หนูน้อย Sucrose สาวมีหู(ของจริงไม่ใช่ทรงผม)สุดน่ารักของหลายๆ คนแห่ง Genshin Impact ผู้มาพร้อมกับธาตุลมและอาวุธอย่างสื่อเวทย์ ที่สามารถทำให้การใช้งานปริศนาหรืออะไรที่ต้องใช้พลังลมมาเกี่ยวข้องตกงานได้ทันที (ก่อนจะโดน Venti เขี่ยตกจากตำแหน่ง)
ข้อมูลตัวละคร
ชื่อ : Sucrose
เกิด : วันที่ 26 พฤศจิกายน
อยู่ฝ่าย : Knights of Favonius
วิชั่นที่ครอบครอง : ธาตุลม
กลุ่มดาว : Ampulla (ขวดแก้ว)
วิธีการได้รับตัวละคร : ได้จากการเปิดกาชาต่างๆ
นักเล่นแร่แปรธาตุผู้มีความอยากรู้อยากเห็นไร้ที่สิ้นสุดในทุกอย่างบนโลกใบนี้ เข้าร่วมกับทาง Knights of Favonius โดยมีสถานะเป็นผู้ช่วยของ Albedo ตัวเธอนั้นชำนาญในด้านของ Bio-Alchemy (การเล่นแร่สายชีวิต) และมีความตั้งใจที่จะทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นด้วยการใช้ศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุของเธอพัฒนาสิ่งมีชีวิตต่างๆ แน่นอนว่าผลที่ออกมาบางทีมันก็ทำให้อะไรๆ พิลึกขึ้นกว่าเดิมแทนที่จะออกมาน่าชื่นชมอย่างที่เธอตั้งใจไว้ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว การทุ่มเทให้กับการวิจัยของเธอนั้นก็ทำให้วิชาการของการเล่นแร่สายชีวิตนั้นพัฒนาไปมากเลยล่ะนะ
Skill
| ภาพ | สกิล | รายละเอียด |
 |
Wind Spirit Creation | การโจมตีปกติ : โจมตี 4 ครั้งด้วยความเสียหายธาตุลม
ท่าชาร์จโจมตี : ใช้เวลารวบพลังซักครู่ ก่อนจะปล่อยคลื่นกระแทกธาตุลมออกมาสร้างความเสียหายเป็นกลุ่ม |
 |
Astable Anemohypostasis Creation – 6308 | เรียกภูติลมออกมา สร้างดาเมจเป็นกลุ่มให้กับศัตรูทั้งหมดในพื้นที่ด้วยความเสียหายธาตุลม พร้อมกระชากศัตรูในพื้นที่เข้าหาศูนย์กลาง |
 |
Forbidden Creation – Isomer 75 / Type II | ปาขวดแก้วไปยังพื้นที่เป้าหมาย สร้างภูติขนาดใหญ่ออกมาชั่วขณะ ระหว่างที่ภูติลมอยู่จะทำความเสียหายธาตุลมเป็นวงกว้างและกระชากศัตรูเข้ามาหาศูนย์กลางเป็นระยะ
Elemental Absorption: หากภูติลมสัมผัสกับธาตุไฟ, ไฟฟ้า, น้ำ, น้ำแข็ง จะทำความเสียหายเพิ่มเติมเป็นธาตุนั้นๆ ด้วย แต่ว่าจะสามารถเกิดผลนี้ได้เพียงธาตุเดียวต่อการใช้ 1 ครั้ง |
 |
Catalyst Conversion | หาก Sucrose ทำให้เกิดการปฎิกิริยากระจายได้ จะเพิ่มความชำนาญธาตุ 50 หน่วยเป็นเวลา 10 วินาทีให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ที่มีธาตุเดียวกับการกระจายนั้น (ยกเว้นตัว Sucrose) |
 |
Mollis Favonius | เมื่อสกิลหรือไม้ตายโดนศัตรู จะเพิ่มความชำนาญธาตุ (ยกเว้นตัว Sucrose) จำนวน 20% ของค่าความชำนาญธาตุที่เธอมีเป็นเวลา 8 วินาที |
 |
Astable Invention | เมื่อสร้างวัตถุดิบสำหรับเลื่อนระดับชนิดทั่วไป (เช่น ชิ้นส่วนสไลม์) จะมีโอกาส 10% ได้รับเพิ่มเป็นสองเท่า |
กลุ่มดาว : Ampulla (ขวดแก้ว)
หมายเหตุ : ต้องใช้ดวงดาวแห่งชีวิตของ Sucrose ในการอัพดาวแต่ละดวง สามารถหาได้จากการเปิดกาชาได้ตัวละคร Sucrose ซ้ำเท่านั้น
| กลุ่มดาว | สกิล | รายละเอียด |
| Lv. 1 | Clustered Vacuum Field | สกิล Astable Anemohypostasis Creation – 6308 จะสามารถสะสมการใช้งานได้ 2 ครั้งแทนครั้งเดียว |
| Lv. 2 | Beth: Unbound Form | เพิ่มระยะเวลาของสกิล Forbidden Creation – Isomer 75 / Type II ไป 2 วินาที |
| Lv. 3 | Flawless Alchemistress | เพิ่มเลเวลของสกิล Astable Anemohypostasis Creation – 6308 ขึ้น 3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) |
| Lv. 4 | Alchemania | ทุกๆ การโจมตีปกติและท่าชาร์จ 7 ครั้งจะลดคูลดาวน์ของสกิล Astable Anemohypostasis Creation – 6308 ลงแบบสุ่ม 1-7 วินาที |
| Lv. 5 | Caution: Standard Flask | เพิ่มเลเวลของท่าไม้ตายขึ้น 3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) |
| Lv. 6 | Chaotic Entropy | หากไม้ตายทำให้เกิดผล Elemental Absorption ได้จะเพิ่มโบนัสความเสียหายธาตุนั้นๆ ให้กับทุกคนในปาร์ตี้ตลอดระยะเวลาของสกิล |
จุดเด่น-จุดด้อย
| จุดเด่น | จุดด้อย |
| สามารถบัพความชำนาญธาตุให้กับคนอื่นในปาร์ตี้ได้โหดมาก | คูลดาวน์ของสกิลต่างๆ ค่อนข้างใช้เวลานาน |
| สกิลและไม้ตายสามารถใช้รวบศัตรูเข้ามาหาได้ แม้แรงดึงจะไม่ได้ถึงกับรวบได้อยู่หมัดก็ตาม | ค่อนข้างพึ่งหมู่ดาวพอประมาณในการดึงความสามารถของตัวเองออกมาได้สูงสุดกว่าคนอื่นๆ (Lv 2 ดีที่สุด 4 คือโบนัส ส่วน 6 ไม่จำเป็นเท่าไหร่) |
| สาวแว่นมีหูน่ารักมาก เอ้ย สามารถใช้สร้างวัตถุดิบเลื่อนระดับได้ดีมากๆ | สกิลเน้นไปทางการชำนาญธาตุทำให้จำกัดรูปแบบการบิ้วตัวละครพอสมควร |
แนะนำอาวุธ
เนื่องจากตัว Sucrose เป็นคนที่สกิลมีความสามารถในการรวบเป้าหมายเข้าด้วยกัน เสริมความชำนาญธาตุ และตัวสกิลยังค่อนข้างใช้เวลาคูลดาวน์นาน จึงเหมาะสำหรับการเล่นเป็น Support เป็นหลักสลับไปมามากกว่าเป็นตัวยืนทำ DPS โดยตรง (ถ้าไม่มีกลุ่มดาว Lv. 4 ยิ่งคูลดาวน์นาน) การเลือกใช้อาวุธจึงเหมาะกับการสลับตัวมากดสกิลและสลับกลับไปมา
ทั้งนี้ปัญหาของเธอคือ ออฟหลักของอาวุธและสกิลมักจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยไปทางนั้นซักเท่าไหร่ จึงต้องเลือกว่าจะเอาผลของออฟหลักหรือผลของสกิลเป็นหลัก (กรณีเลือกออฟหลัก ควรเลือกจากอาวุธที่มีระดับดาวสูงสุดเนื่องจากจะมีค่าของออฟเยอะที่สุด) ตัวอย่างตัวเลือกก็จะมีดังนี้
[ninja_tables id=”100679″]
แนะนำอาร์ติแฟกต์
ด้วยความที่สกิลของเธอนั้นเน้นหลักไปด้านการชำนาญธาตุเลยจริงๆ ทำให้ถ้าอยากจะดึงความสามารถของเธอทั้งหมดออกมาได้เลย ต้องอาศัยการเน้นการชำนาญธาตุหรือความเสียหายลมและฟื้นฟูพลังงานเป็นหลัก ด้านพลังโจมตีหรือคริสามารถเทได้เลย
ตัวออฟหลักจึงออกไปทาง
- ฟื้นฟูพลังงาน + เพิ่มดาเมจธาตุลม + ความชำนาญธาตุ (เน้นทำความเสียหายด้วย)
- ฟื้นฟูพลังงาน + ความชำนาญธาตุ + ความชำนาญธาตุ (เน้นบัพให้ทีมสายเวทย์กลุ่มชำนาญธาตุทั้งทีม)
- ฟื้นฟูพลังงาน + เพิ่มดาเมจธาตุลม + คริเรท / ความแรงคริ (สายน้ำตาลหวานไส้แตก)
- เซ็ต Instructor เซ็ตสี่ชิ้นแน่นๆ เน้นๆ ไปเลย เพิ่มความชำนาญธาตุของตัวเอง 80 หน่วย และเมื่อทำให้เกิดปฎิกิริยาธาตุได้ จะเพิ่มให้อีก 120 หน่วยให้ทุกคนในทีม รวมกับผลของสกิลของเธอเรียกว่าบัพกันระเบิดระเบ้อ เซ็ทนี้จะเหมาะกับทีมที่มีอะไรให้ดึงความชำนาญธาตุออกมาใช้ให้ถึงขีดสุด ออฟรองมีความชำนาญธาตุเพิ่ม ฟื้นฟูพลังงานจะดีมาก เนื่องจากเซ็ตนี้ไม่มี 5 ดาว ค่าสเตตัสจะดรอปกว่าค่อนข้างมากอยู่
- เซ็ตลูกผสม Instructor 2 ชิ้นและ Exile / Scholar 2 ชิ้น บัพทีมน้อยลงแต่เร่งความไวในการฟื้นฟูพลังงานเพื่อช่วยรวบศัตรูจากไม้ตายให้ไวขึ้นกว่าเดิม ถ้าใช้รูปแบบนี้ผลบัพจะน้อยลง ดังนั้นต้องเล็งออฟรองให้มีความชำนาญธาตุและฟื้นฟูพลังงานให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย ทำให้มีโอกาสที่จะใช้ไม้ตายได้ตลอดเวลาหลัง CD เสร็จดีขึ้น (ควรมีหมู่ดาว Lv. 2 ขึ้นไป) เนื่องจากเซ็ตนี้ไม่มี 5 ดาวเช่นกัน
- เซ็ต Noblesse Oblige เมื่อใส่ครบสองชิ้นดาเมจของท่าไม้ตาย 20% แบบใส่ครบ 4 ชิ้น หลังจากใช้ท่าไม้ตายในทีมทั้งหมดจะเพิ่มพลังโจมตี 20% นาน 12 วิ (ไม่สามารถใช้ซ้อนทับกันได้) เป็นเซ็ตสิ้นคิดสำหรับเพื่อนๆ ทุกคลล์ เหมาะสำหรับเอาน้องมารวบในทีมที่ไม่ได้ตั้งใจจะเอามาบัพความชำนาญธาตุ เพราะเพิ่มพลังโจมตีใช้ได้กับทุกคนเสมอ
4.เซ็ต Viridescent Venerer แบบสี่ชิ้น เซ็ทนี้จะเหมาะกับการเน้นหลักไปที่ตัว DPS ของทีมอีกคนหนึ่งไปเลย (ต้องเป็นสายธาตุด้วยนะ) อาศัยความสามารถของผลเซ็ต 4 ชิ้นช่วยลดพลังป้องกันธาตุที่ตรงกับตัวหลักของทีมลง ทำให้ตัวหลักเรารีดความเสียหายได้แรงขึ้นเป็นอย่างมาก
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่
