิลให้ถูกกับคู่ต่อสู้ หรือถ้าเป็นแบบแทคทีมนั้น ก็ต้องปรับให้เข้ากับที่เราสู้ด้วยแล้วมีปัญหามากที่สุด
เฉกเช่นการสู้กับบอส การ PvP กับคนนั้น Summoner ก็จะอาศัยแมวในการขัดแข้งขัดขาคู่ต่อสู้ โดยยึดหลักหนึ่งให้ได้นั่นคือ พยายามทำให้ศัตรูรน เลือกเป้าซักเป้าหนึ่ง และใช้อีกคน(หรือตัว)ที่ว่างอยู่ CC / โจมตีแทน เช่นเมื่ออีกฝ่ายโจมตีแมว เราก็สามารถเข้าไปช่วยน๊อคดาวน์หรือสั่งแมวหมอบเพื่อเอาตัวรอดได้ ในขณะที่ถ้าอีกฝ่ายพยายามเพ่งเล็งเราก็ต้องเตรียมตัวที่จะใช้แดนดีไลอ้อนหรือมิตรแท้ตั้งรับและใช้แมวช่วย CC แทน
อย่างไรก็ดี ข้อเสียก็จะยังอยู่ที่ได้กล่าวไว้นั่นคือ การโดน CC หลายๆ ท่านั้นจะทำให้เราสั่งแมวไม่ได้ นั่นหมายถึง ถ้าเราตั้งรับพลาด สิ่งที่เกิดขึ้นมักจะเป็นเราโดนคอมโบยาวๆในขณะที่น้องเหมียวได้แต่ช่วยปั่นค้อนใส่
ธาตุดินกับธาตุลมใน PvP ต่างกันอย่างไร?
ใกล้เคียงกับการ PvE นั่นคือ ธาตุลมนั้นเมื่อศัตรูติด Debuff จะช่วยให้โจมตีได้รัวขึ้นมาก เร่งความเสียหายได้มหาศาล ใช้ง่ายและมีอิสระกว่า แต่ข้อเสียนั้นคือต้องล๊อคเป้าศัตรู ทำให้เจอกับ Summoner ที่หายตัวอยู่หรือ Assassin นั้นจะเสียเปรียบขึ้นมาได้ง่ายๆ
กรณีของธาตุดินนั้นจะมีปัญหาตรงที่ทานตะวันของเราต้องเล็งเอง ทำให้ต้องพึ่ง CC มากกว่าธาตุลมเพื่อให้การโจมตีเข้าเป้าสูงสุด แต่การยิงไปตรงไหนก็ได้ไม่ต้องล๊อคเป้านั้น กลับกันจะช่วยได้ดีในศึกที่เราต้องโจมตีใส่ศัตรูที่หายตัวอยู่ด้วย
คำแนะนำในการสู้กับอาชีพต่างๆ แบบคร่าวๆ
ในส่วนของการ PVP เนื่องจากคุณ Nimble ไม่ได้เล่น PVP กบจึงมาเขียนแทนนะครับ โดยจะอ้างอิงจากการเล่นสาย ผึ้งกับธาตุลมเป็นหลัก ซึ่งตัวกบได้ปล้นไอดีมาเพื่อทดสอบโดยทิปและเทคนิคจากการที่กบได้ทดลองเล่นต่างๆ ได้ทำการสรุปและเขียนเอาไว้ให้ตามด้านล่างครับ โดยอาจจะไม่ได้เก่งมาแต่ก็คิดว่าพอจะสามารถแนะนำเพื่อนๆ ในเบื้องต้นได้ครับ ส่วนแนวทางการอัพสกิลคร่าวๆ ก็จะอยู่ที่ราวๆ นี้(สามารถแก้ไขได้ตามใจชอบ)
สำหรับบิ้วในข้างต้นเป็นบิ้วที่เหมาะกับคนที่พึ่งหัดเล่น PVP ครับเพราะการคอมโบไม่ค่อยยุ่งยาก หลักๆ แล้วก็คือการอ้อมไปข้างหลังด้วย 4 จากนั้นก็ต่อด้วคอมโบ F > คลิกขวายาวๆ โดยในระหว่างนั้นก็เอาแมวขัดขาและกวนๆ เอาไว้ หรือใช้สกิล 1 หรือ 2 ล็อคเอาไว้ครับ แต่ถ้าหากว่าใครที่เล่นชำนาญขึ้นแล้ว อาจจะเปลียนจากผึ้ง (ยิง) เป็นผึ้ง(เพิ่มดาเมจ) ก็ไม่เลวเหมือนกันเพราะมีลูกเล่นที่เยอะกว่า ถึงจะใช้ยากกว่าก็ตามครับ และท่าละอองดอกไม้หากไม่ได้เจอพวกสายยิงไกลจะเปลี่ยนเอาเป็นเสริมแกร่งเดี่ยวไปก็ไม่เลวเลยนะครับ ที่สำคัญที่สุดที่ได้บทความส่วนนี้มา ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ใน Youtube ที่มาแนะนำระหว่างฝึกซ้อมตอนลองเล่นด้วยครับ
Summonner(Sm) : ถ้าเจอกับสายอาชีพเดียวกันสิ่งที่เราควรจะระวังก็คือเจ้าแมวของฝ่ายตรงข้ามนั่นแหล่ะครับ หากว่าอีกฝ่ายชอบส่งแมวมาก่อกวนแล้วตัวเองทิ้งระยะไกลๆ ล่ะก็อาจจะทำการจัดการแมวของอีกฝ่ายก่อนจะสามารถช่วยลดความรำคาญไปได้มากเลยทีเดียว แต่ ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรจะให้ความสำคัญกับเจ้าของแมวมาเป็นอันดับ 1 นะ เพราะหากเราอยู่ในระยะที่ตีคนได้ก็พยามตีคนจะดีกว่า เพราะถ้าสนใจแมวมากไปจะเปลืองสกิลซะเปล่าๆ
Force Master(FM) : หากเจอกับ FM ล่ะก็พยามอย่าทิ้งน้องเหมียวเอาไว้ใกล้ๆ กับพวกนักเวทย์พวกนี้โดยไม่จำเป็น เพราะว่าสายอาชีพนี้สามารถจัดการกับเราหรือน้องแมวได้ไวมากๆ ดังนั้นหากเราจะถอยล่ะก็ อย่าลืมสั่งให้แมวกดหมอบเอาไว้หรือ เรียกกลับมาเลยก็ได้ครับ และที่สำคัญคือในจังหวะที่ FM กางโล่บาเรียสีฟ้าๆ ห้ามเราโจมตีโดยเด็ดขาด เพราะการโจมตีจากระยะไกลจะทำให้อีกฝ่ายสามารถฟื้นเลือดเอาได้แบบฟรีๆ หรือแม้แต่การส่งแมวไปโจมตีอาจจะทำได้ก็จริง แต่อาจจะกลายเป็นว่าแมวเราอาจจะโดนเล็งและฆ่าให้ตายได้ครับ ดังนั้นหากเห็นเค้ากางมาล่ะก็พยามรีบชิ่งหลบดีกว่าทั้งคนทั้งแมวเลย
โดยส่วนใหญ่แล้ว Force Master ที่เราเจอมักจะเป็นสายน้ำแข็งครับ ดังนั้นควรระวังท่าลงพื้นให้ดีๆ หากเราหลบได้ล่ะก็จะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นอีกสักพักเลย เพราะ CD ของท่าค่อนข้างนาน ส่วนการฆ่า FM นั้นให้เราพยามโจมตีเค้าขณะที่เค้าไม่มีท่าหลบ หรือพยามบังคับให้เค้าใช้สกิลป้องกันออกมาให้หมดเช่นแช่ตัวเอง หรือบาเรียครับ ถ้าหากว่าต้องแลกกันแบบแตกหักจริงๆ อย่าลืมใช้สกิลควัน(3) ด้วยนะ จะช่วยเราได้เยอะเลยครับ
Assassin (AS): หากเราเจอกับนักฆ่าเนี่ยจะว่าสู้ยากก้ยาก ง่ายก็ไม่ยาก(อ่าว) ซึ่งการต่อสู้โดยหลักๆ แล้วมันจะค่อนข้างน่ารำคายเลยทีเดียวสำหรับสายอาชีพนี้ โดยเฉพาะสกิลหายตัวของพวกเค้า หากเป็นไปได้เราควรพยามมองดีๆ เพราะแม้เค้าจะหายตัวแต่ก็ไม่ได้หายขาดไปเลย หากเราใช้สกิลลงพื้นโดน เราสามารถที่จะล็อคพวกเค้าเอาไว้ได้ และตีฟรีได้อีกหลายทีเลยทีเดียว
ข้อสำคัญคือให้เราพยามใช้สกิล F โยนเกาลัดเมื่อมีโอกาสเพื่อทำให้เค้าหายตัวลำบาก และใช้สกิล E เรียกแมวกลับมาหากรู้ว่าพวกเค้าวนเวียนอยู่ข้างๆ เพื่อที่จะทำให้สกิลหายตัวของพวกเค้าคลายออกครับ และถ้าหากเป็นไปได้พยามเอาน้องแมวจับกดพวกเค้าเอาไว้ เพื่อที่จะทำให้พวกเค้าอยู่นิ่งๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว
Blade Dance (BD) : สายอาชีพสุดน่ารำคาญที่ สามารถบล็อคการโจมตีเราได้ และแถมยังทำให้เราติดมึนอีกต่างหาก การต่อสู้กับสายอาชีพนี้ควรรอให้อีกฝ่ายเคาท์เตอร์พลาดจนลูกแก้วหมด แล้วค่อยรุมยำก็ไม่สายครับ แรกๆ ให้เราพยามเลี่ยงๆ การต่อสู้ประชิดเอาไว้ โดยการถอยหนีเรื่อยๆ แล้วคอยใช้สกิลขัดขาพวกเค้าไว้ หากมีโอกาศอีกฝ่ายโดนล็อคแล้วก็โยนขนมเล็กๆ น้อยๆ ไปที่พื้นด้ยวสกิล F ซ้ำ เพื่อตอดไปเรื่อยๆ ก็ดีครับแล้วจะดีมากๆ หากเจ้าเหมียวเราจับกดอีกฝ่ายได้ ระหว่างนนั้นก็ยำสกิลใส่รัวๆ ได้เลย และที่สำคัญจำเอาไว้ว่าพยามเลี่ยงการต่อสู้ระยะประชิดกับพวกนี้ครับ อ้อ! ในที่นี้ผมหมายถึงแมวด้วยนะ ระวังอย่าปล่อยให้แมวเราถูกยำตายซะล่ะ
Blade Master(BM) : สำหรับการเจอกับ BM นั้นเป็นงานที่ค่อนข้างยากเช่นกัน โดยสายอาชีพนี้จะคล้ายๆ กับ BD แหล่ะครับ แต่ท่าเตาท์เตอร์ของสายนี้มันจะกันได้ถี่กว่า แต่ก็มีข้อที่เราพอจะสามารถแก้ได้คือให้เราอ้อมไปด้านหลังครับ ให้พยามใช้แดนดิไลออนแล้วอ้อมหลังเข้าไปโจมตีจากมุมอับแล้วเราจะสามารถทะลุการป้องกันของพวกเค้าได้ง่ายๆ เลยครับ
Destroyer : สายอาชีพนี้หากเราพลาดโดนคอมโบชุดใหย่ล่ะก็ สามารถลงไปนอนกองได้ง่ายๆ เลยครับ หากเจอล่ะก็ให้เราพยามทิ้งระยะแล้วตอดไปเรื่อยๆ ให้ระวัง Destoyer ที่เล่นเก่งมักจะพุ่งเข้ามาโจมตีที่ตัวเราเลยโดยไม่สนแมวเท่าไหร่ หรือไม่ก็อาจจะฆ่าแมวของเราได้อย่างรวดเร็ว หากเรากับแมวอยู่ห่างกันเกินไป ดังนั้น ให้เราพยามเก็บท่า CC ต่างๆ เอาไว้เพื่อคอยหยุดและตอดพวกเค้าไปเรื่อยๆ แต่ในระหว่างที่สายอาชีพนี้หมุนพยามอย่าไปยุ่งมาก เพราะบางทีเราอาจจะติดสตั๊นด้วย รอให้เค้าหมุนจนเหนือ่ยก่อนก็ได้ ที่สำคัญคือระวังท่าเข้าประชิดของสายนี้ให้ดีๆ เพราะมีค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ให้เราเก็บท่า SS แล้วก็พวกท่าล็อตเอาไว้เพื่อซื้อเวลาและตอดไปเรื่อยๆ ครับ
Kungfu Master : สายอาชีพนี้เป็นอีพอาชีพนึงที่เป็นเจ้าพ่อบล็อกครับ อีกทั้งท่าพุ่งเข้าหาเรายังมีเยอะมาก ถ้าหากโดนเข้าไปสักที โดนต่อคอมโบเป็นชุดแน่ๆ การต่อสู้คือให้เราพยามกดแดนดิไลออน แล้วอ้อมไปด้านหลังครับ แล้วหาสกิลล็อคขัดขาพวกเค้าไว้ ซึ่งบางทีการใช้น้องแมวล่อๆ เอาไว้ก็เป็นอะไรที่ช่วยได้เยอะเลยทีเดียวครับ และหากอีกฝ่ายเผลอก็เอาน้องแมวไปขัดขาเล่นกับพวกมันซะ